เพราะผูกพัน .. กลอนกานต์ ..ที่หลากหลาย จึงขอร่าย ..อักษร ..เป็นกลอนหวาน.. สัมผัสรัก ..ร่วมฝัน ..อันยาวนาน.. แม้จะผ่าน ..ล่วงพ้น ..สุขล้นใจ.. อยากเขียนบอก ..ความนัย ..อย่างใจฝัน.. ไม่มีวัน ..ลบเลือน ..ย้ำเตือนให้.. เขียนผิดพลาด.. สับสน... เริ่มต้นใหม่.. ท่านอภัย .. สอนสั่ง ..ฉันยังจำ.. จะก้าวไป..ค้นหา ฟ้าสลัว ไม่คิดกลัว ..กลับกลอก..แม้ชอกช้ำ กายหนาวเหน็บ เจ็บอีกหน ..ทนระกำ คิดคงคำ ปณิธาน..ทุกวารวัน... จะตามติด ..ท่านครู ..ผู้รู้สอน.. กราบวิงวอน .. อย่าท้อ ..ศิษย์ขอฝัน จะตั้งใจ .. หัดเขียน เข้าเรียนกัน.. จะฝ่าฟัน .. คำหยาม .. ไม่คร้ามใคร.. ค้นหาค่า.. แตกต่าง .. ในทางคิด .. แม้ถูกผิด .. ไม่หวั่น .. ฝันสดใส.. ครูท่านชี้ .. จุดเริ่ม เพิ่มกำลังใจ .. ฝันไปไกล ..เสริมค่า ..ศรัทธากลอน.. อยากเขียนสื่อ .. ความนัย .. อย่างใครเขา.. สุข หรือเศร้า .. ระบาย .. เพื่อคลายร้อน.. เพียงจุดเริ่ม .. ค้นหา ..โปรดอาทร.. อย่าเร่งร้อน .. ว่ากล่าว .. ให้หนาวเลย .. วาดตะวัน .. ผิดเพี้ยน .. จะเรียนใหม่.. สื่อความนัย .. เว้าวอน .. บทกลอนเผย.. อาจไม่คุ้น .. เด็กใหม่ .. เพราะไม่เคย แค่อยากเอ่ย .. วาดฝัน .. เป็นฉันเอง.. กราบคุณครู .. คุณลุง .. ที่มุ่งสอน สื่อบทกลอน.. สร้างสรรค์ ..ให้ฉันเก่ง เก็บไม้เรียว .. มอบฝัน .. ให้บรรเลง.. เป็นบทเพลง .. กวี .. ท่านชี้นำ .. ( ยังไม่จบ .. นะคะ.. )
7 พฤศจิกายน 2547 10:50 น. - comment id 365377
..อันนี้ .. เรน เขียน ..ไม่ดีเลยคะ.. ก็ .. มีคนมา.. ติ๊ด..แตร .. เร่งเรน นะดิคะ.. ฮือๆๆ ... ..วันที่เป็น .. ของเรน .. แต่ ..บางที .. ก็ ..ไม่ใช่ .. ..แว้ป..
7 พฤศจิกายน 2547 10:51 น. - comment id 365378
แป๊ป .. เรน จะกลับมา .. แก้ใหม่ ..นะคะ
7 พฤศจิกายน 2547 11:25 น. - comment id 365382
มาอ่านกลอนอ้อนคุณลุงของน้องเรนค่ะ.. พี่ก็ผูกพันเหมือนกันนะคะ เรียกว่าเวลาเขียนกลอนที ก็นึกๆ อยู่ว่าจะมีใครสักคนมาอ่านกลอนของเรา แล้วทำให้เขาชื่นชมได้บ้างไหม (หมายถึงมีพัฒนาการที่ดีขึ้น) รู้สึกอบอุ่นระคนหวาดหวั่นน้อยๆ พอสังเขปค่ะ อิ้ อิ้ (แต่ก็มีลุ้นดีเหมือนกัน) พี่ดีใจค่ะที่เด็กรุ่นใหม่อย่างน้องเรน สนใจในภาษาไทย คนรุ่นเก่าอย่างพี่ปรายก็ถดถอยไปทุกวันๆ เป็นกำลังใจให้นะคะ สวัสดีค่ะ
7 พฤศจิกายน 2547 11:29 น. - comment id 365383
แวะมาเยี่ยมน้องเรนครับ ตอนนี้พี่เมกอยู่ต่างังหวัด...มีเวลาน้อย .. แค่มาดูความเป็นไปของน้องเรน ไม่ว่ากันนะครับ... กลอนก็เขียนได้ดีขึ้นเรื่อย ๆ สมกับที่มีครูดีครับ กลับบ้านเมื่อไหร่ จะเข้ามาอีกครั้งครับ
7 พฤศจิกายน 2547 11:43 น. - comment id 365395
อิอิ..แวะมาอ่านผลงาน ของศิษย์พี่เรนค่ะ อุ๊ กะลังพยามเขียนอยู่นะคะ เด๋วอิกม่ายนาน คงเก่งเหมือนศิษย์ พี่นะคะ แวะมาทักทายค่ะ..เด๋วต้องปายทำการบ้านก่อนค่ะ.เกเรมาหลายวันแล้ว..จิจิ
7 พฤศจิกายน 2547 12:04 น. - comment id 365414
พี่ปรายคะ... ความผูกพัน .. ของที่นี่.. และความเป็น .. อิสระ .. ..สอน ให้เรน .. รู้ ..คุณค่า .. ในการ..เคารพ ..ความรู้สึก .. .. ที่แตกต่าง.. เรนว่า ... มิตรภาพ .. เกิดจากความต่าง ..ได้เช่นเดียวกัน.. เหมือนดอกไม้ ..คนละสี .. ..งาม คนละแบบ .. เต็บโต .. คนละที่ .. ..เพียงแค่ ... ..ยอมรับ ... ความต่าง .. ใน..กันและกัน.. ..เปิดโลก .. ..และให้ ..การยอมรับ.. ความรู้สึก.. ที่มี.. โลก .. ในความรูสึกของเรน .. ต้องงดงาม .. แน่ๆ..เลยคะ.. (..เรน..ยังเขียน ..ไม่ดีเลยคะ ..)
7 พฤศจิกายน 2547 12:10 น. - comment id 365421
พี่เมกคะ.. ..เป็น.. พี่ชาย .. ที่ทำให้เรน..รู้สึกดีจัง.. ..เรน.. ยังเขียน ..ไม่เก่งเลยคะ.. ก็คง .. แค่เด็กเพ้อฝัน .. ที่อยากจะหัดเขียน .. บทกวี.. สื่อ ..ให้โลก .. รัก.. สันติ .. เรน.. อยากเขียน .. มากๆ.. เล้ยย คะ.. สงคราม .. และการฆ่า .. .. เรน ..ไม่ชอบ .. พี่เมก .. เคยมา บ้านเรน ..ปล่าวคะ.. ชวน..ฟ้า .. มาเที่ยวดิคะ .. เรน .. อยากอวด .. บ้านจัง.. เรน .. ขอบคุณ ..ความรู้สึกดีๆ .. ที่ พี่เมก .. ให้เรน .. นะคะ..
7 พฤศจิกายน 2547 12:13 น. - comment id 365423
แวะ มาเยี่ยม นะคะ
7 พฤศจิกายน 2547 12:17 น. - comment id 365425
คุณอุ๊คะ... คุณอุ๊....เขียนเก่ง .. กว่าเรน ..อีกนะคะ.. แบบ เรน .. หัวช้าๆ . ( คุณลุงบ่น ..ทุกที..นะดิคะ..). เขียนเรื่อง .. ยังไม่ได้ .. เลยคะ.. เรน.. ยังเขียนสื่อ .. ในแนว.. ที่ต้องการ ..ไม่ได้นะคะ ... เรน .. อยากเก่ง ..แบบ..คุณลุง.. แบบ ..พี่ดอกแก้ว แบบพี่ภูฯ .. แบบ .. พี่พันดาว .. และ .. แบบ ..พี่ๆ .. ด้วยดิคะ..อิอิอิ..
7 พฤศจิกายน 2547 12:23 น. - comment id 365426
พี่ดาหลาคะ... .. เรน . ขอบคุณ .. นะคะ. . กี้ เรนโพส .. ไม่เห็น พี่ดาหลานะคะ.. ..แป๊ป เดี๋ยว .. เรนต้องไปกวน.. กาละแม .. พี่ๆ ..เค้านะคะ.. ไป กับเรน .. ปล่าวร่า .. อิอิอิ..
