ระโอดโอยโหยครวญดั่งตรวนตรึง ตอกติดขึงกลางใจให้ห่วงหา ร้างร้างห่างไปลับตา แต่เหมือนว่ายังอยู่เป็นชู้ใจ วันวานว่าหวานปานน้ำผึ้ง รำพึงรำพันสั่นไหว กอดเก็บเจ็บช้ำแต่ห่วงใย ใช่ฝันไกลให้เธอตริตรอง รู้เขตเส้นกั้นกันถลำ ไม่อยากล้ำแต่ใจไม่สนอง จึงเจ็บจึงช้ำจำจอง ร่ำร้องคร่ำครวญจวนวางวาย ลมลมแล้งแล้งฝันเรื่อยเรื่อย เย็นเฉื่อยฉ่ำชื่นรื่นร่าย เฝ้าฝันวันคืนกลืนกลบกาย จะได้ตายซบตักของเธอ
23 พฤศจิกายน 2547 15:43 น. - comment id 375960
อ้อกลอนน่ารักดีครับ จะว่ากลอนเจ็ดก็ไม่น่าใช่นะครับ เพราะผสมผสานแต่ท้ายเป็นกลอนเจ็ด แก้วประเสริฐ.
23 พฤศจิกายน 2547 15:54 น. - comment id 375967
เก่งมากค่ะ ลองลดให้เหลือหกคำสิคะ :)
23 พฤศจิกายน 2547 15:58 น. - comment id 375971
เพียงเพื่อผ่านมาเป็นกำลังใจ ในวันที่สดใสจิตใจเป็นนักกลอนนะค่ะ ... ( * . * ) ... กลอนน่ารักดีค่ะ... ( * . * ) ... +.+.+.+... คิดถึงจังเลยคนดี ...+.+.+.+ ^^^ มะปรางหวาน...สาวน้อยร้อยอารมณ์ ^^^
23 พฤศจิกายน 2547 17:09 น. - comment id 376022
เก่งจังค่ะ คุณทำได้แล้ว.............วิจิตร
23 พฤศจิกายน 2547 17:59 น. - comment id 376072
^_^ มาชื่นชมค่ะ
23 พฤศจิกายน 2547 18:19 น. - comment id 376099
เขียนได้ดีนักครับ อีกทั้งช่างเปรียบได้เฉียบขาดด้วยครับ ยามอ่านรู้สึกแปลกจัง ทั้งที่มีเคยเป็นแยยนี้สักที แบบว่าคล้อยตามอารมณ์งานครับ
23 พฤศจิกายน 2547 18:39 น. - comment id 376115
รักไม่มีการออกแบบ มันกลับแนบในใจไม่รู้หาย แบบว่ารัก รักเธอไม่มีวันคลาย ถึงต้องตายก็ภูมิใจที่ได้รักเธอ +-*-+ +-*-+-*-+ปู๊ชายอารมดี๊ดี+-*-+-*-+ +-*-+
23 พฤศจิกายน 2547 19:51 น. - comment id 376195
..เจ้าชาย .. เก่ง มากเลยนะคะ..
23 พฤศจิกายน 2547 21:06 น. - comment id 376296
ราบรื่นดีค่ะ..เห็นภาพชัดด้วยค่ะ.. แวะมาชื่นชมค่ะ.. ..
23 พฤศจิกายน 2547 21:38 น. - comment id 376340
มาชื่นชมและทักทายค่ะ เขียนดีมากค่ะ
23 พฤศจิกายน 2547 22:16 น. - comment id 376413
แวะมาอ่านกลอนของน้องชายคนเก่งจ้ะ ฝันดีนะคะ
23 พฤศจิกายน 2547 22:38 น. - comment id 376457
ระวังฝันเป็นจริงนะคะ อิ อิ ไปและ..
