เปิดเซฟเก่าพบบทประพันธ์อันน่าแปลก รอยแตกแยก..รันทด แห่งบทแม่ ฉันหยิบมาอ่านย้ำช้ำดวงแด เจ็บปวดแท้วันเก่า...อันเศร้าทึม......//*** ตอนหนึ่ง...หัวใจแม่...พุธ 22 พ.ค. 2528 ๑ เห็นภาพลูกน้อยฟูมฟาย... .ดิ้นเต้นร้องไห้ หัวใจเจ็บช้ำเกินทน ๒ ใจใครจะไม่ดิ้นรน....นี่มันใจคน มันมิใช่เป็นใจควาย ๓ โอ้ โอ๋ หัวใจเจียนวาย.. .เจ็บปวดร้าวสลาย.......เจ็บกายไม่เหมือนเจ็บใจ ๔ หัวอกลูกรักขมไหม้.. ..ดวงใจน้อยน้อยนั้นไซร้.......เจ็บปวดเหลือกระไร...กัลยา ๕ ลูกจ๋าแม่จะปลอบแก้วตา แม่จะกล่อมเจ้านิทรา...ปราถนาสิ่งใดจะฟัง ๖ แม่จะลูบลูกยาที่หลัง ระวังใจพลั้ง......ใจเจ้าจะขาดวิบวาย ๗ โธ่โถนังแม่มดร้าย นังคนใจควาย......ใจควายอยู่ในร่างคน ๘ นางช่างโหดร้ายเหลือทน นางแกล้งชักยนต์......ชักใยทำร้ายลูกยา จบตอน ๑..ทิกิ_tiki เมื่อหัวใจเจ้าร้อนเป็นไฟ หัวใจแม่ยิ่งกว่าไฟเผา แม่จะเอาใจเจ้ายิ่งกว่าอะไร ทิกิ_tiki สิ่งที่บันทึกไว้เป็นลายมือของฉันเองเขียนด้วย..ปากกาเมจิค..สีม่วง บนกระดาษสมุดบันทึกเล่มครึ่งเอสี่อยู่ในซองเรื่องของลูก ฉันหยิบขึ้นมาดู...แลเห็นความเจ็บช้ำน้ำใจในวันนั้น สิ่งที่เจ็บนั้นวันนั้นผ่านไปหมดสิ้นแล้ว..ยี่สิบปี...ยี่สิบปี ที่ทุกคน..เจ็บปวดจากวาระเก่าๆที่คนยังไม่เข้าใจกัน ที่คนยังไม่อดทนต่อกัน... ........เมื่อเขียนลง ณ ที่นี้ เคาะแป้นพิมพ์ลอกลงมา เสมือนน้ำตาฉันซึมออกมา...โอ..กรรม.. คัดลอกมาตามที่มันเป็นมิได้ปรุงแต่ง...ตามที่ความรู้สึกจากหัวใจในวันนั้น
20 กรกฎาคม 2548 11:34 น. - comment id 493661
.........รู้สึกถึงหัวอกของแม่ ....เห็นความรักที่แม่มีต่อลูก....ค่ะอย่างไรก้อเป็นกำลังใจให้พี่นะค่ะ.....
