เชิญดอกไม้ใหญ่น้อยร่วมร้อยรุ้ง มาประปรุงวลีที่ฉันเขียน เชิญดาวรายพรายงามตามมาเจียร ใต้แสงเทียนเราหลอมไปพร้อมกัน ดูบางคนค้นความล้ำคำเลิศ คอยเฝ้าเปิดดวงใจใฝ่สร้างสรรค์ ดูสิมีหิ่งห้อยพลอยวอมจันทร์ บินมาจากวรรคนั้นเขาบรรจง โน่นผีเสื้อวัยเยาว์เล่าของใคร ใส่เสื้อใหม่อวดบินถึงถิ่นหงส์ เพียงพบปะผละจากผละขึ้นลง ทั่วทั้งดงแดนดินถิ่นวนา อาจมีใครไหวหวั่นจนพลันเสก ให้ดอกเมฆร่วงหล่นเป็นฝนหนา แทนความรักหักเหี้ยมเสี้ยมอุรา แทนน้ำตาเขานั้นวันเธอเมิน แดนของเราเขาใครจะไปถึง ด้วยเสพย์ซึ้งวลีที่ขัดเขิน เพราะมิใช่กวีมีคำเพลิน แค่นิพนธ์คนเดินความตามใจ เราไปมาหากันทุกบรรทัด ไปเป่าปัดปลุกปั้นปะคำไข เกินจะนึกลึกเกินว่าทำไม เพียงเราได้ดื่มด่ำคำก็พอ..
12 ตุลาคม 2548 17:09 น. - comment id 526460
ชอบวรรคจบจังเลยครับ... เลยเอาความรู้สึกวางแจม... อันที่จริงอยากบอกความตามวรรคนี้ครับ เราพบกันในนามของความงาม พบในนามความรู้สึกอันยิ่งใหญ่ เราพบกันในนามความคุ้นใจ เป็นสายใย ของคน ที่ค้นคำ แต่รู้สึกไม่หมดเท่าที่ใจคิดเลยฝากไว้ทั้งหมดแล้วกัน เราพบกันในนามความรู้สึก มีถ้อยล้ำคำลึกอันสดใส แม้มิใช่คนแรกในหัวใจ เป็นอะไรลึกลึกรู้สึกดี เราพบกันในนามเมื่อยามทุกข์ ช่วยปลอบปลุก ความฝันอันป่นปี้ เราพบกันในนามความ ปรารถนาดี ที่ต่างมี บทกวีเป็นสื่อใจ เราพบกันในนามของความดี ที่ต่างมีไมตรีอันยิ่งใหญ่ เราพบกันในนามความซึ้งใจ ทุกถ้อยความเป็นไปในบทกลอน เราพบกันในนามของความภักดิ์ ถ้อยคำที่ต่างทอถักมาพร่ำอ้อน บ้างสื่อฝากฟากฟ้า ฑิฆัมพร บ้างออดอ้อน อวยเออเสนอใจ เราพบกันในนามของความงาม พบในนามความรู้สึกอันยิ่งใหญ่ เราพบกันในนามความคุ้นใจ เป็นสายใย ของคน ที่ค้นคำ เราพบกันในนามความมากค่า ของถ้อยฝากปารารถนา อารมณ์ร่ำ ที่ช่วยอบ ให้อุ่นกรุ่นประจำ ที่สุขล้ำ งามล้ำ แม้ช้ำมา เราพบกันในนามของความสุข ที่เร้ารุก หัวใจ ปรารถนา ที่เร้าเร่ง บทเพลง จินตนา แม้ไม่เคยใกล้ตา ก็ใกล้ใจ เราพบกันในนามของความฝัน ระหว่างวันของวันที่ฝันใฝ่ แม้มิใช่ เป็นทุกลมหายใจ เป็นอะไร ลึกลึก รู้สึกดี เราพบกันในนามของความรัก งดงามนักศัพท์ถ้อยทุกสร้อยศรี ทุกเรียงร้อย รินรื่นชื่นฤดี เป็นไมตรีดีงามนิยามรัก คุณเขียนงานได้มีจังหวะ อ่านแล้วมีความสุขนักครับ... ขอบคุณงานดีดีครับ
12 ตุลาคม 2548 17:31 น. - comment id 526464
เชิญดาวพราววาวจันทร์มาสรรค์คำ เป็นถ้อยล้ำอวยพรอันอ่อนหวาน ณ วันเกิดเลิศล้ำแห่งตำนาน ชลกานต์หวานจิต ... มิรู้ลืม เข้ามาอวยพรวันเกิดด้วยค่ะ : )
12 ตุลาคม 2548 17:58 น. - comment id 526474
เลือกถ้อยคำนำผูกปลูกสัมผัส แล้วร้อยรัดความหมายใส่อักษร บอกความคิดถึงมิตรผ่านคำกลอน ฝากความรักซุกซ่อนอักษรา ภาษาสวยจังค่ะชลกานต์ อ่านแล้วอบอุ่นละมุนละไม..
