อานิสงส์ของการสวดมนต์

แก้วประเสริฐ


                                        อานิสงส์ของการสวดมนต์
	              เทศนาโดย ท่านเจ้าประคุณสมเด็จพระพุฒาจารย์ (โต) พรหมรังสี  ดังปรากฎในงานของท่านเจ้าพระยาสรรเพชรภักดี  จางวางมหาดเล็กในรัชกาลที่ 4 ที่ได้นิมนต์เจ้าประคุณสมเด็จโตมาเทศน์ที่บ้าน
                                             *********************
	             ครั้นพลบค่ำ  ท่านเจ้าประคุณสมเด็จโต พร้อมลูกศิษย์ได้เดินทางจากวัดระฆังมายังบ้านของท่านเจ้าพระยาสรรเพชรภักดี  ซึ่งในขณะนั้นมีอุบาสก อุบาสิกา นั่งพับเพียบเรียบร้อยกันเป็นจำนวนมาก  ด้วยต้องการสดับรับฟังการเทศน์ของท่านเจ้าประคุณ  ณ ที่เรือนของท่านเจ้าพระยา
	          เจ้าประคุณสมเด็จโต  ได้ขึ้นนั่งบนธรรมาสน์เป็นที่เรียบร้อยแล้ว  จึงกล่าวบูชาพระรัตนตรัย  เมื่อจบแล้ว ท่านจึงเทศน์ เรื่อง อานิสงส์ของการสวดมนต์
	           ท่านเจ้าประคุณสมเด็จโต  ได้กล่าวว่ายังมีคนส่วนใหญ่เข้าใจว่า  การสวดมนต์มีประโยชน์น้อยและเสียเวลามากหรือฟังไม่รู้เรื่อง  ความจริงแล้วการสวดมนต์มีประโยชน์อย่างมากมาย  เพราะการสวดมนต์เป็นการกล่าวถึงคุณงามความดี  ขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า  ว่าพระองค์ท่านมีคุณวิเศษเช่นไร  พระธรรมคำสอนของพระองค์มีคุณอย่างไร  และพระสงฆ์อรหันต์อริยะเจ้ามีคุณเช่นไร  การสวดมนต์ด้วยความตั้งใจจนจิตเป็นสมาธิ แล้วใช้สติพิจารณาจนเกิดปัญญาและความรู้ความเข้าใจ  ประโยชน์สูงสุดของการสวดมนต์นั่นคือ  จะทำให้ท่านเป็นผล  จนสำเร็จเป็นพระอรหันต์
	         ที่อาตมากล่าวเช่นนี้  มีหลักฐานปรากฎในพระธรรมคำสอนที่กล่าวไว้ว่า  โอกาสที่จะบรรลุธรรมเป็นพระอรหันต์มี  5 โอกาสด้วยกันคือ
	         1.  เมื่อฟังธรรม
	         2.  เมื่อแสดงธรรม
	         3.  เมื่อสาธยายธรรม  นั่นคือ  การสวดมนต์
	         4.  เมื่อตรึกตรองธรรม  หรือเพ่งธรรมอยู่ในขณะนั้น
	         5.  เมื่อเจริญวิปัสสนาญาณ
	      การสวดมนต์ในตอนเช้าและในตอนเย็นเป็นประเพณีที่ปฏิบัติกันมา  ตั้งแต่สมัยพุทธกาล  พระพุทธเจ้าทรงประกาศพระพุทธศาสนา บรรดาพุทธบริษัททั้งหลาย  ต่างพากันมาเข้าเฝ้าพระพุทธองค์  โดยแบ่งเวลาเข้าเฝ้าเป็น 2 เวลา นั่นคือ ตอนเช้าเข้าเฝ้าพระพุทธเจ้าเพื่อฟังธรรม  ตอนเย็นเข้าเฝ้าพระพุทธเจ้าเพื่อฟังธรรม  การฟังธรรมเป็นการชำระล้างจิตใจ  ที่เศร้าหมองให้หมดไปเพื่อสำเร็จสู่มรรคผลพระนิพพาน  การสวดมนต์นับเป็นการดีพร้อมซึ่งประกอบไปด้วยองค์ทั้ง 3 นั่น คือ
	          1.  กาย  มีอาการสงบเรียบร้อยและสำรวม
	          2  ใจ  มีความเคารพนบนอบต่อคุณพระรัตนตรัย
