..๏ เกาะกลุ่มชุมนุมกันไป.........ดุด่าว่าใคร พอใจใครบ้างต่างกัน สรรเสริญนินทาสารพัน.............มุทะลุดุดัน เชิงชั้นลึกล้ำช่ำชอง เดินเรื่องด้นร่ายก่ายกอง...........หมายขย้ำลำพอง แคล่วคล่องสนทนาพาที อารมณ์หลายหลากมากมี.........เกลือกกลั้วชั่วดี ต่างมีสีสันสาธยาย ฯ ..๏ บ้างร้อนอ่อนล้าตาลาย.........พักผ่อนหย่อนกาย มากมายคับคั่งนั่งนอน ข้าวกล่องแบ่งปันกันก่อน...........มือเปิบต่างช้อน อิ่มก่อนค่อยลุกปลุกระดม ดื่มน้ำฉ่ำเย็นเหมาะสม.............พร้อมเผชิญแดดลม ไม่ล้มเลิกราอุดมการณ์ ปากร้องก้องกระหึ่มกังวาน........เพาะบ่มลมปราณ- แตกซ่านหมายขจัดศัตรู ฯ ..๏ บ้างร่ายวรรณกรรมพร่างพรู....ไพเราะเสนาะหู เชิดชูชื่นชอบระบอบตน ลูกเด็กเล็กแดงแปลงตน..............โพกผ้าอลวน เข้มข้นเพรียกหาอธิปไตย สาวแก่แม่เฒ่าคราวใด................หนุ่มน้อยหนุ่มใหญ่ ขวักไขว่ใจระรื่นครื้นเครง . ศิลปินสารพันบรรเลง................. ร้องรับขับเพลง คนเก่งเพลงเก่าเล่าความ ฯ ..๏ ฮิ๊บฮ๊อบป๊อบร๊อคล้นหลาม.......ยังสนุกทุกยาม สร้างความสุนทรีย์ปรีดา ตัวเราเฝ้าคิดปริศนา...................เหตุไฉนใดหว่า ? ต่างมาพร้อมเพรียงเยี่ยงนี้ ? เหนือใต้ตกออกบอกที.................เพื่อนพ้องน้องพี่ เรานี้เลือดไทยใจเดียว บ่นพรางชะแง้แลเหลียว...............เดินคดลดเลี้ยว เก็บขวดกระป๋องขายสบายใจ ๚ะ๛
อัลมิตรา 18 มี.ค. 2549 23:07 น. - ID 87735 
3008
23
0
18 มีนาคม 2549 23:08 น. - comment id 567140
...อัลมิตราได้มีโอกาสเดินด้อม ๆ มอง ๆ มวลหมู่ม๊อบต่าง ๆ ที่ตั้งมั่น ณ เมืองบางกอก... ...เห็นผู้คนมากมาย...ใบหน้ายิ้มแย้มแจ่มใสบ้าง...เข้มแข็งขึงขังบ้าง...แตกต่างกันไป... ...และนี่ก็คือสีสันของประชาธิปไตยโดยแท้... ...บรรยากาศที่ร้อนระอุเยี่ยงนี้...อัลมิตราขอทวนกระแส เขียนกาพย์สนุก ๆ..ขึ้นมา... ...มองหาความสุขใจจากงานเขียน...เพื่อผ่อนคลายอารมณ์...ในช่วงสภาวะวิกฤติของบ้านเมือง... ...เคยบอกไปมากกว่าหนึ่งหน...ว่า...อัลมิตราขอวางตนเป็นกลาง...โดยจะไม่ขอฝักใฝ่ฝ่ายใด ๆ... ...แต่ขอมอบใจให้ชีวิตแก่แผ่นดินบ้านเกิดเมืองนอนที่มีนามว่า...ประเทศไทย...เท่านั้น... ...เข้าใจว่า...ไม่ว่าจะม๊อบไหน...ม๊อบนั่น...ม๊อบนี่...ก็น่าจะรอมชอมกันได้... ...แม้แตกต่างในอุดมการณ์และมุมมองบ้าง...แต่พี่น้องผองเพื่อนคนไทย...หัวใจต้องเป็นหนึ่ง... ...อุดมการณ์เต็มเปี่ยมจริง ๆ นะเนี่ย...ว่าแล้วก็เดินด้อม ๆ มอง ๆ หาขวดกระป๋องขายต่อไป... มิตรภาพตราบสิ้นฟ้า ..
18 มีนาคม 2549 23:25 น. - comment id 567142
น่านน่ะ ไปด้อมๆมองๆ หรือว่าไปเย้วๆด้วยกะเค้าน้อ แล้วที่ไปเก็บขวดเก็บกาป๋องง่ะ ราวังเจ้าถิ่นเค้าเรียกค่าคุ้มครองน้า อิอิกาลังว่าจาไปนอนแย้วน้าเนี้ยเจอคุณพอดี เยยแวะมาเยี่ยมงับ ก่อนนอนได้อ่านกาพย์ซาหนุกๆก้อทำให้หลับสบายขึ้นเนาะ ขอบคุณงับ เออ!!ว่าแต่อย่าลืมแวะไปดูเมล์หน่อยน้า มีเรื่องปรึกษาหลังไมค์งับ อิอิ ไม่วายรบกวนก่อนนอนอีกและ
19 มีนาคม 2549 03:04 น. - comment id 567148
ขอเข้ามาขัดคอแรง ๆ นะ จะโกรธก็ไม่ว่า แต่อย่าได้วางตัวเป็นกลาง มันเป็นการคิดแบบคนสิ้นคิด เรื่องประเทศชาติเป็นเรื่องใหญ่ เป็นเรื่องคอขาดบาดตาย ให้ติดตามข่าวสารบ้านเมืองและศึกษาข้อมูลอย่างจริง ๆ จัง ๆ ศึกษาแบบปัญญาชน เมื่อได้ศึกษาแล้ว ขอใช้คำว่า \'จง ตัดสินใจ\' ไม่ควรเป็นไปตามกระแส เขาว่าไงก็ว่าตามเขา คนประเภทนี้ ในอดีตพม่ากวาดต้อนไปมากแล้ว :)
19 มีนาคม 2549 04:29 น. - comment id 567150
ขอวางตัวบ้าง ขอวางเป็นคนดี ไม่รู้จะดีได้หรือเปล่า เพราะยังเมาทุกวัน
19 มีนาคม 2549 05:01 น. - comment id 567151
อยากฟังเสียงของคนง่วงนอนไหม....ม่ายหวายแร่ว...!!!!...ดูแลตัวเองนะครับ..อย่าลืมทานยาด้วยหละ...
19 มีนาคม 2549 16:19 น. - comment id 567212
อ๋าว!!! แล้วจาคุยรุเรื่องได้งายเนี้น คืองี้ง่ะงับ จาถามเรื่องฉันทลักษณ์ของโคลงสี่สุภาพง่ะ พอดีที่คุณแนะนำไว้ กาป๋มก้อลืมๆไปแย้วงับไม่ได้จับเสียนานงับ กากากาก่าก้า............กากา กาก่ากากากา............ก่าก้า กากาก่ากากา............กาก่า กาก่ากากาก้า.............ก่าก้ากากา หมายถึงเสียงหรือว่ารูปงับ อิอิ ส่งคืนครูไปเสียเยอะงับ แนะนำอีกทีน้างับ
19 มีนาคม 2549 23:02 น. - comment id 567256
จริงจริงเท็จเท็จครั้งละเจ็ดหมื่น..(ล้าน) นั่งนั่งยืนยืนคืนละสองร้อย...
20 มีนาคม 2549 00:00 น. - comment id 567266
...เป็นที่เข้าใจกันว่า ...สถาวะของสังคมไทยที่เกี่ยวกับบ้านเมืองในขณะนี้...ต้องแบ่งฝักแบ่งฝ่ายชัดเจน ...ไม่เหมือนประเทศที่ประชาธิปไตยเบ่งบานเต็มที่...ที่ทุกคนมีอิสระในด้านความคิด ...กระทั่งคนในครอบครัวเดียวกัน..มีพรรคช้าง..พรรคลา...แต่ยังรักใคร่ปองดองกัน ...นั่นคือสังคมของคนแยกแยะได้แล้ว ...ซึ่งแตกต่างจากสังคมไทย ...ต้องขาว...ถ้าไม่ขาวคือดำ...ต้องดำ...ถ้าไม่ดำคือขาว...ต้องขาว ...กว่าจะตอบใคร ก็ต้องนึกให้ดี..ว่าจะมีทางออกเช่นไร..หากถูกถามว่าจะอยู่ฝ่ายไหน ...หากตอบว่า...อยู่กลาง ๆ...ย่อมมีศัตรูทั้งสองฝ่าย.. ...หากตอบว่า...ขาว...ต้องยอมรับว่าศัตรูคือดำ ...หากตอบว่า...ดำ....ต้องยอมรับว่าศัตรูคือขาว ...บางครั้งการด่วนตัดสินใจและมองอะไรโดยด่วน ๆ...โดยขาดการใคร่ครวญไตร่ตรองข้อเท็จจริง... ...อาจพลาดได้... ...ดังนั้นควรใช้เวลาในการศึกษาข้อมูลหลาย ๆ ด้านก่อน..แล้วจึงตัดสินใจว่าจะแสดงทัศนะในเรื่องนั้นอย่างไร ...สำคัญคือต้องศึกษารายละเอียดและข้อมูลข่าวสารเชิงลึกเสียก่อน ...ข่าวว่า.. ...ขณะนี้...สมาชิกสภาของอังกฤษกำลังล่ารายชื่อให้มีการเปิด bbc ภาคภาษาไทย ...อาจจะได้รับข้อมูลข่าวสารที่เป็นกลางค่อนข้างชัดเจนกว่านี้ ...หลาย ๆ กรณี ที่คนไทยไม่รู้....ก็จะได้รู้จาก bbc ...ตัวอย่างที่เห็นได้ชัด ก็น่าจะเป็นพฤกษาทมิฬ.. บางภาพ บางเหตุการณ์ คนในกรุงเทพเองแท้ ๆ ไม่รู้ ...ตอนนี้มีทีวีเสรีกี่ช่อง...??? ...ข่าวการเมืองมาจากไหน...??? ...มีหนังสื่อพิมพ์ใดที่เป็นกลางจริง ๆ... ...แล้วข้อมูลที่ได้รับจะแน่ใจแค่ไหนว่าใช่หรือไม่...??? ...อัลมิตราขอวางตัวเป็นกลางเพื่อการตัดสินใจอย่างเฉียบคม...รอข้อมูลเชิงลึกก่อน.. ...ใครจะว่าการวางตัวเป็นกลางนั้นเป็นการกระทำของคนสิ้นคิด...ก็ไม่เป็นไร ...คงต้องดูความหมายของคำว่าคนสิ้นคิดให้ลึกซึ้งเสียก่อนว่าตรงกับสิ่งที่อัลมิตราเป็นหรือเปล่า ...คนสิ้นคิดเป็นเรื่องของการจนแต้ม สิ้นปัญญาจะไตร่ตรอง ขลาดเขลาประมาณนั้น ...อัลมิตราตอบได้แต่เพียงว่า..กำลังคิด..แต่ยังคิดไม่สิ้นต่างหาก ..๏ ครุ่นคิดอย่างใคร่ครวญ.......ทั้งถี่ถ้วนอย่างถ่องแท้ สมการความผันแปร.................จักตีแผ่ข้อเท็จจริง รอบคอบอย่างรอบรู้...................เพื่อเพ่งดูนัยทุกสิ่ง แนวทางเพื่ออ้างอิง....................ไม่พาดพิงอิงอัตตา ฯ มิตรภาพตราบสิ้นฟ้า ..