7 พฤศจิกายน 2547 12:56 น. - comment id 365441
พี่กี้ขอมาร่วมแสดงความรักในคุณครูด้วยคนค่ะ.... ในฐานะศิษย์สำนักเดียวกะน้องเรนเน๊อะ... พี่กี้จะตั้งใจเขียนกลอน สร้างสรรค์งานที่ดีดีต่อไปจ้ะ.. จะตั้งใจค่ะ..ฝากผ่านถึงท่านคุณคูด้วยนะคะ.. สวัสดีค่ะ..
7 พฤศจิกายน 2547 13:15 น. - comment id 365443
ตัวซน..ขอบใจนะ..ความรักน่ะเป็นสิ่งดี..มีเพื่อทุกชีวิตบนโลก ก็ยิ่งดี..คนเราเหนือกว่าสิ่งมีชีวิตอื่นๆ บนโลก ก็ตรงที่สามารถ มีความรักได้หลายรูปแบบ..แต่ทุกแบบจำเป็นอย่างยิ่ง ที่เราจะต้องทำความเข้าใจ..ไม่ว่าจะเป็นความรักของพ่อ-แม่ ความรักของเพื่อน ความรักของหนุ่มสาว..และ ก็ยังมีอีกหลายรูปแบบรัก..ถ้าเราทำความเข้าใจ และ มองให้ลึกซ้ำ..ความรักจะเป็นสิ่งที่ดีมาก เช่นกันถ้าเราเข้าใจโดยผิวเผิน ก็ยากจะหาแก่นและประโยชน์ของมันพบ.. ความรักมันจึงมีทั้งความสุขและความทุกข์...ความรักไม่รู้จักใครหรอก..แต่ทุกคนรู้จักมัน และไคว่คว้า..ต้องการมัน... โดยที่บางครั้ง..บางคน ยังไม่เข้าใจเลย ว่า..ความรักคืออะไร.... เราต้องไปสนทนา กับสหายก่อน..เที่ยงแล้วไปหาข้าวกินซะ...กลอนเขียนได้ดี..พื้นฐานตัวซนเข้าใจแล้ว อีกสองสามเรื่องคงผ่าน..
7 พฤศจิกายน 2547 13:20 น. - comment id 365448
^_^ เก่งมากๆค่ะน้องเรน...พี่ต้องชิดซ้ายตกขอบแล้วแน่ๆ แงๆๆๆๆๆๆฮือๆๆๆๆๆไปฝึกฝีมือบ้างดีกว่า....บ๊าย บายนาคะ
7 พฤศจิกายน 2547 13:25 น. - comment id 365452
พี่แก้ม .. แวะมาทักทายน้องนู๋เรนจ้า .. ไม่ว่าน้องเรน .. จะเขียนกลอนสื่อออกมา .. ไม่ว่าจะเกี่ยวกับเรื่องราวใด .. แต่บทกลอน .. หรือบทกวีนั้น .. ติดอยู่ในใจพี่แก้ม .. เสมอจ้า .. พี่แก้มดีใจ .. และคอยรับรู้ .. เป็นกำลังใจ .. ให้มิตรภาพที่งดงาม .. ของน้องสาวพี่นะจ๊ะ น้องเรนเกาหัวฟู .. แต่พี่แก้ม .. ทั้งฟู .. ทั้งร่วง .. ด้วยอ่ะจิ .. ฮี่ๆ .. ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ตาตี่ .. ใช้สีอักษร .. รับไม่ได้ .. นะเรา .. ชิ๊ .. =^______________________^= แก้มป่อง .. นู๋กะลังฮอตฟอร์ม .. ¤ ¤ KËÅM _ PÖÑG¹ ¤ ¤ . . . S o M e - O n e - L o V e - Y o U . . .
7 พฤศจิกายน 2547 13:36 น. - comment id 365458
บอกเรน.. ได้ปล่าวร่า ... ..ความหมาย .. ในความรัก .. คือ.. อะไร .. .. เรน ..รู้ดิ ..
7 พฤศจิกายน 2547 13:50 น. - comment id 365464
ความหมายในความรัก ของคนเรามีความแตกต่างกัน ในแต่ละรูปแบบก็ต่างกัน เพราะร้อยใจ ร้อยคน ก็ต่างคิดกันไป... เรามองให้เป็นสิ่งสวยงาม เป็นสิ่งมีค่า ต้องทะนุถนอม มองออกไปจากตัวเรา.เพื่อ..ให้..กับทุกชีวิต...และยึดติดให้น้อยที่สุด..เราจะเป็นสุข.. ไปล่ะ ยังไม่ได้ไปคุยกับสหายเลย..
7 พฤศจิกายน 2547 13:59 น. - comment id 365467
เจ้าหญิงจะเก่งกว่าเจ้าชายแล้วรู้ตัวป่าวครับ ..........
7 พฤศจิกายน 2547 15:23 น. - comment id 365489
มายืนยิ้ม... หน้าบ้านน้องเรน.... เอ..เจ้าจอมซน.. หายไปไหนน่ะ...
7 พฤศจิกายน 2547 17:15 น. - comment id 365548
แวะมาอ่านของพี่เรน และชะ..แว๊บ..ๆๆ ไปแระจ้า
7 พฤศจิกายน 2547 19:14 น. - comment id 365645
งานบางงาน..สื่อสาร..ด้านความคิด งานบางงาน..สื่อติด..ที่ความหมาย งานบางงาน..สื่อสัมพันธ์..กันด้วยใจ งานงามไซร้..สื่อได้..ด้วยอาทร ..................................................................... งานทุกงาน มีความหมายต่อทุกคน และ งานทุกงาน มีสัมพันธ์ที่ดี ระหว่างคนเสมอ เหมือนลุงกับหลานคู่นี้.. นี่แหละที่แทบจะหาไม่ได้ในโลกยุคปัจจุบัน ......................................................................
7 พฤศจิกายน 2547 21:22 น. - comment id 365702
น่ารักมากจ๊ะ คิดถึงน๊า
7 พฤศจิกายน 2547 21:41 น. - comment id 365739
รักทั้งคู่ค่ะ คนละแบบนะคะ
7 พฤศจิกายน 2547 22:02 น. - comment id 365769
จะอย่างไรพี่ชัยก็ไม่ขอไปเพิ่มอายุอย่างแน่นอนจ้า มิตรภาพซึมซาบใจ โลกวิไลให้ผ่องใส สดับประทับใจ อวยพรให้รักยืนยง
7 พฤศจิกายน 2547 22:07 น. - comment id 365778
อืม...แวะมาแอบดู เค้าบอกร๊ากกกกัน.. รักแบบนี้ดีจัง ดูแล้วชื่นจาย วีนัสก่ะเจ้า
7 พฤศจิกายน 2547 22:14 น. - comment id 365793
นักเรียนผู้แสนมุ่งมั่น.. ฝึกฝน ดูแล้วดีใจด้วยกับ ฝีมือที่เก่งขึ้นเรื่อยๆ... อีกหน่อยคงได้เป็นอาจารย์ให้กับลูกศิษย์คนอื่นต่อไปแน่ๆเล้ย อิอิ
7 พฤศจิกายน 2547 22:28 น. - comment id 365803
โห้ย ย .. เรน ขอโทษ ..ด้วยคะ กี้..เรนแพลนไว้ว่า .. เรนจะกลับมา .. ทันตอบ .. พี่ๆ ..นะคะ.. สุดท้าย ..เรน ..ก็..เหลวเปํว .. เฮ้อ!! .. ก็ แบบ เรนมาม่ายทัน นะดิคะ .. กี้.. เรนขับรถ .. ไปแม่ริม.. ขากลับ รถสตาร์ตไม่ติด .. เรนกลัว มากเล้ยคะ .. หน้าจ๋อย .. ภาวนา ..ให้พี่เล็ก .. ช่วยเรน .. ก็เรน .. ไม่รู้ .. น้ำมันหมด .. นะดิคะ.. ( เรนก็ไม่เคย..เติม. ด้วยดิ.) เป็น บทเรียน .. อีกบท .. ที่เรน.. ต้องหัดทำ .. ตอนนั้น .. เรนกลัว มากเล้ย คะ .. แต่..แป๊ปเดี๋ยว .. พี่เล็ก..ของเรน .. ก็มา .. อิอิอิ.. ( ..เป็นประสบการณ์ ..ที่เรน . จะเอามาเขียน .. บอกเล่า .. ให้พี่ๆอ่าน.. นะคะ ).. เรน ..จะมาตอบ.. พี่ๆ ..พรุ่งนี้ ..นะคะ.. ตอนนี้ .. เรน.. ง่วงจัง.. ..ราตรีสวัสดิ์ .. นะคะ.. zz z z
7 พฤศจิกายน 2547 23:28 น. - comment id 365823
หวัดดีจ้า นักเรียนน้อยผู้น่ารัก อ้อนแบบนี้คุณครูยิ้มน้อยยิ้มใหญ่เลยนะคะ ราตรีสวัสดิ์จ้า
8 พฤศจิกายน 2547 04:07 น. - comment id 365854
: )
8 พฤศจิกายน 2547 08:55 น. - comment id 365882
... มาเยี่ยมบ้านน้องเรน แทน พี่ มัดหมี่ ครับ ตอนนี้พี่ มัท งานมากกกกกกกกกกกกกก ไม่มีเวลาคุยกะใครเลยอ่ะ ....... เขียนบทกลอนได้ดีครับน้องเรน ...
