ตาสีขี้ขอ
หิ่งห้อย เพียงดิน
ฤดูกาลผ่านไปไม่หยุดยั้ง
นี่ก็ย่างเข้าหน้าหนาวเข้ามาแล้ว
พวกผู้เฒ่าหลายคนบ่นกันแซว
คงไม่แคล้วนอนคว้างข้างกองไฟ
เสียงตาสีขี้กลัวผัวยายเป้า
บ่นว่าหนาวเหลือล้นทนไม่ไหว
ตะโกนสั่งยายเป้าไปเอาไฟ
รีบเร็วไวหากช้าข้าหนาวตาย
เสียงตาสีสั่นรัวกลัวความหนาว
ทั้งมือเท้าสั่นระริกเป็นหงิกหงาย
แกบ่นซ้ำว่าข้านี้กลัวตาย
แกใจร้ายตะโกนด่าว่าฟ้าดิน
แกผิงไฟสักครู่ดูสดชื่น
แกลุกยืนหันหลังบังก้อนหิน
แกกลัวร้อนด่าไฟให้ได้ยิน
แกเล่นลิ้นออดอ้อนแหมร้อนเกิน
แกกลัวร้อนกลัวหนาวในคราวนั้น
ตะโกนลั่นด่าไฟไม่เคอะเขิน
แกขี้ขลาดตาขาวเอาเหลือเกิน
ทั้งยืนเดินแกสาปแช่งระแวงภัย
แกกลัวแดดกลัวลมระทมทุกข์
ไม่เป็นสุขสับสนทนไม่ไหว
แกกลัวยากกลัวจนบ่นเรื่อยไป
แกชอบไหว้ผีประกำพร่ำขอพร
ท่านเจ้าเขาเฒ่าหลวงบวงสรวงไหว้
อย่าใจร้ายเลยหนอขอไว้ก่อน
หลวงอุดมเจ้าป่าข้าขอวอน
ความเดือดร้อนโรคภัยอย่าได้มี
ขอให้ร่ำขอให้รวยอย่าป่วยไข้
ให้สดใสดีเด่นเป็นเศรษฐี
ขออายุอย่างน้อยร้อยสิบปี
ขอให้มีเมียสาวอีกเก้าคน
เสียงตาสีขี้ขอบ่นอ้อแอ้
ขอมากแท้แม้สาวเฒ่ายังสน
แกชอบเปลี่ยนสูงต่ำไม่ซ้ำคน
แกชอบบ่นบุ้ยใบ้ใช้คารม
แกชอบขอชอบคิดผิดธรรมะ
ไม่ลดละพิธีเกินเพลินสะสม
พิธีแก้แก่เก่าเฒ่านิยม
ไม่เลิกล้มหาผลเพื่อตนเอง
ขอให้ร่ำขอให้รวยใครช่วยได้
ทรัพย์ทั้งหลายได้มาด้วยหาเก่ง
ใช่เพียงเอ่ยคำขอก็มาเอง
ต้องรีบเร่งค้าขายจึงได้มา
ขออย่าเจ็บขออย่าไข้ใครขอได้
อยู่เมืองไหนแหล่งใดให้ถามหา
แม้แต่หมอยังเจ็บไข้อยู่ใกล้ยา
อย่าคิดว่าเอ่ยขอก็ปลอดภัย
ขอให้สุขสดใสในชีวิต
โดยไม่คิดทำดีมีที่ไหน
เพียงเอ่ยขอก็ได้ดีนั้นมีใคร
จงวิจัยไตร่ตรองมองความจริง
ขออายุเกินร้อยหนอยขอได้
เหตุไฉนไม่ละอายหนอชายหญิง
ไม่เคยคิดคำนึงถึงความจริง
ชนชายหญิงตระกูลใดไม่เคยตาย
บ้างก็ทำพิธีขอต่ออายุ
ไม่บรรลุรู้แจ้งแห่งความหมาย
พิธีพราหมณ์พิธีพรหมหลงงมงาย
ผลสุดท้ายขอไม่ได้ตายทุกคน
เพราะตาสีขาดปัญญามาประกอบ
จึงชมชอบทางผิดจิตสับสน
ต้องวุ่นวายหลายอย่างเข้าข้างตน
ทุกข์ท่วมท้นทับทวีทุกวี่วัน
ตาสีเอ๋ยอย่าโง่โถทำได้
อันความตายได้รับแน่ไม่แปรผัน
ความเจ็บไข้ได้รับแน่แก่ทุกวัน
จงขยันนึกถึงตายสบายดี
ตัวตาสีมีหนังหุ้มบังอยู่
จงรับรู้รูปปราณสังขารนี้
มันจะอยู่ทนทานนานกี่ปี
ตัวตาสีไม่เห็นมีอะไรทน
กายก็แห้งแรงก็หดหมดสภาพ
ผิวก็หยาบฟันก็พังหนังก็ย่น
ตัวตาสีมีสิ่งใดใช้ได้ทน
ถึงจะบ่นถึงจะขอก็เหมือนเดิม
อวัยวะมือเท้าท่านกล่าวว่า
ยืมเขามาชั่วคราวท่านกล่าวเสริม
อันความตายไงเล่าเจ้าของเดิม
ทยอยเริ่มเก็บตาหูเข้าสู่คลัง
เก็บเอาฟันตาสีไม่มีเหลือ
เก็บเอาเนื้อเอานิ้วทั้งผิวหนัง
งวดสุดเก็บกายตายผุพัง
เผาหรือฝังในคลังใหญ่ได้แก่ดิน
หยุดงมงายเสียทีตาสีเอ๋ย
หยุดเอื้อยเอ่ยคำขอต่อภูหิน
หยุดอ้อนวอนเทวาและฟ้าดิน
มาถือศีลภาวนาดีกว่าเอย