20 มีนาคม 2549 01:06 น. - comment id 567269
เข้ามาอีกรอบนะ..การที่เราไม่ตัดสินใจอะไรเลย แล้วบอกว่าเราเป็นกลางนี่แหละ ที่สร้างความอ่อนแอ ความยับเยินให้เกิดขึ้นในบ้านเมือง การเลือกข้างอย่างมีสติจะทำให้เรื่องยุติอย่างเด็ดขาด เพราะเมื่อเสียงส่วนใหญ่มีมากกว่า ก็ย่อมจะกำหราบเสียงส่วนน้อยลงได้อย่างเด็ดขาด ความอึมครึมที่เราชอบเรียกอย่างไม่เข้าอกเข้าใจว่าความเป็นกลาง ซึ่งน่าจะเรียกว่าความไม่ใส่ใจเสียมากกว่า แบบยังไงก็ได้ฉันอยู่ได้เสมอ เป็นตัวทำให้การแตกความสามัคคีบานปลาย และหากอ่านที่ลุงเขียนติงไว้ ณ ความคิดเห็นที่ ๓ จะเห็นว่าลุงไม่ได้บังคับให้เข้าข้างลุง แต่ติงมาว่าไม่ควรอย่างยิ่งที่จะอยู่เฉย ๆ ใครจะไปเข้าข้างไหนก็สุดแต่สติปัญญาของตน ประเทศชาติเป็นของเราทุกคน ที่เราต้องรักต้องหวงแหน ต้องปกป้อง จะทำทองไม่รู้ร้อนไม่ได้ เรื่องที่กำลังเกิดขึ้นในบ้านเมืองเวลานี้ ไม่ใช้เรื่อง \'ประชาธิปไตยเบ่งบาน\' อย่างที่ว่า แต่มันเป็น \'การต่อสู้ระหว่างธรรมกับอธรรม\' ซึ่งใครจะว่าใครเป็นธรรมใครเป็นอธรรม ก็อยู่ที่วิจารณญานของใครไป แต่การใช้คำว่า \'วางตัวเป็นกลาง\' นั้นถูกต้องหรือ ลุงไม่ได้เซ็งอะไรหรอก ที่ขึ้นมาทักท้วงก็เพราะคำว่า \'วางตัวเป็นกลาง\' เท่านั้นเอง เราเป็นกวี เป็นนักเขียน เขียนอะไรออกไปย่อมต้องมีคนอ่าน ทุกข้อความควรใคร่ครวญและชัดเจน นอกนั้นก็ไม่มีอะไร ลุงยังคงบ้า เหมือนเดิมแหละ :)
20 มีนาคม 2549 00:15 น. - comment id 567273
คุณMomMamSan .. อัลมิตราไม่ได้ร่วมอยู่ในขบวนม๊อบด้วยหรอกค่ะ ยังมีภาระกิจอีกหลายอย่างที่จะต้องทำภายในวัน ไม่ได้เชียร์ฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งออกนอกหน้า .. และก็ไม่ได้คาดหวังกับผู้คนที่รายล้อมว่า จะอยู่ฝ่ายใด อัลมิตราเห็นใจ และเข้าใจ กับสิ่งที่พวกเขาต้องลงทุนลงแรงมาร่วมขบวน บ้างก็ต้องพลัดจากถิ่นฐานมานอนข้างถนนในเมืองกรุง หอบลูกเต้า ผู้เฒ่าผู้แก่ มากันมากมาย ..ลำบากลำบนเหมือนกัน .. ส่วนเรื่องของโคลงสี่ สามารถศึกษาได้ในเวปค่ะ ลองค้นหาจาก google นะคะ ลุงราม .. นานทีปีหน ที่เราจะได้เสวนากันที่กระทู้กลอนของบ้านกลอนไทย ซึ่งเราอาจจะได้พบกันบ้างที่เวปอื่น ในฐานะที่อัลมิตราเป็นเพียงสมาชิกในเวปนั้น ๆ ซึ่งต่างกับบทบาทและหน้าที่ที่อยู่ในเวปบ้านกลอนไทย สิ่งที่ลุงเรียกว่าขัดคอแรง ๆ .. นั่นเป็นความคิดของลุงเอง เพราะอัลมิตราไม่ได้คิดว่า เป็นการขัดคอสักนิด คำว่า \"จงตัดสินใจ\" คงต้องเว้นสักคน เพราะว่า คำนี้ไม่เหมาะที่จะใช้กับอัลมิตรา เนื่องจากไม่มีใครสามารถแทรกซึมด้านความคิดและวิจารณญาณของอัลมิตราได้ เจตนาของอัลมิตราก็ยังคงมั่นอยู่อย่างเดิม ไม่เปลี่ยนแปลง.. เพียงเพราะว่าอัลมิตราไม่เป็นตามกระแส เขาว่าไงก็ว่าตามเขา รวมถึงไม่ว่าตามลุงด้วย อัลมิตรายังคงยืนยันประโยคเดิม ที่ลุงอ่านแล้วอาจจะเซ็งสุดขีด และบอกว่า อัลมิตราเป็นคนสิ้นคิดก็ตาม ... อัลมิตราขอวางตนเป็นกลาง...โดยจะไม่ขอฝักใฝ่ฝ่ายใด ๆ... อัลมิตราเคารพในความคิดเห็นและเชื่อในเหตุผลที่อัลมิตรามี ในขณะเดียวกันอัลมิตราก็ไม่ได้มีผลกระทบกระเทือนจิตใจอะไรนักกับสิ่งที่ลุงกล่าวยกเปรียบเทียบ โวหารที่ลุงหยิบยกขึ้นมาเปรียบนั้น ราวกับว่า เราอยู่ต่างกันคนละขั้ว การเมือง ศาสนา ลัทธิความเชื่อ ... หัวข้อเหล่านี้ เป็นที่รู้ ๆ กันอยู่แล้วว่า .. ควรเลี่ยงในการสนทนากับผู้ที่มีความคิดแตกต่างกันออกไป .. เมื่อก่อนอัลมิตราได้แต่คิดผ่าน ๆ .. ทำไมเป็นเช่นนั้นหนอ ? แต่ตัวอย่างในปัจจุบันก็มีให้เห็นเนือง ๆ ไม่ว่า สามี -ภรรยา , พ่อ-แม่-ลูก , คู่รัก , มิตรสหาย ต้องมาแตกคอกันเรื่องที่มีความแตกต่างทางด้านความคิด มันน่าแปลกที่ ..ทำไมต้องมาคาดหวังให้อีกคน มีความคิดเห็นเหมือนตนเองไปซะทุกอย่าง ครั้นเมื่อไม่เหมือนแล้ว ก็ต้องถกให้ได้ความว่า ใครถูก - ใครผิด ... มองอย่างสวยงาม มองในแง่ดี...จะเห็นว่า..ขณะนี้อุดมการณ์ประชาธิปไตยเบ่งบานสุด ๆ อย่างไรก็ตามอัลมิตราก็ยังคงเคารพลุงเช่นเดิม เสวนาทางการเมืองไม่มีผลต่ออัลมิตราค่ะ คุณฉันทะโส .. เรื่องเมาเป็นเรื่องธรรมชาติ .. คนเมาก็ไม่ได้หมายความว่าเป็นคนไม่ดี คุณบินเดี่ยวหมื่นลี้ .. ขอบคุณค่ะ ที่ห่วงใย คุณdark side of mind .. :) คุณด้านมืดแห่งสามัญสำนึก...ช่างลึกซึ้งยิ่งนัก
20 มีนาคม 2549 05:32 น. - comment id 567288
มาอีกรอบแระ....อย่าลืมทานยาตอนเช้านะ..ช่วงนี้เวลาทำงานสวนเวลากัน...ห้ามถือโอากาสไม่เตือนแล้วไม่ทานนะ..ไปหละ จะเช้าแล้ว
20 มีนาคม 2549 07:48 น. - comment id 567298
หน้าส่วนตัว
เก๊าะ..ถ้าหากเรนจะบอกลุงรามว่า..เรนมีมุมมองที่ต่างจากลุงราม ..
ลุงรามจะเกลียดเรน..
ไม่พูดกับเรน.. เหมือนอย่างที่เพื่อนๆเรนทำแบบนั้นกับเรน..ปล่าวคะ..
ก็ถ้าเค้าบอกว่า .. เรนต้องหัดมีความคิดเป็นขบถ..ขบถในแนวคิด.. ที่นักเรียนนักศึกษาควรจะมี.. เรนไม่เข้าใจคำว่าขบถทางความคิด..
หรือนักเรียนนักศึกษาคิดเป็นได้อย่างเดียว..คือการที่จะต้องออกไปเฮ้วๆๆๆ.. ที่ราชดำเนิน.. อันนั้นคือประวัติศาสตร์ที่ต้องทำหรอคะ.. อันนี้ตะหากที่เรนไม่เข้าใจ..
เรนอาจเป็นเด็กนอกกรอบ..
นอกกระแส..
...
การศึกษา..และการเรียนรู้..คงไม่ได้หยุดแค่ในห้องเรียน..
เรนคิดว่า..เรนจะไม่เชื่อเพียงเพราะคนคนนะนั้นมีอายุมากกว่า. เก๊าะเพราะสิ่งที่เรนเห็น.. เป็นพฤติกรรมที่ซำซาก..
ประวัติศาสตร์..น่าจะสอนบทเรียนที่เจ็บปวด...
เรนจะเชื่อ..เพราะสิ่งนั้นจะพิสูจน์ได้ด้วยตัวเอง..
บางสิ่งที่สามารถแก้ไขได้.. ในแบบและรบอบของประชาธิบไตย..
เรนยังคงยืนยัน.. ในแนวคิดเดิมของเรน..
...
ความรุนแรง.. คืออารมณ์.. ที่เผาผลาญ..
ความอยากเอาชนะ ..
คือโมหะ.. ที่น่ากลัว..
..
เรนขออนุญาต..พี่อัลมินะคะ..
..
..
20 มีนาคม 2549 10:19 น. - comment id 567323
เอาน่าลุง เป็นกลางก็คืออาจจะไม่เห็นด้วยทั้งสองฝ่ายนะ งั้นก็อย่าไปบังคับจิตใจใครเค้าเลยงับ กาป๋มอาจจาไม่รุจักลุงฯเป็นการส่วนตัวนะ แต่ก็เคารพความคิดเห็นของทุกคนครับ ต้องขออภัยน้างับถ้าเป็นการล่วงเกินงับ
20 มีนาคม 2549 12:25 น. - comment id 567341
หรือนักเรียนนักศึกษาคิดเป็นได้อย่างเดียว..คือการที่จะต้องออกไปเฮ้วๆๆๆ.. ที่ราชดำเนิน.. อันนั้นคือประวัติศาสตร์ที่ต้องทำหรอคะ.. อันนี้ตะหากที่เรนไม่เข้าใจ.. ขอค้านความคิดเห็นของคุณเรนอย่างแรง คุณเรนใช้ภาษาเหมือนนายกเลยนะครับ ไอ้พวกกุ้ยที่สนามหลวง ไอ้พวกที่ไปเฮ้วๆๆๆ.. ที่สนามหลวง ผมขอตอบแทนคนๆอื่นที่อยู่ที่นั่น ที่สนามหลวง ที่ทำเนียบ จุดร่วม ณ ตรงนั้น ทุกคนไม่ได้ไปเพื่อให้ตัวเองเป็นส่วนหนึ่งของประวัติสาสตร์ หากมีใครคนหนึ่งหรืออีกหลายคนพูดประชดมาอย่างนั้น ผมจะโดดชกหน้าให้!.. รับรอง การจะใช้คำว่าไปเฮ้วๆๆๆ... ไม่เหมาะอย่างมาก และมันไม่ใช่พฤติกรรมที่ซำซาก หากทุกคนคิดอย่างนี้ จุดร่วมตรงนั้นก็จะไม่เกิด อย่าบริโภคแค่สื่อ.. ในสถานที่จริงๆ กับสื่อที่เสนอออกไป มันต่างกันมากมาย มันไม่ใช่เรื่องซ้ำซาก หากแต่คนที่โกงบ้านโกงเมืองมันมีอยู่ทุกยุคทุกสมัย อยู่ที่รูปแบบการโกง.. คนที่บอกว่าเป็นการ อีกอย่าง ผมขอย้ำความคิดเห็นของคุณราม ลิขิต คนแบบนั้นสิ้นคิด ไม่มีใครไปเพื่ออยากที่จะเอาชนะ ทุกคนขอให้แค่นายยกลาออก ทุกข้อคิดเห็นขอสนับสนุนความคิดเห็นของคุณ ราม ลิขิต ทักษิณ ออกไป.. ผมขอแสดงจุดยืน
20 มีนาคม 2549 13:11 น. - comment id 567357
ทิวาสวัสดิ์ค่ะ ลุงราม .. ลุงจะเข้ามาทักทายหรือแสดงความคิดเห็นหลายรอบก็ได้นะคะ หากคิดว่าต่างฝ่ายจะยอมรับความคิดเห็นซึ่งกันและกัน และสนทนากันอย่างที่เรียกว่าสุนทรียสนทนา สำหรับอัลมิตรานั้น ความคิดเห็นต่าง ๆเกี่ยวกับการวางตัวเป็นกลางนั้น อัลมิตราชี้แจงไปหมดแล้ว เหตุผลทั้งหมดนั้น ไม่ได้ขึ้นอยู่กับคำตอบที่ลุงคาดหวังที่จะพอใจ อัลมิตราก็คงไม่อาจตอบเลือกฝ่าย ความเป็นกลางที่ลุงตั้งนิยามว่า.. เป็นความไม่ใส่ใจเสียมากกว่าและสร้างความอ่อนแอ ความย่อยยับให้เกิดขึ้นในบ้านเมือง อาจจะไม่ใช่คำตอบที่ถูกต้องที่สุดในทุก ๆ กรณี .. ทุก ๆ สถานการณ์ อัลมิตราชี้แจงในเบื้องต้นแล้วว่า ควรศึกษารายละเอียดและข้อมูลข่าวสารเชิงลึกเสียก่อน และอัลมิตราก็เข้าใจว่า .. ในคำอธิบายเบื้องต้นนั้น ไม่ได้สลับซับซ้อนแต่ประการใด อัลมิตราไม่อยากชี้นำใคร ให้คิดคล้อยตามอัลมิตรา แต่หากมีคนถามอัลมิตราว่าคิดอย่างไร อัลมิตราก็จะบอก.. บอกสิ่งที่อยู่ในความคิดของอัลมิตรา ไม่ได้หยิบยืมความคิดของผู้ใดมากล่าวอีกทอด การมาเยือนของลุงในแต่ละความคิดเห็น ..ก็ดูเหมือนว่า จะทิ้งคำ...มอบให้เป็นที่ระลึกแด่อัลมิตรา ตัวอย่างในความคิดเห็นที่ ๓ .. คนสิ้นคิด และในความคิดเห็นที่ ๑๐ .. คนที่ไม่เอาใจใส่ สำหรับคำว่า คนสิ้นคิด ... อัลมิตราก็ได้ตอบไปแล้ว ..กำลังคิด..แต่ยังคิดไม่สิ้นต่างหาก สำหรับคำว่า ไม่เอาใจใส่ ...คำตอบก็มีทั้งหมดล่วงหน้าแล้ว ในความคิดเห็นที่ ๘ คำติงของลุง เกิดจากมุมมองของลุงที่ตีความของคำว่า วางตัวเป็นกลาง อาจจะตรงกับความคิดเห็นของใครต่อใครอีกหลายคน ที่เข้ามาอ่านในกระทู้กลอนนี้ และถึงแม้ว่า ความคิดเห็นของอัลมิตราอาจจะไม่ตรงกับความคิดเห็นของผู้ใดเลย อัลมิตราก็ยังมีความพึงพอใจ ที่อัลมิตราได้แสดงออกซึ่งความรู้สึกโดยชอบธรรม ปราศจากสิ่งครอบงำ และไม่ตามกระแส .. ที่สำคัญยังมีความสงบอยู่ที่ใจ ...เคยบอกไปมากกว่าหนึ่งหน...ว่า...อัลมิตราขอวางตนเป็นกลาง...โดยจะไม่ขอฝักใฝ่ฝ่ายใด ๆ... ...แต่ขอมอบใจให้ชีวิตแก่แผ่นดินบ้านเกิดเมืองนอนที่มีนามว่า...ประเทศไทย...เท่านั้น... .. สองบรรทัดนี้ อัลมิตราผู้ซึ่งไม่เคยบอกใคร ๆ ว่าตนเองเป็นกวี หรือนักเขียน ได้บอกเจตจำนงจนสิ้น .. จะอีกกี่ครั้ง กี่ครา .. ถึงแม้ว่าจะเป็นผู้อื่นถาม ก็จะได้คำตอบเดิม ส่วนที่อยู่ในใจของอัลมิตรานั้น ช่วงที่อยู่ในคูหาในวันที่ ๒ เมษ. อัลมิตราทำอะไร อัลมิตราสำนึกในความชั่วดีได้ อัลมิตรายังคงเป็นคนไทยค่ะ ถึงแม้ว่า ถัดขึ้นไปสองรุ่นของอัลมิตราไม่ได้อยู่ประเทศไทยตาม ท้ายนี้ .. ถึงลุงจะบอกว่าลุงยังคงบ้าเหมือนเดิม ลุงก็เป็นที่รักและเคารพของอัลมิตรานะคะ อัลมิตราถึงจะขี้เถียง,ขี้ดื้อไปนิด .. ลุงก็ทน ๆ เอานะคะ คุณบินเดี่ยวหมื่นลี้ .. รับทราบค่ะ ขอบคุณค่ะ ที่เป็นห่วง ที่เข้ามารอบสอง อัลมิตราคิดว่า คุณเข้ามาติดตามสถานการณ์ในกระทู้มากกว่า .. ไม่ต้องเป็นห่วงค่ะ อย่าดีก็เอาหนังสะติ๊กยิงพุงกันเท่านั้น คุณเรน .. ให้ยืมพื้นที่ถามลุงรามค่ะ คุณMomMamSan .. ที่ทำงานของอัลมิตรา รอบ ๆ ตัว มีคนที่เห็นด้วยกับฝ่ายโน้นและเป็นปรปักษ์กับฝ่ายนี้ ดูแล้วก็วุ่นวายพอสมควร .. หลายคน มาวนเวียนถามอัลมิตราว่าจะเลือกฝ่ายใด อัลมิตราทราบว่า .. พวกเขามีความคาดหวัง คาดหวังที่จะได้รับคำตอบว่าเลือกฝ่ายเดียวกับเขา ในขณะเดียวกัน หากคำตอบของอัลมิตราไม่ได้เป็นอย่างที่พวกเขาคิด เขาก็พร้อมจะเป็นปรปักษ์ทันที สารพัดคำเหน็บแนม ก็จะปรากฏให้เห็น มีการตั้งฉายา มีการล้อเลียนต่าง ๆ นานา วันนี้อัลมิตราใส่เสื้อสีเหลือง เสื้อที่ตรงกระเป๋าด้านซ้ายเขียนไว้ว่า .. เรารักในหลวง อัลมิตรามีความสุขนะ และเมื่อมีใครมาถามเซ้าซี้อีก .. อัลมิตราก็ตอบแบบยิ้มแย้มว่า เราเป็นกลางจ๊ะ คุณดอกข้าว .. ให้ยืมพื้นที่ตอบคุณเรนค่ะ และขอบคุณค่ะ สำหรับความคิดเห็น อัลมิตราไม่จำกัดนะคะ ว่าต้องเฉพาะบางคิดเห็นที่คล้อยตามกันเท่านั้นที่จะมาสนทนาร่วมกันได้ การวิเคราะห์การเมือง อัลมิตราเองไม่ค่อยชัดเจนสักเท่าไหร่ ฟังเสียมากกว่า แต่ความคิดที่คิดเช่นไรนั้น บางทีอัลมิตราต้องอาศัยสงวนท่าทีที่จะตอบ ด้วยเหตุผลที่อัลมิตราบอกไปแล้ว หากคุณจะคุยกับอัลมิตราเรื่องซาทูร่า อัลมิตราสามารถเล่าได้เป็นฉาก ๆ เชียวนะคะ มิตรภาพตราบสิ้นฟ้า ..