8 พฤศจิกายน 2547 10:42 น. - comment id 365923
น้องเรน ... เก่งจังค่ะ พี่ยังเก่งไม่เท่านี้เลย นักเรียนขี้อ้อน ของคุณครู คุณครูคงจะยิ้มแก้มปริ เป็นแน่เลย ^__^
8 พฤศจิกายน 2547 11:50 น. - comment id 365950
ตัวซน ไปตอบกลอน กำนัน ที่เรื่องสั้นด้วย..สัก สองบท รวบรวมความคิด เขียนเป็นเรียงความ ตัดและเพิ่มคำ... อย่ากังวล อย่ากลัวว่าจะทำได้ไม่ดี..ทำให้ดีที่สุด เขียนตามที่ใจคิด...สวัสดีนะ..เออ..พักนี้ท่าจะซน น่าดู..ไปก่อนนะ..
8 พฤศจิกายน 2547 13:48 น. - comment id 366027
จะตั้งใจทำตนเป็นคนกล้า เพื่อให้มีวิชามิล้าถอย แม้นานนักเพียงใดใจรอคอย เพื่อให้ได้กวีน้อยจะคอยชม *-*แต่งได้ดีมากๆๆๆๆๆๆๆๆเลยจ๊ะ แบบนี้อาจารย์ผู้เฒ่าปลื้มแล้วหละ เอานะ พยายามต่อไป พี่หญิงจะคอยเป็นกำลังใจให้ คิดถึงน้องเรนเสมอนะค่ะ*-*
8 พฤศจิกายน 2547 20:57 น. - comment id 366333
: ) : ) : ) ..มายิ้มให้น้องเรนมากกว่ายิ้มของน้องแจมสองยิ้ม
8 พฤศจิกายน 2547 23:05 น. - comment id 366466
พี่กี้ขอมาร่วมแสดงความรักในคุณครูด้วยคนค่ะ.... ในฐานะศิษย์สำนักเดียวกะน้องเรนเน๊อะ... พี่กี้จะตั้งใจเขียนกลอน สร้างสรรค์งานที่ดีดีต่อไปจ้ะ.. จะตั้งใจค่ะ..ฝากผ่านถึงท่านคุณคูด้วยนะคะ.. สวัสดีค่ะ.. จาก : รหัสสมาชิก : 8200 - keekie รหัส - วัน เวลา : 372660 - 07 พ.ย. 47 - 12:56 .................. พี่กี้คะ.. ..ตอนนี้ .. เรนรู้ นะคะ .. คุณลุง..ต้อง ยิ้ม .. ไม่หุบแน่เล้ยคะ.. ก็.. พี่กี้ ..เก่งมากๆเลยนะดิคะ .. .. เรน ..ชอบที่พี่กี้ .. เขียน นะคะ.. เรน ..ขอบคุณ .. นะคะ..
9 พฤศจิกายน 2547 00:06 น. - comment id 366511
(เรน..ขออนุญาต ..คุณลุง และสหายคุณลุง.. นำบทสนทนา ..โพส ..ในไดฯ ..ของเรนนะคะ... ............................... สหายของคุณลุง ; จะเหลิงดีมั้ย ??? เอาแน่กับแนวทางกลอนผมไม่ได้หรอกครับ บางทีผมก็แกล้งเขียนซะดี ทั้งที่ปกติจะไม่ได้เรื่อง ส่วนเรื่องแนะนำ คิดว่าไม่กล้าละ แค่ทักนิดเดียว มีคนหาว่าเป็นมารผจญไปแล้ว นึกถึงคำพูด ดร.เจตนา นาควัชระ ที่ว่า คนไทยไม่มีวัฒนธรรมการวิจารณ์ นึกถึงผลการวิจัยว่าคนไทยตกการอ่าน สรุปว่า ผมอยู่ตรงที่ผมสบายใจดีกว่า จาก : คนวัยเดียวกัน รหัส - วัน เวลา : 368674 - 01 พ.ย. 47 - 13:58 ........................................................................................................... ความคิดเห็น ; ต้องบอกว่า วัฒนธรรมยอมรับการวิจารณ์คงจะถูก... แต่จริงๆต้องดูที่ผู้จะทำการวิจารณ์ด้วย..และก็ถือว่าเป็นเรื่องที่สำคัญเช่นกัน..นิสัยคนไทยเรา..ถ้าขาดซึ่งการยอมรับนับถือด้วยใจจริง ยากนักที่จะยอมกัน...วัฒนธรรมทางความคิดของคนไทยเรา ยังแตกต่างกับทางตะวันตกมาก...จะใช้แนวคิดด้านนั้น มาตัดสินคนไทยทีเดียวก็คงไม่ถูกนัก..ส่วนเรื่องคนไทยตกการอ่าน... ผมว่าเป็นเพราะแผนพัฒนาการศึกษาของเราช้าเกินไป...คนรุ่นเก่าตามชนบทห่างไกลความเจริญ..ย่อมมีโอกาสในการอ่านน้อย อันนี้ยากจะเอามาประมวลรวม..ผมว่าอีกไม่เกิน20ปี การอ่านของคนไทยต้องก้าวหน้าขึ้น เพราะคนปัจจุบัน เห็นค่าของการศึกษามากขึ้น.. พอดีว่างครับ เลยเขียนยาวไปหน่อย คำว่า มารผจญ..มิได้หมายถึงคุณหรอก...คุณมาจับการสื่อสั้นไป...บางครั้งการคบหากันยาวนาน การสื่ออาจเข้าใจเฉพาะกลุ่ม หรือ เฉพาะคน..คนๆนั้นเขาเป็นคนน่ารักครับ อย่าคิดมากเลย รักๆกันไว้ดีกว่า นิดหน่อยก็ปล่อยผ่านๆไป โดยเฉพาะท่านผู้อาวุโสทั้งหลาย..ต้องกว้างมากๆครับผม.. สวัสดีนะครับ.. จาก : ผู้เฒ่า....โง่งม รหัส - วัน เวลา : 368705 - 01 พ.ย. 47 - 14:38 .............................................................. สหายของคุณลุง ; ผมว่าใช้ วัฒนธรรมการวิจารณ์ น่ะ ถูกแล้ว เพราะมันเริ่มจากการที่เราไม่รู้จักการวิจารณ์ มีแต่ตำหนิ หรือ เหน็บแนม ไม่ก็ด่าทอ คนก็เลยไม่คุ้นกับการวิจารณ์ พอใครวิจารณ์ก็คิดว่าเขา ตำหนิ หรือ เหน็บแนม ไม่ก็ด่าทอ แล้วก็ตอบโต้ ส่วนที่ผู้เฒ่าแก้ตัวแทนนั้น ขอบอกว่าผมไม่ได้เอามาเป็นอารมณ์ แต่มันเป็นสัญญาณบอกว่าผมควรทำ หรือไม่ทำอะไรที่นี่ เหอๆๆๆ จาก : สหายร่วมวัย รหัส - วัน เวลา : 371864 - 05 พ.ย. 47 - 20:25 ............................................................ คุณลุงของเรน ; สหายร่วมวัย..ผมท่องไปตามเวบกลอนต่างๆมามาก ได้ไปดูและศึกษาทั้งเรื่องกลอน และวิสาสะ เพื่อรับรู้และแสดงความคิดเห็น... จากคำพูดที่ว่า..ผมเองก็ไม่เคร่ง..และแทนเสียงหัวเราะ..เหอๆๆ..แบบนี้.. น้อยคนนักที่คนในวงการกลอนโลกเนต จะแสดงออกแบบนี้..ผมพอทราบแล้วว่าคุณเป็นใคร...ต้องขอบคุณเป็นอย่างยิ่งที่กรุณา มาสนทนาด้วย..จริงๆเรื่องการวิจารณ์นี่... มีมุมให้มอง และปฎิบัติ ได้หลายมุม..ก็อย่างที่ผมบอกเสมอๆที่นี่ ว่าคนเราต่างจิตต่างใจ.. ส่วนบรรทัดสุดท้ายที่คุณเขียนไว้..ผมตอบว่า..สิ่งที่คุณจะทำ..คุณเลือกที่ด้วยหรือ..กับยี่ห้อ จรรโลง..