	          3.  วาจา  เป็นการกล่าวถ้อยคำสรรเสริญถึงพระคุณอันประเสริฐ  ในพระคุณทั้ง 3 พร้อมเป็นการขอขมา  ในการผิดพลาดหากมี  และกล่าวสักการะเทอดทูนที่สูงยิ่ง  ซึ่งเราเรียกได้ว่าเป็นการสร้างกุศล  ซึ่งเป็นมงคลอันสูงสุดทีเดียว
	     อาตมาภาพ  ขอรับรองแก่ท่านทั้งหลายว่า  ถ้าหากบุคคลใดได้สวดมนต์เช้าและเย็นไม่ขาดแล้ว  บุคคลนั้นย่อมเข้าสู่แดนพระอรหันต์อย่างแน่นอน
	      การสวดมนต์นี้  ควรสวดมนต์ให้มีเสียงดังพอสมควร  ย่อมก่อให้เกิดประโยชน์แก่จิตตน  และประโยชน์แก่จิตอื่น 
	     *  ที่ว่าประโยชน์แก่จิตตน คือ เสียงในการสวดมนต์จะกลบเสียงภายนอกไม่ให้เข้ามารบกวนจิต  ก็จะทำให้เกิดความสงบอยู่กับบทสวดมนต์นั้น ๆ  ทำให้เกิดสมาธิและปัญญา  เข้ามาในจิตใจของผู้สวด
*  ที่ว่าประโยชน์แก่จิตอื่น คือ  ผู้ใดที่ได้ยินได้ฟังเสียงสวดจะพลอย ให้เกิดความรู้เกิดปัญญา  มีจิตสงบลึกซึ้งตามไปด้วย  ผู้สวดก็เกิดกุศลไปด้วยโดยการให้ทานโดยทางเสียง  เหล่าพรหมเทพที่ชอบฟังเสียงในการสวดมนต์ มีอยู่จำนวนมาก  ก็จะมาชุมนุมฟังกันอย่างมากมาย  เมื่อมีเหล่าพรหมเทพเข้ามาล้อมรอบตัวของผู้สวดอยู่เช่นนั้น  ภัยอันตรายต่าง ๆ ที่ไหนก็ไม่สามารถกล้ำกลายผู้สวดมนต์ได้ตลอดจนอาณาเขตและบริเวณบ้านของผู้ที่สวดมนต์  ย่อมมีเกราะแห่งพรหมเทพและเทวดา  ทั้งหลายคุ้มครองภัยอันตราย  ได้อย่างดีเยี่ยม
ดูก่อน...     ท่านเจ้าพระยาและอุบาสกอุบาสิกาในที่นี้  การสวดมนต์เป็นการระลึกถึงพระพุทธคุณ  พระธรรมคุณ  พระสังฆคุณ  เมื่อจิตมีที่พึ่งคือ คุณพระรัตนตรัย ความกลัวก็ดี  ความสะดุ้งกลัวก็ดี  และความขนพองสยองเกล้าก็ดี  ภัยอันตรายใด ๆ ก็ดี  จะไม่มีแก่ผู้สวดมนต์นั่นแล...
*****************************
                              ความมหัศจรรย์ของการสวดมนต์
	           อาตมา...  ได้เห็นอานิสงส์ของการสวดมนต์ด้วยตัวของอาตมาเอง  ในสมัยที่อาตมาได้ออกเดินธุดงค์ในป่าเป็นเวลา 15 ปี  โดยอาศัยอยู่ในเขตดงพญาไฟ  ซึ่งเป็นเขตที่อยู่ใกล้ชายแดนของประเทศเขมร  ในสมัยนั้นเต็มไปด้วยความทุรกันดาร  และความอดอยาก  เต็มไปด้วยสิงสาราสัตว์  และภูติผีวิญญาณตลอดจนชาวบ้านที่มีเวทมนต์คาถาและเล่นคุณไสยกันอยู่อย่างมากมายในอาณาบริเวณชายแดนแห่งประเทศสยามในตอนนั้น  อาตมาได้เดินธุดงค์ไปเพียงลำพัง  ในช่วงเวลานั้นอาตมามิได้ศึกษาในพระเวทมนต์คาถาอาคมใดเลย  นอกจากคำว่า พุทธัง สะระณัง คัจฉามิ ธัมมัง สะระณัง คัจฉามิ สังฆัง สะระณัง คัจฉามิ  ซึ่งมีความหมายว่า ข้าพเจ้าขอยึดมั่นพระพุทธเจ้าเป็นที่พึ่ง พระธรรมเป็นที่พึ่ง พระสงฆ์เป็นที่พึ่ง
	     อาตมาไปที่แห่งหนตำบลใด  ก็จะกล่าวเพียงแต่คำนี้ตลอดเวลาของจิตใจอันเป็นที่พึ่งของอาตมาเอง  อาตมาเดินทางเข้าสู่หมู่บ้านชายแดนแห่งประเทศสยามในดงพญาไฟขณะนั้น  ในหมู่บ้านนั้นมีชาวบ้านอาศัยอยู่เพียงเล็กน้อย