20 มีนาคม 2549 13:42 น. - comment id 567360
พอดีคนเก็บขวดแกส่งเสียงไม่ได้แล้ว แกนอนตายอยู่ข้างถนนตรงที่ชุมนุม ตำรวจเพิ่งมาชันสูตรพลิกศพ อิอิ
20 มีนาคม 2549 15:45 น. - comment id 567402
อยากไปดู อยากไปเห็นบรรยากาศนั้นบ้าง แต่ก็ไม่มีโอกาส รักใครก็ให้พอดีนะ รักมากช้ำมาก เชื่อเหอะ
20 มีนาคม 2549 15:52 น. - comment id 567406
ฮิ ๆ เฮ้อ! งั้นต่อความให้ยาวสาวความให้ยืดอีกหน่อยละกันนะ :) หนูเรน..ความคิดขบถ ก็คือการไม่ยอมทำอะไรตามน้ำไปอย่างไม่ไตร่ตรองนั่นเอง สมัยนี้เป็นสมัยที่คนเรามักเป็นไปตามกระแส โดยไม่ค่อยที่จะศึกษาใคร่ครวญให้รอบคอบก่อนตัดสินใจ เขาเฮก็เฮด้วย ทั้ง ๆ ที่ตัวเราอาจจะยังไม่กระจ่างแจ้งในเรื่องที่เขาเฮกัน คนที่เขาไปสนามหลวงหรือไปที่หน้าทำเนียบหรือที่สวนจตุจักรนั้น หนูเรนเคยสงสัยบ้างหรือไม่ว่า ทำไมเขาจึงไปและเคยได้รับคำตอบที่ชัดเจนให้แก่ตัวเองบ้างหรือยัง หากยังเราควรที่จะศึกษาค้นคว้าให้กระจ่าง หากว่าเราสนใจจริง และการรับข้อมูลไม่ว่าจะมาจากที่ใดก็ตาม ลุงขอให้ยึด \'กาลามสูตร\' ของพระพุทธเจ้าเป็นหลักในการกลั่นกรอง เมื่อฝ่ายหนึ่งบอกว่าอีกฝ่ายหนึ่งคอรัปชั่นจนถึงขั้นขายชาติ ฯลฯ และอีกฝ่ายหนึ่งบอกว่าอีกฝ่ายหนึ่งไม่ยอมทำกติกา ฯลฯ จากนั้นทั้งสองฝ่ายก็ประจัญหน้า หนูเรนเคยสงสัยบ้างไหมว่า นี่มันเกิดอะไรขึ้น ใครพูดจริงใครพูดไม่จริง ข้อมูลที่จะตอบคำถามให้แก่เรา เราได้ทำการค้นคว้าถึงที่สุดหรือไม่ เช่น อ่านหนังสือพิมพ์ปัจจุบันต้องอ่านทุกสำนักเท่าที่มีอยู่ อย่าอ่านสำนักใดสำนักหนึ่งที่เราพึงพอใจ สื่อวิทยุโทรทํศน์ก็เช่นกันต้องขวนขวายฟังความสองข้าง ถ้าฟังจากเพื่อน ๆ ก็ต้องฟังเหตุผลทั้งสองฝั่ง เป็นต้น ท้ายนี้ลุงจะไปเกลียดเรนทำไมกัน :) หวัดดีหนูอัลมิตรา..ไม่เถียงกันแล้วล่ะ แต่จะมาถามเพราะมันไม่ชัดเจนอีกแล้วนะ \'..แต่ขอมอบใจให้ชีวิตแก่แผ่นดินบ้านเกิดเมืองนอน..\' ไอ้ที่ว่าน่ะเราจะทำตัวอย่างไร-ที่ว่ามอบใจให้แก่แผ่นดิน เมื่อซ้ายก็ไม่ไป ขวาก็ไม่เอา ลุงตีความได้อย่างเดียวว่า ก็รอวันกลบหน้าเท่านั้น คือมอบชีวิตให้แผ่นดินเมื่อตอนตายเท่านั้น ยกตัวอย่างความเป็นกลางตามความเข้าใจของลุงหน่อยนะ..เอาตำรวจเป็นตัวอย่างก็แล้วกัน ตำรวจเป็นข้าราชการ เป็นคนของพระเจ้าอยู่หัว มีหน้าที่รักษาความสงบ ความขัดแย้งครั้งนี้ที่ต่างก็มีพลังและเหตุผล การฝักใฝ่ฝ่ายใดย่อมถือว่าไม่เป็นกลาง ตำรวจต้องเป็นไม้บันทัดในการดูแลสถานการณ์โดยเท่าเทียมทั้งสองฝ่าย ไม่เลือกที่รักมักที่ชัง อย่างนี้เรียก \'วางตัวเป็นกลาง\' แต่เมื่อเลิกงานถอดเครื่องแบบออกแล้ว อาจจะออกไปเข้าข้างใดก็แล้วแต่ตัวชอบ นี่คือ \'ไม่เป็นกลาง\' :) ง่า-ที่เคารพไม่เอา เอาที่รัก ฮิ ๆ
20 มีนาคม 2549 16:41 น. - comment id 567425
ความดี กับ ความไม่ดี ความถูกต้อง กับ ความไม่ถูกต้อง ความมีจริยธรรม กับ ความไม่มีจริยธรรม สิ่งเหล่านี้เป็นกลางไม่ได้ ต้องเลือกข้างใดข้างหนึ่ง ต้องเลือกข้างที่ดีข้างที่ถูกต้องมีจริยธรรม ฟังมาจากคำให้สัมภาษณ์สื่อมวลขนเรื่องความเป็นกลางของอนีตนายกฯอานันท์ ปัณยารชุน เมื่อไม่กี่วันนี่เอง และอีกหลายๆคนที่มีความน่าเชื่อถืออย่างยิ่งเกี่ยวกับเรื่องเหล่านี้ เช่น ท่านราษฎรอาวุโสนายแพทย์ประเวศ วะสี และบุคคลอื่นๆที่ไม่ได้ออกเป็นข่าวในฟรีทีวี 3 5 7 9 11 itv ที่ล้วนเป็นสื่อของรัฐทั้งสิ้น .. จุจุ อย่าทำชาติบอบช้ำ เดี๋ยวพี่เหลี่ยมขายไม่ได้ราคา เสียงแว่วมาจากใครคนหนึ่ง ที่อาจกำลังกระจายไปสู่ใครอีกหลายคน ______________________________ You have coming call ! to miss call, but miss you :]
20 มีนาคม 2549 19:37 น. - comment id 567456
นึกถึงสมัยจอมพลสฤษดิ์ จอมพลถนอม ที่สนับสนุนให้กวีเขียนกลอนประเภทสายลมแสงแดด ห้ามแสดงความคิดเห็นทางการเมือง เผด็จการจะได้ทำอะไรง่ายๆ หน่อย ... กวีบางกลุ่มก็เลย \"วางตัวเป็นกลาง\" ไม่มีบทบาทอะไรที่จะทำให้บ้านเมืองดีขึ้น ตกอยู่ภายใต้เงื้อมมือของเผด็จการง่ายๆ หน่อย คนจะได้รับสื่อแต่ดีๆ รับสื่อที่เป็นบทกวีประโลมโลก ลืมเรื่องรุ่มร้อนทางการเมืองไปสักนิด จริงๆ แล้ว ... \"ความเป็นกลาง\" สู้ \"ความเป็นธรรม - ความเป็นจริง\" ไม่ได้เลย : ) สวัสดีค่ะ คุณอิม ขออนุญาตแสดงความคิดเห็นและมีส่วนร่วมตามระบอบประชาธิปไตยนะคะ
20 มีนาคม 2549 21:56 น. - comment id 567496
และคุณ นิธิ เอียวศรีวงศ์ ยังบอกด้วยว่า แค่การจับเข้าคุยกัน (ฟังเหมือนจะดี) นั้นยังไม่พอล่ะ เพราะไม่มีที่ไหนในโลกนี้สามารถแก้ความขัดแย้งทางสังคมได้ด้วยวิธีนี้ คงได้ขวดไปหลายถุงนะ เด๋วส่งคนเอาปิคอัพไปรับเน้อ
20 มีนาคม 2549 23:05 น. - comment id 567515
A. สวนกระแสเป็นทุนเดิม โดยปกติ ความคิดผมไม่ค่อยเหมือนกับใครอยู่แล้ว โดยที่ผมเองก็ไม่ได้ตั้งใจหรอก จะเป็นเพราะอะไร ก็ไม่อาจทราบได้ แต่บางครั้งผมก็ภูมิใจนะ ที่ตัวเอง คิดไม่ค่อยเหมือนคนอื่น อย่างน้อย เวลาผลิตงานออกมา ความคิดผมก็จะได้ไม่ไปซ้ำแบบใคร จากงานเขียนเก่า ๆ ของผมในรอบสองเดือนที่ผ่านมา หลาย ๆ คน คงสงสัยกันว่า จริง ๆ แล้วผมคิดเห็นเช่นไรกับการเมืองปัจจุบัน ทำไมบางวันเขียนด่าม็อบ? ทำไมบางวันเขียนด่ารัฐบาล? B. หัวเอียง มีคนตั้งคำถามเกิดขึ้นมามากมาย แล้วผมอยู่ข้างไหนกันแน่? ทำไมผมไม่เลือกข้าง? ทำไมไม่รู้จักดู ตัวอย่าง อย่าง อังคาร เนาวรัตน์ คมทวนบ้าง? ผมเป็นกลางอย่างนั้นรึ? ขอตอบว่า ไม่เลย ถึงแม้ใจผมจะอยากเป็นกลาง แค่ไหน แต่ความเป็นจริงผมไม่ได้เป็นกลางเลย ( เพราะปากของปุถุชนที่บอกว่าเป็นกลาง แท้จริงแล้วไม่เคยเป็นกลางจริง ๆ ) สองสามปีมาแล้ว มีหลายคนบอกว่า หัวผมเอียง จนทำให้สายตาและมุมมอง บางครั้งก็เอียงออกไปด้วย แต่จะเอียงซ้ายหรือขวา นี่ไม่แน่ใจ แต่ที่แน่ ๆ ผมรู้ดีว่า ผมต่อต้านระบบทุนนิยมสุดโต่ง แบบทักษิโณมิกส์ ที่นิสิตนักศึกษาในสถาบันใหญ่ ๆ ตลอดจนคนในสังคมเมืองกำลังหลงใหลได้ปลื้มอย่างไม่ลืมหูลืมตา และผมต่อต้านการคอรัปชั่น การโกงกิน ของรัฐบาลธนาธิปไตย ในทุกยุคอยู่แล้ว แต่ในขณะเดียวกัน ผมก็ต่อต้านวัฒนธรรม มือถือสากปากถือศีลที่เห็นกันอยู่ทั่วไปในสันดา..น ของมนุษย์ C. จุดยืน ผมเห็นด้วย ว่าควรมี \"ม็อบ\" เพื่อมาคานอำนาจเผด็จการ รัฐสภา แต่ว่า ผมไม่ศรัทธา กับพวก double-standard เหล่านี้เอาเสียเลย 1. คนที่ด่ารัฐบาลวัตถุนิยม แต่ตัวเองดันทำตัวเป็นวัตถุนิยมเสียเอง คนที่อ้างว่า \"เราจะสู้เพื่อในหลวง\" และโจมตีทักษิณ เรื่องความฟุ้งเฟ้อ แต่ตัวเอง ดันทำหนังสือนิตยสารอะไรก็ไม่รู้ ที่มอมเมานิสิตนักศึกษาในเรืองวัตถุ รวมถึงคอลัมน์ ซ้อ เซเว่น อันลือชื่เพียงเพื่อดึงเรตติ้ง หวังผลกำไรโดยไม่คำนึงถึงประเด็นทางด้านจริยธรรม นี่มันสู้เพื่อในหลวงตรงไหน และนี่มันเศรษฐกิจพอเพียงตรงไหน (วะ) 2. พวกอดีตนักการเมืองที่ครั้งหนึ่งเคยโกงกินประเทศมาก่อน มาวันนี้ดันบอกว่า จะมากู้ชาติ หน้าตาเฉย ว่าแต่เขา ตัวเอง เคยทำมาไหมหละ สงสัยอยากเป็นองคุลีมาล กลับใจกระมัง 3. อดีตพระภิกษุ ที่เคยต้องอาบัติปาราชิก ที่ตั้งตนเป็น \"สมณะ\" อ้างธรรมะมาใช้เป็นเครื่องมือทางการเมือง แบบนี้ ต่างจากพวกอภิสิทธิ์ชนที่ \"ขอข้าวชาวบ้านฉัน\" ตรงไหน? 