เรามองโลกยุคใหม่..กระแสวิวัฒนาการ..เราเป็นผู้ให้ .. สำหรับผมแล้ว..แม้สิ่งที่ผมให้จะไม่ค่อยสมบรูณ์นัก..แต่ผมก็พยายามและเต็มใจ ยื่นให้ ไม่ต้องรอให้เขา ยื่นมือมาขอ... พื้นฐานเท่านั้นที่ผมทำได้..และหวังว่าคงได้มีโอกาสรบกวนคุณ..สำหรับผู้ที่สนใจการเขียน..เป็นความตั้งใจของผมจริงๆ..ที่ต้องการให้ผู้ที่ชอบเขียน ได้ก้าวไปให้ถึงจุดที่ฝัน สวัสดีครับ. จาก : รหัสสมาชิก : 6619 - ผู้เฒ่า รหัส - วัน เวลา : 372176 - 06 พ.ย. 47 - 12:10 .................................................. สหายของคุณลุง ; สงสัยว่าผู้เฒ่าต้องทบทวนว่าผมให้โดยรอคนขอหรือไม่ แต่มีภาษิตจีนว่า ปลูกพืชให้ดูดิน ที่จริงดูแค่ดินยังไม่พอ ภูมิอากาศและฤดูกาลก็ต้องดูด้วย วันนี้.. ถ้าถามว่าอยากเขียนได้ดีไหม คนที่ไม่โกหกตัวเองคงบอกว่าอยาก ผมก็อยาก และยังทำไม่สำเร็จ แต่บอกได้เลยว่ามันต้องเหนื่อยหนักหนาสาหัส กี่คนล่ะที่อดทนได้ ยิ่งคนที่แค่โดนตำหนิก็ทนไม่ได้แล้วละก็...... นักกีฬาที่ไม่แข็งแกร่ง ลำพังเทคนิคการเล่นคงช่วยอะไรไม่ได้มากนัก จริงไหมครับ? จาก : สหายร่วมวัย รหัส - วัน เวลา : 372319 - 06 พ.ย. 47 - 18:43 ......................................................................... คุณลุงของเรน ; อย่างหนึ่งที่คุณกับผมคล้ายกัน คือ หลงใหลในกลอนตลาด..ไม่รู้จะใช่หรือเปล่า..ว่าตามที่เห็น.. ผมทราบอยู่ว่าคุณพร้อมที่จะให้..ขอเพียงไปให้ถึง... อาจต่างจากผม คือผมเดินเข้าหา..คลุกคลี คลุกฝุ่น และคลุกเคล้า อยู่ด้วยกัน..แนะนำและโน้มน้าว..เหตุที่ผมมาขอสมัครเป็นผู้สอน ก็ตามที่ผมเขียนเป็นกลอนนั่นแหละ... ตอนนี้เราเปิดการค้าเสรีกับจีน เรื่องการปลูกพืช นอกจากยาง..ลำใยนิดหน่อย..อย่างอื่นดูเราจะเสียเปรียบเขา..ฉะนั้น สุภาษิตจีน บทนี้ ผมคงต้องคัดค้าน.. ถ้าผมจะปลูกต้นไม้สักต้น..ผมจะไม่ดูอะไรมากนัก ดิน..ปรับปรุงได้.. ภูมิอากาศ..ก็สร้างภาวะเรียนแบบได้ ฤดูกาล..ยุคนี้เกือบไม่ต้องดู.. นอกจากวงการก่อสร้าง ผมอยู่ในวงการพืชด้วย และเคยตอบปัญหาทางการเกษตรอยู่หลายเวบ.. ที่ยกกล่าวอ้างค้าน เพราะว่ายุคสมัยเปลี่ยนไป บางครั้งเราย่ำอยู่กับที่ไม่ได้.. ว่าถึงเรื่องกวี..ผมก็รู้ว่ามันไม่ง่าย..แต่ถ้าเห็นยากก่อน..คนรุ่นใหม่ส่วนมากจะหันหลังหนี... ฉันท์ กำลังจะหายไป เพราะนับวันคนสืบทอดน้อยลงๆ..โคลงก็ยังน้อยกว่ากาพย์..ผมมองว่า พื้นฐานเราน่าจะทำให้มันดูง่ายขึ้นก่อน ให้คนรุ่นใหม่สนใจ. ไปจากกลอนตลาด และมันจะมีวัฒนาการไปถึงการเขียนร้อยกรองแบบอื่น..มิฉะนั้น อีกไม่นานกลอนเปล่าจะเข้ามาแทนร้อยกรองทุกอย่าง..การเขียนอะไรที่ยากจะทำความเข้าใจให้เด็กอ่าน..ผมรับรองเขาไม่อ่าน และจะมีความคิดไม่อ่านติดไปอีกนานแสนนาน.. พิมพ์เยอะแล้วขออภัยด้วย ที่ทำให้อ่านมากปวดตา..วันนี้เราไม่ลงหลุม จะไม่ทราบเลยว่าก้นหลุมเป็นฉันใด....สวัสดีครับ... จาก : รหัส - วัน เวลา : 372349 - 06 พ.ย. 47 - 20:23 .................................................................. สหายของคุณลุง ; วันนี้เราไม่ลงหลุม จะไม่ทราบเลยว่าก้นหลุมเป็นฉันใด.. ผมก็ลงมาหลายหลุมนา เหอๆๆๆ การเรียนเขียนร้อยกรอง ต้องเริ่มจากการทำความเข้าใจว่าร้อยกรองคืออะไร และต้องไม่ลืมว่าแก่นของงานเขียนก็คือเนื้อหา เพราะร้อยกรองเป็นแค่รูปแบบหนึ่งของการเขียน และถ้าถามว่าร้อยกรองคืออะไร ก็คงต้องตอบว่าร้อยกรองไทยมีพื้นฐานมาจากการขับ สมัยก่อนเราฟังด้วยหู มากกว่าที่จะอ่านด้วยตา ก็เลยทำให้ร้อยกรองไทยมี จังหวะ และ ท่วงทำนอง และเพื่อให้จำง่าย ร้อยกรองไทยจึงใส่ความคล้องจองของคำลงไป หรือที่เราเรียกว่า สัมผัสสระ ขณะเดียวกันก็เติมความไหวด้วยการเล่นล้ออักษรหรือสัมผัสอักษร แต่คุณค่าของร้อยกรองอยู่ที่ ประเทืองปัญญา และ สะเทือนอารมณ์ คือต้องอ่านแล้วได้ปัญญา กับอ่านแล้วมีอารมณ์รู้สึกตามนั้น ซึ่งเราคงทำแบบนั้นไม่ได้ถ้าใช้คำผิดความหมาย หรือเดินความวกวน ถ้าไม่เริ่มจากพื้นฐาน ก็ต้องปรับพื้นฐาน มิฉะนั้น ไงๆ ก็ไปไม่ไกลหรอก อย่างไรก็ตาม วิธีที่ดีที่สุดในการเรียนการเขียน ก็คือต้องเริ่มจากการอ่าน และห้ามเรียนลัดข้ามขั้นตอนนี้เป็นอันขาด จาก : สหายร่วมวัย รหัส - วัน เวลา : 372594 - 07 พ.ย. 47 - 10:48 ............................................. สหายของคุณลุง ; ที่ผ่านมา เราไปติดอยู่กับเปลือกอันอลังการของร้อยกรอง ใส่สัมผัสในแพรวพราว ใช้คำวิลิศมาหรา โดยลืมที่จะเขียนให้อ่านรู้เรื่อง เมื่ออ่านไม่รู้เรื่อง ก็ไม่สามารถเก็บเกี่ยวอรรถรส อาการ ประเทืองปัญญา หรือ สะเทือนอารมณ์ ก็ไม่เกิด เราลืมสอนแก่นของงานเขียนให้คนเขียนร้อยกรอง พอยึดติดกับเปลือก สักแต่มีสัมผัสแพรวพราว แต่ใช้คำผิดความหมาย เดินความวกวน ผูกประโยคแบบไม่เป็นภาษามนุษย์ คนอ่านก็ไม่เข้าใจ และแน่นอนว่าไม่มีทางเกิดความประทับใจ กลอนเปล่าที่เขียนเป็นภาษาง่ายๆ อ่านเข้าใจ ก็มาแทนที่ และถ้าถามว่าแล้วร้อยกรองจะเอาอะไรไปสู้ ก็คงต้องตอบว่า เอาคุณสมบัติที่ได้เปรียบสิ รอให้ผู้เฒ่ามาสาธยายเองดีกว่า ว่าคุณสมบัติที่ได้เปรียบของร้อยกรองอยู่ตรงไหน จาก : สหายร่วมวัย รหัส - วัน เวลา : 372597 - 07 พ.