	     อาตมาจึงได้ปักกลดอยู่ที่ท้ายหมู่บ้าน  มีชาวบ้านนำอาหารมาถวายตามกำลังที่เขาจะพอทำได้  เมื่อเห็นมีพระภิกษุมาปักกลดในที่แห่งนั้น  อาตมาอาศัยอยู่ที่นั่นเป็นระยะเวลาหลายปี  และ ณ ที่แห่งนั้น  อาตมาจึงได้พบคุณวิเศษแห่งการสวดมนต์
	     มีชาวบ้านผู้หนึ่งได้เข้ามาสนทนากับอาตมาหลังจากได้ถวายอาหารแล้ว  ชาวบ้านผู้นั้นอาตมาทราบชื่อภายหลังว่าชื่อ นายผล  นายผลได้เล่าให้อาตมาฟังว่า  เขาเป็นผู้ฝึกเวทย์มนต์คาถาอาคม  เล่าเรียนจนมีญาณแก่กล้า  และมักจะทดสอบเวทย์มนต์คาถาอาคมแก่พระภิกษุสงฆ์ที่เดินทางมาปักกลด ณ บริเวณนี้เป็นประจำ
	      เขาเล่าให้อาตมาฟังว่า  เขาได้ส่งอำนาจคุณไสยเข้ามาทำร้ายอาตมาทุกคืน  แต่ไม่ได้หวังทำร้ายเป็นบาปเป็นกรรมถึงตาย  เพียงแต่ต้องการทดสอบดูว่าภิกษุรูปนั้นจะมีวิชาอาคมแก่กล้าสามารถที่จะต่อสู้กับคุณไสยเขาได้หรือไม่  นายผลก็ได้ทำคุณไสยใส่อาตมาถึง 7 วันเต็ม ๆ ไม่ว่าจะเป็นการปล่อยควายธนูหรือปล่อยหนังควาย ปล่อยตะขาบ ตลอดจนภูติพรายเข้ามาทำร้ายอาตมา  แต่ปรากฎว่าสิ่งที่ปล่อยมา  ก็ไม่สามารถเข้ามาทำร้ายอาตมาได้เลย
	      วันนี้จึงได้มากราบเพื่อสนทนาแลกเปลี่ยนวิชาความรู้กับอาตมา  อาตมาจึงได้บอกว่าตัวอาตมาเองไม่ได้ศึกษาเวทย์มนต์คาถาหรือคุณไสยใด  นายผลก็ไม่ยอมเชื่อหาว่าอาตมาโกหก  ถ้าหากว่าไม่มีของดีแล้วไซร้ไฉนอำนาจคุณไสยดำที่เขาส่งมา  จึงกลับมายังที่เขาซึ่งเป็นผู้กระทำ  ไม่สามารถทำร้ายอาตมาได้  อาตมาก็พยายามชี้แจงให้เขารู้ว่า  อาตมาไม่มีวิชาเหล่านี้จริง ๆ ทำให้นายผลสงสัยยิ่งนักว่าเหตุใดอาตมาจึงไม่ได้รับภัยอันตรายจากอำนาจเวทมนต์คุณไสยดำที่เขาส่งมาทำลายได้
	      อาตมาได้บอกกล่าวแก่เขาว่า  เมื่ออาตมาจะนอน  อาตมาก็จะสวดแต่คำว่า พุทธัง สะระณัง คัจฉามิ ธัมมัง สะระณัง คัจฉามิ สังฆัง สะระณัง คัจฉามิ  จนจิตมีความสงบนิ่งแล้ว  จึงได้แผ่ส่วนกุศลไปให้แก่สรรพสัตว์ทั้งหลาย  จงอย่าได้มีความทุกข์กายทุกข์ใจเลย  อย่าได้มีเวรแก่กันและกันเลย  อย่าได้เบียดเบียนซึ่งกันและกันเลย  และอาตมาก็จำวัดนอนเป็นปกติ
	      นายผลเมื่อได้ฟังดังนั้น  จึงได้บอกแก่อาตมาว่า  ข้าแต่ท่านอาจารย์  ถ้าเช่นนั้น ข้าพเจ้าขอร้องให้ท่าน ในวันนี้ก่อนที่ท่านจะจำวัด  จงหยุดการสวดมนต์สัก 1 คืนได้หรือไม่  ข้าพเจ้าต้องการจะพิสูจน์ว่าการสวดมนต์ของท่านเช่นนี้  จะเป็นเกราะคุ้มครองภัยท่านหรือเป็นเพราะอำนาจเวทมนต์คาถาในภูติผีปีศาจของข้าพเจ้าเสื่อมกันแน่  ข้าพเจ้าขอรับรองว่า  จะไม่ทำอันตรายแก่ท่านอาจารย์อย่างเด็ดขาด เพียงแต่ต้องการที่จะทดสอบให้รู้แจ้งเห็นจริงว่าเกิดอะไรขึ้น