12 ตุลาคม 2548 20:57 น. - comment id 526514
เพราะจังค่ะ น่ารัก...เหมือนเดินอยู่ในป่าหิมพานต์ ๕๕๕ \"เราไปมาหากันทุกบรรทัด ไปเป่าปัดปลุกปั้นปะคำไข\" ร่วมดื่มคำเคี้ยวความกันตามใจ ร่วมอิ่มทิพย์ท้นใจรสกวี
12 ตุลาคม 2548 22:27 น. - comment id 526549
อบอุ่นจัง ชลกานต์
12 ตุลาคม 2548 22:41 น. - comment id 526557
แวะมาอวยพรสุขสันต์วันเกิดจ๊ะน้องเก๋ ขอให้มีความสุขมากๆนะคะ
12 ตุลาคม 2548 22:44 น. - comment id 526559
สุขสันต์วันเกิดค่ะ :)
12 ตุลาคม 2548 23:57 น. - comment id 526585
ลึกซึ้งครับ อารมณ์คนเขียนกลอน แบบนี้แหละครับพยายามสรรค์หาสิ่งที่คนอ่านพอใจ ไว้ให้แก่มวลชนเสมอครับ แก้วประเสริฐ.
13 ตุลาคม 2548 14:58 น. - comment id 526814
เชิญผกากรองมาร่วมฟังวลีที่พี่แต่งได้ด้วยไหมคะกลอนเพราะจังเลยคะ
13 ตุลาคม 2548 15:32 น. - comment id 526825
คนเขียนกลอนก็แค่นี้... มีความสุขกับงานที่เขียน.. มีเวลากับการคัดเลือกคำ.. สนุกสนานกับการออกเสียง.. และจินตนาการเล็กๆ ของตัวเอง.. ไม่หวังอะไรมากมายค่ะ แค่มีรอยยิ้มให้กัน ทักทายกันบ้าง เท่านั้นก็พอค่ะ..
24 ตุลาคม 2548 12:44 น. - comment id 530654
หนูแต่งอย่างรัยก็เศร้าอยู่ดี
17 กันยายน 2553 12:13 น. - comment id 1156652
อันตัวข้าเกิดมาปัญญาทึบ มีแค่คืบสมองน้อยด้อยภาษา ขอลิขิตขีดเขียนตามเรียนมา ดังครูบาบอกไว้ให้ติดตัว ทั้งร้อยกรองกาพย์กลอนไม่ถนัด มิบังอาจเอ่ยเน้นมาเล่นหัว แต่ใจรักสักนิดไม่คิดกลัว อาศัยมั่วเอาบ้างก็ยังดี
1 พฤศจิกายน 2553 12:07 น. - comment id 1165969
ณ.คืนหนึ่งซึ่งหนาวเข้าประสาน ที่จังหวัดมุกดาหารบ้านหนองสูง แทบจะนอนไม่ไดั ไม่มียุง ผมจะยุ่งยุ่งไปไม่อีนัง ไม่รู้ใครเป็นใครในคึนนั้น คลุมโปงกันมิดชิดปิดเริอนร่าง ได้ยินแต่คำกล่าวว่าหนาวจัง ทั้งหน้าต่างประตูรูไม่มี เพราะเป็นช่วงปลายฝนเริ่มต้นหนาว อยู่หว่างเขาอากาสเย็นจัดซี หากมีคู่ชีวาท่าจะดี ให้เขานี้ก่อไฟคอยใส่ฟืน คืนนั้นวันที่สามสิบตุลา กินข้าวปลาอาหารกันสดชื่น แต่ยิ่งดึกยิ่งหนาวราวกับยืน อยู่กับพื้นน้ำแข็ง แม่ ..โคตรเย็น
2 พฤศจิกายน 2553 00:24 น. - comment id 1166093
อันน้ำนั้นมันมีดีและร้าย ประโยชน์ใช้ดื่มกินทุกถิ่นที่ ไม่มีโทษดอกหนาถ้าพอดี ถ้าเกินซีมีช้ำมีน้ำตา แหละตอนนี้ไหนไหนน้ำไปมั่ว บ้างทรงตัวบ้างหนักทะลักใส่ เมธีเอ๋ยเมธีไปที่ใด มีแต่ภัยมีแต่ช้ำมีน้ำตา จากอิสานตอนนี้มีอีกแล้ว ข่าวแว่วแว่วขึ้นฝั่งทางสงขลา หาดใหญ่หนักมากอยู่ดูข่าวมา มันมุ่งหน้าสุราษฎร์ สวัสดี
10 พฤศจิกายน 2553 02:43 น. - comment id 1167642
