...เหล่ามวลผู้กล้าแห่งบู๊ลิ้ม...ต่างกล่าวกันว่า... ... " ใต้แสงจันทรา ณ ห้วงมหรรณพ์... ...ยังความสุขสันต์ให้ปรากฏ... ...ซ่อนเร้นความมหัศจรรย์ในมธุรพจน์... ...ย่อมกำหนดจิตใจในรัตติกาล... ...ใต้แสงศศิธรใคร่อ้อนเอื้อน ...จึ่งมิตรภาพในผองเพื่อนบ่อวสาน ...ประดุจวิภาดามิอันตรธาน ...เจิศจรัศนิรันดร์กาล...มิเสื่อมทราม ...เคียงกายมีกระบี่ที่คมกริบ ...กระบวนเพลงรัว...ชั่วพริบตาอย่ามองข้าม ...ความแกร่งกร้าวผสมผสานผ่านความงาม ...ผ่านย่ำยามชมจันทราดาราราย ...รำกระบี่...มีสุรามาซดแล้ว ...คงไม่แคล้วร่ายกวีมีความหมาย ...กระบี่พริ้วไหว...ใจพลิกผัน...ครั้นเอี้ยวกาย ...จอกเหล้าหงายเป็นได้ดื่ม...ลืมย่ำยาม "ฯ ..๏ ใต้จันทราส่องห้อม........ห้วงมหรรณพ์ ปรากฏความสุขสันต์...........สว่างจ้า มธุรพจน์มหัศจรรย์.............อันซ่อน กำหนดจิตใจข้า..................จ่อมเคลิ้มรัตติกาล ฯ ..๏ ใต้ธารศศิเอื้อน................ปรารถนา มิตรภาพผองเพื่อนยา...........จุ่งยื้น ประดุจวิภาดา........................ผดุงสวัสดิ์ เจิดจรัสนิรันดร์รื้น................ไป่รู้เสื่อมทราม ฯ ..๏ วามวาวกระบี่รุ้ง.................เคียงกาย ชั่วพริบตากระบวนกราย..........ร่างพลิ้ว งาม-กร้าวแกร่งพร่างพราย......ผสานสนิท ผ่านย่ำยามจันทร์ริ้ว................รอบด้วยดาวราย ฯ ..๏ ร่ายกระบี่มีซดแล้ว.............โอ้.. สุรา คงมิแคล้วพรรณนา..................รจน์ร้อย กระบี่ใจพลิกไหวครา...............เอี้ยวหยิบ ยกจอกดื่มลืมคล้อย.................โศกพ้นชั่วยาม ๚ะ๛
26 กันยายน 2548 09:37 น. - comment id 519064
ใต้นวลจันทร์ไยนวลใจละมุนนัก น้ำผึ้งภักดิ์หยาดสายหวานหว่านอาบหล้า ฝันเห็นเธอแม่ยอดหญิง*อัลมิตรา* ตราบดินฟ้า..ยังมีจันทร์..ขวัญ..ฝันไม่ลืม..! ทิวาหวามค่ะ
26 กันยายน 2548 10:07 น. - comment id 519078
ใต้แสงจันทราราตรีที่สงบ ยุทธภพกวีกานท์ร่วมสานฝัน ร่ำสุราเมรัยใต้แสงจันทร์ แล้วรำพันสุนทรพจน์เป็นบทกลอน
26 กันยายน 2548 10:13 น. - comment id 519084
กระบี่สัมพันธ์จิตใจยกเมรัยสนมแดง ขอคาราวะ ผู้เยี่ยมยุทธ์ทั่วยุทธ์จักร เน้นคำว่าคุณธรรมยิ่งกว่าหยดเลือดที่ปลายกระบี่ ร่ายรำกระบวนท่าหวังมิตรภาพอาบจอกเมรัย ...........แด่คุณอัลมิตรา-หนอนดุ๊กดิ๊ก
26 กันยายน 2548 10:33 น. - comment id 519095
26 กันยายน 2548 10:41 น. - comment id 519097
มิมีกระบี่ แต่มีพระขรรค์ใช่ได้บ่ แก้วประเสริฐ.
26 กันยายน 2548 10:53 น. - comment id 519102
แค่สองเรา ใต้แสงจันทร์ กับความฝันอันหอมกรุ่น~~ ไปจิบไวน์ กันดีก่า เอิ้กๆๆๆ ที่ตรงนั้นช่างสวยจริง เดิมพันแห่งความเหงา ใต้แสงจันทร์
26 กันยายน 2548 11:26 น. - comment id 519118
ทางกวีร้ายนะ แต่ไม่รู้ว่าคอแข็งขนาดไหน
26 กันยายน 2548 12:58 น. - comment id 519173
แวะมาเยี่ยมจอมยุทธหญิง ชายได้รับตกทอด ดาบคร่ามังกือ เอ๊ย มังกรจากท่านก๋งเอี๊ยก้วย เลยแวะมาหาสหายหญิงผู้เลอโฉมจิบสุราชมจันทร์
26 กันยายน 2548 13:20 น. - comment id 519187
รูปสวยมากครับ พี่อัล....เอารูปตัวเองมาลงหรือครับ.......โรงเรียนหลังเขา...................รอการกลับมาเยี่ยมของพี่.............