	     อาตมาก็ตกลงรับปากแก่นายผลว่า  คืนนี้จะไม่ทำการสวดมนต์  นายผลจึงได้ลากลับไป  ครั้นถึงเวลาพลบค่ำอาตมาก็นอนโดยมิได้ทำการสวดมนต์ตามที่ได้ปฏิบัติเป็นปกติ  เมื่ออาตมานอนและหลับไป  อาตมารู้สึกตัวขึ้นอีกครั้งหนึ่ง  เมื่อปรากฎว่าอาตมาได้ยินเสียง กุกกัก กุกกัก ขึ้นมา  จึงจุดเทียนและพบตะขาบใหญ่ยาวเท่ากับขาของอาตมากำลังเลื้อย เข้ามาอยู่ใกล้ตัวของอาตมามาก  อาตมารู้สึกตกใจถึงกับหน้าถอดสี  และด้วยสัญชาติญาณจึงกล่าวคำสวดมนต์  พุทธัง สะระณัง คัจฉามิ ธัมมัง สะระณัง คัจฉามิ สังฆัง สะระณัง คัจฉามิ  ด้วยจิตยึดมั่นในพระพุทธองค์เป็นที่พึ่งเป็นเวลานานเท่าใดไม่ทราบได้ เสียงกุกกัก และตะขาบที่อยู่ข้างหน้าก็อันตรธานหายไป  จากนั้นอาตมาจึงได้จำวัดนอนเป็นปกติ
	      ในวันรุ่งขึ้นนายผล   ก็มาหาอาตมาและได้กล่าวว่าเมื่อคืนนี้ข้าพเจ้าได้ปล่อยตะขาบเข้าไปในกุฏิที่ท่านพำนักอยู่
	อาตมาบอกว่า  อาตมาได้ตื่นมาและตกใจ  จึงได้สวดมนต์ภาวนาตะขาบตัวนั้นก็ได้อันตรธานหายไป
	      นายผลจึงได้ยกมือพนมขึ้น แล้วกล่าวว่าบัดนี้ข้าพเจ้าเชื่อแล้วว่า  อำนาจเวทมนต์คาถาและคุณไสยใด ๆ ของข้าพเจ้ามิอาจทำร้ายท่านได้  ก็เพราะอำนาจแห่งการสวดมนต์ภาวนาของท่าน  เป็นเกราะคุ้มครองภัยอันตรายต่าง ๆ ได้
	      ที่อาตมาได้เล่าให้ท่านทั้งหลายในที่นี้ได้ฟังกัน  เพื่อให้เห็นอานิสงส์ของการสวดมนต์ว่า  เหล่าพรพมเทพได้มาฟังการสวดมนต์จริงดังที่อาตมาได้เทศน์ไว้  เพราะถ้าไม่ใช่เหล่าพวกพรหมเทพแล้วไซร้  ก็คงไม่สามารถที่จะขับไล่สิ่งที่เกิดจากอำนาจคุณไสย  ที่นายผลส่งมาเล่นงานอาตมาได้อย่างแน่นอน
	      ท่านเจ้าพระยาและอุบาสก  อุบาสิกาในที่นั้น  เมื่อได้ฟังคำเทศนาแล้วต่างก็ยกมือขึ้นสาธุว่า  อานิสงส์ของการสวดมนต์ช่างมีคุณค่าสูงส่งยิ่งนัก
                                 ********************************
                 เนื่องจากข้าพเจ้าได้รับเมล์จากคุณแหม่มส่งมาให้ข้าพเจ้าอ่านเพราะได้ส่งกลอนที่ได้แต่งเองเกี่ยวกับ สติปัฏฐานสูตร ยังไม่จบ  และกลอนเกี่ยวกับธรรมมะอีกหลายตอนด้วยกัน   คุณแหม่มซึ่งได้เห็นคุณค่าของการเผยแพร่ธรรมของข้าพเจ้าจึงได้ส่งมาให้  อ่านแล้วได้สาระคุณประโยชน์มากมายจึงคิดถึงเพื่อนทั้งหลายในไทยโพเอ็ม และได้ช่วยเผยแพร่แก่สาธุชนเพื่อประโยชน์แก่ส่วนรวม จึงได้นำมาเผยแพร่ หากผิดพลาดประการใดข้าพเจ้าขอรับผิดชอบแต่เพียงผู้เดียว  หากเป็นผลบุญขอมอบให้ประคุณเจ้า  ท่านเจ้าคุณสมเด็จพระพุฒาจารย์ (โต) พรหมรังสี   ด้วยเทอญ.
                                         ๙๙๙   แก้วประเสริฐ.   ๙๙๙   				
comments powered by Disqus
  • นางฟ้าซาตาน