เห็นพม่ารบกันแล้วหวั่นนัก หนีทะลักมาไทยมีชายหญิง โอ้เด็กไม่กี่เดือนเกาะเหมือนลิง อนาถจริงเห็นเขาเราเศร้าใจ สงสารจังช่วยเขาเอาไว้เถิด เพราะเขาเกิดผิดเมืองคือเรื่องใหญ่ ไม่โชคดีเหมือนเราเหล่าคนไทย สุขสบายรื่นรมณ์พอสมควร ถึงจะมีเรื่องร้าวบางคราวครั้ง แต่ก็ยังรักกันไม่ปั่นป่วน เมื่อเมฆหมอกออกไป ใจก็ควร ได้ทบทวนสักนิดใครผิดกัน ที่เราอยู่เป็นไทยในวันนี้ ก็ด้วยเพราะบารมีพระองค์ท่าน ในหลวงเปรียบพลังแสงแห่งตะวัน พระทรงงานทรงห่วงปวงประชา อยากให้ท่านทั้งหลายได้สำนึก คิดให้ลึกตรองให้ดีใครที่บ้า ทั้งอำนาจเงินทองที่ได้มา มันเป็นภาษีเราเขาโกงกิน อย่าให้เกิดสงครามกลางเมิองได้ มันจะยุ่งวุ่นวายอย่างหม่องหมิ่น อย่าให้เลือดต้องหลั่งกลางแผ่นดิน ทั่วธานินทร์ขอให้รักสามัคคี สาธุ ๆ ๆ ๆ
12 พฤศจิกายน 2553 08:51 น. - comment id 1168549
ดอกไม้สวยสดใสในไพรสัณฑ์ มีใครกันแต้มแต่งแบ่งเฉดสี เมื่อได้ยลแล้วสุขใจทุกที เปรียบนารีรูปงามเปี่ยมน้ำใจ แมลงภู่หมู่ผึ้งดึงเกษร แล้วบินร่อนผสมมิขาดสาย เหมือนหน้าที่โดยตรงในพงไพร ไม่เคยหน่ายบ่ายเบี่ยงเลี่ยงสักวัน แต่ว่าชายหมายมั่นแค่วันอยาก แสนหายากที่มากหรือคือคำหวาน มาเกื้อกูลจุนเจือเมื่อต้องการ มิเคยมั่นในรักสักนิดเดียว
13 พฤศจิกายน 2553 19:23 น. - comment id 1168856
อันมนุษย์สุดประเสริฐเลิศกว่าสัตว์ ความกำหนัดทำให้จิตใจเปลี่ยน คนที่เป็นบัณฑิตใช่ติดเรียน รักอ่านเขียนแล้วได้ปริญญา ที่จริงแล้วบัณฑิตจิตใจสูง ต้องผดุงพระพุทธศาสนา ไม่โกงกินพวกเราชาวประชา คือแบบว่าซื่อตรงอย่างจงใจ กตัญญููรู้คุณครูอาจารย์ อีกทุกท่านเคยพึ่งพาอาศัย ยื่งบิดรมารดายื่งกว่าใคร จึงเรียกได้ไม่ผิดบัณฑิตจริง มิใช่รับปริญญาตรี โท เอก ดั่งพิเภกเพ่งดูรู้ทุกสิ่ง แต่ทำตัวกลับกลอกหลอกเป็นลิง อย่าอ้างอิง เป็นบัณฑิต มันผิดคำ/
1 มกราคม 2554 20:28 น. - comment id 1177514
สวัสดีปีใหม่ไทยทั้งชาติ ให้มวลญาติเหนือใต้ในสยาม ทุกเชื้อชาติสัญชาติในเขตคาม พบแต่ความสุขสมภิรมญ์เทิอญ
4 พฤศจิกายน 2554 14:04 น. - comment id 1213779
โอ้น้องน้ำทำร้ายคนไปทั่ว ทั้งคนชั่วคนดีไม่มีเว้น อย่าโทษดวงตกต่ำหรีอกรรมเวร มันเป็นเกณฑ์อาเพศประเทศไทย เหมีอนดังปลาขังรวมอยู่ร่วมข้อง ตัวหนึ่งต้องดับดิ้นสิ้นสลาย พากันเหม็นน่าชังอยู่ข้างใน เหมือนคนไทยมองฟ้าว่าไม่ดี จึงต้องพลอยรับทุกข์ทรมา ก็เพราะว่าบ้านหนึ่งนั้นต่างสี พวกเย้ยฟ้าท้าดินแหละตัวดี ทุกวันนี้จึงพบประสบภัย คนดีดีโดนด้วยช่วยใม่ได้ เพราะเข้าข่ายเป็นญาติฟ้าจัดให้ ในโลกนี้จึงมีประเทศไทย ที่เจออุทกภัยใหญ่กว่าประเทศใดใดในสากล