20 กรกฎาคม 2548 11:56 น. - comment id 493669
ตอบ # ....11 ..........น้องเรน มามี้คงยุ่งอยู่น้องเรน มิเอียงเอนไปไกลอย่าได้ขึ้ง ดวงใจแม่แน่นักจักรำพึง รักซาบซึ้งแต่ลูกผูกวิญญาน์ ทิกิ ตอบ # ....12 ..........คุณสุญญะกาศ อ้อมกอดแม่หนักแน่นนั้น ช่วยป้องกันทุกข์ภัยอย่างแน่นหนา ทิกิ ตอบ # ....13..26%...คุณเพลงผิว ขอบคุณที่แวะมาเยือนค่ะ บทกลอนรักของแม่ จะล้านปีก็ยังอยู่ในสมัย จะรักของปลาวาฬหรือรักของคน มันก็ไม่ต่างกันเลยค่ะ ทิกิ%36 ตอบ # ....14..26%... คุณ ทำมะชาดคะ ความรักของแม่นั้น กี่ปีกี่ชาติ...ก็เป็นสัญชาติญาณ ที่น่าเห็นใจ...ไม่ว่าจะเกิดอะไร ก็รักลูกไว้ก่อน..สุดหัวใจค่ะ ทิกิ
19 กรกฎาคม 2548 21:32 น. - comment id 493705
อ่านแล้วคิดถึงแม่มากค่ะ มาอยู่ไกลอย่างนี้ทำให้หนูรู้ว่า แม่คิดถึงหนูขนาดไหน เพราะหนูก็พึ่งรู้ตัวว่าคิดถึงแม่มากๆ เมื่อมาอยู่ที่นี่ โทรไปหาแม่ทีไร แม่ก็มีแต่จะร้องไห้ทุกที แล้วก็คุยไม่ได้ ต้องคุยกับหลานกับพี่แทน คิดถึงแม่ค่ะ
19 กรกฎาคม 2548 21:54 น. - comment id 493716
คุณยังเยาว์คะ แม่มักรักลูกสาวมากห่วงมาก เป็นเช่นนั้นจริงค่ะ เราก็รักลูกสาวเราเหลือเกินค่ะ รักมากห่วงมาก แต่ดีใจที่เธอประพฤติตัวดี หยิ่งมาก...แคร์ชื่อเสียงมาก ก็ดีใจค่ะ...แบบไว้วางใจได้ หายห่วงไปมากแต่ก็ยังห่วงอยู่ค่ะ ยิ่งตอนเล็กๆลูกคือดวงใจจริงๆค่ะ
19 กรกฎาคม 2548 21:58 น. - comment id 493719
ต่อให้แม่ดุ แม่ตีอย่างไร ก็ไม่เคยใช้คำกล่าวอย่างข้อ ๗. เลย .. แย่จัง ๗ โธ่โถนังแม่มดร้าย นังคนใจควาย......ใจควายอยู่ในร่างคน
19 กรกฎาคม 2548 22:00 น. - comment id 493721
ลูกน้อยน่าสงสาร เจอแม่ไม่ต้องการห่วงหา ทำให้ลูกน้อยต้องเศร้าวิญญา น้องร้องไห้จ้าน่าสงสารจริงจริง คนเป็นแม่ส่วนใหญ่รักลูกทุกคน
19 กรกฎาคม 2548 22:18 น. - comment id 493729
....ตอบ # 3 คุณอัลมิตรา ไม่มีใครว่าลูกอย่างนั้นดอกค่ะ เป็นความเจ็บใจของเราที่มีต่อคนบางคน ที่ทำร้ายน้ำใจลูกเราเราเจ็บใจก็เขียนไว้ใน กระดาษเท่านั้นเองค่ะ เพราะเด็กมิรู้จะระบายความรู้สึกคับแค้นใจ ของเด็กได้อย่างไร ก็ร้องไห้งอแงโยเยขัดใจ ถึงแก่ปีนรั้วบ้านออกมาเพื่อจะไปหาแม่ให้ ถึงที่ทำงานแม่ให้ได้... เด็กคงจะไม่เป็นขนาดนั้นถ้าในบ้านนั้น ไม่แสดงกิริยาอาการดั่งที่เราบันทึกด้วยความ เจ็บใจไว้..