    29 ตุลาคม 2547 22:54 น. - comment id 359917

    ชอบสวดมนตร์เหมือนกันค่ะ โดยเฉพาะช่วงเวลาไม่มีสมาธิ พอสวดแล้วจิตใจสบายดี มีสมาธิมากขึ้น
    
    ขอบคุณคุณแก้วค่ะ
    ที่นำสิ่งดีๆมาให้อ่าน
  • ผู้หญิงไร้เงา

    29 ตุลาคม 2547 22:58 น. - comment id 359921

    ก็สวดอยู่เหมือนกันนะค่ะ  และคืนนี้คงต้องบอกว่าราตรีสวัสดิ์แล้วค่ะ หลับฝันดีนะคะ
  • เพราะรัก

    29 ตุลาคม 2547 23:04 น. - comment id 359925

    สวดไม่เป็นค่ะพี่แก้ว คือที่ยากๆน่ะคะ
    แต่ที่ง่ายก็พอได้ค่ะ ไหว้พระก่อนนอนด้วยค่ะ
    สาธุ.....
    ฝันดีค่ะพี่แก้ว
  • ภูตะวัน ตะวันรอน

    30 ตุลาคม 2547 00:42 น. - comment id 359978

    สมเด็จพระพุฒาจารย์ (โต) พรหมรังสี  
    นับถือ..ศรัทธา..
    แล้วก็สวดคาถาชินบัญชร..ประจำเช่นกัน..
    แวะมาเยี่ยมค่ะ
  • =_+ VeNuS +_=

    30 ตุลาคม 2547 07:48 น. - comment id 360007

    ..อืมๆ วีนัสก็สวดก่อนนอน ส่วนใหญ่จะขึ้นนะโมก่อน..แล้วตามด้วยชินบัญชร  แต่เด็กจนโต..
    
    อันนี้ก็แนะนำเหมือนกันว่าทำแล้วดีคะ..
    
