อ่อนใจ...ใครกันหนอมาพ้อถึง เฝ้าคำนึงโศกครวญกำศรวลหา เพียงอักษรต่อกลอนเล่นเป็นจันทรา แฝงเงามาคราครั้งก่อนตอนเหงาใจ ....อ่อนจิต...ครุ่นคิดไปให้ฉงน ....ใครหนึ่งคนประชิดตัวกลัวหวั่นไหว ....อยากรู้จักเฝ้าตามหาจันทร์ทรามวัย ....เหตุไฉนใยปักจิตคิดเคียงกัน ถอนใจ...ปนใหวหวั่นพรั่นอกเอ๋ย คนมิเคยยลเพ็ญพักตร์ปักใจฝัน ไม่เคยยินแม้สำเนียงเสียงรำพัน สายสัมพันธ์เพียงผ่านสื่อคืออักขรา ....ถอนจิต...คิดรำพึงถึงไม่หาย ....ใจมิวายสั่นคลอนตอนไฟหา ....รบกวนจิตคิดเช้าเย็นเพ็ญจันทรา ....หวั่นอุรากลัวเคลิ้มหลงตรงกลอนงาม ตัดใจ...ให้ขาดประกาศแล้ว ว่าน้องแก้วจะเข้าหอวิวาห์หวาม โลกความจริงวิ่งสู่ฝันจันทร์นงราม หวังเพียงห้ามตัดไฟนี้แต่ต้นลม ....ตัดจิต...คิดห่างหายคลายเคลื่อนลับ ....ใยเพ็ญกลับกังวลใจไร้สุขสม ....สายใยกลอนตัดไม่ขาดบาดอารมณ์ ....นั่งเจ่าจมสะกิดใจใยว่าลวง สะดุ้ง...นะ สะดุ้งนี้ที่เอ่ยถึง สะดุดจึงครุ่นคิดฤา ติดบ่วง แค่กลอนใสใช่อยากให้ใครช้ำทรวง ใจทั้งดวงมอบเพียงมิตรจิตไมตรี ....เข้าใจ...ไม่อยากให้ใครนั่งเศร้า ....แค่เพียงเงาดวงจันทรามารศรี ....ฉายแสงนวลชวนเล่นคำพร่ำกวี ....ยึดสิ่งนี้เพียงโลกฝันนั้นเพียงพอ ปลื้มใจ...ใครให้ใจใคร่น้อมรับ ค้อมคำนับอย่างซาบซึ้งตรึงใจหนอ ขอบคุณที่ปักใจกันฝันเคียงคลอ อย่าด่วนท้อขอรอยยิ้มอิ่มอกเพ็ญ ................. ................
9 กันยายน 2548 12:32 น. - comment id 513420
สายลมแห่งความอบอุ่น..ย่อมหวนพัดมาอีกครั้งหนึ่ง..หากเรารอคอย...
9 กันยายน 2548 13:01 น. - comment id 513438
มีรอยยิ้มพริ้มพริ้มอิ่มแก้มฉัน มาแป่งปันแด่เธอเจอบ้างไหม ฝากไว้ในตะวัน-เมฆนั่นไง อย่าเหงาใจ อ่อนใจ ไปเลยนะ..