ย. 47 - 11:08 ................................................................... คุณลุงของเรน ; การสอนเรื่องเกี่ยวกับร้อยกรอง ปัจจุบัน ป4-ป5 ก็สอนกันแล้วครับ.ผมพอรู้จักกับครูผู้สอนอยู่บ้าง บางเวลาก็มีโอกาสไปคลุกอยู่กับเด็ก..สอนบ้างคุยเล่นบ้าง ได้ค่าแรง คือรอยยิ้ม เสียงหัวเราะ โรงเรียนตามชนบท วิชานี้เน้นน้อยมาก..และความสนใจของเด็กก็ไม่มาก เพราะไม่ใช่ วิชาหลักของการเรียน... จากตรงนี้ไป..เด็กมักจะมองเห็นว่า นอกจากไม่ค่อยมีประโยชน์ และยังยุ่งยากต่อการลองเขียน เนื่องจากถูกบังคับ อยู่ด้วยฉันทลักษณ์..การเขียนกลอนเปล่า จึงเริ่มณ.ตรงนี้.. ถ้าถามเขาว่า ร้อยกรองคืออะไร รูปแบบคืออะไร ผมว่าเขาต้องรู้..เพราะว่ามันออกข้อสอบ..แต่ถ้าถามว่าชอบมั้ย..เด็กกว่าครึ่งส่ายหัว... แก่นของงานเขียน จะเกิดขึ้นไม่ได้..ถ้าไม่มีคนรักจะเขียน...หรือชอบเขียนให้ถูกแบบ...กลอนเปล่าเขียน-อ่านแล้วรู้เรื่องเลยง่ายกว่ามาก.. ฉะนั้น ตรงนี้ ผมจึงตอบว่า...ให้เขารักร้อยกรองก่อน แล้วเขาจะพัฒนาไปหาแก่นเอง เพราะโดยวิสัยของคน มีการปรับตัว ที่ดีกว่าสิ่งมีชีวิตประเภทอื่น..ตัวใหญ่กว่า จิ้งจก-ตุ๊กแก ตั้งเยอะ. จริงๆผมให้ความสำคัญกับการอ่าน มากเช่นกัน เลยทำซี.ดี แจก..แต่ถ้าคุณหมายถึงอ่านความคิดเห็น ที่แตกต่างกันออกไป..นั่นก็อีกเรื่องหนึ่ง.ส่วนการประเทืองปัญญา กับ สะเทือนอารมณ์...ตรงนี้แหละผมว่าปัญหา..ปัญญากับอารมณ์ มันไปกันไม่ได้อยู่แล้ว คุณคงเคยได้ยินบ่อยๆ พอเกิดอารมณ์ปัญญาก็ตายไป.. ประเทืองปัญญา คุณหมายถึงเนื้อหาของบทกลอน.. สะเทือนอารมณ์..ก็คือ ความรู้สึกจากสิ่งที่ได้อ่าน ผมพยายามจะบอกว่าสองอย่างนี่ มันไปด้วยกันลำบาก และก็ให้ความหมายต่างกัน...เรื่องนี้อธิบายกันยาว พักไว้ก่อน.. ผมพอเข้าใจ เรื่องการใช้คำและการไล่ความอยู่บ้าง อาจจะไม่สันทัดเท่าคุณนัก..ก็พอเข้าใจในระดับหนึ่ง..แต่การเรียนรู้ทุกอย่าง ต้องนับจากหนึ่ง..เอาฐานก่อน แล้วค่อยๆ ขึ้นไปหายอด..จะเรียนที่เดียวเลย..ยากนัก..โดยเฉพาะคนที่ไม่มีฐาน...ก็อย่างที่ผมบอก ควรทำให้ง่าย ให้เกิดความชอบก่อน... การสัมผัสอักษรคงต้องเป็นอีกขั้นหนึ่งของการพัฒนา..เพราะถ้าใหม่ๆ อาจทำไม่ได้ดี ทำให้อรรสรถของกลอนเสียไป ยังไงซะ มือใหม่ๆ ควรศึกษา เพียงสัมผัสสระ ให้แม่นและชำนาญก่อน ผมพอเข้าใจสิ่งที่คุณแนะนำ..ในสิ่งที่ผมกำลังทำ ผมยินดีจากใจจริง..รับฟังและขอบคุณ..ผมแจ้งเสมอว่า ผมนั้นเป็นฐาน..เป็นถนนเส้นเล็กๆ ให้เขาเดินอย่างมั่นคง มีความสบายใจปลอดภัย จนกว่าเค้าจะไปถึงถนนใหญ่ และเมื่อเขาเดินอย่างสง่า ถึงที่หมาย ผมก็คงมองเขาด้วยสายตาที่เป็นสุขเท่านั้น.. จบการตอบโพสที่1.... เรื่องสัมผัสใน..เรื่องนี้จริงๆผมคิดว่า อยู่ที่การใส่ให้เหมาะสม..ไม่เฟ้อไป มากไป..และรักษาความหมายของ เนื้อหาให้ได้..ก็สวยงามแล้ว ผมมองว่าเรื่องสัมผัสใน เป็นเรื่องจำเป็น เพราะเป็นการแสดงลีลาของการเขียนอย่างหนึ่ง.. ส่วนคำวิลิศมาหรา..อันนี้อยู่ที่ประเภท ของร้อยกรอง ที่จะเขียน..แล้วแต่คนชอบเขียนและคนชอบอ่านชอบดู แล้วแต่ใจ...ส่วนตัวร้อยกรองประเภทที่อ่านเข้าใจยาก ผมก็เหมือนเด็กๆนะ ให้ความสนใจน้อย ฉันท์ก็จะเลือกอ่านเฉพาะที่ไม่ต้องแปลมาก โคลงก็เช่นกัน... ในแบบกลอนตลาด ผมเขียนและแนะนำ เฉพาะคำที่อ่านเข้าใจง่าย..โดยเฉพาะไม่แนะนำให้เอาคำ ที่ประ..ที่ลด...ในฉันท์ มาใช้ในกลอนตลาด คนละประเภทกัน..คำว่ากลอนตลาดชื่อบอกอยู่แล้ว... ส่วนแก่นของร้อยกรอง ต้องค่อยๆให้ผู้เขียนฝึกฝน และ เดินเข้าหา ซึ่งผมแจ้งไว้ข้างบนว่า อยู่ที่การปรับตัว.. คุณสมบัติที่ได้เปรียบของร้อยกรอง..กับกลอนเปล่า..อยู่ที่ความสวยงามของภาษาไทย.และความชำนาญของผู้เขียน....แต่ทั้งสิ้น..ต้องถามว่า..วันนี้เธอรัก ร้อยกรองหรือยัง..เพราะถ้าไม่รัก ทุกเรื่องที่ผมกับคุณสนทนากันมา หรือจะมีประโยชน์.... ขอขอบคุณครับ สำหรับความรู้ที่แนะนำ ตอนนี้คุณลงมาแตะพื้นก้นหลุมแล้ว..เพียงแต่คุณยังไม่ได้คลำ ให้รู้ว่า..คุณลงมาทำไม...และจะทำอะไรต่อไป...สวัสดีนะครับ... จาก : ผู้เฒ่า....โง่งม รหัส - วัน เวลา : 372721 - 07 พ.ย. 47 - 16:10 ............................................................................................. สหายของคุณลุง ; การอ่าน..