..๏ วันที่สิบกันยาเพลาเช้า ฟ้าสีเทาอึมครึมคล้ายครึ้มฝน แลเมฆลอยละลิ่วมาฟ้าเบื้องบน พิศแล้วหม่นอุราพาเศร้าใจ ้้คราก่อนข้าสดใสใจเริงร่า มาบัดนี้อนิจจาน้ำตาไหล มิตรภาพตราบฟ้าสิ้นธรณินไป มิเหลือใครรู้เห็นเหมือนเช่นเคย คงถึงคราวชะตาพ่ายเพราะคนฉ้อ เขาดูถูกข้าหนอท้อจริงเหวย แม้มวลมิตรเคยผูกพันพลันละเลย นั่งมองข้าถูกเย้ยอย่างเฉยชา หากเทียบเมฆบนฟ้าคราลิ่วล่อง ข้าหม่นหมองเพราะทุกข์รุกยิ่งกว่า ปราศผู้คนเข้าใจนัยพรรณนา ที่ผ่านมาชอกช้ำเพียงลำพัง เผชิญคลื่นวิโยคเพราะโชคร้าย มิตรกลับกลายแชเชือนมิเหมือนหลัง โอ้ตัวข้าแสนอับจนคนชิงชัง ยามพลาดพลั้งอกช้ำทนกล้ำกลืน หมายระบายออกไปด้วยใจเศร้า ไฟทุกข์เผายากข่มข้าขมขื่น หัวใจเพื่อนเคยหวงเขาทวงคืน คงยากฟื้นไมตรีที่กลับกลาย สุนทรภู่ถูกขับออกจากเวียง ข้าก็เยี่ยงชะตาครูรู้ความหมาย โคลงศรีปราชญ์ท่านร่างก่อนวางวาย ใช้ตีนร่ายโองการข้าจารจำ ..๏ ธรณีภพนี้เพ่ง.............ทิพญาน หน่อยรา เราก็ลูกอาจารย์................หนึ่งอ้าง เราผิดท่านประหาร...........เราชอบ เราบ่ผิดท่านมล้าง.............ดาบนี้คืนสนอง ฯ สำนึกความปราชัยจับใจแจ้ง ขอกำแหงยกเปรียบเขาเหยียบย่ำ แม้นข้าพ่ายเพราะกลคนระยำ กราบวิญญ์ครูตอกย้ำย้อนกรรมคืน ๚ะ๛
12 กันยายน 2548 08:14 น. - comment id 514334
12 กันยายน 2548 08:29 น. - comment id 514338
12 กันยายน 2548 08:35 น. - comment id 514342
หายไปสองวันนะคะ คุณอัลมิตรา คิดถึง
12 กันยายน 2548 11:09 น. - comment id 514375
กรณีนี่นี้..........................อนุมาน คนหยาบโดยสันดาน.......ดอดร้าย คนหวานอ่อนบ่พาล.........พยาบาท คนชั่วย่อมสุดท้าย...........บ่พ้นเบาะแส
12 กันยายน 2548 11:52 น. - comment id 514387
............
12 กันยายน 2548 12:30 น. - comment id 514398
ไม่ค่อยได้เยี่ยมอย่าคิดว่ามิตรภาพจะจืดจางสิครับ ผมคนหนึ่งล่ะที่นับถือคุณอัลมิตรา
12 กันยายน 2548 14:04 น. - comment id 514425
สวัสดีครับพี่อัลมินตรา.... แวะมาให้กำลังใจครับพี่ ผมทริปทัวร์หลวงพระบางสนใจไหมครับ รัก พี่
12 กันยายน 2548 14:28 น. - comment id 514433
ชื่อบทกวี แรงไปนิดครับ แต่ก็เขียนดีครับ ชื่นชม
12 กันยายน 2548 15:02 น. - comment id 514438