9 กันยายน 2548 13:25 น. - comment id 513461
..เพียงน้ำคำ..อักขรา..พาอ่อนไหว อย่าปล่อยให้..ใจละเมอ..หลงเพ้อฝัน ให้เพียงสาน...แค่ไมตรี...ที่ลานจันทร์ อย่าผูกพัน...อย่าหวั่นไหว...ในโลกจริง ..เพราะโลกจริง...และโลกฝัน..นั้นแตกต่าง อย่าให้คำ..มาคอยสร้าง...ภาพทุกสิ่ง ว่าเขาดี..เฟอร์เฟค...และรักจริง.. เพราะ..น้ำคำ..ใช่ทุกสิ่ง..แทนตัวคน มากนัก..คนกวี...หลงคำ...บทกวี มากนัก..คนกวี...หลงคำ..พลอยสับสน มากนัก..คนกวี...หลงคำ..ที่คอยปรน มากนัก..คนกวี...หลงคำ..คนกวี ............................................................. จงเขียนกวี..เพียงเพื่อจินตนาการ จงเขียนกวี...เพียงเพื่อความสุขแห่งใจ จงอ่านกวี....เพียงเพื่อศรัทธาในภาษาไทย จงอ่านกวี....ด้วยหัวใจ..แต่อย่าได้..หลงคำ(คน)กวี
9 กันยายน 2548 14:45 น. - comment id 513514
ณ ตรงนี้ ที่เก่า เข้าใจแล้ว ขอน้องแก้ว อย่าอ่อนจิต คิดฉงน อย่าสะดุ้ง ใจไปเลย นะหน้ามล ก้อปุถุชน อาจเผลอใจ ในวารวัน เมื่อคราวนั้น ใจอ่อน จิตก็อ่อน ไม่อาจถอน..ใจถอนจิต ที่คิดฝัน ณ ตรงนี้ ตัดใจ..จิต ที่คิดกัน เข้าใจกัน ไม่พันผูก ยุ่งยากใจ เสียงเพลงพิณ แผ่วแผ่ว แล้วคลายโศก ลมวิโยค พัดผ่านไป ให้จิตใส เสียงระฆัง แว่วแว่ว แผ่วมาไกล ยังปลื้มใจ ในอดีต.....แต่..ไม่หวนคืน.....
9 กันยายน 2548 19:18 น. - comment id 513672
อ่อนใจ...อย่าใจอ่อน ใจร้อน...อย่าร้อนใจ ใจเย็น....อย่าเย็นใจ อ่อนใจ....อย่าใจลอย
9 กันยายน 2548 21:10 น. - comment id 513729
สวัสดี คุณบินเดี่ยวหมื่นลี้ค่ะ สายลมแห่งความอบอุ่น พัดผ่านไปแล้วคงไม่หวนกลับ ผ่านไปแล้วคงผ่านไปไกลลับ ใจคอยปรับใจอยู่รู้เป็นไป ก็เพียงสายลมอุ่นพัดผ่านค่ะ ยังไง ยังไง ต้องพัดผ่านหัวใจไป ไม่มีวันที่เราจะหยุดสายลมไว้ได้หรอกค่ะ แม้หากจะมีสายลมอุ่นพัดมาใหม่อีกครา คงเป็นสายลมอุ่นที่ก่อเกิดใหม่เรื่อยๆ มิใช่หรือ สายลมอุ่นพัดมาบ่อยๆ หลายครา. คงมีสักคราที่สายลมอุ่นหนึ่งในนั้น แปรเปลี่ยนเป็นสายใยล้อมใจกันไว้ ถักทอสายใยแห่งรัก..มั่นนิรันดร์ กาลผ่านไป หากมีเหตุให้สายลมอุ่น พัดหวนคืน คงพัด..มิต้องใจกัน เพราะใจดวงนี้...ถูกล้อมไว้ด้วยสายใยแห่งรัก..แล้ว แล้วใยต้องรอคอย.................. ขอบคุณนะคะ..ที่มาแจม..ทำให้ความคิดรื่นไหลเลยค่ะ
9 กันยายน 2548 21:27 น. - comment id 513737
มีรอยยิ้มพริ้มพริ้มอิ่มแก้มฉัน มาแป่งปันแด่เธอเจอบ้างไหม ฝากไว้ในตะวัน-เมฆนั่นไง อย่าเหงาใจ อ่อนใจ ไปเลยนะ. ****************************** คิก คิก มอบรอยยิ้มพิมพ์ใจมาให้ฉัน ยิ้มแบ่งปันนั้นฝากไว้ที่ใหน มองหา..อุ๊ย..ในตะวัน-เมฆหรือนั่นไง อิ่มแก้มใสส่งยิ้มให้จาก...ชลกานต์ ใช่เหงาใจ...แค่หวั่นใหวในกลอนสวย แค่อ่อนใจ...ใช่ดวงใจไร้สุขสันต์ ใช่ปันใจ......แค่เติมใจมอบให้กัน แค่หวั่นใจ...ใช่ใจฝันวันย้อนคืน ขอบคุณ..ในความเป็นห่วง และสวัสดี งามๆ เลยค่ะ คุณชลกานต์