    แวะมาอ่านกลอนเพื่อนค่ะ
    
    วีนัสก่ะเจ้า
    
  • ลูกดาหลา

    30 ตุลาคม 2547 10:47 น. - comment id 360072

    สาธุ สาธุ.....หลวงปู่โตพรหมรังสี .....สาธุ สาธุ สาธุ
    
    ขอบคุณค่ะ 
    
    
    ว่างเว้นการสวดมนต์ มานาน แอะ
    
    
    
    
    
    
    
  • tiki

    30 ตุลาคม 2547 10:52 น. - comment id 360076

    อนุโมทนาบุญทั้งคุณแก้วประเสริฐ และ คุณแหม่มนะคะ   อิอิ สงสัยคุณแก้วลืมไปเปิดลงหน้าเรื่องสั้นหรือเปล่าคะ
  • กุ้งหนามแดง

    30 ตุลาคม 2547 11:57 น. - comment id 360106

    หนูกุ้งก็สวดจ๊ะ..
    
    อานิสงค์ นำพาให้หน้าตาสดใสน่ะจ๊ะ..
    ..
  • เมกกะ

    30 ตุลาคม 2547 12:37 น. - comment id 360140

    เมกเห็นด้วยครับพี่
    การสวดมนต์เป็นสิ่งที่ดีมาก
    สิ่งที่เมกเห็นได้ชัดหลังจากสวดมนต์ก็คือ
    
    ใจสงบขึ้น ใจเย็น ใจนิ่ง ไม่วอกแวก
    
    และที่ดีกว่านั้น  เวลาจะคิดนึกอะไร  มักจะเป็นไปได้เร็วและแม่นยำ
    ทุกวันนี้ เมกจะสวดมนต์ไหว้พระก่อนนอทุกวัน  พอตื่นนอนจะสวด
    บทชินบัญชร และบทพาหุง ทุกวัน  เมกชอบนะครับ ทำให้ใจนิ่งและสงบดี
    
    
    
    +-*-+  +-*-+-*-+ปู๊ชายอารมดี๊ดี+-*-+-*-+  +-*-+
    
  • คนเมืองลิง

    30 ตุลาคม 2547 14:59 น. - comment id 360262

    ไม่ค่อยได้สวดมนต์ค่ะ เดี๋ยวนี้หัวถึงหมอนก็หลับแล้วค่ะ ต่อไปจะพยายามสวดก่อนนอนให้ได้ทุกวันค่ะ
  • แก้วประเสริฐ

    31 ตุลาคม 2547 12:55 น. - comment id 360800

    คุณ นางฟ้าซาตาน
    
                 สิ่งดีๆในโลกนี้มีแยะ สุดจะสรรค์หาหากทุกคนเมื่อได้รับเห็นเป็นประโยชน์ก็ควรนำมาเผยแพร่ เพราะคนที่ไม่ได้รับจะได้รับรู้ไว้บ้างครับ  นี่คือความคิดของผมครับ ขอบคุณมากที่มาเยือนแวะอ่านสิ่งเหล่านี้ครับ
    
                        แก้วประเสริฐ.
  • แก้วประเสริฐ

    31 ตุลาคม 2547 12:59 น. - comment id 360803

    คุณ  ผู้หญิงไร้เงา
    
                  ผมเองสวดมนต์และหลังจากนั้นจะนั่งสมาธิสักครู่มิได้หวังอะไรเพียงแต่ต้องการให้จิตใจสงบ ไม่ฟุ้งซ่าน  ได้ผลครับเวลามีเหตุการณ์ที่กระชั้นชิดทำให้สะดุ้งตื่นตกใจ  จะสามารถรวบรวมสติได้รวดเร็วกว่าปกติครับ   จึงอยากจะให้พวกเราได้หันมาหาทางสงบอย่าหวังอะไรมากนัก  ตัวเราย่อมช่วยตัวเราก่อนเสมอ จะคอยคนอื่นนั้นก็เมื่อเราไม่สามารถทำอะไรได้แล้วล่ะ ขอบคุณมากนะครับ
    
                             แก้วประเสริฐ.
  • แก้วประเสริฐ

    31 ตุลาคม 2547 13:04 น. - comment id 360805

    คุณ เพราะรัก
    
             พยายามซิครับ เอาอย่างนี้นะครับ ตั้งนะโม 3 จงคิดว่าทำได้  พุทธัง อภิปูชยามิ  ธัมมังอภิปูชยามิ สังฆังอภิปูชยามิ  แล้วต่อด้วย พุทธัง สะระณังคัจฉามิ  ธัมมัง สะระณังคัจฉามิ  สังฆัง สะระณังคัจฉามิ  ส่วนท่อนหลัง เอาเป็นคำภาวนาก่อนนอนจนกว่าจะเคลิ้มหลับไป  รับรองว่าจะฝันดีหรือไม่ฝันเลยครับ  ทดลองดูก่อนก็ได้ถ้าไม่ดีไม่ต้องทำนะครับ   ไม่ยาวและไม่ยากครับ
    
                               แก้วประเสริฐ.
    