ที่ผมต้องการสื่อถึง คือการอ่านร้อยกรองดีๆ อ่านให้จับจังหวะได้ และเห็นความงามของภาษา ปัญหาคือ เป็นการยากที่จะหาร้อยกรองดีๆอ่าน ตรงนี้หมายถึงร้อยกรองดีๆสำหรับเด็กนะครับ วรรณคดีเก่าๆ ก็มีเนื้อหาและภาษาที่พ้นสมัย งานใหม่ๆที่จะเขียนเพื่อให้เด็กอ่านก็แทบไม่มี ก็ได้แค่หวังว่าจะมีกวีให้ความสำคัญกับจุดนี้บ้าง หรือไม่ก็จะมีคนโตแล้วเกิดชอบอ่านร้อยกรองขึ้นมาบ้าง แต่ถ้ามีแต่ร้อยกรองที่อ่านไม่รู้เรื่อง ก็เป็นอันว่าสิ้นหวัง ประเทืองปัญญา กับ สะเทือนอารมณ์ อย่างใดอย่างหนึ่งก็ยากแล้ว เอาทั้งสองเลยยิ่งยากหนักหนาสาหัสสากรรจ์ แปลว่าเอาสักอย่างก็พอ แต่ถ้าทำได้ก็ทำให้มีครบ (ผมก็ยังทำไม่ได้) ร้อยกรองนั้นมีข้อได้เปรียบที่ความไพเราะ กับจำง่าย มีคนท่องจำร้อยกรองยาวๆได้ แต่ไม่มีใครท่องกลอนเปล่า สำคัญเพียงว่า เราเขียนให้มันน่าท่องจำสักแค่ไหน เกือบลืม โจอี้ บอย ก็ยังรักร้อยกรองเลย จาก : สหายร่วมวัย รหัส - วัน เวลา : 372738 - 07 พ.ย. 47 - 16:40 .............................. คุณลุงของเรน ; เรื่องการอ่าน คงหลังจากผมส่งซี.ดี ไปสักระยะ คงได้ร่วมแสดงความคิดเห็นกัน กับเพื่อนๆณ.ที่นี้..คงต้องใช้เวลาอีกสักระยะครับ..ผมเชื่อว่า เรื่องหลักภาษาก็ดี ฉันทลักษณ์ก็ดี อันนี้เป็นสิ่งตายตัว..ทุกคนถ้าตั้งใจ เรียนทันกันแน่.. แต่ที่ไม่เท่ากัน คือประสพการณ์ และจินตนาการ อันนี้ต้องประกอบด้วยการขยันอ่าน ขยันเขียน..ขยันคิด..ซึ่งผมก็มีความหวังเช่นเดียวกัยคุณ ที่อยากอ่านบทกวีที่ดีๆ..แต่ทั้งนี้ คงต้องใช้เวลา..เพราะคนเราไม่เท่ากัน ในเรื่องของความคิด... การเขียนกลอนผมเลือกสะเทือนอารมณ์ก่อนครับ..แล้วสอดแทรกประเทืองปัญญา..อยู่ในแบบแผน ของการเขียน..ซึ่งผมก็ยังทำไม่ได้ดี ผมจึงจมอยู่กับกลอนตลาด..ความจริงผมมักจะบอกทุกท่านอยู่เสมอ ว่าผมไม่ใช่ และไม่คิดจะเป็นกวี...ตัดตัวไว้แม้กระทั่งสิ่งที่ผมเขียน ผมยังไม่เรียกว่างานเลย ..เพราะผมต้องหากินด้านอื่น แต่ถ้าเรียกผมว่า คนส่งฝัน ผมจะมีความสุขมากกว่าที่จะเรียกผมว่ากวี.... ผมฟังเพลงแร๊พ ไม่เป็นหรอกครับ..อาจจะเป็นว่า ชราเกินไป..แล้วคุณโจอี้บอย..ถ้าจับมาเขียนกลอน ตามหลักที่ถูกต้อง..ผมมั่นใจว่า เขาไม่อยากทำหรอกครับ...ร้อยกรองแบบเพลง ต่างกันมาก กับบทกวี..และไวพจน์ เพชรสุพรรณ ก็แร๊พ มาก่อน..พวกผิวดำอเมริกาเจ้าตำหรับแร๊พนัก.. ถ้าพวกแร๊พ ..ฮิบพ๊อบ..อารมณ์นุ่มนวล และอดทนกับหลักฉันทลักษณ์ในการเขียนกลอนได้ ก็นับว่าแปลกไม่น้อย..และคงมีไม่มากนัก.... ผมขอบคุณนะครับ ที่กรุณา มาสนทนาด้วย มีอะไรจะแนะนำเกี่ยวกับเรื่องการเขียน ที่เป็นประโยชน์ ผมยินดีครับ..และจะได้จดจำ ไปบอกเล่า ให้เพื่อนๆที่นี่ ได้ศึกษากัน...สวัสดีนะครับ จาก : ผู้เฒ่า....โง่งม รหัส - วัน เวลา : 372996 - 07 พ.ย. 47 - 22:06 ................................... สหายของคุณลุง ; การเขียนมี 3 เป้าหมาย 1. ระบายอารมณ์ 2. เอาใจตลาด 3. เพื่ออุดมการณ์ น่าเสียดายที่บางคนไม่มีเป้าหมาย หรือมีในระดับต่ำ และเมื่อมีเป้าหมายแล้วก็ต้องหาทางไปให้ถึงเป้าหมายนั้น ตรงนี้เองที่ความรู้และทักษะเป็นของจำเป็น นักร้อง ต้องร้องตามจังหวะและ melody ของเพลง ผมว่า ฉันทลักษณ์ของร้อยกรองไทยผ่อนปรนกว่ามากนะ เพราะมันเป็นแค่กรอบหลวมๆ เมื่อเทียบกับ melody ของเพลง แต่ที่มันดูเหมือนยากก็เพราะเราไม่เข้าใจมันต่างหาก และพอมีคนจะอธิบาย ก็ปฏิเสธที่จะฟัง แถมบอกว่าองุ่นเปรี้ยว ทั้งๆที่ไม่เคยได้ชิม จาก : สหายร่วมวัย รหัส - วัน เวลา : 373342 - 08 พ.ย. 47 - 15:08 ......................... คุณลุงของเรน ; ผมว่าความต้องการ ของคนเราไม่เหมือนกัน..และเราจะไปคิดให้..เขามาชอบหรือต้องการแบบเรามิได้..... เป้าหมายมีมากกว่าสามแน่นอน..บางคนเป็นธุรกิจ บางคนต้องการชื่อเสียง อย่างเด็กๆบางคนอาจเขียน เพื่อให้มีคนเข้าใจกันมาคุยด้วย เพื่อหาเพื่อน และยังมีอีกหลายเป้าหมาย.... ความรู้นั้นเรียนทันกันได้ ถ้าสนใจ แต่ทักษะแน่นอน อาจต้องใช้ประสพการณ์เป็นตัวช่วย ผมเชื่อว่า ที่เวบแห่งนี้ ทุกคนร้องเพลงเป็นทุกคน แต่การเขียนกลอน คงต้องใช้เวลา เพลงคนฟังมากมาย แต่คนเขียนกลอน น่าจะไม่มาก ผมเรียนว่า ถ้าเขาสนใจอยากจะทำความเข้าใจ น่าจะไม่ยาก มันอยู่ที่อยากทำ..หรือมีสิ่งใดโน้มนำดีๆไหม...ถ้าภาพออกมาน่ากลัว น่ารำคาญ แม้ชายตาใครอยากจะมอง... คนที่จะอธิบาย..นั่นแหละสำคัญ..วันนี้คุณทำให้เขาอยากฟังหรือยัง...ผมว่าหลายๆอย่าง ต้องทบทวนใหม่ ในแง่ของผู้สอน และผู้รับ... เสียดายยุคนี้ใช้ไม้เรียวไม่ได้ซะแล้ว โลกมันเปลี่ยนไป... ผมเชื่อนะ คงมีคนรุ่นใหม่อีกไม่น้อย อยากจะแสดงความคิดเห็น..แต่ว่าเราต่างจะฟังกันหรือเปล่า...ผมว่ามันหมดยุค นุ่งผ้าม่วงโจงกระเบน ถือไม้เท้า..แล้วให้ผู้นั่งฟัง นั่งพับเพียบเรียบร้อยฟังแล้ว...ผมว่าการทำอะไร เราในฐานะผู้ใหญ่ (มิใช่กำนัน) ควรเข้าใจเด็กให้มาก ถ้าเหมือนจะบังคับยัดเยียด ..คงหมดหวัง ที่จะต่อเวลาร้อยกรองไทยให้ยั่งยืนนาน... ความเห็นของผม อาจจะต่างจากคุณบ้าง..ก็ขออภัยด้วย..ความจริงที่ผมเขียนมามาก คุณคงทบทวนไม่หมด..แต่ทุกประโยคของคุณ ผมเข้าใจความหมาย และความต้องการของคุณ.. ดีครับ เพื่อเป็นกระจกให้คนรุ่นหลังมอง เราก็ควรมีกระจกสักสองด้าน..สวัสดีนะครับ.. จาก : ผู้เฒ่า....โง่งม รหัส - วัน เวลา : 373528 - 08 พ.