26 กันยายน 2548 14:03 น. - comment id 519206
มาเยี่ยมชมค่ะ อ่านกี่ครั้งก็ยังไพเราะเหมือนเดิม
26 กันยายน 2548 15:06 น. - comment id 519233
ใต้แสงจันทรา ที่ทอดทอทาบ แสงสาดให้โลกกระจ่างใส มวลหมุ่โลกใต้หล้านภาลัย หลงใหลความงามท่ามกลางใต้สงจันทร์ แวะมาอ่านแจมด้วยค่ะ
26 กันยายน 2548 15:08 น. - comment id 519234
ถ้าให้ผมเดา \" อัลมิตรา \" หากเลือกเกิดได้ คงอยากเกิดในดินแดน ยุทธภพโบราณ
26 กันยายน 2548 15:25 น. - comment id 519244
โอ้ แม่นาง ข้อขอดื่มให้ท่าน 10 จอก บทกลอนของท่าน เยี่ยมยอดจริง คาน้อยขอคาระ
26 กันยายน 2548 15:34 น. - comment id 519250
แล้วเจอกันที่เขาเหลียงซานนะแม่นางลิ้มซีอิม....จากลี้คิมฮวง...
26 กันยายน 2548 17:29 น. - comment id 519300
คุณพุดพัดชา .. ใต้แสงจันทราทำให้อารมณ์เคลิ้มไหว บางคนอาจโหยหาบางใคร แต่ในความเป็นจริง ความเดียวดายย่อมเดียวดาย คุณโป๊ยเซียน.. รำพันรำพึงจากคนหนึ่งซึ่งระทม ยุทธภพล้วนแต่เกิดเรื่องเลวร้ายโสมม ทับถมสารพัน จากผู้เอกา ไร้ใครสักคนฟังคำจำนรร หวังว่า ใต้แสงจันทร์ ได้ฝากฝันบรรเลงกวี คุณน้ำตานาง.. มาตรว่าหยดเลือดที่แดงข้นติดปลายกระบี่นี้ พอจะเป็นสักขีได้ ย่อมเลือกที่จะเชือด เพื่อที่จะให้ได้มาซึ่งความสงบสุข คุณร้อยแปดพันเก้า.. ขอบคุณมากค่ะ คุณแก้วประเสริฐ.. พระขรรค์ส่วนตัว หาควรยื่นให้ผู้อื่นนำไปใช้ ไอซ์ .. อาจไม่สุขอย่างที่คิด เพียงชั่วย่ำยามเท่านั้นที่พอบรรเทา และแล้ว ก็จะเหมือนเดิม คุณธรรม ทัพบูรพา .. แย่เลย คอไม่แข็งนะ เจอจระเข้ฟาดหาง สงสัยแอนตาซินต้องจ่ายเต็ม ๆ คุณชายเฉิ่ม .. สุราฟรี หากแต่ปราศนารีงาม แสงจันทร์ที่สาดส่องทาบทาผืนพิภพ หาได้มีผู้ใดเป็นเจ้าของครอบครองไม่ คุณครูดอยไกลแสนไกล .. รูปของอัลมิตรา น่าจะค้นหาไม่ยากนะ เพียงแต่ว่า กระบี่ไม่มี มีแต่ไม้หน้าสามน่ะ ฮา .. คุณเจลใส .. ต้องอ่านยี่สิบรอบน๊า คุณไรไก่ .. ลุ่มหลงต่อจันทรา ปิ่มว่าหทัยจะรอน พร่ำเพ้อละเมอเป็นโคลงกลอน ตัวอักษณสะท้อนสิ่งที่อยู่ภายใน คุณโอ คาลิฟโซ .. :) ที่นั่นคงวุ่นวายพอ ๆ กันกับสังคมในเมืองขณะนี้กระมังคะ คุณsadasasa .. แย่เลย ไหนบอกว่าจะดื่มให้สิบจอก แค่สามเท่านั้นก็คว่ำเสียแล้ว คุณบินเดี่ยวหมื่นลี้ .. แน๊ ..