เช่นนั้นใช่ไหมคะ.. เป็นบันทึกถึงความรู้สึกที่เจ็บปวดกับการกระทำของผู้หญิงคนหนึ่ง..ที่ทำให้เราต้อง เผ่นกลับจากที่ทำงานข้ามทางด่วนไปเดี๋ยวนั้น และมันยุ่งเหยิงชุลมุนวุ่นวายไปอย่างนั้น.. เฮ้อ...เมื่ออ่านบทนี้จึงรู้สึก ขมขื่นถึงความรุ้สึก นั้นได้จริงๆ เราไม่เคยด่าว่าลูกเช่นนั้นค่ะ โปรดเข้าใจด้วย ทิกิ
19 กรกฎาคม 2548 22:23 น. - comment id 493731
....ตอบ # 4..คุณผู้หญิงไร้เงาคะ .....ทิกิได้ชื่อว่าเป็นแม่ที่รักลูกเกินควรค่ะ จึงถูกนินทาว่าร้ายอยู่เป็นประจำ ว่าตามใจลูกลูกเธอจะไม่ดีจะเสียคนจะฯลฯ เป็นประจำ...ทำให้หยิ่งมาก ว่าอย่างไรจะเลี้ยงลูกเราให้ดีให้ได้ ....เวลาที่ผ่านมาจนถึงวันนี้ วันที่ทุกคนรอบข้างให้ความชื่นชม ศรัทธาในตัวลูกเรา เป็นคำตอบที่เราภูมิใจ ว่าเราก้าวผ่านวันอันเจ็บช้ำน้ำใจนั้นมา ได้เพราะความอดทนแท้ๆ เพื่อลูกค่ะ
19 กรกฎาคม 2548 22:38 น. - comment id 493734
เจ้าเด็กชายตัวน้อยของเราเข้าไปหาแม่ และส่งกระดาษให้ หลังจากแม่เช็ดมือกับผ้ากันเปื้อนแล้ว เธอก็ก้มลงอ่าน ค่าตัดหญ้า - 5 บาท ค่าทำความสะอาด - 1 บาท ค่าซื้อของให้แม่ - 2.50 บาท ค่าดูแลน้องชาย - 2.50 บาท ค่าเอาขยะไปทิ้ง - 1 บาท ค่าได้คะแนนดี - 5 บาท ค่ากวาดสนาม - 2 บาท รวม ค้างชำระ - 19 บาท เธอหยิบปากกาขึ้นมา พลิกไปด้านหลังแล้วเขียน เก้าเดือนที่แม่อุ้มท้อง - ไม่คิดเงิน เวลาที่แม่พยาบาลและดูแลลูก - ไม่คิดเงิน ค่าที่ลูกทำให้แม่เสียน้ำตา - ไม่คิดเงิน ของเล่น อาหาร เสื้อผ้า พาเที่ยว - ไม่คิดเงิน แม้แต่เช็ดน้ำมูกให้ - ไม่คิดเงิน เมื่อรวมทั้งหมดเป็นราคาเต็มของความรัก - ไม่คิดเงินหรอกจ๊ะลูก เมื่อรวมทั้งหมดเป็นราคาเต็มของความรัก ไม่คิดเงินเหมือนกัน เมื่อลูกชายของเราอ่านสิ่งที่แม่เขียนแล้ว น้ำตาหยดโต ก็ไหลออกมา เขาสบตาแม่และพูดว่า \"แม่ครับ ผมรักแม่จริง ๆ นะครับ\" แล้วเขาก็เอาปากกาเขียนหนังสือตัวโต ๆ ว่า จ่ายหมดแล้ว แม่จ่ายหมดแล้ว แต่ลูกทอนให้ยังไม่หมด ..... อ่านแล้ว น้ำตาซึมเลยค่ะ เฮ้อ ... ...........เจ้านกกะป่วนอ่านเจอมาน่ะค่ะ เลยเอามาให้เพื่อนๆได้อ่านบ้าง อาจทำให้เพื่อนๆพี่ๆ ได้รักและคิดถึงแม่มากขึ้นนะค่ะ .........
