ละอองพร่างฟ้า ..๏ ยามอรุณแสงทองผุดผ่องฟ้า หมู่ดาราล่องลอยคล้อยเหลี่ยมเขา ม่านหมอกเมฆเคลียคลอล้อดั่งเงา ระยับพราวพร่างสีที่ขอบนภา ละอองรุ้งพวยพุ่งวนปนน้ำค้าง สุดสล้างงดงามอร่ามหล้า วับวาวแววพร่างพรายไล้นัยน์ตา ทิวทัศน์วนาภิรมย์สมอารมณ์ ลมเย็นโปรยหอมหวนล้วนกฤษณา เหล่าสกุณาขับขานลั่นอาศรม ผีเสื้อบินเริงร่าน่าภิรมย์ ยิ่งเคล้าชมร่มรื่นชื่นจิตใจ ผ้าสีทองรอนริ้วปลิวคล้ายคลื่น ความฉ่ำชื่นระรื่นจิตผุดผาดใส ภิกษุหนุ่มร่างสันทัดนวยนาดไป พระท่านได้โปรดสัตว์ลัดเลี้ยวจร หวนคำนึงถึงทางหลงพะวงรัก ที่มันชักใจไปดุจสิงขร เป็นห่วงนอกกลอกกลับไม่แน่นอน สุดสะท้อนอารมณ์ต้องข่มคิด อนาถหนอตัวเราเฝ้าเพียรอยู่ กลับถูกกู่เหหันคล้ายวิปริต เห็นผ้าเหลืองเรืองวิไลให้วิจิตร เข้าสถิตละลายห้วงบ่วงของมาร อัตตาหิอัตตโนนาโถ อีกมากโขไม่เป็นซึ่งแก่นสาร ตัวของเราเป็นที่พึ่งจึงสราญ อีกสังขารอันไม่แท้แน่จริงเรา ขอเขียนโคลงกลอนนี้เพื่อฝึกเล่น ฝึกเพียรเป็นปัญญาแก้โง่เขลา สร้างจินตนามาไว้เพื่อตรองเอา แล้วผูกเข้าเอาไว้เพื่อไตร่ตรอง ทิวาลอยเลื่อนสูงมุ่งจรัสฟ้า มวลนภาหล้าสว่างพ้นจากเศร้า ให้เบิกบานผ่านห้วงช่วงมึนเมา จะขอเอาพุทธธรรมล้ำเลิศครอง.๚ะ๛ ๙๙๙ แก้วประเสริฐ. ๙๙๙
29 มีนาคม 2548 14:13 น. - comment id 446134
...ละอองฟ้าพร่างพรมมาโลมรื่น ปลุกสำนึกให้ตื่นจากหลับไหล ละอองฟ้าหล่นมาทัดดวงใจ เป็นหยดใสส่งเติมกำลังกาย..............@ เยี่ยมพี่ครับ
29 มีนาคม 2548 14:29 น. - comment id 446143
++ +++ อัตตาหิ อัตตโน นาโถท่าน ตนเท่านั้นเป็นที่พึ่งแห่งตนได้ เสาะแสวงแก่นสารลึกข้างใน สุขสงบอยู่ที่ใจได้ขัดเกลา.. ++ ++++ ++ **หวัดดีจ่ะลุง..นั่งสมาธิ..เยอะนะจ่ะ..แล้วจะสงบ** ^____^
29 มีนาคม 2548 14:38 น. - comment id 446150
ละอองพร่างฟ้างดงาม ขอบเขตแคว้นคามขุนเขา เงียบสงบสงัดนิ่งดวงดาว พร่างพราวไพรพฤกษ์ดงดาร ท่ามกลางไพรพงพฤกษา ภิกษุปวารณาสังขาร ถวายตนเลือดเนื้อวิญญาณ มุ่งมั่นธรรมนึกตรึกตรอง...ฯ เพราะมากมากครับพี่แก้วฯ...ชื่นชมจากใจจริง จริง...อดไม่ได้ที่เติมความรู้สึกด้วยกลอนใน เรื่องเดียวกัน...ฯ
29 มีนาคม 2548 15:25 น. - comment id 446180
