อารมณ์ในอารมณ์ อันอารมณ์บ่มลึกผนึกดวงจิต แปรปรวนคิดเปลี่ยนไปได้ทุกอย่าง มันแฝงไว้ด้วยกรรมนำธรรมวาง จะเสริมสร้างอวิชชามาครอบงำ หากไม่รู้แก่นแท้แน่นอนยิ่ง เหมือนกับลิงขึงผูกกระหน่ำซ้ำ เข้าวกวนหวนหามากระทำ แล้วหมุนนำช้ำชอกทั้งนอกใน หากมิอาจละได้ในทางอวิชชา ทหารเอกกล้าคือตัณหาไม่ปราศรัย ใช้ปัญญามาขจัดจนบรรลัย สมาธิไซร้บ่งชี้ทางสว่างอารมณ์ พอสมคะเนหาปัญญาวิมุติ นำจิตฉุดรวมไว้จะได้สม ก่อกำเนิดเกิดไว้มิเพียงลม จนใจจมลงไว้ในอวิชชา พิจารณายกขึ้นไว้แลให้รู้เห็น จัดแยกเป็นตอนตอนเสียเถิดหนา ว่าขันธ์ห้าเกิดได้อย่างไรมา ใช้ปัญญาแตกออกลอกทีชิ้น ว่ามันทำหน้าที่มีอะไรบ้าง พร้อมโครงสร้างทางดับเกิดรู้สิ้น ขจัดทั้งนอกและในให้เป็นอาจินต์ ฉีกทีชิ้นเผาไหม้ให้อับปาง เมื่อรู้เหตุแห่งการเกิดการดับ ปัญญาขับความเขลาเข้าสะสาง บรรจงสร้างแนวทางวางเป็นกลาง รู้ผลขวางบนต่ำเลิศล้ำจริง เมื่อสติศีลปัญญาพาสมาธิแน่น ทั่วทั้งแคว้นโลกธรรมนำสงบนิ่ง จิตบริสุทธิ์ผุดผาดไร้ทุกสิ่ง เป็นแนวดิ่งวาดลงตรงนิพพาน. ๙๙๙ แก้วประเสริฐ. ๙๙๙
23 กันยายน 2547 14:25 น. - comment id 336705
เห็นด้วยค่ะ อารมณ์ ใน อามรณ์ นั้นขึ้น อยู่ ที่สติ เราเป็น แม่นมั่น ขอบคุณค่ะ
23 กันยายน 2547 14:29 น. - comment id 336715
............ ตอนที่วิจิตรเรียนชีวะ ม.ปลายนะครับ เพื่อนวิจิตรถาม อาจานว่า อาจานครับในพยาธิมีพยาธิไหมครับ เพื่อนๆทุกคนหัวเราะ........เพราะมันเป็นคำถามชวนขำอยู่แล้วว แต่วิจิตรว่าในหลายๆสิ่งมีสิ่งที่อยู่ลึกๆไปกว่าสิ่งนั้นอีกครับ .........