อ่านบทกลอนลำนำดั่งคำร้อง เราพระรองรับรู้ผู้โศกศัลย์ ถ้อยความเจ้ารันทดจรดรำพัน คงอัดอั้นล้นอุราจึงมาครวญ พ้อว่ามิตรห่างหายกลายเป็นอื่น เจ้าขมขื่นชอกช้ำจึงกำศรวล มิตรภาพสิ้นแล้วแผ่วรัญจวน ทุกข์หลากล้วนเผชิญไปคล้ายเอกา รอบกายเจ้าไร้มิตรมาชิดเชื้อ ปราศจากคนกูลเกื้อเมื่อพร่ำหา เพียงจิตเจ้ามั่นไว้ในศรัทธา อย่าโศกาแม้ใครไม่เหลียวแล เทียบเนื้อแท้ทองคำล้ำพิสุทธิ์ แล้ววิมุติละสงสัยในกระแส ตราบสิ้นฟ้าระลึกไว้ไม่ผันแปร แม้นย่ำแย่เจียนตายให้อดทน จงปรับตัวปรับใจให้แกร่งกล้า เล่ห์ใครแฝงร้ายมาอย่าไปสน จะหมื่นแสนคนพาลผลาญผจญ เราหนึ่งคนยังผูกจิตไม่คิดเลือน ยามที่เจ้าพลาดพลั้งในครั้งนี้ เคยมากมีสหายให้กลาดเกลื่อน เปลี่ยนวิกฤติเป็นโอกาสบังอาจเตือน คำว่าเพื่อนเจ้ารู้ได้ว่าใครจริง
12 กันยายน 2548 16:38 น. - comment id 514498
คุณร้อยแปดพันเก้า .. ขอบคุณค่ะ :) คุณคนทะเล .. ขอบคุณค่ะ ชอบรูปของคุณจัง คุณแดดเช้า .. ว๊าว .. ความคิดถึงเป็นจุดเริ่มต้นที่ดี จากนั้น..เราก็ ..(อั่นแน่..) คุณหนอนดุ๊กดิ๊ก .. อัลมิตราชอบข้อความข้างล่างจังค่ะ ..อะไรที่ไม่เป็นไปตามที่ควรยุติธรรมสำหรับเรา ..เหมือนเราได้เป็นเจ้าหนี้ เขาจะกลายเป็นลูกหนี้ ..ไม่ต้องคิดมาก อย่ากังวล ..ไว้รับคืนพร้อมดอกผล ความยิ่งใหญ่ที่แท้..............คือหากรู้จักแพ้ ชนะได้โดยศานติ์ ๚ คุณเพชรพรรณราย .. ขอบคุณค่ะ คุณดอกข้าว .. อัลมิตราช่วงนี้ไล่อ่านนิราศค่ะ ของท่านสุนทรภู่ มีบางชุดที่กล่าวถึงโชคชะตาซึ่งเราต่างก็รู้แจ้งว่า ท่านสุนทรภู่ผ่านวิกฤติในสมัยผลัดแผ่นดิน จากที่เคยเป็นกวีที่เคยได้รับการอุปถัมท์ และทรงโปรด .. ชะตาก็ผกผันจนท่านสุนทรภู่ก็ต้องลี้ภัยออกจากเมืองหลวง เช่นกัน .. ในช่วงชีวิตของคนเรา ก็เหมือนเส้นกร๊าฟ มีรุ่ง มีดับ ตามกาล ค่ะ คุณครูดอยไกลแสนไกล .. สนใจค่ะ ต้องทำอย่างไรบ้างคะ แต่ช่วงเดือน-สองเดือนนี้ มีวันที่ว่างไม่กี่วันเองค่ะ ช่วงนี้ก็เดินทางตลอด อยากไปนะ หลวงพระบาง .. คุณธรรม .. ตอนแรกว่าจะตั้งชื่อ กำศรวลอัลมิตรา .. แต่อ่านชื่อแล้ว จี้เส้นแปร่ง ๆ นี่ก็ยังไม่ลงตัวอยู่เลย หลายหนนะ เขียนกลอนเสร็จ แล้วก็มานั่งคิด เอารูปอะไรประกอบดีว๊า แล้วชื่อกลอนอะไรดีน๊า คุณพระรอง .. โอ้โห ยาว ๖ บท แต่อัลมิตรามีเวลาไม่มากพอ ขออนุญาตติดไว้ก่อนนะคะ บทสุดท้ายให้ความหมายที่ตรงกับความคิดของอัลมิตราค่ะ จากวิกฤตนี้ เราจะรู้ซึ้งถึงธาตุแท้ในน้ำใจของแต่ละคน นับว่า.. คุ้มทีเดียวค่ะ ..๏ มิตรภาพตราบสิ้น.................ดินฤๅ ฟ้าฤๅ เปรยเปรียบจากโอษฐ์หรือ.........ชัดแจ้ง สัมพันธ์มิตรยึดถือ.....................แนบแน่น แต่หากมีเสแสร้ง.......................มิตรแท้แสดงไฉน ? ๚ มิตรภาพตราบสิ้นฟ้า ..