19 กรกฎาคม 2548 22:49 น. - comment id 493738
คุณทิกิรีบตอบอัลมิตรา เพราะอัลมิตราเข้าใจผิด ขอบคุณค่ะ .. แต่ ก็ผิดซ้อนผิด เพราะอัลมิตราอ่านไม่ละเอียดเอง เข้าใจจากเนื้อกลอนว่า ตอนหนึ่ง...หัวใจแม่...พุธ 22 พ.ค. 2528 ๑ เห็นภาพลูกน้อยฟูมฟาย... .ดิ้นเต้นร้องไห้ หัวใจเจ็บช้ำเกินทน ๒ ใจใครจะไม่ดิ้นรน....นี่มันใจคน มันมิใช่เป็นใจควาย ๓ โอ้ โอ๋ หัวใจเจียนวาย.. .เจ็บปวดร้าวสลาย.......เจ็บกายไม่เหมือนเจ็บใจ ๔ หัวอกลูกรักขมไหม้.. ..ดวงใจน้อยน้อยนั้นไซร้.......เจ็บปวดเหลือกระไร...กัลยา ๕ ลูกจ๋าแม่จะปลอบแก้วตา แม่จะกล่อมเจ้านิทรา...ปราถนาสิ่งใดจะฟัง ๖ แม่จะลูบลูกยาที่หลัง ระวังใจพลั้ง......ใจเจ้าจะขาดวิบวาย ๗ โธ่โถนังแม่มดร้าย นังคนใจควาย......ใจควายอยู่ในร่างคน ๘ นางช่างโหดร้ายเหลือทน นางแกล้งชักยนต์......ชักใยทำร้ายลูกยา ขอถอดความที่ละชุด นะคะ 1. ลูกร้องไห้ ดิ้นเต้น 2. ไม่เข้าใจว่า ใครคือ ใจควาย .. อันนี้ยกประเด็น 3. ตรงนี้ไม่ได้บอกว่าเป็นหัวใจของแม่ อัลมิตราอ่านแล้วตีความไม่กระจ่างอีกนั่นล่ะค่ะ 4. วกกลับมาถึงลูกหรือเปล่า ก็ไม่รู้ 5.แม่เลยเข้าไปปลอบ อยากได้อะไรจ๊ะ จะหาให้ 6.โอบกอดปลอบกันไป 7. ** ตรงนี้ สำคัญ ไม่ทราบว่ากล่าวถึงบุคคลที่สาม เพราะก่อนหน้า เห็นมีอยู่สองคน แม่-ลูก ค่ะ ขออภัย ที่ตีความไม่กระจ่างอีกแล้ว 8. สืบเนื่องมาจากข้อ 7 . ก็เลยนึกว่าแม่ตีลูก ที่ต้องอธิบายความมา ก็เพื่อให้ความเข้าใจที่ถูกต้องค่ะ ขอโทษด้วยนะคะ ที่อ่านแล้ว แปลประเด็นไม่ออกในบางบท เหตุเพราะ อัลมิตราไม่ค่อยรู้ที่มา เบื้องลึก ๆ มูลเหตุที่เขียนค่ะ อัลมิตราเคยเห็นเด็กบางคน ด่าทอพ่อแม่ เวลาที่ถูกพ่อแม่ทำโทษ .. ก็เลยหยิบมาเข้าใจผิดค่ะ ขอโทษคุณลูกสาว ของคุณทิกิด้วยนะคะ
19 กรกฎาคม 2548 23:17 น. - comment id 493750
ป็นบทเรียนที่ดีค่ะ แต่ก็ดีที่เรารีบสื่อบอกไปก่อนไม่งั้นคนอื่นอ่านก็ไปกันใหญ่อีก เพราะคุณอิมไปคิดว่าลูกว่าเราอีก เหอๆๆ ราก็ว่าเอเขาเข้าใจผิดหรือว่าเราว่าลูก คิดก็ขำดีเหมือนกันค่ะ แบบกระซิบคำเดียวกันแต่เข้าใจไปคนละทางสองทาง ขอบคุณคุณอัลมิตราที่แวะมาแจกแจง เราจะได้ถือเป็นบทเรียนในการ สื่อความในบทประพันธ์ในภายหน้าค่ะ แต่งานนี้...พอดียกมาสดๆจากกระดาษ บันทึกที่ค้นมาวันนี้ค่ะ อย่างไรก็ขอบคุณคุณอัลมิตรามากค่ะ ที่ทำให้กระจ่างดีมากค่ะ จะต้องหาวิธี ใส่ * remarks ไว้ต่อไปค่ะ ขอบคุณมากค่ะ
19 กรกฎาคม 2548 23:41 น. - comment id 493756
คุณ นกกะป่วน ขอบคุณที่แวะมาเยี่ยมพร้อมบทความดีๆค่ะ ทิกิ
20 กรกฎาคม 2548 00:38 น. - comment id 493778
ตอนเรน..ถูกรังแก.. มองชะแง้ .. หามามี้.. ร้องไห้ ..ฟ้อง..เพราะถูกตี.. มามี้ .. ก็ไม่มา .. แว้ป..