23 กันยายน 2547 14:47 น. - comment id 336746
สวัดีครับ............. ผมเข้ามาอ่านเพื่อเป็นกำลังใจให้คนที่แสนดี หาก ผลิใบ ยังอยู่ก็จะคอยให้ความอบอุ่นเช่นนี้ตลอดไป กำลังใจจากข้างในส่วนลึก ไม่ต้องฝึกต้องหามาให้เห็น จะแดดร้อนตอนสายจนบ่ายเย็น จะคอยเป็นกำลังใจให้ดนดี
23 กันยายน 2547 15:04 น. - comment id 336762
สติมาปัญญาดีมีสร้างสรรค์ สติหยุดนั้นรู้พลันเกิดหวั่นไหว หากสมาธิหดหายสลายไป สิ่งไม่ดีเกิดได้ในทุกที *-*แต่งได้ดีมากๆๆๆๆๆเลยค่ะ*-*
23 กันยายน 2547 16:28 น. - comment id 336808
..ไม่มีสิ่งใดลึกได้..เท่าใจคน.. แวะมาทักทายค่ะ
23 กันยายน 2547 18:29 น. - comment id 336852
บุษบาบานเบิกสร้อย เสาวคนธ์ ฝูงภมรมัววน หวี่ร้อง นารีแรกรุ่นยล กำดัด สวาทนา ชายแต่ตอมจักต้อง ไต่เต้าตามหาฯ นิทานชาคริต เมกแวะมาให้กำลังใจนะครับพี่ +-*-+-*-+ +-*-+-*-+ปู้ชายอารมดี๊ดี+-*-+-*-+ +-*-+-*-+
23 กันยายน 2547 20:47 น. - comment id 336943
สวัสดีค่ะ มาอ่านกลอนสอนใจค่ะ
24 กันยายน 2547 02:08 น. - comment id 337118
ใช้ปัญญาแน่นิ่งตริตรองคิด ความถูกผิดจักกระจ่างทางแก้ไข มีสติทุกเมื่อยั้งชั่งใจ ก่อนตัดสินสิ่งใดในกระทำ .......................... ข้าพเจ้ามาทักทายคุณแก้วประเสริฐ เรียงร้อยข้อคิดได้ดีเสมอเลยค่ะ ชื่นชมค่ะ
24 กันยายน 2547 10:06 น. - comment id 337250
คุณ ดาหลา & ประการัง ใช่แล้วครับทุกสิ่งทุกอย่างในโลกนี้ ต้องมีสติรำลึกได้ถึงสภาวะความถูกต้อง หากขาดการยั้งคิดการจะทำอะไรย่อมเกิดการผิดพลาดเสมอ ขอบคุณมากครับ แก้วประเสริฐ.
24 กันยายน 2547 10:15 น. - comment id 337257
คุณ วิจิตร เป็นความคิดที่ดีมากข้อหนึ่งครับ เหมือนร่างกายเรานี้ย่อมมีสิ่งมีชีวิตแฝงไว้เสมอ สัตว์ที่ยังเสพอาหารเพื่อเลี้ยงชีพย่อมมีสัตว์อื่นที่ต้องการอาหารเหมือนกันแต่คนละชนิดแฝงไว้เช่นกัน หากสอดแทรกธัมมะนิด กายหยาบก็ย่อมมีกายละเอียดซ้อนอยู่เช่นกัน ที่เขาเรียกกันทั่วๆไปว่า กายทิพย์ นั่นเอง ซึ่งรวมไว้ด้วย เวทนา สัญญาบางส่วน สังขาร จิต เจตสิก วิญญาณรวมกันเรียกว่ากายทิพย์ การที่ผมเขียนอารมณ์ซ้อนอารมณ์หากราสังเกตุละเอียดสักนิดก็จะเห็นเช่น รัก เป็นต้น จะมีรักมาก รักน้อย เคล้ากันอยู่นอกในครับ แก้วประเสริฐ.
24 กันยายน 2547 10:18 น. - comment id 337258
คุณ ผลิใบสู่วัยกล้า ขอบคุณมากครับ คุณก็เป็นบุคคลหนึ่งซึ่งจิตใจน้อมนำในเรื่องธรรมปฏิบัติเคร่งผู้หนึ่ง ขอให้ทำจนพ้นจากทุกข์ทั้งปวงด้วยครับ แก้วประเสริฐ.
24 กันยายน 2547 10:22 น. - comment id 337260
คุณ ท่านผู้หญิง สตินั้นควรมีไว้ใช้กำหนด ปัญญาจรดเพื่อให้ได้แก้ไข สัมปชัญญะรู้ตัวมิมั่วไป ใช้ละลายปัญหามาย่ำยี. แก้วประเสริฐ. ขอบคุณมากท่านผู้หญิงที่ยอดยิ่ง
24 กันยายน 2547 10:27 น. - comment id 337264
คุณ นางฟ้าซาตาน ถูกต้องที่สุดครับ อันใจคนเรานี้มีทั้งร้อนและเย็นสุดจะลึกล้ำยากยิ่งแก่การปกครองที่สุด โบราณท่านเพื่อให้ใจเราเย็นลงไม่ร้อนรุ่มกระวนกระวาย ถึงได้เติมคำว่า น้ำ ลงไปข้างหน้าเพื่อเป็นอุทาหรณ์เตือนสติไว้ว่า ให้เย็นเหมือนน้ำ เป็นน้ำใจ ครับ ผิดถูกอย่างไรขออภัยไว้ด้วยนะครับ อย่างไรก็ต้องขอขอบคุณนางฟ้าฯมากนะครับที่หาโอกาสแวะมาเยี่ยมผมเสมอ เราเป็นมิตรเก่าแก่นานแล้วนา แก้วประเสริฐ.