9 กันยายน 2548 21:45 น. - comment id 513751
สวัสดี คุณนัททียม..ค่ะ แปลกจังค่ะ ในใจสัมผัสความรู้สึก บางอย่าง เหมือนคุ้นๆ เคยคุ้น..กับคำกลอนนี้ คำกล่าวประมาณนี้จังค่ะ... จากใครคนหนึ่งซึ่งคุ้นๆ...ในวาจา..อ่ะ ใครหนอ...นึกไม่ออก เหมือนเราเคยคุยกันมาก่อน...อ่ะ อ่านกลอนคุณแล้ว แต่งกลอนตอบไม่ออกเลยค่ะ โดนใจมากกกกกกกก.......... ถือเป็นคำสอนเลยนะคะ ยังไง.ยังไง..ก้อยังหวงโลก ความจริง ความเป็นส่วนตัวอยู่ค่ะ คงสานไมตรีในโลกกวี ที่ลานเพ็ญ..ลานจันทร์...เพียงจินตนาการ..เท่านั้น เพียงอยากบอกเรื่องราวความรู้สึก...ขณะอ่านให้ใครได้รับรู้อ่ะค่ะ อย่างน้อยก็..เป็นความรู้สึกดีดี..มอบให้กัน ปันไมตรีกันไป... อาจมีบ้างหวั่นใหว..ในตัวอักษร ก้อคงไม่ถึงขนาด...ต่อยอด... ให้เข้าถึงชีวิตจริงหรอกค่ะ.. บอกไว้ก่อน...หากเป็นคนเคยคุย หรือ...เคยรู้จักกัน จับได้ล่ะน่าดู๊.......... อิ..อิ ก่อนอื่น...ยื่นมือมารับดอกไม้ก่อน..ค่ะ
9 กันยายน 2548 22:17 น. - comment id 513784
ณ ตรงนี้ ที่เก่า เข้าใจแล้ว ขอน้องแก้ว อย่าอ่อนจิต คิดฉงน อย่าสะดุ้ง ใจไปเลย นะหน้ามล ก้อปุถุชน อาจเผลอใจ ในวารวัน เมื่อคราวนั้น ใจอ่อน จิตก็อ่อน ไม่อาจถอน..ใจถอนจิต ที่คิดฝัน ณ ตรงนี้ ตัดใจ..จิต ที่คิดกัน เข้าใจกัน ไม่พันผูก ยุ่งยากใจ เสียงเพลงพิณ แผ่วแผ่ว แล้วคลายโศก ลมวิโยค พัดผ่านไป ให้จิตใส เสียงระฆัง แว่วแว่ว แผ่วมาไกล ยังปลื้มใจ ในอดีต.....แต่..ไม่หวนคืน. ************************************* ดีใจที่ได้อ่านผ่านอักษร กับบทกลอนตอบมาว่าไม่หวน เป็นกำลังใจให้ไฟได้ทบทวน ถ้อยรบกวนป่วนใจกันนั้นไม่มี ผ่านมาแล้วผ่านไปไม่ฝังจิต อาจย้อนคิดถึงครั้งเก่าเย้ามารศรี คำปลื้มใจเก็บซ่อนไว้ในฤดี วันนี้มีเพียงอักขรามาต่อกลอน สายน้ำไม่มีวันจะไหลกลับ สายลมลับพัดไปไม่หวนย้อน สายใยขาดตัดเยื่อไปไร้อาวรณ์ สายสมรจะจดจำคำนรรจา สวัสดีค่ะ......... ขอบคุณ ความรู้สึกดีดีที่เคยมอบให้ ขอบคุณ ความในใจที่ได้เผยมา ยินดี กับที่ใจแกร่งกล้าและทรนง ดีใจ ที่ได้พานพบและรู้จักกันค่ะ ( แม้เพียงในอักษรก็ตาม) จะไม่ลืม จะจดจำวันนั้นไว้...นะคะ ไมตรียังมีให้เสมอ..
9 กันยายน 2548 22:25 น. - comment id 513790
อ่อนใจ...ใช่....ใจอ่อน ใจร้อน...ใช่....ร้อนใจ ใจเย็น...ใช่....เย็นใจ อ่อนใจ...ใช่....ใจลอย ...อิอิ.... ...สวัสดีค่ะ...คุณกันเอง.. แค่อ่อนใจใช่ใจอ่อน อกสะท้อนอ่อนเอนใหว บางวาจาพาให้ใจหวามไป แค่หวั่นใหวใช่ใจอ่อนกับกลอนงาม ....ยามใจลอย...