20 กรกฎาคม 2548 01:34 น. - comment id 493786
อืม...ขอรับ เข้าใจหัวใจแม่เรามากที่สุด คือตรงที่เรามีลูกแล้วนั่นแล.. คราวนี้ลูกเอ๋ย เข้าใจหัวใจแม่ก่อนที่จะสายเกินไปเสียด้วยนา กระผมคิดว่าการกอดเป็นภาษากายที่อบอุ่นและควรใช้กับท่านบ่อยๆด้วยนะขอรับ
20 กรกฎาคม 2548 02:02 น. - comment id 493800
อืม บทรำพันตั้ง20 ปี...ยังเป็นจริงในความรู้สึกอ่อนไหวของคนในสังคม.. แวะอ่านครับ..
20 กรกฎาคม 2548 12:58 น. - comment id 493941
วันนี้ค้อปี้งานลงคอมพ์ มี ๔๐ บทงาน กำลังดูลีลางานเก่าจากอารมณ์ของเรา เอ บันทึกเป็นกาพย์ฉบังไว้ได้ไงนะเรา ???
20 กรกฎาคม 2548 13:37 น. - comment id 493974
แวะมาทักทายพี่ทิกิค่ะ สิ่งที่ล่วงมาแล้ว ยี่สิบปี ถือว่าเป็นอดีต อย่าได้คิดถึงเลยนะคะ ปัจจุบันพี่ทิกิสุขสบาย อะไรที่สบายใจ ทำแล้วมีความสุข ก็ให้ทำตรงนั้น หากแต่เมื่อหวนคิดถึงอดีตที่ผ่านแล้วทำให้น้ำตาไหล ถ้าสิ่งนั้นมันเจือด้วยความสุขใจ ร้องออกมาเถอะค่ะ ล้างตาด้วยน้ำตา ดวงตาจะสดใสหลังจากที่เราร้องจบแล้วค่ะ คิดถึงพี่ทิกิเสมอมาค่ะ
20 กรกฎาคม 2548 15:05 น. - comment id 494030
คุณมัดหมี่ขอบคุณที่แวะมาเยี่ยมค่ะ เห็นบทประพันธ์ที่ฉีกเก็บไว้ ก็เลยนำมาลงเป็นตัวอย่าง นี่เป็นขนานเบา ที่ฉีกทิ้งไปแล้วนานมาแล้ว เผาไฟไปก็เยอะแล้ว เพราะไม่รู้จะเก็บความทุกข์เหล่านั้น ไว้ทำไมเป็นกระบุงๆๆๆ ค่ะ ถ้าเก็บไว้คงมีเรื่องไดอารี พิศดารยิ่งกว่ารามเกียรติ์อีกเป็น หลายเล่มจบ ยกมาพอเป็นกระเซ็นกระสายยา(ดำ) วันนี้ผลปลายท้ายเราชนะ แต่ก็ยังไว้ใจไม่ได้ค่ะ เกิดเศรษฐกิจพลิกล็อคอีกรอบ เราก็ถูกถล่มเหมือนเดิม มีเงินทองนับเป็นน้องเป็นพี่ ไม่มีเงินไม่มีทองไม่นับน้องไม่นับพี่ ขอบคุณอีกครั้งค่ะ ทิกิ
20 กรกฎาคม 2548 23:33 น. - comment id 494238
คำว่าเซพนึกว่าจะบรรจุเงินไว้เต็มตู้เซพ กระดาษเก่าถึงไม่มีราคา แต่มีคุณค่ามากแก่ผู้ได้อ่านครับ
21 กรกฎาคม 2548 21:02 น. - comment id 494437
ขอบคุณคุณตัวป่วนฯค่ะ กระดาษเก่าๆบางครั้งก็โน้ตอะไรจากใจไว้ ในวันนั้นอาจไร้ความหมาย นานๆไปสะกิดใจให้รู้ความทุกข์ทรมาณ ที่ผ่านมาได้เหมือนกันค่ะ แล้วมันก็ผ่านไป มนุษย์ก็ต้องอดทนต่อกันให้อภัยกัน ต่อไป... อดทน...คำนี้สูงค่าจริงค่ะ ขอบคุณอีกครั้งค่ะ ทิกิ