4. กลุ่มคนที่ยกตัวเองสูง ใช้คำผิด ๆ อ้างตัวว่าเป็น \"อริยขัดขืน\" หรือ ต่อสู้ แบบ \"อหิงสา\" ผมฟังแล้วก็ขำอยู่ 4.1 คำว่า \"อริยะ\" โดยรากศัพท์มาจากคำว่า อริ ที่แปลว่า ศัตรู + ยะ แปลว่า ไป รวมกันแล้ว คือ \"ไกลจากศัตรู\" ในที่นี้ คือ บุคคลที่ปราศจากศัตรู ทั้งภายนอก และภายใน คือ ไม่เบียดเบียนตัวเอง และไม่เบียดเบียนผู้อื่น ใช้ได้กับพระอริยบุคคลเท่านั้น แล้วลองมองดูพวกเขาสิครับ เขาเบียดเบียนตัวเอง และเบียดเบียนผู้อื่นอยู่รึเปล่า? แล้วมีหน้ามาอ้างคำว่า \"อริยะขัดขื่น\"? จะข่มขืน ความหมายของคำว่า \"อริยะ\" นะสิไม่ว่า 4.2 คำว่า \"อหิงสา\" แปลว่าไม่เบียดเบียนครับ การเบียดเบียนเนี่ย พูดจา ให้ร้าย ส่อเสียด ก็ถือว่า เบียดเบียนผู้อื่นแล้ว กีดขวางทางจราจร ก็ถือว่า เบียดเบียนผู้อื่น ฯลฯ จิตใจเป็นทุกขืเป็นร้อน นี่เบียดเบียตตัวเอง ด้วยรึเป่า ------- คือจะ จัดม็อบ แสดงความคิดเห็นไล่นายก ก็จัดไปเถิด แต่อย่ามาใช้ คำเหล่านี้ เพื่อสร้างความชอบธรรมเลย นอกจากคุณจะอยากเป็นคานธี เสียจนตัวสั่น จนไม่ได้ดูความเป็นจริง ว่าสิ่งที่คุณทำ มันเข้าขั้นที่จะใช้ คำเหล่านั้นมานิยามหรือเปล่า ถ้ายังไม่ถึงขั้น แล้วดันทุรังใช้ ผมว่า มันตลกนะ ------------------------ เมื่อผมไม่ได้อยู่ข้างรัฐบาลทุนนิยมสุดโต่ง และ ผมก็เห็นด้วยว่าควรมีม็อบ แต่ ไม่ศรัทธา พวกผู้นำม็อบ กับคนบางกลุ่มในนั้น แล้วผมอยู่ข้างใครหละ? คำตอบเท่าที่จะพอหาได้ ในตอนนี้ ก็คงจะเป็น ชาวนา ชนชั้นกรรมาชีพ ผู้ด้อยโอกาสทางการศึกษา อันเป็นพื้นฐานพิระมิดกระมัง ถ้าไม่เช่นนั้น ผมคงไม่ทำในสิ่งที่ผมทำอยู่ทุกวันนี้ Hands in hands unite...........................farmers Rocking the damn power.....................of lust Swords \'nd scythe fight monsters.........,the middle-class Swung by the long for just-..................ice fo\'all mankind มือ.....กุมมือหมู่อ้าย..........................ซาวนา ไกว....แกว่งไกวศาสตรา....................ต่อสู้ ดาบ...เคียวขู่พวกหมา.......................มวลกิเลส ชนนอ แกว่ง..ยุทธภัณฑ์สิทธิ์กู้.....................เกียรติอ้างมนุษยธรรม
20 มีนาคม 2549 23:32 น. - comment id 567521
เชษฐภัทร - พูดถูกใจอีกแล้ว : ) กรี๊ดดดดด ...
21 มีนาคม 2549 00:33 น. - comment id 567528
คุณฤกษ์ .. อัลมิตราก็อ่านข่าวค่ะ เขาเป็นคนกรุงเทพฯ ชาวบางโพงพาง..ส่งเสียงไม่ได้แล้ว ทว่าอัลมิตรายังส่งเสียงได้ .. เสียงที่ย้ำคำเดิม .. ถามกี่หน กี่ครา ก็ คำตอบเดิม ค่ะ คุณครูใหญ่โรงเรียนเล็ก .. ความสวยงามของประชาธิปไตย...คือความหลากหลายในความคิด... .และการแสดงความคิด...ที่มีประเด็นแตกต่างกันค่ะ... ลุงราม .. ลุงสังเกตุข้อความของลุงหรือเปล่าค่ะ สามคราที่ลุงฝากข้อความมาในกระทู้นี้ มีบางประโยค ที่อัลมิตราตีความเอาเอง (บ้าง) ว่า ..ลุงให้ความสำคัญกับความคิดเห็นของอัลมิตรา .. น้อยเหลือเกิน ประโยคที่ลุงตีความนั้น .. อัลมิตราไม่รู้ว่า ลุงคำนึงถึงจิตใจของอัลมิตราหรือเปล่า ว่าจะรู้สึกเช่นไร หากลุงอ่านกระทู้ก่อน ๆ ไม่ว่าจะเป็นกระทู้ \"สัตย์\" หรือ \"เย้ยยุทธจักร\" ลุงจะพบว่า อัลมิตราไม่เปลี่ยนเจตนา ดังนั้น อัลมิตราจึงไม่เข้าใจว่า .. เหตุใด การเอนเอียงความคิดเห็นไปยังฝ่ายไหน..จึง.เป็นสิ่งที่ลุงต้องการนัก หรือมีสิ่งที่อยู่ในใจลึก ๆ ของลุง คาดหวังไว้ว่าอัลมิตราจะเอียงไปฝ่ายไหน แล้วทำไมจึงต้องให้อัลมิตราต้องคิดเหมือนลุงที่ระบุชี้ชัดปาว ๆ ว่าสนับสนุนใคร ถึงลุงจะบอกว่าแค่ติงก็ตามแต่ หากอัลมิตราไม่เลิกล้มความคิดเดิม ลุงก็จะต่อความไม่รู้จบ(หรือเปล่า) ที่พันทิป .. อัลมิตราเห็นข้อความต่าง ๆ ในกระทู้ของลุง บางคนก็คิดเหมือนและบางคนคิดไม่เหมือนกับลุง อัลมิตราก็เห็นลุงตอบรายบุคคล ตามประสาเจ้าบ้านที่ดี บางความคิดเห็นลุงโดยใช้อารมณ์แปลก ๆ ลุงได้ประกาศเจตนาในกระทู้ของลุงที่นั่น สิทธิ์ของลุง ลุงย่อมทำได้ ทุกคนก็คงคิดเช่นเดียวกัน อัลมิตราไม่อยากจะขัดแย้งกับความคิดเห็นทางการเมืองกับลุงหรือกับใครอื่น จะไม่สงบใจเสียเปล่า ๆ เพราะอัลมิตราเข้าใจว่าทุกคนย่อมอยากรักษาสิทธิ์ของตนเอง .. แต่ สิทธิ์ของอัลมิตรา ทำไมไม่เท่าลุงล่ะ อัลมิตราเพียงแต่ เวลาในการศึกษาข้อมูลหลาย ๆ ด้านก่อน และจึงเริ่มการวิเคราะห์ในแง่ข้อมูลแบบแนววิชาการ หมายถึง...การมองประเด็นต่าง ๆ..ที่สามารถอธิบายในเชิงวิชาการได้ ...โดยมิใช้การหักล้าง...เลย ทำไมอัลมิตราจึงไม่ได้สิทธิ์นั้นคะ .. และอัลมิตราจะต้องอธิบายเรื่องเดิม ๆซ้ำ อีกกี่หน ไม่รู้ว่าลุงจะเบื่ออัลมิตราหรือยังที่ยังยืนยันอยู่อย่างเดิม จนถึงวันที่เอาดินกลบหน้าอัลมิตรา อัลมิตราก็คิดว่าจะยังนอนยันค่ะ ... ท้ายนี้ หากอัลมิตราบอกว่า ยังรักและเคารพลุงเหมือนเดิม .. ลุงต้องสังเกตุจมูกของอัลมิตราด้วยนะคะ คุณลักษมณ์ .. จำได้ว่าในกระทู้ ประมาณเดือนหนึ่งที่ผ่านมา อัลมิตราตอบคุณว่า อัลมิตราเชื่อว่า ทุกคนอยากให้ประเทศชาติบ้านเมือง ดำเนินไปในทิศทางที่ดี อัลมิตราไม่อาจตัดสินความได้ โดยเฉพาะเรื่องที่อัลมิตราไม่มีความรู้อยู่เลย ทุกอย่างเพียงได้รับสื่อจากข่าว ดังนั้น .. แม้ว่าจะรำคาญบ้างที่บ้านเมืองระส่ำ หรือไม่เห็นด้วยในหลาย ๆ กรณี อัลมิตราคิดว่า การสงวนท่าที น่าจะเป็นทางออกที่ดี สำหรับอัลมิตรา คุณหยาดอรุณ .. อัลมิตราไม่ได้ศึกษาลึกซึ้งเพียงนั้น อัลมิตราตอบประเด็นคุณไม่เลย เพราะไม่ชัดเจน \"ความเป็นธรรม - ความเป็นจริง\" ...ถ้ารู้จริงก็ดี หากว่าไม่รู้จริงแล้วล่ะก็ มันก็จะกลายเป็นเครื่องมือให้ผู้อื่นนั่นเอง ดังนั้น อัลมิตราไม่ใช่ผู้รู้จริงค่ะ ในเรื่องแวดวงการเมือง .. คุณดาวอังคาร .. แล้วเขาต้องคุยกันแบบไหนคะ จึงจะเป็นทางออกที่ดี นายเจ .. ยาวเป็นขบวนรถไฟฟ้า ..ยาวเสียจนมีคนกรี๊ด ไม่รู้ว่าสลบหรือเปล่าแฮะ มิตรภาพตราบสิ้นฟ้า
21 มีนาคม 2549 02:43 น. - comment id 567531
คืนนี้เอางานกลับมาทำที่บ้าน..มึนหัวไปหมด วันนี้คิดอยู่ตั้งนานว่าลืมอะไรไปนะ แหะ ๆ ลืมทักทายคุณดอกข้าว จุดยืนเราเหมือนกันครับ แต่ผมไม่ใคร่ได้ชักชวนใครให้มาเข้าข้างด้วยเท่าไรเพราะมันมักทะเลาะกัน นอกจากคนที่พอมองเห็นวี่แววว่าน่าจะคุยกันได้ เช่น เพื่อน ๆ บางคนที่พอสังเกตุออกว่าเขางุนงงและสับสน แล้วก็มักไม่ค่อยจะได้อธิบายอะไร ยื่นข้อมูลไปให้เปิดดูเอาเอง ปรับพื้นฐานเสียก่อนแล้วค่อยมาว่ากัน หนูอัลมิตรา..คิดมากไปได้ คนดีกันจึงเข้ามาเจ๊าะแจ๊ด้วยนา :) ก็บอกแล้วไง ทักท้วงว่าทุกข้อความเราต้องรัดกุม ร้อยวันพันปีไม่ค่อยได้บ่นงึมงำอะไรอย่างคราวนี้หรอก ลมเพลมพัดมาจากหน้าทำเนียบ ก็เลยตาขวาง น้ำลายไหลยืด ฮิ ๆ จบเรื่องนี้ดีกว่านะ..ปวดหัว ว่าจะลองเขียนกลอนรักมาหลายวันแล้ว มันไพล่จะออกเป็นกลอนรบซะทุกที-กลุ้ม หวัดดีครับคุณเชษฐภัทร แลกหมัด เอ๊ย! แลกเปลี่ยนความคิดเห็นกันสักนิด เราคงคล้ายคลึงกันเล็กน้อย ผมตอนวัยหนุ่มเป็นคนขวางโลกสุด ๆ เชื่อมั่นในตัวเองมาก แต่นับว่าโชคดีที่ผมเป็นคนแพ้เหตุผล ใครจะต้อนผมจนมุม ผมจะเริ่มสงสัยว่าความคิดของผม แท้แล้วมันผิดหรือถูกกันแน่ แล้วผมจะเริ่มตะลุยค้นคว้า หากเป็นจริงตามเขาว่า ผมไม่อายเลยที่จะเดินไปบอกใครคนนั้นว่า ความคิดของคุณถูก ผมผิด และผมจะขอโทษเขา ผมไม่ดื้อ นี่เป็นสิ่งที่ผมโชคดี เรื่องที่เกิดขึ้นในเวลานี้ ผมไม่มองจุกจิกให้เสียเวลา ผมมองภาพรวม มองประเด็นสำคัญ อย่างอื่นผมมองข้าม ผมจับแก่นและทิ้งกระพี้ งานนี้ ผู้นำฝ่ายพันธมิตรที่คุณไม่ชอบ สำหรับผมแล้ว เขามีคุณูปการแก่ประเทศชาติจริง ๆ ทำให้อย่างน้อยผมได้หูตาสว่างก่อนที่บ้านเมืองของเราจะล่มสลาย เพราะถ้าไม่มีเขา วันใดที่เราเป็นคล้ายอาร์เจนติน่า วันนั้นเราก็คงได้แต่แช่งชักหักกระดูกผีสางเทวดาไป ว่าทำไมถึงไม่มีใครสักคน!! ในเมื่อวันนี้มีแล้ว และเข้าขวางเส้นทางหายนะของชาติ ผมจึงยินดี และสิ่งที่เขาทำมีค่าเกินกว่าที่ผมจะไปมองข้อบกพร่องใด ๆ มีใครบ้างที่ไม่เคยทำผิดพลาด ทว่าผิดพลาดอะไรก็ตาม อย่าทำผิดต่อแผ่นดินเกิด :) เรื่องศัพท์แสง สำหรับผมแล้ว ผมนึกถึงปรางค์ปรา ของสุนทรภู่ครับ และไม่คิดมากอะไรเลยในเรื่องนี้ ตรงนี้ขอโม้สักหน่อย ผมเองท้อปภาษาไทยมาตั้งแต่ประถมจนจบปริญญาตรี :) ผมไม่ศึกษารากศัพท์ให้เสียเวลา ผมเปิดพจนานุกรมราชบัณฑิตก็เพียงพอแล้วและผมแปลได้ความว่า \'การต่อต้านแบบผู้เจริญแล้ว\' สำหรับอหิงสา ต้องดูภาพยนต์เรื่องคานธี จะเข้าใจชัดเจนกว่าคำอธิบายใด ๆ มันลึกซึ้งกว่าการแสดงออกที่ผู้นำมวลชนต่าง ๆ จำเป็นต้องทำอย่างที่เห็น ๆ ซึ่งหลายคนอาจเรียกว่า เย้ว ๆ แต่สำหรับผมแล้วมันเป็นเรื่องจิตวิทยาฝูงชน สำหรับเรื่องนี้เป็นกระพี้ที่เราต้องมองให้ละเอียดถึงแก่น เรื่องที่ติดใจอีกเรื่องหนึ่ง ก็เรื่องพระภิกษุที่ว่ามาซึ่งคิดว่าคือท่านโพธิรักษ์ ต้องโม้อีกเช่นกันว่า ผมบวชสายธรรมยุติสอบนวกภูมิได้ที่ 3 ของจังหวัดจันทบุรี พระไตรปิฏกอ่านทุกเล่ม ยกเว้นอภิธรรม เพราะลึกซึ้งเกินกว่าจะทำความเข้าใจได้ในช่วงเวลา 3 เดือนสั้น ๆ ที่ลาบวช และต้องบอกว่าผมไม่ได้ฝักใฝ่ในสายสันติอโศก แต่เข้าใจเป็นอย่างยิ่งในเรื่อง \'นานาสังวาส\' เรื่องปาราชิก ซึ่งกรณีที่ว่าน่าจะเป็นเรื่อง \'สังฆเภท\' ทำสงฆ์แตกแยก ซึ่งต้องจะศึกษาให้ลึกซึ้ง เช่น ศึกษาในการก่อกำเนิดขึ้นของธรรมยุตินิกาย หรืออ่านพระไตรปิฏก เป็นต้น มีหลายเรื่องมากที่เราชาวพุทธ เป็นพุทธโดยอัตโนมัติเมื่อเกิดมา แต่ไม่เคยสนใจไขว่คว้าความเป็นพุทธเลย มหานิกายแถวบ้านผมยังให้หวย-ซื้อหวย ลงอักขระเลขยันต์ บ้างก็เตะตะกร้อ และจำวัดทั้งวัน ผมไม่รู้ว่าปาราชิกที่ว่ามาได้ศึกษาอย่างถี่ถ้วนหรือยัง และในหลาย ๆ เรื่องเราต้องหนักแน่น นอนดีฝ่า ไว้ขึ้นมาคุยกันใหม่ หนักเบาไปบ้างก็อย่าถือสากันนะครับ ง่า-รักดอกจึงหยอกเย้า :)
