ฟ้าในค่ำคืนนี้ไม่มีดาว อนาถหนาวน้ำค้างลงพร่างพร่าง หนาวกมลคนสัญจรนอนริมทาง ดื่มแต่ความอ้างว้างวังเวงใจ ก้อนกรวดทรายรายเรียงเหมือนเตียงหมอน หัวหนุนนอนนุ่มไม่แพ้แพรผ้าไหม ค่ำลงแล้วแนวฟ้ากว้างกว่าไกล มองทางไหนมืดมนอนธกาล ใช้ใบไม้ไหมพรมห่มแทนผ้า ใช้แนวป่าป้องกายหมายเป็นบ้าน ฟังเพลงลมพรมใจให้เบิกบาน ไผ่ผสานสีเสียดเอียดออดแอ พอด่ำดื่มลืมช้ำน้ำจากหนอง มือทั้งสองช้อนน้ำใสนิ่งกระแส ที่ริมหนองน่าเหมือนเป็นเรือนแพ เอากายแช่คลายช้ำขรมพอลมไกว พเนจรร่อนเร่จนเหว่ว้า หยุดชอกช้ำน้ำตาอย่าให้ไหล มีความหวังตั้งไว้ยังมั่นใจ ทางยาวไกลจะเดินไปให้สุดทาง
24 พฤศจิกายน 2547 13:10 น. - comment id 376781
่ช่างจินตนาการ เปรี่ยบเทียบแต่ละอย่าง กลอนเดพราะดี อ่านแล้วให้อะไรเพิ่มนะ บางทีต้องกลับมามองดูและสำรวจตัวเองบ้างแล้ว
24 พฤศจิกายน 2547 14:47 น. - comment id 376876
จะย่างเหยียบเงียดหงัดต้องขัดขาน ใต้สะพานรังหนูเป็นคู่เหงา จุดไฟผิงอิงอุ่นหนุนมองดาว นำค้างพราวราวรดให้จดจำ
24 พฤศจิกายน 2547 18:13 น. - comment id 377065
พเนจรร่อนเร่แสนเหว่ว้า และทุกคราก้าวย่างทางร้าวหวั่น ไม่เคยได้เดินทางกลางชีวัน ในความสุขจนฉันแสนหวั่นใจ ว่าเมื่อไหร่ทางเดินที่เหินห่าง จะแตกต่างกับทางที่สร้างสรร ให้ได้สุขมาขลุกคลุกเคล้ากัน ในชีวันระหว่างเดินคงเพลินดี *-*แต่งได้ดีมากๆๆๆๆเลยค่ะ*-*
26 พฤศจิกายน 2547 15:36 น. - comment id 378710
เปรียบเทียบได้งดงามมีความหมายมาก๚ะ๛ size>
26 พฤศจิกายน 2547 16:03 น. - comment id 378753
^ __ ^
6 มกราคม 2548 09:39 น. - comment id 400502
แวะอ่านและตอบอีกครั้ง ปีใหม่แล้ว