12 กันยายน 2548 17:05 น. - comment id 514514
ไม่ได้ละเลยสักกะติ๊ดนึงเลยน่ะ...แอบร้องไห้ตามทุกทีเลย..(แล้วจะว่าลำพังได้ไงอ่ะ) จอเปียกเลยเข้ามาไม่ได้..อิอิ (มั่วนิ่ม)
12 กันยายน 2548 17:18 น. - comment id 514519
น้ำท่วม(ปาก)หรอ
12 กันยายน 2548 17:54 น. - comment id 514531
รุ่นแรงและหนักแน่นจังเลยค่ะ ถ่ายทอดอารมณ์ได้สุดยอดเลยค่ะ
12 กันยายน 2548 18:01 น. - comment id 514535
แวะมาอ่านสวัสดีคุณอิมตอนเย็นๆค่ะ คุณอิมแต่งกลอนได้ดีจริงๆ ไม่ผิดหวังเลยค่ะ
12 กันยายน 2548 19:10 น. - comment id 514545
ยังหนักแน่น..เช่นคุณอิม..คนเดิมค่ะ..แวะมาเยี่ยมนะคะ
12 กันยายน 2548 21:12 น. - comment id 514560
นึกถึง ขบถคิด คิดขบถ ของใครก็ไม่รู้จำไม่ได้ งานเยี่ยมเหมือนเดิม อิอิ
12 กันยายน 2548 22:23 น. - comment id 514574
คุณกุ้งหนามแดง .. แหะ รำ พังเป็นแถบ ๆจ้า ไอซ์ .. น้ำหมากหรือน้ำลายก็ไม่รู้ กระฉอกแล้วล่ะ คุณsodasasa .. อารมณ์รันทดยิ่งนักค่ะ คุณชลกานต์ .. อย่าเอ็ดไป อาจารย์หมีรมย์อ่านแล้วต้องขำแน่ คราวนี้อัลมิตราเขียนแบบหาที่จบไม่ลงค่ะ คุณราชิกา .. หนัก 55 กก. เหมือนเดิม แต่ไม่แน่ใจเรื่องความแน่นแล้วค่ะ 555 คุณร้อยฝัน .. ของใครก็ไม่รู้ งั้นต้องให้การบ้านแล้วล่ะ
12 กันยายน 2548 22:25 น. - comment id 514575
ใช้คำชัดมากเลยค่ะ...
12 กันยายน 2548 23:54 น. - comment id 514592
คุณatm .. :) ขอบคุณมากค่ะ ป๊ะ ไปนอนกัน ..
13 กันยายน 2548 00:08 น. - comment id 514597
สวัสดีขอรับคุณอัลมิตรา ^_- ไม่แน่ใจว่า ความอ่อนไหวทางอารมณ์ที่มีบ้างของกระผม จะคิดถูกหรือเปล่า ที่ยลแล้วเหมือนหนึ่งประทุมาจากความจริงใจโดยแท้ของสุภาพสตรีท่านหนึ่ง ที่ออกมาเป็นเสมือนภาพ และอักษรา มาเป็นกำลังใจให้ขอรับ
13 กันยายน 2548 01:06 น. - comment id 514613
มาเป็นกำลังใจให้คุณอัลมิตรา... ใครนะทำคุณอัลมิตราได้....
13 กันยายน 2548 01:15 น. - comment id 514614
มรสุมรุมคิดติดในทุกข์ ไม่สนุกเฮฮาดั่งก่อนเก่า อัลมิตราเข้มแข็งแรงไม่เบา กลับต้องเศร้าคราวชะตากันยายน อย่าเศร้าเหงาใจไปเลยเนาะ.....
13 กันยายน 2548 07:52 น. - comment id 514643
คุณสุญญะกาศ .. hmm.. อารมณ์เป็นหนึ่งในส่วนผสมของงานชิ้นนี้ การที่กลั่นอารมณ์ให้เป็นตัวอักษรที่แสดงความรู้สึกที่มีอยู่ บางคราว ยาก... ทั้งที่ไม่น่าจะเป็นสิ่งที่ยากสำหรับการเขียนที่เป็นไปอย่างปกติ ความยากที่บอก คือ ..ยากตรงที่ไม่รู้จะสื่ออย่างไร ให้ตรงกับใจที่สุดค่ะ คุณท่องเมฆา .. ขอบคุณค่ะ วันนี้ฝนตกตอนเช้า อารมณ์ดีค่ะ คุณภูวดินทร์ .. ขอบคุณค่ะ :) ความเป็นจริงที่ซ่อนตอนโศกเศร้า ดั่งขุนเขาโยกสั่นสนั่นไหว จนลาวาที่ปะทุคุข้างใน หลั่งล้นไหลท่วมสิ้นธรณินนอง
13 กันยายน 2548 08:45 น. - comment id 514665
เอ..รู้สึกกลอนนี้เขียนไว้ตั้งนานแล้วนี่ แล้วทำไมพึ่งละหละครับ...
13 กันยายน 2548 11:08 น. - comment id 514711
คุณบินเดี่ยวหมื่นลี้ .. ก็กะว่า รอให้น้ำหนุนจากแม่ปิงมาก่อนค่ะ :)
13 กันยายน 2548 13:36 น. - comment id 514754
น้ำใจกวีศักดิ์สิทธิ์กว่าครับ สำหรับผม ความอาจไม่กิน ขอกินใจแล้วกัน?
14 กันยายน 2548 10:13 น. - comment id 515002
คุณแม่จิตร .. ไว้เราไปชนแก้วโค๊ก กัน นะ