21 มีนาคม 2549 08:50 น. - comment id 567556
สวัสดีครับ คุณราม ลิขิต ผมเคยได้อ่าน ข้อความ ของคุณราม หลาย ๆ กระทู้ ที่ว่า \"คนไทย เราจะแพ้ฝรั่ง เพราะ เราดีแต่ \"พูด\" มากกว่า การ \"ลงมือทำ\" \" หากจะอ้างตามสุภาษิตฝรั่งที่คุณรามคงจะชอบ คงจะพอหามาได้ว่า \"Action Speaks Louder Than Words\" ซึ่งผมก็เห็นด้วยนะครับ ว่าแทนที่เราจะใช้ ปากละเลงถ้อยคำผรุสวาท ไปด่าว่า ผู้อื่น สู้เรา ลงมือทำให้เขาดูเป็นตัวอย่างจะไม่ดีกว่าหรือ ---------------------------------------------------------------- เมื่อสี่สิบปีที่แล้ว ในระหว่างที่ อุปัชชาย์สมัยที่ผมบวชเป็น สามเณร คือพระมงคลกิติธาดา พระนักเทศน์ชื่อดังรูปหนึ่งในภาคอีสาน (ท่านเป็นพระในสายปริยัติ ถ้านึกไม่ออกให้นึกถึงพระที่ห่มจีวรสีเหลืองแสบ ๆ ตานะครับ ที่เน้นการเล่าเรียนมากกว่าปฏิบัติ) ได้ไปจำวัด ที่วัดหนองป่าพง ซึ่งเป็นวัดป่าเน้นการปฏิบัติ ในเช้าตรู่วันหนึ่ง ระหว่างที่ท่านเดินบิณฑบาต กับหลวงปู่ชา สุภัทโท จู่ ๆ หลวงปู่ชา ก็ยืนหยุด อยู่ไม่ยอมเดินต่อ ที่หน้าบ้านโยมผู้หนึ่งแล้ว ก็ปรารภกับพระมงคลกิติธาดา ว่า \"บ้านหลังนี้ใกล้จะพังอยู่แล้ว... รู้ไหม เจ้าของบ้านเขาเป็นช่างซ่อมบ้าน\" พระมงคลกิติธาดาก็ตอบว่า \"สงสัยเขาคงมัวแต่ไปซ่อมบ้านคนอื่น จนไม่มีเวลาซ่อมบ้านตัวเองกระมัง\" หลวงปู่ชาตอบ \"นั่นสิ...มัวแต่ซ่อมบ้านคนอื่น จนไม่มีเวลาซ่อมบ้านตัวเอง\" ---------------------------- และวันนี้ ก็มีคำถามเกิดขึ้นในใจว่า 1. คุณจะยังสามารถเชื่อใจได้ไหม กับ นักการเมืองที่เคยโกงกินชาติ แต่พอมาวันนี้ กลับคิดจะมากู้ชาติ 2. คุณจะยังสามารถเชื่อใจได้ไหม กับ คนที่กู้แบ้ง จนเป็นหนี้ ที่วันนี้ มายืนบอกปาว ๆ ว่าจะไปกู้ชาติ 3. คุณจะยังเชื่อใจได้ไหม กับคนที่ปากบอกว่า \"ถืออหิงสา\" แต่มีเจตนา สร้างความวุ่นวายให้กับชาติบ้านเมืองทางหนึ่ง 4. คุณจะยังเชื่อใจ ได้ไหม กับนักวิชาการที่ช่ำชองด้านทฤษฏีเหลือเกิน แต่ทางด้านการปฏิบัติ นี่ ไม่แน่ใจว่า จะยังไง 5. คนที่ลุกขึ้นมากล่าวหาว่า นายก \"ไม่มีจริยธรรม\" พอถึงคราวตัวเอง ที่อยู่ในสถานการณ์ \"คลุกคลีกับเงิน\" เช่นเดียว กับนายก คน ๆ นั้น จะยังมี \"จริยธรรม\" คือสามารถ ยับยั้งความโลภ ของตนได้ดีแค่ไหน เพราะขนาดทุกวันนี้ ยังไม่มีปัญญา ยับยั้ง ความโกรธ กับความหลง ของตัวเองเลย ทุกคน \"ปากอ้าง\" ว่า \"กู้ชาติ\" แต่แท้จริง แล้วทำเพื่อผลประโยชน์ตัวเองกันทั้งนั้น ขอทุกท่าน \"ใคร่ครวญพิจารณา\" ด้วยตัวเองเถิดครับ คนกู้ชาติ ต้องมานั่ง \"ป่วนชาติ\" อยู่อย่างนี้หรือ? สิ่งแรกที่เราต้องกู้ชาติ คือการ ขับไล่นายกรัฐมนตรีที่มาจากการเลือกตั้งจริงหรือ? ---------------------------- เคยมีคนถามผมว่า \"ถ้าคุณเป็นกลากเป็นเกลื้อน แล้วคุณต้องไปหาหมอ แต่หมอคนที่ต้องรักษาคุณดันทะลึ่งเป็นกลากเป็นเกลื้อนด้วย\" 1. คุณจะยอมให้หมอคนนั้นรักษาหรือเปล่า 2. คุณคิดว่าเป็นไปได้ไหม ที่คนที่เป็นกลาก ก็สามารถรักษา กลากเกลื้อนของคนอื่นให้หายขาดได้ แม้ว่าตัวเอง จะเอาตัวเองไม่รอด ก็ตาม แต่ก็ยังอุตส่าห์มีคนไปให้หมอ ที่เป็นกลาก รักษาโรคกลากกันอยู่ เขาบอกผมว่า \"กลัวไม่ทันการณ์\" ว่าแล้ว เขาก็ไป \"กู้ชาติ\" กันต่อไป ผมได้แต่ภาวนา ว่าวันใด ที่ \"กู้\" กันได้แล้ว พวกเขาเหล่านั้นจะ ลงมือปฺฏิบัติ เสียที และขอให้ทำ ให้ได้ดี กว่าที่คนที่เขาขับไล่ด้วย ไม่ใช่เก่งแต่ปาก ดีแต่ด่า แต่ว่า สุดท้าย พอถึงทีตัวเอง ก็เข้าไปโกงกิน ไม่ได้แพ้กัน แบบนี้ เด็กบ้านไหน ก็ขำ ครับ
21 มีนาคม 2549 09:03 น. - comment id 567562
อ่านกระทู้นี้แล้ว ... ของขึ้นอีกแล้ว ขอแสดงความคิดเห็นมั่ง ชอบความคิดเห็นของ เชษฐภัทร ... เห็นด้วยในทุกประเด็น จุดยืนของแต่ละคนก็แตกต่างกัน .... ทักษิณ - บุคคลที่เป็นเป้าของชนวนปัญหาตอนนี้ ก็มีจุดยืนที่จะนำประเทศใน \"แนวความคิด\" ของเขา ฝ่ายค้าน - เขาก็มีกระบวนการคิดในแบบของเขา ฝ่ายพันธมิตร - คนที่ขึ้นเวทีมาวิเคราะห์การบริหารประเทศของทักษิณ ชินวัตร ในแต่ละคนก็มีกระบวนการคิดของตัวเอง อันนี้ พูดถึงกระบวนการคิดค่ะ ไม่จำเป็นเลยที่ว่า เราจะรับจากสื่อแล้วอาจจะไม่ใช่สิ่งจริง สื่อเป็นเครื่องมือให้เรารู้ว่าเกิดอะไรขึ้นบ้าง แต่สิ่งที่ทำให้เราเห็น \"ภาพรวม\" ทั้งหมด คือ การมองจาก \"กระบวนการคิด\" ของเรา มุมมองที่มองจากข้างบนลงมา มองให้ชัดว่า เหตุการณ์ทั้งหมดเกิดจากอะไร แทนที่จะหลีกหนีโดยการไม่คิด ไม่ตัดสินใจ ไม่มองให้รู้ การที่เราเลือกจะอยู่ข้าง \"ความเป็นจริง\" นั่นคือกระบวนการมองทุกอย่างที่ไม่ได้อยู่ข้างไหนเลย และมองให้เข้าใจ มีจุดยืนชัด ซึ่งต่างจาก \"ความเป็นกลาง\" ตรงที่ ความเป็นกลางจะไม่รับรู้อะไรให้ถ่องแท้ ปัญหาจะเกิด ก็แค่รู้สึกไม่ชอบใจ แต่ไม่ดูให้เกิดปัญญาต่อไปว่า ความเป็นจริงทั้งหมดมันคืออะไร ปัญหาทุกอย่าง จะแก้ได้ เมื่อเราวาง \"จุดยืน\" ไว้ว่า เราต้องการอะไร และมอง \"ความจริง\" ให้ชัดว่า ความจริงเป็นอย่างไร \"ความเป็นกลาง\" ไม่ได้แก้ปัญหาบ้านเมืองได้ ขอย้ำค่ะ : ) ......... ที่ชอบประเด็นของ เชษฐภัทร ก็ตรงที่ ตีความหมายของคำ \"อริยะขัดขืน\" และก็ พูดถึงแกนนำพันธมิตร เรื่อง ซ้อ7 นั่นแหละค่ะ .... อยากขอเสริมว่า เว็บไซต์ของเขาก็เหมือนกัน เขาเปิดเว็บบอร์ด ถ้าไม่ได้คิดแบบเขา ก็จะโพสข้อความไม่ขึ้น ได้ยินคนบ่นมาแบบนี้ การนำเสนอข่าวของสำนักข่าวนี้ ก็เหมือนกัน มักจะนำเสนอเพียงข้างเดียว เช่นเดียวกับข่าว ฟรีทีวี ทุกช่อง ก็เสนอข่าวไม่ค่อยครบเช่นกัน สิ่งที่เราจะหาหลักฐานความจริงได้ ก็คือ การที่เราดูทีวีข่าวทุกช่อง อ่านหนังสือพิมพ์ให้ทุกฉบับ (ในกรณีที่ไม่อาจลงพื้นที่ได้\" แต่ว่าวิธีเช่นนี้ ก็ทำให้การรับรู้ความจริงของเราคลาดเคลื่อนได้เหมือนกัน เราต้องดูความเป็นจริงในชีวิตของเราเพื่อพิสูจน์ \"ข้อกล่าวหา\" เช่น เรื่องภาษีประชาชน เดี๋ยวนี้ถูกเก็บภาษีเพิ่มจากเดิมตั้งสองเท่า และวิถีชีวิตจริงๆ ของประชาชนเป็นอีกอย่าง ในขณะที่ทักษิณกำลังพูดอีกอย่างให้ฟังดูดี เห็นภาพดีๆ ถ้าตื่นตามองจริงๆ ไม่ได้เป็นอย่างที่เขาให้ความหวัง มันเป็นการ \"ตื่น\" ตื่นตา ตื่นตัว ตื่นใจ ที่จะดูทุกสิ่งทุกอย่างด้วยใจ \"เบิกบาน\" ไม่ได้ไปทุกข์ท้อกับมัน สิ่งที่เกิดขึ้น อะไรที่ได้รับฟัง เราฟังด้วยใจนิ่งสงบ นี่แหละ คือ \"ความเป็นจริง\" อย่างแท้จริง ไม่ใช่การประกาศว่า จะวางตัวเป็นกลาง จะไม่ฝักใฝ่ฝ่ายใด ... ทำเช่นนั้นไม่ทำให้เกิดปัญญาอย่างแท้จริงเลย สนับสนุนความเห็นของ เชษฐภัทร อีกข้อหนึ่งเกี่ยวกับสันติอโศก .... วัตรปฏิบัติของสันติอโศก บางทีทำให้เราอดคิดถึง \"เทวทัต\" ไม่ได้เลย (ขอขมา หากคำพูดนี้แรงจนกระทบความศรัทธาของใคร) แต่รู้สึกเช่นนั้นจริงๆ เพราะว่า เทวทัตเคยขออนุญาตพระพุทธองค์ในหลายเรื่องและพระพุทธองค์ไม่ทรงอนุญาต วินัยของพระพุทธองค์ตรัสไว้ดีแล้ว แต่ทางสันติอโศกไปตีความใหม่จนเปรอะเปื้อนไปหมด