ย. 47 - 19:49 ............................ สหายของคุณลุง ; ผมจะคุยกับผู้เฒ่า แบบเออออห่อหมกกันไปก็ได้ แต่ผมเลือกที่จะไม่ทำอย่างนั้น เพราะที่สุดแล้ว คนอ่านก็จะไม่ได้อะไรเท่าที่เราหวัง คนมักอยากแสดงความคิดเห็น อยากรู้สึกว่ามีคนฟัง แต่ผมชอบที่จะฟังมากกว่า เพราะการฟังก็เหมือนกับการอ่าน ทำให้ได้ข้อมูลเพิ่มขึ้น ตรงที่ที่ผมอยู่ เราไม่บังคับให้ใครฟัง แต่ทุกคนจะรู้ว่าการฟังนั้นมีประโยชน์ และเราเชื่อในพระราชดำรัส ว่ากว่าแท่งเหล็กจะกลายเป็นดาบคมๆได้ต้องผ่านไฟและการตี เราเลือกที่จะตีดาบ ไม่ใช่ปั้นตุ๊กตาดินน้ำมัน อย่างน้อย ก็มีแววว่าจะมีดาบเกิดขึ้นอีกหลายเล่ม แต่ที่เราทำได้ เพราะมีคนยอมเป็นแท่งเหล็ก อย่างน้อย ที่นั่น เราเชื่อว่าคุณภาพสำคัญกว่าปริมาณ จาก : สหายร่วมวัย รหัส - วัน เวลา : 373608 - 08 พ.ย. 47 - 21:43 ................................................... ความคิดเห็น : เรน ..ขออนุญาต .. นั่งแทรก ตรงกลาง.. มองซ้าย .. ฟังขวา ..นะคะ.. จาก : รหัสสมาชิก : 3384 - rain.. รหัส - วัน เวลา : 373699 - 08 พ.ย. 47 - 23:11 .............................................. เรนโมเมจัง ; เรน ..กราบสวยๆ ..สหาย..ของคุณลุงด้วย .. นะคะ.. แบบเรน ..ชอบที่จะเข้ามาฟัง (อ่าน ) .. บทสนทนา .. ของคุณลุง ..กับสหาย ของคุณลุง ... ด้วยดิคะ ... เรน .. ขอแสดงความคิดเห็น .... ที่ครั้งหนึ่ง.. .เรน ..เคยเป็นเหมือนเด็กๆ.. ในบทสนทนา ..ที่คุณลุง ..เอ่ยถึง .. นะดิคะ.. จากตรงนี้ไป..เด็กมักจะมองเห็นว่า นอกจากไม่ค่อยมีประโยชน์ และยังยุ่งยากต่อการลองเขียน เนื่องจากถูกบังคับ อยู่ด้วยฉันทลักษณ์..การเขียน.. ถ้าถามเขาว่า ร้อยกรองคืออะไร รูปแบบคืออะไร ผมว่าเขาต้องรู้..เพราะว่ามันออกข้อสอบ..แต่ถ้าถามว่าชอบมั้ย..เด็กกว่าครึ่งส่ายหัว... กรอบของฉันทลักษณ์ .. ที่เรน .. เคยชื่นชอบ.. ตอนที่เรียน แต่เรน ก็ ..ถูก ..คุณครูดุ ... บทกลอน .. ที่เรนเขียน .. ใต้ภาพวาด .. ที่เป็นของเรน.. เสียงหัวเราะ... ของ..คุณครู .. และเพื่อนๆ.. คะแนน .. หรือตัวเลข ..คือตัวบ่งชี้ .. เป็นเครื่องมือ ที่บีบคั้น.. บอก ..ระดับความสามารถ ... งุนงง .. และสับสน .. มัย ร่า ..ที่เรนต้องคิด .. และเขียน.. ให้เหมือน..เพื่อนๆ.. แค่ .. คำถาม .. ก็ถูกมอง ว่าเป็น .. เจ้าตัวเบี๊ยว ของใครๆ .. ก็เรน .. ทำไม่ได้ .. เนี่ยนา า .. ก็ สิ่ง .. ที่เรนคิด ก็ต้องคิด ..อย่างที่... ผู้ใหญ่คิด .. ทำอย่างที่ผู้ใหญ่ ทำ .. บทกลอน .. ของเรน .. คงเห่ย .. และดูตลก .. ก็ .. ทั้งหมด .. ที่เรน เขียน .. เป็น .. ก้าวแรก .. ที่เรน รู้สึก ภาคภูมิใจ .. ตอนนั้น .. ถูกมอง ว่าเป็น .. เด็กแปลก.. เป็น ..เจ้าตัวเบี้ยว .. ในสายตา.. ของคุณครู.. บาดแผล .. ที่ทำให้เรน .. เจ็บ .. และไม่ชอบ... แต่ ณ วันนี้ .. ที่ตรงนี้ .. บ้านไทโพ .. เรนมีพี่ๆ .. มีคุณลุง .. ที่ใจดี.. สร้าง ..ความรู้สึก .. ของเรน .. ให้.. เปลี่ยน.. ความเป็นกันเอง .. และการยอมรับ .. ในสิ่งที่เรน.. เขียน .. ชี้แนะ .. และเข้าใจ .. มากมาย .. กับความในใจ .. ที่เรน ต้องการ .. สื่อ .. แค่ ..ใครสักคน .. รับฟัง.. ไม่คอย .. จับผิด.. เรน เชื่อว่า .. เด็กทุกคน .. ไม่ชอบ .. กรอบ..ที่ถูกกำหนด .. ด้วยคำสั่ง .. ก็ถ้า คุณครู ..รู้จักที่จะโน้มน้าว .. และ.. รับฟังบ้าง .. ผู้ใหญ่อาจไม่รู้สึก ..อะไร .. ไม่สนใจ แต่.. สำหรับเรน .. มันไม่ใช่ .. เป็น ความจำ .. ที่ถูกฝังแน่น .. ในความรู้สึก ... เด็กก็ คือ มนุษย์ .. ที่มีความแตกต่าง .. ในด้านอารมณ์ และความคิด ..ที่ไม่เหมือนกัน .. เราไม่สามารถ .. วัดขีดจำกัด ของความรุนแรง ..ที่เด็กสามารถ รับได้ ว่ามีเท่าไร ก็เด็ก แต่ละคน มีความเปราะบาง ทางอารมณ์ ไม่เท่ากัน .. การวิจารณ์ .. ที่ขาดซึ่งความเข้าใจ .. มุ่ง..วิจารณ์..แค่ความสะใจ .. มีความคิด เป็น เผด็จการ .. ย่อมเป็นสิ่งที่เด็ก..ไม่เชื่อถือ .. และคอยต่อต้าน .. เรนเชื่อ นะคะ ว่า ..เค้าก็เป็น ส่วนหนึ่ง ของธรรมชาติ .. ย่อมมีศักยภาพ.. ที่จะเปลี่ยน หรือพัฒนาได้ .. เค้าไมใช่..วัตถุ สิ่งของ ที่จะไม่มีศักยภาพ ..ในการพัฒนา หรือ ..เรียนรู้ .. ขอแค่ .. ให้เข้าใจ ..เค้า .. เลิกที่จะตำหนิ .. หรือคอยจับผิด .. ให้เค้า .. ฝึกเรียนรู้ .. และฝึกยอมรับ ..กรอบ และกฏเกณฑ์ .. ที่ถูกกำหนด.. ขึ้นเอง.. จากภายใน .. ด้วยตัวของเค้าเอง .. ถ้าหาก ผู้ใหญ่ .. ให้ความเมตตา เด็ก อย่างจริงใจ .. ให้อิสระ .. และเปิดใจ .. ไม่ขีดกรอบ .. หรือเอาทิฐิเดิมๆ ของตัวเอง .. มาตัดสิน .. ทั้งที่ยังไม่ เข้าใจ เด็กๆ .. . ไม่งั้น .. เรนว่า .. จะทำให้ เด็ก .. ขาดจินตนาการ .. ที่เสรี..ไปได้ .. นะคะ.. ถ้าเป็น ผู้ใหญ่ที่เห็นแก่ตัวมากๆ .. เรนว่า .. ก็คงทำได้ยาก .. ก็เพราะ..ต้องฝึก ลด อัตตา ..ในตัว ผู้ใหญ่.. ก่อน .. นะดิคะ .. ...เรน ต้องกราบ .. ขอโทษ .. คุณลุง และสหาย .. ของคุณลุง ด้วยคะ.. กับ ความในใจ ..