น้ำตาพรากจากแก้มแต้มกระดาษ ถ้อยคำขาดใจความไม่กล้าไข ฝืนปากกามาร่ายระบายไป เป็นกลอนไทยใจความถึงทรามเชย นึกอนาถนอนหนาวทรวงหวามวาบ ซดกำซาบโศกซ้ำระกำเอ๋ย น่าน้อยใจไหนรักกระไรเลย คนที่เคยเคียงข้างมาห่างตา ไม่เคยพูดคำรักด้วยคำพูด ซ้ำพิสูจน์ไม่ได้ด้วยภาษา มีแต่ใจใสสัตย์ด้วยสัจจา ทอศรัทธาทอดยาวอยู่ยั่งยืน บางครั้งคราวความรักก็มักหลง ไม่เที่ยงตรงบอดตามต้องฝ่าฝืน ต้องไขว่คว้าหาคลำต้องกล้ำกลืน ไม่เคยตื่นตลอดเพราะบอดแล้ว แต่ก็พร้อมยอมตนทนเพื่อรัก เพื่อรู้จักใจจริงเป็นมิ่งแก้ว ใจไม่เคยต้องความรักมักสิ้นแวว และคลาดแคล้วความเป็นคนทุกคนไป น้ำตาพรากจากแก้มแต้มกระดาษ ที่เคยขาดถ้อยคำไม่คิดไข รักมาจ้ากระจ่างสว่างใจ เขียนกลอนไทยเทิดรักนักเลงกลอน
22 พฤศจิกายน 2547 09:13 น. - comment id 374824
:)
22 พฤศจิกายน 2547 09:30 น. - comment id 374844
น้ำตาพรากจากแก้มแต้มกระดาษ แทนสายหมึกที่ปราศจากภาษา เหมือนรอยช้ำที่แก้มเต้มน้ำตา ที่ไม่มีวันลาจากดวงใจ *-*กลอนแต่งได้ดีค่ะ*-*
22 พฤศจิกายน 2547 12:02 น. - comment id 374926
ปากกัดกลุ้ซุ่มคิดประดิษฐ์จึงขีดเขียน ด้วยพรากเพียรความรู้มากู่ขาน ค่อยคิดคำจำความอย่างชำนาญ อีกต้องผ่านกลั่นกรองทำนองมา
22 พฤศจิกายน 2547 12:51 น. - comment id 374956
เขาว่ากันว่า นักเลงกลอนมักมีวาจาคมคาย แลเห็นสิ่งใดก็พรรณาได้แจ่มชัดมากกว่าตาเห็น คนใดได้ฟังแล้วย่อมเคลิ้มอารมณ์ ครั้นจะกิน จะนอน แทบจะเอื้อนเอ่ยเป็นร้อยกรองด้วยซ้ำ .. :)
22 พฤศจิกายน 2547 13:52 น. - comment id 375016
อ่านครบหมดทุกกลอนแล้ว.. ยินดีที่รู้จักค่ะ พี่แจม
22 พฤศจิกายน 2547 15:10 น. - comment id 375087
ชัดเจน............เปลี่ยน งาม งาม จริง ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ
22 พฤศจิกายน 2547 15:18 น. - comment id 375099
สัมผัสในแพรวพราว อ่านเพลิน แต่ว่า..ความหมายสะท้อนใจจังค่ะ
22 พฤศจิกายน 2547 15:20 น. - comment id 375100
ด้วยดินสอปากกาหน้ากระดาษ กวีวาดอักษราภาษาศิลป์ สื่อคมคำที่ครุ่นคิดให้ยลยิน จากหัวใจที่ไม่สิ้นสายสำพันธ์ มาทักทายเป็นครั้ง แรกครับ
22 พฤศจิกายน 2547 18:00 น. - comment id 375230
^ _ ^ ขอบคุณทุกท่านครับ
22 พฤศจิกายน 2547 21:09 น. - comment id 375405
ภาษาดี ความหมายเด่นชัด คล้องจองดีครับ ข้าพเจ้านามแฝงว่า Kwan เรียกเล่นๆว่า คนเสพกวี ยินดีที่ได้รู้จัก..! มาทักทายเช่นกัน ^_^