    
  • แก้วประเสริฐ

    31 ตุลาคม 2547 13:06 น. - comment id 360806

    คุณ ภูตะวันฯ
    
             การสวดมนต์เป็นสิ่งที่สามารถทำให้จิตใจเราสงบ เยือกเย็น แถมสติมั่นคงแฝงไว้ด้วยปัญญาครับ   ขอบคุณมากครับ
    
                          แก้วประเสริฐ.
  • แก้วประเสริฐ

    31 ตุลาคม 2547 13:07 น. - comment id 360808

    คุณ VeNus
    
             แสดงว่าคุณได้รับการอบรมที่ดีมากตั้งแต่เด็กจนปัจจุบัน ครับสิ่งดีเช่นนี้น้อยคนจะสามารถทำได้ครับ  ขออนุโมทนาด้วยครับ
    
                             แก้วประเสริฐ.
  • แก้วประเสริฐ

    31 ตุลาคม 2547 13:11 น. - comment id 360809

    คุณ ลูกดาหลา
    
                  ผมเองสวดมนต์และหลังจากนั้นจะนั่งสมาธิสักครู่มิได้หวังอะไรเพียงแต่ต้องการให้จิตใจสงบ ไม่ฟุ้งซ่าน  ได้ผลครับเวลามีเหตุการณ์ที่กระชั้นชิดทำให้สะดุ้งตื่นตกใจ  จะสามารถรวบรวมสติได้รวดเร็วกว่าปกติครับ   จึงอยากจะให้พวกเราได้หันมาหาทางสงบอย่าหวังอะไรมากนัก  ตัวเราย่อมช่วยตัวเราก่อนเสมอ จะคอยคนอื่นนั้นก็เมื่อเราไม่สามารถทำอะไรได้แล้วล่ะ สิ่งดีๆเหล่านี้คนเรามักไม่ค่อยมองเห็นว่าล้าหลังเป็นคนหลังเขา  แต่หารู้ไม่ว่าสิ่งเหล่านี้สามารถช่วยขจัดขัดเกลาจิตใจเราได้ดีขณะที่คนอื่นไม่สามารถช่วยได้ ในยามว้าวุ่นเสมอ
    
                             แก้วประเสริฐ.
  • แก้วประเสริฐ

    31 ตุลาคม 2547 13:17 น. - comment id 360814

    คุณ ทิกิ
    
              ไม่หรอกครับผมไม่ลืมแต่ไม่ทำครับ เพราะตั้งแต่ผมเล่น ไทยโพเอ็มมา เล่นแค่เวปกลอนตามใจคุณ จนปัจจุบันไม่เคยส่งเรื่องเข้าเวปอื่นเลยหรือแม้กระทั่งไปตามเวปต่างๆยกเว้นที่เคยเข้าไปสองครั้งคือ เวปกลอนกำลังใจ เพื่อไปหาคุณราชิกา กับเวปเรื่องสั้นเพื่อไปอ่านและยังเจอของคุณด้วยครับ ขอบคุณมากนะครับที่แวะมาเยี่ยมเยือนผมเสมอครับ
    
                              แก้วประเสริฐ.
  • แก้วประเสริฐ

    31 ตุลาคม 2547 13:20 น. - comment id 360817

    คุณ กุ้งหนามแดง
    
              โอ้ช่างเลิศอะไรเช่นนั้นงามทั้งจิตใจและร่างกาย  สวดมนต์ภาวนากายาสร้างสรรค์เผยแพร่พระธรรมช่างเลิศบริสุทธิ์จริงๆ อนุโมทนาด้วยคนนะแม่คุณ  ขอบใจมากจ้า
    