อะไรที่พระองค์ไม่ได้บัญญัติก็ไปทำ อะไรที่พระองค์บัญญัติแล้วก็ปฏิบัติอย่างคลาดเคลื่อนหลายอย่าง บางที ก็อดที่จะมองอุดมการณ์ของคนกลุ่มสันติอโศกไม่ได้ว่า เขามีเจตนาทางการเมืองอะไรบางอย่าง เพราะเขาเชื่อว่า สังคมในอุดมคติคือ สังคมคอมมูนิสต์ และชุมชนอโศกของเขาก็เป็นแบบคอมมูน เคยไปใช้ชีวิตอยู่กับชาวอโศก เช้าขึ้นมา สมณะก็วิเคราะห์การเมืองแทรกธรรมะ ก่อนฉันก็อ่านหนังสือพิมพ์วิเคราะห์การเมือง ฉันเสร็จก็เทศนาในเรื่องการเมือง เขาเข้มแข็งในการสร้างชุมชน มีโรงเรียน มีคอนโด มีไร่นาเรือกสวน มีการผลิตยาสระผม สบู่ จากพืชต่างๆ และไม่กินเนื้อสัตว์ อย่างนี้ มิอันตรายกว่าหรือ ... การตีความศาสนาเข้าสู่เรื่องของการเมือง พระธรรมวินัยของพระพุทธองค์บัญญัติไว้ว่า วิธีพิจารณาธรรมวินัยมี 11 ข้อ 1 ใน 11 ข้อนั้น คือการไม่คลุกคลีด้วยหมู่คณะ ... สันติอโศกเคารพพระธรรมวินัยหรือเปล่านั่นเล่า จริงๆ ก็ไม่ได้เข้าข้างฝ่ายใดเลย เห็นไหม? และก็ไม่ได้อยู่เป็นกลางด้วย เราเอาความจริงมาพูดกัน ไม่ได้เอียงไปเชื่อฝ่ายพันธมิตร ไม่ได้หลงใหลในโปรเจ็กต์ของรัฐบาล จุดยืนอยู่ที่ว่า บ้านเมืองของเราทุกวันนี้ สังคมทุกวันนี้ ต้องการอะไร เกิดปัญหาอะไร ปัญหามันอยู่ที่ตรงไหน แล้วควรแก้ยังไงต่างหาก แหะ แหะ เข้ามาแสดงความคิดเห็นซะยาวเลย ... คือว่า ไม่เห็นด้วยกับ \"ความเป็นกลาง\" ของคุณอิมอะค่ะ อยากให้มองทุกอย่างตามที่มันเป็น \"จริง\" ใครสักคนเพิ่งบอกหยกๆ ว่า ถ้าเห็นถูก ก็คิดถูก ตัดสินใจถูก ถ้าเห็นผิด ก็คิดผิด ตัดสินใจผิด ข้อมูลถ้ารับมาผิดๆ ก็คิดผิดๆ เหมือนกัน ขอให้ทุกท่านเกิดสัมมาทิฐิ นะคะ ... อย่าให้อะไรมาบังตาไม่ให้มองเห็นความเป็นจริงเลย ไม่ว่าความชอบ ไม่ชอบ พอใจ ไม่พอใจ : )
21 มีนาคม 2549 09:36 น. - comment id 567575
http://talk.sanook.com/knowledge/knowledge_05507.php ขอฝากลิงก์ให้ไปชมกันนะคะ 9 คำพ่อสอน : )
21 มีนาคม 2549 09:38 น. - comment id 567577
หวัดดีครับ จบดีกว่า เอาเป็นว่าใครสนับสนุนใคร ก็ใคร่ครวญให้ดี งานนี้มีประเทศชาติอันเป็นที่รักยิ่งของเราเป็นเดิมพัน สำหรับคุณแดดเช้า หวังว่าจะศึกษาเรื่องเทวฑัตมาเป็นอย่างดีแล้วนะครับ ขอบคุณหนูอัลมิตราที่อดทนและอนุญาตให้ลุงเข้ามาป้วนเปี้ยน :)
21 มีนาคม 2549 11:26 น. - comment id 567616
..๏ เลือกรักประจักษ์รู้.....ควรคู่ประคองใคร จึงด้านประจานใด...........จนจิตประดิษฐ์จาร มวลนั้นประจันหน้า.........เกณฑ์กล้าประกอบการ หมายดลประจญดาล........เหนือชาติประกาศชน ๚ ..๏ ฉากสวนฉนวนสร้าง...เลือกข้างฉมังเขา อย่างไรไฉนเรา..............อ่อนเพลียเฉลี่ยผล เป็นกลางฉะนั้นกาล.........เลือกค้านเฉพาะคน ยังยากฉลากยล...............เมษสองฉลองเสียง ๚ ..๏ ฟ้าสร่างกระจ่างใส......เมื่อไหร่กระซิกร้อง ทวยไทยกระไดทอง.........อัดอั้นกระนั้นเอียง ปวดปานกระบาลแปลก....ไถแถกประเทศเถียง ตาพร่าประชาเพียง..........ร่ำนองกระป๋องนม ๚ ..๏ เลยกรอบระบอบแก้....ยุแหย่ระบุแยง พิจารณ์ระรานแจง............จำเหลิงระเริงลม เว้นว่างระหว่างวรรค........พึงพักระยะพรม หยุดตื้อระบือตรม..............จงตรึกระลึกตรอง ๚
21 มีนาคม 2549 11:54 น. - comment id 567622
สรุปว่า ... เลือกไล่ทักษิณ เพราะทำให้ปัญหาทั้งหมดจบสิ้นลงได้ : ) ส่วนเรื่องอื่นๆ ไม่อันตรายเท่ากับที่ ทักษิณ เป็นนายกรัฐมนตรีเลย แค่กระบวนการคิดของเขาก็ผิดแล้ว ขอบคุณค่ะ คุณรามลิขิต ... (อดไม่ได้ เข้ามาสรุปหน่อย .... แหม พูดเรื่องการเมืองแล้วของขึ้นทุกที)
21 มีนาคม 2549 12:21 น. - comment id 567629
เหอ เหอ เหอ ประชาธิปไตยกาลังเบ่งบานงับ มาช่วยกันออกความคิดเห็น ก็ดีแล้วงับ แต่อย่าลืมน้า \"คิดต่างใช่ว่าผิด\" น้างับ แล้วก็เรื่องบางเรื่องน้าอย่าเพิ่งด่วนสรุปด้วยความเห็นส่วนตัวถึงแม้ว่าคุณจาคิดว่าได้พิจารณาอย่างถี่ถ้วนแล้วเพราะบางสถานการณ์ที่เกิดขึ้นกะแต่ละคนน่ะมันมีปัจจัยที่แตกต่างกันงับ สิ่งแวดล้อม การเลี้ยงดู ประสบการณ์ขอผู้เผชิญปัญหาก็แตกต่างกัน เพราะฉะนั้นบางอย่างที่คุณคิดว่าคุณทำถูกแก้ปัญหาได้ตรงจุด อาจจะไม่ถูกหรือไม่เหมาะสมกับสถานการณ์หรือปัญหาเดียวกันที่เกิดขึ้นกะคนอื่นก็เป็นได้ครับทุกท่าน เพราะฉะนั้นจึงอยากจะฝากไว้ว่า \"เรื่องใดๆก็ตามถ้าท่านยังมิได้เผชิญด้วยตัวท่านเอง กรุณาอย่าได้ไปอาจหาญที่จะว่ากล่าวหรือแนะนำใครๆเค้าด้วยความเห็นของท่าน เพราะท่านมิอาจรู้ได้เลยว่าเมื่อท่านได้ประสบด้วยตัวท่านเองแล้วท่านจะสามารถหลุดพ้นปัญหาที่เจอได้ด้วยวิธีไหน อย่างไร ครับ\" ด้วยความเคารพทุกๆท่านครับ
21 มีนาคม 2549 12:41 น. - comment id 567636
คุณฅนสี่สุภาพ.. อ่านกาพย์ของคุณแล้วรู้สึกสบายใจ ความจริงแล้ว เป้าหมายของการเขียนกาพย์เสียงของคนเก็บขวด ก็เพื่อความสบายใจ.. ไม่ได้อยากจะมีปัญหาขัดแย้งในด้านความคิดกับใคร อัลมิตราจะไม่บอกว่า ใครถูก หรือ ใครผิด จนกว่าอัลมิตราจะรู้จริง และถึงแม้วใครก็ตามที่คิดไม่เหมือนอัลมิตรา ก็ไม่เป็นไร .. ทุกคนมีอิสระ อัลมิตราก็ยังคงวางสัมพันธ์ไว้ดั่งเดิม ไม่ได้คิดอยากเอาชนะ ทุกอย่าง อัลมิตราแสดงสิ่งที่อัลมิตราคิดว่า เหมาะสำหรับอัลมิตราแล้ว ซึ่งข้อความที่อัลมิตราเขียนมาทั้งหมด นัยย่อมสำคัญสำหรับอัลมิตรา โดยที่อัลมิตราไม่สนใจว่า สำคัญต่อผู้อื่นหรือเปล่า ทุกคน .. ย่อมมีคำตอบในใจ อัลมิตราคงไม่ละลาบละล้วงก้าวก่ายอาณาเขตส่วนตนของผู้ใด อัลมิตราชอบบทที่ ๔ ของคุณจังค่ะ .. คุณแดดเช้า .. บทสรุปของคุณ ก็คือบทสรุปของคุณ (ซึ่งอาจจะตรงกับคนอื่น ๆ ) แต่นั่น ไม่ใช่บทสรุปของอัลมิตราค่ะ ดังนั้น ความคิดเห็นที่ ๓๑ จึงไม่ใช่บทสรุปของกระทู้ของอัลมิตรา ลุงราม .. ลุงวางประโยคที่สะเทือนใจอัลมิตราหลายจุด แต่นั่นก็ไม่ได้ทำให้อัลมิตรารู้สึกย่ำแย่หรอกค่ะ อัลมิตรายังยืนยันคำเดิม คราวที่อัลมิตราวางคำถามบ้าง กลับเหมือนว่าอัลมิตราคุยกับกำแพง ความจริงก็ดีเหมือนกันนะคะ เพราะเวลาที่อัลมิตรายืนคุยกับกำแพง อัลมิตราวางใจกำแพง และขอบคุณที่กำแพงไม่ขัดจังหวะความคิดของอัลมิตรา นายเจ .. อย่าเพิ่งงอนนะ เขียนมาตั้งยาวโยชน์ อ่านแทบจะไม่ทัน แต่ดูเหมือนว่า อัลมิตราแทบจะไม่ต้องตอบคอมเม้นท์ของนายเจเลย ไม่รู้จะตอบอะไร .. รู้กระจิ๊ดเดียว ตอบแบบมั่วก็ไม่ได้ เด๋วหางลิงจะกลายเป็นหางอึ่ง ว่าแต่ว่า สงสัยไม่มีใครอยากรู้เรื่องซาทูร่า .. อุตส่าห์ดูสองรอบแล้วนะ อยากเล่าจัง คุณMomMamSan .. คุณมองเห็นความสวยงามไหมคะ โลกนี้ไม่ใช่มีแต่สีขาวและสีดำเท่านั้น ชีวิตของคนเรา มากไปด้วยสีสันจริง ๆ ค่ะ คนส่วนใหญ่ของประเทศอยู่ในระดับไหน เขาได้รับข้อมูลที่ต่างกันหรือเปล่า ระดับความคิดเขาต่างกันหรือไม่ คนที่ยิงกันตายและคนที่ทะเลาะกัน เขาเข้าใจระบอบประชาธิปไตยจริงหรือ ถ้าโลกนี้มีแค่สองฝ่าย มนุษย์จะเป็นเช่นไร คนเรามักจะรู้ทีหลังว่า เมื่อก่อนเราทำอะไรผิด ๆ ไว้แยะ ตัวแปรให้คิด มีมากมาย .. อัลมิตราเห็นหลากสีปรากฏ .. มิตรภาพตราบสิ้นฟ้า
21 มีนาคม 2549 15:35 น. - comment id 567667
ของับกาป๋ม คุณอัลฯพูดถูกต้องงับ นั่นแหละที่อยากจาให้ทุกๆคนได้ตระหนักไว้งับ คนจนก็ได้แต่ทำมาหากินเรื่องการเมืองอาจเป็นเรื่องนอกการเอาใจใส่ ขอแค่มีข้าวกินเค้าก็พอใจแล้ว ส่วนคนเมืองมีการศึกษาบางคนอาจจะมองพวกเค้าว่าหาเช้ากินค่ำไม่พัฒนา ก็อยากจะให้มองน้างับว่าแค่จะกินก็ยังจะไม่มีกินแล้วจะเอาเวลาไหนมาสนใจการเมืองเรื่องไร้สาระหรือพวกคุณๆว่าไง ที่พูดมาไม่ได้เข้าข้างไหนเป็นพิเศษแต่เห็นความเห็นที่แต่ละคนแสดงออกมาก็อยากจะให้มองดูที่ลึกๆลงไปกว่านั้นกันบ้างครับ ด้วยความเคารพทุกๆท่านเหมือนเคยครับ
21 มีนาคม 2549 15:46 น. - comment id 567670
อ่า!!!!!นะ เห็นร้อนแรงกัน เอากลอนซาหนุกๆมาฝากครับ ต่อกลอนกะคุณครูใหญ่โรงเรียนเล็กนั่นล่ะครับที่ \"เธอคือ...จันทรกานต์...?\" ก้อต่อจาก \"..๏ แด่ จันทรกานต์ \" ของคุณอัลฯอีกทีงับ
\" จัทรกานต์สิแมนไผก่อบอฮู้