26 กันยายน 2548 18:22 น. - comment id 519316
ศิษย์พี่อัลมิตรา ช่างเป็นผู้กล้าจริง ๆ ข้าน้อยมิบังอาจเทียบ ข้าน้อยขอฝากตัวไว้ด้วย
26 กันยายน 2548 21:34 น. - comment id 519402
คุณกวีปกรณ์ .. ยินดีที่ได้รู้จักค่ะ :)
26 กันยายน 2548 22:20 น. - comment id 519451
ไม่ถือกระบี่ ไม่ซดสุรา ถือทาโรกะเป๊บซี่ได้ป่ะ
26 กันยายน 2548 23:41 น. - comment id 519487
ร่ายกระบี่มีคมกลางลมหวน ทุกสิ่งล้วนมหัศจรรย์เกินฝันหา แล้วรินร่ำพร่ำชมผสมสุรา แสงจันทราส่องนวลชวนเผลอใจ สุราดี..นารีแดง..มีแรงฤทธิ์ ท่ามมิ่งมิตรชนจอกบอกหลงใหล ศศิธรอ้อนเอื้อนมาเตือนใจ คว่ำจอกไว้ยามเหล้าหมด..อดกินเลย
27 กันยายน 2548 00:14 น. - comment id 519506
แรมรอนนอนเดี่ยวใต้.......แสงจันทร์ ไร้กระบี่เครื่องฆ่าฟัน.........หยุดแล้ว ถือเพียงจอกสุราอัน............ส่งสุข รินส่งผองเพื่อนแก้ว...........ทั่วฟ้าสุธาสวรรค์
27 กันยายน 2548 00:17 น. - comment id 519508
คว่ำจอกจะได้ดื่ม............ฉันใด หงายสิจะรินให้...............อย่างนั้น เมามายกับเพื่อนใจ........แสนสุข ลืมเถิดเรื่องกางกั้น.........กระบี่ไร้ความหมาย
27 กันยายน 2548 00:22 น. - comment id 519511
โฉมเอยไยหลบเร้น...............เมฆบัง เชิญส่องแสงนวลปลั่ง.............เจิดจ้า เมามายไม่รู้ฟัง......................ความทุกข์ เอ้า ดื่ม...มื้อนี้ข้า....................อยากเชื้อเชิญสหาย
27 กันยายน 2548 00:29 น. - comment id 519517
"ไอ่คำ\" อุจากเบื้อง..............สกลนคร ของฝากจากบังอร................นิ่มเนื้อ หอมหวานดั่งอับสร...............ประทานรส รำลึกความเอื้อเฟื้อ..............ดื่มแล้วคะนึงหา
27 กันยายน 2548 00:33 น. - comment id 519522
เมาหนักลูกรักเอ๋ย.........เมามาย คืนค่ำอยู่เดียวดาย.........อีกแล้ว พรุ่งนี้ตื่นตะวันสาย........แน่แน่ ได้หยุดงานหลานแก้ว...ว่างแล้วดีใจ
27 กันยายน 2548 02:00 น. - comment id 519545
เงาจันทร์ระริกล้อม.................วงคม กระบี่ตัดใยรักจม....................จอกเหล้า แฝงเงาซ่อนความขม...............จันทร์ส่อง กระบี่สาดประกายเข้า...............ขับพ้นเมฆา แวะมาเยี่ยม รำลึกความหลัง ครั้งยังเคยเขียนอะไรได้ หุหุ
27 กันยายน 2548 05:28 น. - comment id 519550
"ลมพัดไปไม้ไหว กระบี่หลั่นไหว คนใช่ไร้คม..\" ขุนเขายะเยือก..นิดลายสือ ---------------- นารีแดงvsเหล้าอุ=มึนหล่ะทีนี้
27 กันยายน 2548 07:59 น. - comment id 519569
อรุณสวัสดิ์ค่ะ คุณร้อยฝัน .. เปลี่ยนเป็นนมเขียวสิ อร่อยนะ คุณท่องเมฆา .. คิดอาศัยสุราราดรดทุกข์ ทุกข์กลับทับถมทวีคูณ รักยิ่งล้ำลึก ทุกข์ยิ่งเพิ่มทวี ลุงอ่ำ .. ลุงอ่ำสิร่ำร้อง..................เพื่อนเฮย เชิญร่วมดื่มร่วมเสบย.....ฮัดช้า หนึ่งจอกคว่ำหนึ่งเงย.....รินต่อ กระดกอุเข้าปากอ้า..........มิเว้นเมามาย ชวนเมฆเมฆกลับลี้.........ล่องหาย อัลมิตราซ่อนกาย.............คร่อกฟี้ ไร้ผู้ดื่มเป็นสหาย.............ลุงบ่น มาดึกก็อย่างนี้..................อยู่เหย้าลำพัง หากลุงมิขัดข้อง..............ประการใด เชิญนัดวันออกไป...........ประกาศถ้อย เชิญชวนมิตรร่วมใจ.........มาดื่ม จากหนึ่งจวบกี่ร้อย............มิคร้ามยกชิม ปลาดุกเร่ร่อน.. คิดถึงจัง หายไปไหนตั้งนาน นึกว่าโดนปิ้งบนเตาอั้งโล่วซะแล้ว สุราอยู่ในจอก โคมไฟริบหรี่แสงเลือนลาง มีสุราเหลืองขุ่น นี่มิใช่สุราดี แต่สุราดีหรือ-หาได้อยู่ที่ตัวมันไม่ ......กลับอยู่ที่ท่านดื่มมันเวลาใด ? หากเป็นคนที่คับแค้นรันทดจนสุดซึ้ง มาตรว่าเป็นเมรัยรสเลิศในดินแดน ยามล่วงล้ำลำคอก็ขมฝาดจนบอกไม่ถูก คุณธรรมาภิวัฏ .. มิครั่นมิคร้าม รอแต่ยามได้ร่วมยกจอก.. มิตรภาพตราบสิ้นฟ้า