24 กันยายน 2547 10:30 น. - comment id 337266
คุณ เมกกะ ขอบคุณครับ ที่ยกนิทานมาเอ่ยอ้างในสิ่งสวยงามไว้ สิ่งใดสวยย่อมมีอัปลักษณ์สิ่งใดอัปลักษณ์ย่อมมีความสวย หากไม่มองด้วยร่างกาย แล้วจะพบเห็นครับ แก้วประเสริฐ.
24 กันยายน 2547 10:33 น. - comment id 337268
คุณ เพียงพลิ้ว ขอบคุณมากครับอย่าว่าเป็นการสอนเลยเพียงแค่ข้อแนะนำชี้ให้เห็นเท่านั้นเอง ผมเองยังอ่อนด้อยอีกมากมายนัก สิ่งใดพอรู้และเราสามารถเขียนกลอนได้ถึงจะเป็นกอนก็ตามก็พยายามจรรโลงแง่สิ่งนี้ซึ่งน้อยคนไม่ค่อยได้ทำ คนที่ผมรู้จักก็พยายามแนะชี้ให้ช่วยๆกันหน่อย เพื่อศีลธรรมในสังคมเราจะได้อยู่นานๆหน่อยครับ และยังได้ผลบุญกุศลแก่เราได้ อย่างที่เห็นก็คือความ ปิติ ความเบิกบาน ใจของเราไม่ต้องเคลียดทุกข์กังวลครับ แก้วประเสริฐ.
24 กันยายน 2547 10:42 น. - comment id 337279
คุณ แว่นดอย อันปัญญามาเปรียบมีดลับแล้ว ย่อมวาวแววสดใสใช้จัดสรรค์ หากใช้ดีมีคุณค่าเอนกอนันต์ ปล่อยทิ้งพลันสนิมเขอะเลอะหัวใจ. แก้วประเสริฐ. ขอบคุณมากครับขอเชิญมาอีกนะครับ
24 กันยายน 2547 13:09 น. - comment id 337390
...... ครับบบบบ .....
24 กันยายน 2547 15:06 น. - comment id 337447
คุณ วิจิตร ขอบใจมากนะน้อง แก้วประเสริฐ.
24 กันยายน 2547 17:38 น. - comment id 337560
สาธุค่ะ และชอบทุกความเห็นเลยค่ะ สวัสดีค่ะ
25 กันยายน 2547 11:59 น. - comment id 337872
คุณ คนเมืองลิง สวัสดีครับ ขอบคุณมากครับ แก้วประเสริฐ.
27 กันยายน 2547 13:52 น. - comment id 339060
อารมณ์ที่เกิด..ต้องดับ..ด้วยอารมณ์ที่สงบ...พร้อม...สติ..และปัญญา..ที่เกิดขึ้น...ด้วยใจสงบ.. เป็นข้อคิดที่ดีมาก...ทุกตัวอักษร..มีความชัดเจนอยู่ในตัว...ถ่ายทอดได้ดีมากค่ะ..ราชิกา...ขออนุญาตนำไปสอนเพื่อเป็นวิทยาทาน...ได้มั้ยคะ...ขอขอบคุณล่วงหน้าค่ะ..
27 กันยายน 2547 16:36 น. - comment id 339206
คุณ ราชิกา เพื่อนรัก งานของผมก็เหมือนงานของเพื่อนเสมอ สิ่งใดดีและคิดว่ามีประโยชน์เอาไปได้เลยครับผมอนุญาตเสมอ ไม่ต้องบอกก็ได้ผมเองก็จะได้กุศลผลบุญมากยิ่งขึ้นเพื่อนก็ได้ด้วย สร้างไว้ในภพต่อๆไปครับ แก้วประเสริฐ.