เพินเว่าอยูหลายหลายเทือเซือข่อยบอ
ง่ามปานใด๋อยูม่องใด๋บอเคยพ่อ
นังจ้อก้ออยู่แตหนี่อีหลีเด๋...สอย สอย สอย \"
อิอิ 
หวังว่าคงจาลดอุณหภูมิได้มั่งไม่มากก้อน้อยเนอะ
21 มีนาคม 2549 20:49 น. - comment id 567719
เมื่อทุกคนในชาติเงียบ ชาติก็ถูกปล้นและถูกขายไปอย่างเงียบๆ (ขนาดมีคนลุกขึ้นมาปกป้อง ชาติของเรายังถูกเฉือนออกไปขายได้โดยที่คนในชาติอาจไม่รู้ เพียงเพราะผู้ปกครองเห็นแก่ประโยชน์ของตนและครอบครัวตนมากกว่าประเทศชาติอย่างชัดเจน หากเห็นแก่ประเทศชาติมากกว่าเงินในกระเป๋าครอบครัวตนก็คงไม่เป็นอย่างนี้ นี่อาจเป็นการเสียสละผลประโยชน์ของชาติตน เพื่อประโยชน์ของเงินในกระเป๋าตนและครอบครัวครั้งยิ่งใหญ่ หากแต่เพียงคำนึงประโยชน์ชาติเป็นใหญ่กว่าประโยชน์ตนก็คงจะไม่เลือกทำเพียงเพื่อจะเพิ่มเงินในกระเป๋าตน ชาติจะเป็นอย่างไรนั้นเป็นเรื่องรอง) ข้างในหัวใจ ขื่นขมยิ่งนัก
21 มีนาคม 2549 21:59 น. - comment id 567725
ผมมีโอกาสได้เห็นได้ยินได้ฟังการออกมาแสดงท่าทีอย่างชัดเจนต่อท่านนายกฯทักษิณผ่านทางสื่อต่างๆทั้งโทรทัศน์ หนังสือพิมพ์ และเว็บไซต์ข่าวสารต่างๆในอินเตอร์เน็ต ของบุคคลต่างๆ หนึ่งในนั้นคือท่านราษฎรอาวุโส ศ.นพ.ประเวศ วะสี เคยดูจากในโทรทัศน์รายการหนึ่งตอนที่เชิญท่าน ดร.สุเมธ ตันติเวชกุล เลขาธิการมูลนิธิชัยพัฒนา มาสนทนาในรายการ จึงทราบว่าท่าน ศ.นพ.ประเวศ วะสี นั้นเป็นคนที่เรียนเก่งมากโดยได้รับทุนจากมูลนิธิอานันทมหิดล ให้ไปศึกษาต่อยังต่างประเทศ เมื่อจบการศึกษาก็ได้กับมารักษาคนโดยไม่คิดเงิน ต่อมาในหลวงก็ได้ยกอาคารหลังหนึ่งให้ทำงาน ท่านหมอประเวศเป็นคนที่ไม่ดูโทรทัศน์ ข้อเขียนต่างๆและข้อคิดเห็นต่างๆนั้นออกมาจากข้อคิดเห็นจริงๆของท่าน ดังนั้นผู้ที่ได้รับฟังข้อชี้แจงต่างๆที่กระจ่างและชัดเจนอย่างยิ่งของท่านนายกฯทักษิณที่ได้เคยออกทางโทรทัศน์และสื่อต่างๆแล้ว ก็อาจจะลองหาอ่านข้อเขียนและข้อคิดเห็นต่างๆของท่านหมอประเวศ ที่ได้แสดงท่าทีต่อนายกฯทักษิณ ตามสื่อต่างๆได้ครับ (มันอาจมีส่วนทำให้การสงวนท่าทีของใครอีกหลายคน ได้มีโอกาศออกมาแสดงท่าทีตามคุณหมอประเวศ หรือบุคคลอีกหลายคนที่ไม่มีผลประโยชน์ใดๆกับท่านนายกฯทักษิณ)
22 มีนาคม 2549 08:53 น. - comment id 567814
คุณMomMamSan .. หากจันทร์นั้นเป็นหญิง ... คำตอบจริง จันทรกานต์นั้นเป็นชาย หากจันทร์นั้นเป็นชาย ...ความหมายของจันทรกานต์คือหญิง จะเป็นหญิงหรือชาย .. คนนั้นเป็นที่รักแห่งพระจันทร์ค่ะ คุณลักษมณ์ .. การสั่งสมข้อมูล - ที่มา,แหล่งของข้อมูล - ชนิดของข้อมูล - การวิเคราะห์ข้อมูล และอีกหลายต่อหลายอย่างที่ลงท้ายด้วยข้อมูล ทุกอย่างล้วนเป็นตัวแปร ให้ทำให้กระบวนการความคิด คิดต่างกัน อัลมิตราจะยกเรื่องไกลประเด็นหน่อยนะคะ ตัวอย่างที่อัลมิตราคุ้นเคยกับชีวิตประจำวัน เพื่อที่ว่า .. อัลมิตราจะได้บอกคุณว่า อัลมิตรามีกระบวนในการประมวลอย่างไร แต่อัลมิตราจะไม่บอกว่า .. สิ่งที่อัลมิตราประมวลผลเสร็จแล้ว อัลมิตราได้คำตอบอะไร ...ในห้องประชุม ห้องที่รวบรวมแหล่งความคิด การนำเสนอ ในรูปแบบต่าง ๆ มีผู้เข้าร่วมการประชุม มีหัวข้อที่จะประชุม สิ่งที่ต้องการ... คือบทสรุปของการประชุม บ่อยครั้งที่อัลมิตราพบว่า .. บทสรุปจะยังไม่เกิดสำหรับการประชุมในครั้งแรก ยังคงมีความคิดเห็นไม่ตรงกัน แต่ในเรื่องที่มีความคิดเห็นไม่ตรงกันนั้น ไม่มีใครปรักปรำอีกฝ่าย .. ว่าผิด .. ผิด และ ผิด เพราะนี่เป็นแค่ การนำเสนอความคิดที่แตกต่าง .. เอาล่ะ วกกลับมาใหม่ .. ในห้องประชุมนั้น ที่บอกว่ามีผู้ร่วมเข้าการประชุม อาจจะมีบ้างที่เมื่อใครสักคนนำเสนอความคิดขึ้นมา .. บางคนเห็นด้วย และบางคนไม่เห็นด้วย บางคนที่เห็นด้วยแต่ไม่ทั้งหมดที่เห็นด้วย บางคนนอกจากไม่เห็นด้วยแล้วยังอาจคิดอะไรแตกแขนงไปอีก พูดถึงบางคนที่เห็นด้วย .. การเห็นด้วยของเขา มันก็มีมิตินะ บางคนเห็นด้วยทันทีที่คนนำเสนอพูดจบ บางคนก็เห็นด้วยเพราะศรัทธาคนนำเสนอเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว บางคนต้องใช้เวลาสักพักจึงคิดได้แล้วค่อยตอบว่าเห็นด้วย การเห็นด้วยก็ยังอาจแตกยอดไปได้อีกว่า .. เป็นเพราะเสียงข้างมากเห็นด้วยแล้ว ขืนไม่เห็นด้วยก็จะดูแปลกพิกล ราวมนุษย์มีหางเสียนี่ แต่ก็มี ที่เห็นด้วย เพราะเข้าใจอย่างถ่องแท้ เข้าใจอย่างลึกซึ้ง รู้เชิงลึก..ซึ่งตรงนี้มันเป็นความสามารถเฉพาะตัว บางคนแค่คนนำเสนอเกริ่นหัวข้อขึ้นมาเท่านั้น ก็สามารถวาดเป็นรูปร่างในอากาศได้ บ้างเลือนลาง บ้างก็ชัดเจน พูดถึงคนที่ไม่เห็นด้วย .. ก่อนอื่นไม่อยากให้คิดกันว่า ใครก็ตามที่ไม่เห็นด้วย เท่ากับว่าจะต้องยืนอยู่ฝั่งตรงข้ามของผู้นำเสนอเสมอ เนื่องจาก..ในความไม่เห็นด้วยของเขา อาจจะมีตัวแปรต่าง ๆ ที่ทำให้เกิดความคิดตรงกันข้ามโดยสิ้นเชิง อาจเป็นเพราะเขามีข้อเสนอ (ที่ตรงข้าม)ไว้ในใจ เขามีความมุ่งมั่นกับสิ่งที่เขาคิด จนไม่เปิดใจรับฟังข้อเสนอของคนอื่น หรือเป็นเพราะอัตตาส่วนตน ต่อให้รู้ในใจว่า ความคิดของคนที่นำเสนอนั้นถูกต้อง แต่ไม่ถูกใจเขา มันยากนะ ที่จะทำอะไรสักอย่างให้ถูกต้องและถูกใจไปพร้อม ๆ กัน เพราะแต่ละคนก็ซ่อนลึกในความคิดเห็น คนที่ไม่เห็นด้วย อาจมีความสัมพันธ์ส่วนตัวที่ไม่ดีกับผู้นำเสนอก็ได้ หรือไม่ก็บรรยากาศในการนำเสนอไม่เหมาะสม ตรงนี้ก็แล้วแต่ว่า ไม่เห็นด้วยแล้วทำอย่างไรต่อ นอกจากส่ายหัวอย่างเดียว พูดถึงบางคนที่เห็นด้วยแต่ไม่ทั้งหมดที่เห็นด้วย .. ถึงแม้ว่าผู้นำเสนอจะนำเสนอโดยรายละเอียดแล้ว บางคนอาจจะเห็นแล้ว แต่ก็ไม่ใช่เห็นด้วยทั้งหมด ทุก ๆ จุด บางคนอาจรับฟังแล้วไปปรับอีกนิด สำหรับจุดที่ไม่เห็นด้วย โดยใส่ความคิดที่ตนเองเข้าใจว่าเข้าท่ากว่า ลงไป โครงร่างของข้อเสนอนั้นก็ดีนะ แต่ถ้ามีแบบนั้นอีกนิด แบบนี้อีกหน่อย ก็จะดีกว่า .. หรือปรับตรงนั้นออก ใส่แบบนี้แทน ความหลากหลายในแนวความคิดนั้นอาจเกิดจากความคิดของคน ๆ เดียวหรือไม่ก็ระดมความคิดจากหลาย ๆ คน เกลาแล้ว เกลาอีก จนเป็นความคิดที่เอาไปใช้งานได้ พูดถึงบางคนนอกจากไม่เห็นด้วยแล้วยังอาจคิดอะไรแตกแขนงไปอีก .. มีความเป็นไปได้ระหว่าง คนที่ไม่เห็นด้วยและบางคนที่เห็นด้วยแต่ไม่ทั้งหมดที่เห็นด้วย โดยที่ไม่มีเกณฑ์อัตราส่วน เพราะคนเรามีขีดจำกัดในความสามารถต่างกัน วิทยปัญญาก็ต่างกัน คงไม่ต้องอธิบายลึกนะว่า ทำไมจึงต่างกัน หยักสมองของมนุษย์เป็นสิ่งมหัศจรรย์เกินขอบเขตที่จะระบุได้ว่าควรมีข้อจำกัดแค่ไหน วิวัฒนาการต่าง ๆ เกิดขึ้น เพราะความคิดแตกแยก แต่อย่าลืมว่า.. ความล่มสลายก็เกิดจากความคิดแตกแยกเช่นกัน ยังมีคนอีกกลุ่มหนึ่งที่ไม่ได้ยกกล่าวถึง .. คือกลุ่มคนที่ไม่แสดงท่าทีอะไรออกมาเลย การแสดงท่าที เป็นกริยาแสดงออก ไม่ว่าจะเป็นกายภาพ หรือ วจีภาพ ...ให้ผู้อื่นมองเห็น ทว่า มโนภาพเป็นสิ่งที่มองไม่เห็น .. มันเป็นความรู้สึกนึกคิด บางคนที่ว่านั้น อาจกำลังคิด ในขณะที่คิดนั้น ก็ไม่แสดงความคิดเห็นอะไรเลย เพราะกำลังคิด *คิดแล้วค่อยทำ ดีกว่า ทำไปแล้วค่อยมาคิด .. กระทั่งลักษณะการคิด ก็ยังแตกต่างกัน บางคนคิดแล้วคิดอีกคิดจนถี่ถ้วน บางคนคิดแล้วคิดอีกคิดไม่ออก บางคนคิดแล้วคิดอีกคิดเท่าไหร่ไม่เหมือนเดิม บางคนคิดแล้วคิดอีกก็ได้คำตอบที่ดีกว่าเดิม บางคนหยิบข้อมูลบางส่วนมาคิด บางคนหยิบข้อมูลทั้งหมดมาคิด บางคนคิดไปไกล บางคนคิดได้แค่เนี๊ยะ สารพัดเรื่องเกี่ยวกับความคิด ไม่ว่าจังหวะที่คิดนั้น มีเรื่องอื่นแทรกซึมระหว่างคิดหรือเปล่า การจัดลำดับความคิดก็มีส่วนสำคัญ .. แต่ทั้งหมดอยู่ภายใต้เงื่อนไขของการเวลา คือ ต้องให้เวลาเขาคิด ความคิดที่ถูกกลั่นกรอง ถูกวิเคราะห์อย่างถี่ถ้วน จนได้นัยยะสมบูรณ์ จึงจะเป็นความคิดที่ถูกเลือกไปใช้งาน การที่คนๆ หนึ่งเคารพความคิดใคร แล้วเลือกที่จะนั่งเงียบๆ แต่ใช้ความคิดในแนวทางของตัวเอง เป็นสิ่งที่อาจจะนำความผิดหวังว่าให้แก่ผู้นำเสนอ ก็ได้ .. แต่นั้นย่อมไม่ใช่ว่า คน ๆ นั้นเป็นอริ หรือฝ่ายตรงข้ามเสมอ มิตรภาพตราบสิ้นฟ้า ..