ที่เป็นของ .. เรน ก็ เรน..อยากจะบอก ..ใครๆ ... เรน ไม่ใช่ เด็กเก่ง .. อัจฉริยะ .. เหมือนเพื่อนๆ.. ..แต่ สิ่ง ที่เรนมี .. และต้องการ .. มากที่สุด .. คือการที่เรน..ต้องการเห็น .. การแก้ปัญหา .. ที่ไม่ใช้ .. ความรุนแรง ... ปฏิบัติต่อกัน ระหว่างผู้ใหญ่ คือ..การรู้จัก ..ให้อภัย .. หรือการที่ไม่ ..ทำร้ายกัน ด้วยคำพูดที่..รุนแรง .. สร้างความรู้สึก .. การอยู่ร่วม .. อย่างสันติ .. และเอื้ออาทร .. ความก้าวร้าว .. หรือความโหดร้าย .. ที่เรนพบ จากสื่อ มีให้เห็น..ทุกวัน .. ..ทำให้ เรน .. เกิดความรู้สึก .. ที่ไม่ดีเลยคะ.. เรน..สัญญา .. กับคุณลุง .. นะคะ .. ..เรน จะเป็น .. ต้นกล้า.. ให้คุณลุง .. ได้เห็น .. เพียงแค่ .. เรน ขอเวลา .. นิ๊ด ด ..ด.. ก็ เรน .. หัวไม่ดี .. เป็น.. เจ้าจอมตัวเบี๊ยว.. ของใครๆ.. นะดิคะ .. อิอิอิ.. เรน ..ไม่แปลกใจ..เลยนะคะ.. ที่ไม ..เรน .. มีความรู้สึกว่า .. คุณลุง ..อยู่.. ใกล้ชิด.. เรน.. ที่สุด .. เรน.. รู้สึก .. ปลอดภัย ..จัง... ไม่ผิด .. ที่เรนจะบอกความรู้สึก .. ..เรน .. ขอบคุณ .. กับสิ่งที่ ..คุณลุง .. ได้.. ให้ .. เรน..และเพื่อนๆ.. ที่นี่.. ..เรน .. รัก ..คุณครู .. นะคะ... จาก : รหัสสมาชิก : 3384 - rain.. รหัส - วัน เวลา : 373713 - 08 พ.ย. 47 - 23:19
9 พฤศจิกายน 2547 00:09 น. - comment id 366513
..เรน.. ขอบคุณ .. นะคะ.. .. zz z z
9 พฤศจิกายน 2547 00:21 น. - comment id 366524
เรน.. จะไปหา ..กำนัน... ขอผู้ใหญ่ .. ใจดี ..ไปกับเรน ..ด้วยดิคะ.. ก็ .. เรนกลัว .. กำนัน..เนี่ย..นา .. ละเมอ.. ลงจากเตียง .. zz z z.
9 พฤศจิกายน 2547 10:41 น. - comment id 366604
อ่านชื่อเรื่อง สะดุ้งแปดกลับ มือสั่นเป็นจ้าวเข้า คลิ๊กเม๊าแทบไม่ไหว พออ่านไป ๆ ค่อยดีขึ้นหน่อย แต่ก็ยังวางใจไม่สนิท อิอิ เพราะเห็นว่ายังมีต่อ อิอิ
9 พฤศจิกายน 2547 18:37 น. - comment id 366713
อิอิอิ.. มัย .. พี่ฤกษ์ ..ต้องสดุ้ง..แปดกลับ ..ด้วยคะ.. ก็ ..แค่ เรน ..บอกคุณลุง .. คุณลุง .. ไม่เห็นสดุ้งเล้ยย .. ... เรน .. ยังเขียน .. ไม่ได้เลยคะ.. ครั้งแรก .. เรนตั้งใจ .. พล๊อตเรื่อง ..ไว้ว่า.. เรน จะหัด เขียนกลอน .. จนคุณลุง ..เบื่อ ..เรน.. ..แต่ ตอนนี้ .. เรนเขียน ..ไม่ออกเลยคะ....
9 พฤศจิกายน 2547 18:41 น. - comment id 366715
^_^ เก่งมากๆค่ะน้องเรน...พี่ต้องชิดซ้ายตกขอบแล้วแน่ๆ แงๆๆๆๆๆๆฮือๆๆๆๆๆไปฝึกฝีมือบ้างดีกว่า....บ๊าย บายนาคะ จาก : คนเมืองลิง อุลังอุตัง รหัส - วัน เวลา : 372667 - 07 พ.ย. 47 - 13:20 .............. พี่อุ๊คะ.. ..เรน ..ขอบคุณ ..ที่ให้กำลังใจเรน.. ..บทกวี ..ของเรน .. ยังคง .. สื่อได้ .. ไม่ชัดเจน .. ก็ .. มันยังไม่ใช่ .. อย่างที่ เรน .. ต้องการ .. แต่ ..เรน ..จะไม่แพ้ ..ร๊อก .. เรน .. ขอบคุณ ..พี่อุ๊.. นะคะ..
9 พฤศจิกายน 2547 18:45 น. - comment id 366716
น้องเรนเกาหัวฟู .. แต่พี่แก้ม .. ทั้งฟู .. ทั้งร่วง .. ด้วยอ่ะจิ .. ฮี่ๆ .. .......... พี่แก้มคะ... ..เรน .. ได้รับ ..ความรู้สึกดีๆ.. จากพี่แก้ม.. มากมายจริงๆ.. เรน .. มียิ้ม .. ทุกครั้ง .. ที่พี่แก้ม .. มาบ้านเรน .. ..บทกวี .. ของพี่แก้ม .. เรน ..ชอบมากเลยคะ.. อ่อนหวาน .. และอ่อนโยน ..ในความรู้สึก .. ของเรน ..ด้วยดิคะ.. .. เรน ขอบคุณ .. พี่แก้ม ...นะคะ..
9 พฤศจิกายน 2547 19:00 น. - comment id 366720
เจ้าหญิงจะเก่งกว่าเจ้าชายแล้วรู้ตัวป่าวครับ .......... เจ้าชาย ..ให้ท้องฟ้า..เสรี เจ้าหญิงก็เล้ยมี ..รอยยิ้ม.. สร้างสรรค์.. ..ชักชวน ..นกกา ..มาคู่กัน. เริงระบำ .. วาดฝัน .. ที่งดงาม.. คืนนี้ .. .หมอนใบนั้น .. ..ต้องอยู่ .. กับเจ้าหญิง ..แน่ๆเล้ยย.. ..เรน .. ขอบคุณ .. เจ้าชาย..นะคะ..
9 พฤศจิกายน 2547 19:10 น. - comment id 366724
มายืนยิ้ม... หน้าบ้านน้องเรน.... เอ..เจ้าจอมซน.. หายไปไหนน่ะ... จาก : รหัสสมาชิก : 6421 - ภูตะวัน ตะวันรอน รหัส - วัน เวลา : 372708 - 07 พ.ย. 47 - 15:23 ................... พี่ภูฯคะ .. .. เรน..ไม่ได้ไปไหน ... ซ่อนตัวเองไว้ .. ก็เรนอยาก ตอบเป็นกลอนสวย.. หัดเขียน ..สัมผัส ..แต่ก็ยัง งง งวย.. ขอพี่ภู..ช่วย .. รอเรน อีก .. ระกาน.. ..เรน..แอบเข้ามาอ่านตั้งหลายครั้ง ..นะคะ.. แต่เรน .. ก็ยังคิดตอบ เป็นกลอนสวยๆ ..ไม่ได้... .. เรน ..ต้อง ขอโทษ .. พี่ภูฯ ..นะคะ ก็ เรน .. อยากเขียนตอบเป็นกลอนนะดิคะ.. เรน .. ก็เลยรอ ..
11 พฤศจิกายน 2547 16:21 น. - comment id 368144
เอื้องน้อยเรนจัง.. พี่ดามาแอบอ่านบันทึกของเรนน้อยนะค่ะ... คิดถึงมากนะค่ะ... อากาศเย็นลงแล้ว..เวลานอนอย่าลืมห่มผ้าล่ะ...เดี๋ยวจะไม่สบายนะค่ะ...
11 พฤศจิกายน 2547 21:57 น. - comment id 368365
..พี่กัลลดาคะ... ..เรน .. ขออนุญาต .. หอมแก้ ม .. นิ้ด .. นะคะ.. ..เรน ..อบอุ่น ..มากเลยคะ.. ตอนนี้ .. บ้านเรน .. เหงาจัง.. .. เรน ... คิดถึง .. มามี้ด้วยดิคะ..