23 พฤศจิกายน 2547 23:19 น. - comment id 376512
ลมลมแล้งแล้งฝันเรื่อยเรื่อย ยิ่งกว่านั้นแม้นปวดเมื่อยไม่ล้าหวั่น แถมยังพาใจเข้าใกล้ไปผูกพัน อยากจะให้ความฝันนั้นเป็นจริง *-*แต่งได้ดีมากเลยค่ะ ชื่นชมนะค่ะ*-*
24 พฤศจิกายน 2547 01:01 น. - comment id 376588
เพราะนะอ่ะพี่ แต่ดูเหมือนพี่จะลั้าเส้นทุกนัดเลยนะ(เกือบลั้า) ระวังโดนใบแดงนะ พี่แต่งกลอนเพราะนะ ฝันดีนะ
24 พฤศจิกายน 2547 07:17 น. - comment id 376633
ลมกระโชกโบกใจให้ไหวสั่น ลมหมุนหันโหยหวนสำนวนศิลป์ แล้งแหบแห้งแดงเดือดธรนินทร์ แล้งชีวินวอนไหว้มลายจาก
24 พฤศจิกายน 2547 10:52 น. - comment id 376708
ลมลม..แล้งแล้ง..แกล้งใจ หวั่นหวั่น..ไหวไหว..ให้หวน ความหลัง..ยังฝัง..รัญจวน คิดครวญ..ดั่งว่า..ข้าฯ ชม ........................................... ...........................................
24 พฤศจิกายน 2547 18:10 น. - comment id 377062
//**// ขอบคุณครับ
24 พฤศจิกายน 2547 18:26 น. - comment id 377074
ลมแล้งแห้งเหี่ยวเฉา เหมือนตัวเราเศร้ามิหาย หายลับเธอกลับกลาย ฉันเดียวดายใจระบม ไม่ค่อยได้คุยซักเท่าไหร่ หาเวลาว่าง ๆ ยากมากครับ
25 พฤศจิกายน 2547 12:18 น. - comment id 377672
นอกจากวิจิตรจะเป็นนักเขียนธรรมชาติดิบเดิมแล้ว ในความงามนั้นยังมีความโรแมนติกแห่งรักเคล้าคลออยู่ กลิ่นหอมดีนะครับหอมรัก หอมธรรมชาติ วิจิตรคือเพชรแห่งธรรมชาตินะครับ ผมเชื่อเช่นนั้น
25 พฤศจิกายน 2547 17:42 น. - comment id 377954
//**// ขอบคุณพี่ชายทั้งสองคนเลยครับ วิจิตรไม่ค่อยมีเวลาได้เขียนเลยครับ กลุ้มจัง.. อยากจะเขียน งานก็เริ่มเข้ามาอีกแล้ว โอย........วิจิตรขี้เกียจ ///**///
28 พฤศจิกายน 2547 07:40 น. - comment id 379491
เพียงลมลมแล้งแล้งของความคิด ก็สะกิดใจช้ำให้หวั่นไหว เฝ้าคะนึงถึงเธอนะกลอยใจ เหตุไฉนไยเจ้าไม่กลับคืน ได้แต่สุขอยู่ในอารมณ์นึก ในรำลึกของรู้สึกที่ขมขื่น ได้แต่ปลอบใจตนแม้กล้ำกลืน ให้ทนฝืนรอนางอย่างเดียวดาย เสียงใจเพรียกเรียกเจ้าในคืนเหงา เคยเป็นเงาบัดนี้มาเลือนหาย สัญญารักสลักมั่นก็ผันคลาย ฝันสลายหน่ายหนีชีวีตรม ลม..ช่วยพัดความโศกวิโยกหนัก ลม..ช่วยผลักความรักที่เข็ดขม แล้ง..เหลือทนในใจที่ระทม แล้ง..เรือนร่มชมชื่นรอคืนใจ ............................................ ชื่นชมค่ะคุณวิจิตรสะเทือนอารมณ์ดีจริงค่ะ ...อย่างนี้ต้องมาจากประสบการณ์ตรงแน่เลย... :) (แซวเล่นเฉยเฉยค่ะ)..อย่าถือสาหาความเลยค่ะ
28 พฤศจิกายน 2547 23:07 น. - comment id 380111
//**// เขียนจากชีวิตจริงครับ ก็เขียนให้คุณแว่นนั่นล่ะครับ