22 มีนาคม 2549 20:25 น. - comment id 568005
จะเห็นว่าหลายคนไม่ได้คัดค้านในวันแรก ทั้งยังสนับสนุนและส่งเสริมเขา เพราะในวันนั้นเขายังไม่ได้ทำอะไรผิด แต่ในวันเวลาที่ผ่านไปเขาได้ทำสิ่งที่ไม่ดีให้เกิดขึ้น หลายคนจึงลุกขึ้นมาคัดค้านและไม่เห็นด้วยกับการกระทำของเขา .................................................. ในหลายกรณี ผู้ถูกกล่าวหาไม่กล้าฟ้อง และไม่พยายามฟ้องผู้ที่กล่าวหา เพราะกลัวว่าผู้ถูกกล่าวหาจะขอใช้อำนาจศาลขอเอกสารข้อมูลต่างๆของผู้ที่เกี่ยวข้อง หรือขอเอกสารขอข้อมูลต่างๆทางราชที่เกี่ยวเนื่องกับตนในทางคดีได้ ในหลายกรณี ผู้ที่กล่าวหาอยาให้ถูกฟ้อง และพยายามจะให้ถูกฟ้อง เพราะตนจะได้มีโอกาสขอใช้อำนาจศาลขอเอกสารข้อมูลต่างๆที่เกี่ยวข้องกับผู้ฟ้อง หรือขอเอกสารข้อมูลต่างที่เกี่ยวเนื่องกับผู้ฟ้องในทางคดีได้ ในหลายกรณี อาจไม่เป็นเช่นนั้น .................................. ถ้าในวันนี้ยังไม่มีใครสักคนลุกขึ้นมาปกป้อง ประเทศชาติของเราคงจะสงบไม่วุ่นวายเสียหาย การขายสมบัติชาติก็คงได้ราคาทำได้ง่าย ใครบางคนก็คงนอนนับเงินไปอย่างสบายไม่ต้องอายฟ้าดิน ...................................... จึงมาส่งเสียงฟ้อง ให้ทุกคนได้ฟัง ........................ มิตรภาพของฉัน
22 มีนาคม 2549 20:36 น. - comment id 568009
ในหลายกรณี ผู้กล่าวหาอยากให้ถูกฟ้อง และพยายามจะให้ถูกฟ้อง เพื่อจะได้มีโอกาสขอใช้อำนาจศาลขอเอกสารข้อมูลต่างๆของผู้ที่เกี่ยวข้องกับผู้ฟ้อง และขอเอกสารข้อมูลต่างๆทางราชการที่เกี่ยวเนื่องกับผู้ฟ้องในทางคดีออกมาเปิดเผย ในหลายกรณี ผู้ที่ถูกกล่าวหาไม่กล้าฟ้อง ไม่พยายามที่จะฟ้อง ไม่อยาก และไม่พยายามที่จะให้เอกสารข้อมูลต่างๆที่เกี่ยวข้องทั้งทางตัวบุคคลและเอกสารข้อมูลต่างๆทางราชการที่เกี่ยวเนื่องกับตนถูกเปิดเผย
22 มีนาคม 2549 20:39 น. - comment id 568011
ในหลายกรณี อาจไม่เป็นเช่นนั้น :]
22 มีนาคม 2549 23:13 น. - comment id 568039
จินตนาการเถิดว่าเวลานี้ จักไม่มีสรวงสวรรค์ตระการไหน มันง่ายนักหากเธอมิเผลอใจ ครั้นจิตใฝ่ฟันฝ่าพยายาม จินตนาการเถิดว่าเวลานี้ จักไม่มีขุมนรกให้อกหวาม อีกที่สุดโลกหล้าคราตรองตาม คงได้ความหากชำเลืองเบื้องล่างเรา เพราะเบื้องบนตนหรือคือฟ้ากว้าง แจ่มกระจ่างสดใสคลายอับเฉา จินตนาการเถิดว่าประชาเรา- ปราศโศกเศร้ายังยืนหยัดในปัจจุบัน จินตนาการเถิดว่าอาณาจักร จักตระหนักว่าประเทศไร้เขตกั้น มิยากนักหากเราเข้าใจกัน แล้วมุ่งมั่นฟันฝ่ามาร่วมทาง ไม่มีเหตุเลศนัยใช้เข่นฆ่า ปราศบีฑาผู้ใดใครขัดขวาง ปราศคนเจ็บล้มตายไร้ครวญคราง ไร้แนวทางลัทธิมิแบ่งใคร ความแต่งต่างทางศาสน์มิอาจกั้น อยู่ร่วมกันอย่างสันติต่างมีให้ จินตนาการเถิดว่าถ้าร่วมใจ ทุกคนไซร้มีชีวิตจิตเสรี จินตนาการเถิดว่าประชาชาติ ล้วนมุ่งมาตรความสุขในทุกที่ ดำรงชีพแนวทางอย่างเสรี แต่อาจมีผู้เห็นฉันเพ้อฝันไป เธออาจคิดว่าฉันนั้นพร่ำเพ้อ แต่หากเธอไตร่ตรองมองเงื่อนไข มีเพียงฉันผู้หนึ่งซึ่งมั่นใจ ฤๅมีใครยังหวังอย่างเดียวกัน ยังปรารถนาว่าเธอจักร่วมด้วย ต่างมุ่งช่วยก่อร่างสร้างความฝัน ให้ปรากฏแจ้งจิตสัมฤทธิ์พลัน แล้วโลกนั้นจะหลอมเป็นเช่นหนึ่งเดียว จินตนาการเถิดหนาถ้าอำนาจ สิทธิ์ผูกขาดต้องแตกแหลกเป็นเสี้ยว ปราศผู้ชอบครอบครองปองผู้เดียว เธอคงเหลียวเฉลียวจิตคิดแปลกใจ เพราะหากเธอทำไปได้เช่นนั้น ผู้โลภโมโทสันอันมักใหญ่ ผู้หิวโหยโรยแรงแห่งหนใด จักหมดไปจากโลกคลายโศกตรม ความถือพี่มีน้องต้องบังเกิด สิ่งประเสริฐสรรสร้างอย่างเหมาะสม จินตนาการเถิดหนาพารื่นรมย์ ความชื่นชมแบ่งปันพลันเกิดมี คนทั้งมวลล้วนชอบมอบความรัก ต่างร่วมภักดิ์สงบสุขทุกถิ่นที่ มีเมตตากรุณาเอื้ออารี โลกเรานี้จักงดงามล้ำพิไล เธออาจคิดว่าฉันนั้นพร่ำเพ้อ แต่หากเธอไตร่ตรองมองเงื่อนไข มีเพียงฉันผู้หนึ่งซึ่งมั่นใจ ฤๅมีใครยังหวังอย่างเดียวกัน ยังปรารถนาว่าเธอจักร่วมด้วย ต่างมุ่งช่วยก่อร่างสร้างความฝัน ให้ปรากฏแจ้งจิตสัมฤทธิ์พลัน แล้วโลกนั้นจะหลอมเป็นเช่นหนึ่งเดียว ราตรีสวัสดิ์ค่ะ คุณลักษมณ์
23 มีนาคม 2549 01:13 น. - comment id 568048
ขอเนื้อเพลงimagine เป็นภาษาอังกฤษด้วยครับ .... จริงๆแล้ว ผมก็เคยอ่านงานชิ้นนี้ของคุณอิมนะ แปลมาจากเพลงimagine เพลงนี้ ผมผิวปากได้จบเพลงเลยนะ :]
23 มีนาคม 2549 07:50 น. - comment id 568058
Imagine (Writen by: John Lennon ) Imagine there\'s no heaven, It\'s easy if you try, No hell below us, Above us only sky, Imagine all the people living for today... Imagine there\'s no countries, It isnt hard to do, Nothing to kill or die for, No religion too, Imagine all the people living life in peace... Imagine no possesions, I wonder if you can, No need for greed or hunger, A brotherhood of man, Imagine all the people Sharing all the world... You may say Im a dreamer, but Im not the only one, I hope some day you\'ll join us, And the world will live as one. -------------------------------------------------------------------------------- จินตนาการสิว่าไร้สรวงสวรรค์ มันง่ายมากถ้าเธอพยายาม จินตนาการสิว่าไร้นรกโลกันต์เบื้องล่างเรา เบื้องบนเหนือเราคือท้องฟ้าเท่านั้น จินตนาการสิว่าผู้คนทั้งมวล อยู่เพื่อวันนี้... จินตนาการสิว่าไร้อาณาเขตประเทศ มันไม่ยากดอกที่จะทำ ไม่มีอะไรที่จะต้องฆ่าหรือตายเพื่อ และไม่มีลัทธิศาสนาด้วย จินตนาการสิว่าผู้คนทั้งมวล มีชีวิตอยู่ในสันติภาพ... เธออาจพูดว่าฉันเป็นหนึ่งในผู้เพ้อฝัน แต่ทว่า มิใช่ฉันเพียงผู้เดียวเท่านั้น ฉันหวังสักวันหนึ่งเธอจักร่วมกับเรา และโลกจะเป็นหนึ่งเดียว จินตนาการสิว่าปราศจากการครอบครอง ฉันคงประหลาดใจถ้าเธอทำได้ ไม่จำเป็นต้องตะกละ หรือหิวโหยอีกต่อไป ภราดรภาพของมวลมนุษย์จะเป็นหนึ่งเดียว จินตนาการสิว่าผู้คนทั้งมวล แบ่งปันกันทั้งโลก... เธออาจพูดว่าฉันเป็นหนึ่งในผู้เพ้อฝัน แต่ทว่า มิใช่ฉันเพียงผู้เดียวเท่านั้น ฉันหวังสักวันหนึ่งเธอจักร่วมกับเรา และโลกจะดำรงอยู่เป็นหนึ่งเดียว แปลจาก Imagine ของ John Lennon อรุณสวัสดิ์ค่ะ .. อัลมิตราก็ผิวปากได้หลายเพลงเหมือนกันนะ แต่ก็มักจะโดนเอ็ด .. เป็นผู้หญิงผิวปากไม่ดี เอ็ดก็เท่านั้น .. ไม่เห็นอัลมิตราจะจำสักที ยามสุนทรี อัลมิตรานึกถึงเพลงทีไร หากไม่ฮัมเพลง ก็ผิวปากค่ะ
26 มีนาคม 2549 17:59 น. - comment id 568597
เปิดศาล ลุงราม , คุณลักษณ์ , คุณหยาดอรุณ , คุณฤกษ์ , คุณเชษฐภัทร , คุณอัลมิตา ศาลได้สืบพยานทุกปากแล้วพบว่า ถูกทุกท่าน ไม่มีใครผิด ศาลจึงขอตัดสินว่า ยกฟ้อง เลิกศาลได้ ( ศาลเตี้ย อ่ะ )
กลอนอกหัก รักหวานซึ้ง
กลอนอวยพร
กลอนให้กำลังใจ
กลอนให้ข้อคิด