                      แก้วประเสริฐ.
  • แก้วประเสริฐ

    31 ตุลาคม 2547 13:22 น. - comment id 360820

    คุณ  เมกกะ
    
             ผมทราบว่าคุณก็เป็นพุทธมามะกะที่มั่นคงยิ่งคนหนึ่ง ถึงแม้ว่าจะชอบสนุกสนานไปตามวัยก็ตาม ในส่วนลึกคุณมั่นคงต่อพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ เสมอมา  อนุโมทนาด้วยครับ
    
                                แก้วประเสริฐ.
  • แก้วประเสริฐ

    31 ตุลาคม 2547 13:24 น. - comment id 360822

    คุณ คนเมืองลิง
    
                ทดลองดูซิครับถ้าดีก็ทำ ถ้าไม่ดีก็อย่าทำไม่เสียหายอะไรเลยล่ะ 
                ผมเองสวดมนต์และหลังจากนั้นจะนั่งสมาธิสักครู่มิได้หวังอะไรเพียงแต่ต้องการให้จิตใจสงบ ไม่ฟุ้งซ่าน  ได้ผลครับเวลามีเหตุการณ์ที่กระชั้นชิดทำให้สะดุ้งตื่นตกใจ  จะสามารถรวบรวมสติได้รวดเร็วกว่าปกติครับ   จึงอยากจะให้พวกเราได้หันมาหาทางสงบอย่าหวังอะไรมากนัก  ตัวเราย่อมช่วยตัวเราก่อนเสมอ จะคอยคนอื่นนั้นก็เมื่อเราไม่สามารถทำอะไรได้แล้วล่ะ ขอบคุณมากนะครับ
    
                             แก้วประเสริฐ.
  • พุด

    31 ตุลาคม 2547 18:21 น. - comment id 361040

    พุดค่ะคุณแก้ว
    พุดสวดมนต์ประจำทุกค่ำคืนมานานแล้วค่ะ
    แทบจะตั้งแต่ยามเยาว์เลยค่ะ
    เพราะพุดเป็นหลานรักของคุณย่าค่ะ
    และท่านถือศีลภาวนา
    และนั่งวิปัสนากรรมฐานค่ะ
    
    พุด..สวดคาถาชิณบัญชรจนจำขึ้นใจแล้วค่ะ
    และบทยอดพระกัณฑ์ไตรปิฏก
    ต้นฉบับเดิม
    และยังมีอีกหลายๆบทค่ะ
    พุด..
    รู้สึกขนลุกปิติใจเกษมจิตมากค่ะ
    กับบทความที่แสนงดงามมีค่ามากทางจิตวิญญาณจนเกินจะกล่าวค่ะ
    พุด..ตามอ่านงานคุณแก้วเสมอมานะคะ
    ด้วยความคารวะและชื่นชมค่ะ
    ขออนุโมทนาบุญ
    ร่วมกับจิตอันผ่องใสของคุณแก้วนะคะ
    
    
    ด้วยรักค่ะ
  • แก้วประเสริฐ

    1 พฤศจิกายน 2547 02:07 น. - comment id 361244

    คุณ  พุด
    
               ครับผมเองเชื่อมั่นในพระคุณของพระสัมมาสัมพุทธเจ้ามาก จึงได้พยายามหาทางเผยแพร่ธรรมอันทรงคุณค่าหาที่เปรียบมิได้แก่สังคม ในเมื่อผมมีโอกาสที่ดีงามเช่นนี้  การที่คุณพุดเจริญธรรมตั้งแต่เยาว์นั้นยังผลให้คุณเป็นผู้ทรงคุณวุฒิยิ่งคนหนึ่งในด้านปัญญาทั้งทางโลกและทางธรรม ผมเองปิติเป็นอันมากที่มีเพื่อนเช่นคุณครับ  ขอบคุณมากนะครับแม่ดอกพุดอันทรงกลิ่นหอมขจรยิ่ง
    
                           แก้วประเสริฐ.

thaipoem ที่สุดกลอนดีๆ

thaipoem บ้านกลอนไทยที่ที่สร้างแรงบันดาลใจของทุกๆคน เป็นเพื่อนเมื่อยามเหงา คอยปลอบใจเมื่อยามร้องไห้ ที่ที่อยากให้ทุกๆคนรู้ว่าสิ่งดีๆเกิดขึ้นได้ทุกวัน