10 กันยายน 2548 06:58 น. - comment id 513889
เข้ามารับดอกไม้..นี่ๆๆ อย่าจับเลย จับได้ก็ไม่รู้จักหรอกนะ ....ก็ได้มาเขียนกลอนแนวนี้ในกระทู้ของคุณเพียงเพ็ญโดยมาก..ไม่ได้เขียนกลอนใช้คำแบบนี้เลย .....ลานกลอนที่โพสประจำเงียบมากๆ เป็นบอร์ดที่ดูเหมือนไม่มีใครใช้นอกจากมาแปะโฆษณา มีนัทฯกับเพื่อนกวีอีกคนที่เข้าไปต่อกลอนกันเท่านั้น ต่อกลอนมาเป็นปีก็ไม่รู้จักเลยว่าเป็นใคร..ต่างคนต่างไม่รู้จัก..เพียงศรัทธาในภาษากวีที่โต้กัน ..เงียบสงบดี..
10 กันยายน 2548 12:28 น. - comment id 513947
..ค่ะ...ค่ะ..โอเชค่ะ..ไม่จับ..ก็ไม่จับ.. ..เพียงสำทับว่าวาจาเหมือนเคยคุ้น ..เคยสั่งสอนพร้อมต่อกลอนอุ่นละมุน ..เพ็ญเนื้ออุ่นจำฝังใจในลีลา.... ................***.................. ..แค่รู้ว่าเข้ามาทักทายต่อกลอนก็..ยินดียิ่งแล้วค่ะ ..อยากรู้จังค่ะ..ลานกลอนที่โพสต์ ประจำคือที่ใหนคะ... ..เห็นบอกว่าเงียบสงบดี....ชอบแบบเงียบๆ เหมือนกันค่ะ ..เผื่อจะได้ไปเยี่ยมๆ เมียงๆมองดู บ้างอ่ะค่ะ ................... ดอก..ไม้รับไปแล้วอย่าให้ช้ำ ก้าน..แช่น้ำให้สดใสไม่ปล่อยเฉา กลิ่น..หอมอวลชวนรื่นชื่นไม่เบา กลีบ..บางเบาจงถนอมออมน้ำใจ...ได้ใหมเอย.. .......................
13 กันยายน 2548 19:10 น. - comment id 514845
ได้เพื่อนร่วมอาชีพเพิ่มอีกคน.. ที่เล่ามาว่าอยู่โรงเรียนใหญ่ ครูใหญ่พอจะเข้าใจบรรยากาศดี โรงเรียนเล็กของครูใหญ่ลำบากกายแต่ค่อนข้างสบายใจ ชอบโรงเรียนเล็กตรงที่สร้างสรรค์งานได้อย่างอิสระเสรี ย้ายมาอยู่โรงเรียนเล็กไหมล่ะ กลอนเพียง...อ่อนใจคงเจาะจงจะเขียนถึงใครบางคนแน่เลย ติงนิดเดียวไม่ว่ากันนะ สระ ใ ในบทที่สองหลายตัวเปลี่ยนเป็น สระ ไ จะดีกว่าไหม?
15 กันยายน 2548 21:16 น. - comment id 515784
ขอบคุณ ครูใหญ่ มากค่ะ สำหรับข้อติติง..แก้ไขแล้วค่ะ แหม..อายจังค่ะ...เป็นครูแต่พิมพ์ผิดเนี่ยนะ น่าตีมือตัวเองจริงๆ ไม่อยากจะแก้ตัวว่า...สอนแต่ภาษาอังกฤษ ทั้งวัน และทุกวัน เลยตกภาษาไทยแบบนี้แหล่ะค่ะ ...ตอนนี้กำลังเดินเรื่องย้ายไปอยู่โรงเรียนเล็กแล้วค่ะ ...ถึงจะอยู่ในอำเภอเล็กๆ ไม่เจริญมาก..แต่ขอเพียงอยู่แล้ว อบอุ่นใจและสบายใจ ...ไฟในตัว คงจะไม่มอดไปเสียก่อน..น่ะค่ะ