ก่อเกิดกำเนิดกายในไพรพง ไม่หลุ้มหลงขออยู่พงในพนา ป่าเขาคือบ้านลำธารเย็นสุขกว่า พินิดพิจารณาธรรมธาราพนาไพร มาชมกลอนธรรมอีกบทของแก้วประเสริฐ์ค่ะ
29 มีนาคม 2548 15:55 น. - comment id 446202
สองปักษาถลาร่อนเล่นก้อนเมฆ ปลีกวิเวกสองกายจากหลายหัว กระพือปีกหลีกจังหวะแต่ละตัว คงนึกกลัวมัวตระหนักไม่ยักไป ผมจ้องนกสองตัวนี้มานานแล้วหล่ะครับ... ยังไม่ไปไหนเลย บินอยู่กับที่
29 มีนาคม 2548 16:51 น. - comment id 446235
ขำคุณ Keep love จัง.... ผมลองทำตามท่านดู..นกสองตัวนี้ไม่ไปไหนเลยจริงๆ คิดได้ไงเนี่ย...อิอิ...
29 มีนาคม 2548 17:04 น. - comment id 446243
แผ่นฟ้ากว้างบางช่วงปวงเมฆหนา บางครั้งดำทะมึนพาขวัญหาย บางคราวโล่งโปร่งตาพาสบาย เหมือนชีพนี้มากมายในฉากกรรม ความเปลี่ยนแปร...สิ่งแท้จริงที่สุด จิตมนุษย์เปลี่ยนไปไม่อิ่มหนำ เกิดแล้วดับนับไม่ถ้วนในมวลธรรม จึงเป็นเรื่องไม่น่าขำที่เปลี่ยนใจ สวัสดีค่ะคุณแก้วประเสริฐ มาอ่านงานสวยๆค่ะ
29 มีนาคม 2548 19:23 น. - comment id 446280
มองเหม่อฟ้าทางไกลสุดผ่านพ้นน้ำ ใจระกำเพียงใด ให้หม่นหมอง เห็นผ้าเหงือง เดินมา กราบเท้ามอง เป็นคัลลองครองธรรม ขอทำดี แวะมาหาพี่แก้ว แว่วไม่ผิด เสียงสถิตใสหนูดูไพรศรี เด็ดดอกไม้ พรรณณามาดม ชมกันมี ครอบครัวมีความสุข เป็นสุขพอ แวะมาเยี่ยมพี่แก้วนะคะ แต่งได้ดี ชอบภาพมากถึงมากมี่สุด
29 มีนาคม 2548 19:52 น. - comment id 446297
สกุณาเริงร้องก้องไพรพฤกษ์ ให้รู้สึกอ้างว้างร้างจิตฝัน เคยคลอเคียงคู่เคล้าหยอกเย้ากัน กลับมาพลันห่างเหินเกินทำใจ.......ฯ แฝดเพื่อน...นก 2 ตัวนี้น่ารักจัง...ไม่ยอมไปไหนเลย...ทำได้ไงคะ!!!...ชอบมากค่ะ..ภาพสวย..กลอนงาม....มาชื่นชมจ๊า.....
29 มีนาคม 2548 21:43 น. - comment id 446378
แต่งได้ดีค่ะ ผู้หญิงไร้เงาไม่ถนัดกลอนลักษณะนี้เท่าไหร่ จึงขอติดไว้สักผลงานนะค่ะ อิอิ
30 มีนาคม 2548 11:01 น. - comment id 446596
ผมเคยเขียนเรื่องหนึ่ง นาม ทุ่งแสงสงฆ์ เขียนบรรยายถึงความงดงามแห่งภิกษุสงฆ์ในยามที่ออกเดินสู่ป่าพนารามนะครับ อ่านบทกลอนแบบนี้ทีไรก็พานให้นิ่งสงบแล้วก็ปล่อยวางได้เสมอมา
1 เมษายน 2548 02:59 น. - comment id 447553
คุณ ดอกข้าว น้องวิจิตร พี่ก็เขียนไปเรื่อยๆตามอารมณ์เพื่อความสบายใจเท่านั้นเอง ขอขอบคุณน้องมากนะครับ แก้วประเสริฐ.
1 เมษายน 2548 03:01 น. - comment id 447554
คุณ น้ำใส จ้า...พยายามเหมือนกันสงบนะสงบหรอกไม่รู้จะเขียนอะไรก็เรื่อยๆเปื่อยไปอย่างงั้นเองแหละ ขอบใจมากนะหลาน แก้วประเสริฐ.
1 เมษายน 2548 03:08 น. - comment id 447555
คุณ มนต์กวี ครับเชิญตามสบายเลยนะครับ เวทีนี้พร้อมเพื่อเพื่อนพี่น้องทุกๆคนครับขอขอบคุณนะครับ แก้วประเสริฐ.
1 เมษายน 2548 03:15 น. - comment id 447557
คุณ แก้วนิดา ทุกสิ่งทุกอย่างในโลกนี้เป็นธรรมทั้งสิ้น อยู่ที่ว่าเราจะค้นพบหรือไม่ หากพิจารณาไตร่ตรองแล้วก็จะรู้แจ้งเห็นจริง ก็จะเกิดการละวางเกิดขึ้นครับ ขอบคุณนะครับ แก้วประเสริฐ.
1 เมษายน 2548 03:18 น. - comment id 447558
คุณ keep love นกสองตัวเปรียบเสมือนชีวิตที่ไม่ยอมไปไหนต้องวนเวียนว่ายกระแสรกรรมอยู่กระมังครับถึงไม่ได้ไปไหนเสียที ต้องบินไปตามกระแสรกรรมที่สร้าง อิอิ เดาสุ่มครับ ขอบคุณมากนะครับ แก้วประเสริฐ.
1 เมษายน 2548 03:25 น. - comment id 447561
คุณ ...... เขาดูภาพคงติดตาติดใจกระมังแล้วเลยนึกเกิดอารมณ์กลอนเขียนมาฝากครับขอบคุณนะครับ แก้วประเสริฐ.
1 เมษายน 2548 10:56 น. - comment id 447653
คุณ พี่ดอกแก้ว ขอขอบคุณในกลอนงามและน้ำใจมากครับ แก้วประเสริฐ.
1 เมษายน 2548 10:58 น. - comment id 447655
คุณ ทรายกะทะเล ครับขอบคุณกลอนงามและความมีน้ำใจนะครับ แก้วประเสริฐ.
1 เมษายน 2548 11:02 น. - comment id 447656
คุณ ราชิกา ผมไม่ได้ทำหรอกครับ เพียงเห็นงดงามดีก็เก็บภาพไว้เท่านั้นเองแหละ ผมชอบไปเข้าเวปฯหาภาพไว้ลงหน้าคอมฯหากแต่งกลอนก็เอามาลงไว้ครับ ขอขอบคุณแฝดเพื่อนนะครับ แก้วประเสริฐ.
1 เมษายน 2548 11:04 น. - comment id 447657
คุณ ผู้หญิงไร้เงา ผมคิดว่าคุณทำก็ได้ครับเพียงแต่ไม่ชอบ ชอบแต่งเรื่องรักๆใคร่เท่านั้นเองแหละครับ ขอขอบคุณนะครับ แก้วประเสริฐ.
1 เมษายน 2548 11:07 น. - comment id 447660
คุณ ลำน้ำน่าน ครับผมก็ได้อ่านมาเหมือนกัน เพียงคำนึงภาพไว้ครับ ภาพตอนเช้าถ้าเอาภิกษุเข้าร่วมด้วยจะเกิดทัศนียภาพไปอีกแบบหนึ่งซึ้งในธรรมด้วยครับ ขอขอบคุณนะครับ แก้วประเสริฐ.