ขอฝากใจดวงนี้แด่ที่รัก อยากได้พักห้องใจนั้นมั่นเสมอ แม้นหนึ่งในสี่ห้องของใจเธอ คงละเมอด้วยปลื้มจิตที่คิดมา ใยพระพรหมนำเธอมาเจอฉัน ซ้ำยังสรรค์ความซึ้งตรึงแน่นหนา วงพักตร์เธอยังซึ้งตรึงอุรา มิรู้ว่าเธอมีคู่ผู้ผูกพัน บ้านอยู่เคียงมองเห็นกันทุกค่ำเช้า แสนปวดร้าวดวงจิตไม่คิดผัน เมื่อได้ยลยินสำเนียงเธอเคียงกัน ความสุขนั้นพลันหายมลายไป รักของฉันเปรียบเป็นเช่นต้องห้าม ถูกไฟลามเผาใจให้มอดไหม้ พิศดวงหน้าเธอแล้วช้ำระกำใจ เหมือนตกในอเวจีมีแต่กรรม
11 กันยายน 2547 21:53 น. - comment id 329311
บุคคลควรเห็นผู้มีปัญญา ที่คอยกล่าวคำขนาบ ชี้โทษของเราให้เห็น ว่าเป็นดุจผู้ชี้บอกขุมทรัพย์ให้ ควรคบกับบัณฑิตที่เป็นเช่นนั้น เพราะเมื่อคบแล้ว ย่อมมีแต่ดีฝ่ายเดียว ไม่มีเลวเลย ขุ. ธ. ๒๕/๑๖/๒๕ วิธีฝึกเป็นคนว่านอนสอนง่าย ๑. หมั่นนึกถึงโทษของความเป็นคนหัวดื้อว่ายาก ว่าทำให้ไม่สามารถ รับเอาความดีจากใครๆ ได้ เหมือนคนเป็นอัมพาต แม้มีของดีรอบตัวก็ หยิบเอา มาใช้ไม่ได้ ถ้าหัวดื้อมากๆ ลงท้ายก็ไม่มีใครอยากสอนอยาก เตือน ต้องโง่ทั้งชาติทำผิดเรื่อยไป ๒. ฝึกให้เป็นคนมากด้วยความเคารพ มองคนในแง่ดี ใครมาแนะนำ ตักเตือน เราไม่ว่าเรื่องอะไรก็ตาม นึกขอบคุณเขาในใจ เพราะแสดงว่าเขามีความ ปรารถนาดีต่อเราจึงได้มาเตือน ไม่ว่าเรื่องที่เตือนนั้นจะถูกต้องตามความ เป็นจริงหรือไม่ก็ตามให้รับฟังไว้ก่อน ไม่ด่วนเถียงหรือนึกดูหมิ่นเหยียด หยามเขา หมั่นนึกถึงพุทธพจน์ที่ว่า ผู้ชี้โทษคือผู้ชี้ขุมทรัพย์ให้ ๓. ฝึกการปวารณา คือการออกปากยอมให้ผู้อื่นว่ากล่าวตักเตือนตน ไม่ว่าผู้นั้น จะมีอายุมากกว่า เท่ากัน หรือน้อยกว่าก็ตาม ตัวอย่างเช่น พระภิกษุมี วินัยอยู่ข้อหนึ่งว่า ในวันออกพรรษาให้มีการประชุมกันของพระภิกษุ ทั้ง พระ ผู้ใหญ่และพระผู้น้อย ในวันนั้นพระทุกรูปจะกล่าวคำปวารณากัน คือ อนุญาต ให้ผู้อื่นว่ากล่าวตักเตือนตัวเองได้ เรียกว่า วันมหาปวารณา หลักการนี้สามารถ นำมาใช้กับคนทั่วไปได้ด้วย เช่น นำมาใช้ในหน่วย งานต่างๆ หรือในครอบครัว ซึ่งเมื่อทำบ่อยๆ แล้ว จะเกิดความเคยชิน เป็นนิสัย เป็นการฝึกให้เป็นคนว่าง่าย สอนง่าย ๔. ต้องฝึกสมาธิให้มาก เพื่อให้ใจผ่องใส หนักแน่น สามารถตรองตามคำแนะ นำสั่งสอนของผู้อื่น มีใจสงบเยือกเย็นพอที่จะพิจารณาข้อบกพร่องของ ตนเอง และปรับปรุงแก้ไขให้ดีขึ้นได้ คนเป็นอัมพาต แม้จะมีของดีวางอยู่รอบตัว ก็ไม่อาจหยิบฉวยนำมาใช้ให้เป็นประโยชน์ได้ฉันใด คนหัวดื้อว่ายาก แม้จะมีครูอาจารย์ดีวิเศษแค่ไหน ก็ไม่สามารถถ่ายทอดเอาวิชา คุณความดี มาใส่ตัวฉันนั้น +-*-+-*-+ +-*-+-*-+เพื่อคุณพ่อผู้ล่วงลับ+-*-+-*-+ +-*-+-*-+
11 กันยายน 2547 21:55 น. - comment id 329312
รักไม่ต้องห้ามหรอกจ้ะ... รักอยู่แล้วจ้ะ... ยิ่งห้ามเหมือนยิ่งยุ.. แอบรักใครอยู่หรองาย...น้องสาว...
11 กันยายน 2547 22:36 น. - comment id 329316
รักไปเถอะ..ถ้าอยากรัก อย่าห้ามเลย...ความรัก...
12 กันยายน 2547 03:50 น. - comment id 329399
รักคนที่อายุมากกว่า เป็นรักต้องห้ามของผม อิอิ
12 กันยายน 2547 09:29 น. - comment id 329456
งามมากครับในอารมณ์ที่เขียนมา ๚ะ๛ size> http://www.thaipoem.com/web/songshow.php?id=438 รักต้องห้าม รังษิยา บรรณกร : : Key Dm บาร์ ใยพระพรหมนำฉันให้มาใกล้เธอ พานพบเธอ แต่ให้เธอมีเขาผูกพันธ์ สุดเฉลย เอ่ยความช้ำกรรมเรานั้น เพียงแรกรัก จิตถูกบั่น สุขที่ฝัน พลันมลายมองเห็นกัน ค่ำเช้าบ้าน เราอยู่เคียงยินสำเนียง ยลเธอ เคียงกันแล้วอยากตายเหมือนคนบาป ต้องคำสาปให้ช้ำใจกาย สุดเปล่าเปลี่ยว ระทมเดียวดาย ด้วยพลาดหมาย ชายที่ปองช้ำอะไรเช่นนี้รัก คนมีเจ้าของยามเธอแนบประคอง ใจอยากเมินแต่ตาคอยมอง ทั้งที่จ้องแล้ว ต้องหม่นใจใยพระพรหม แกล้งฉัน ให้มาใกล้เธอปองรักเธอไฝ่บำเรอ ให้ช้ำชอกใจรักต้องห้าม เหมือนไฟลามเผาใจให้ไหม้ สุดจะผ่อน ความร้อนคลายไป เหมือนตกยู่ใน อ-เว-จี ช้ำอะไรเช่นนี้ รักคนมีเจ้าของยามเธอแนบ ประคอง ใจอยากเมินแต่ตาคอยมอง ทั้งที่ จ้องแล้วต้องหม่นใจใยพระพรหม แกล้งฉัน ให้มาใกล้เธอ ปองรักเธอ ใฝ่บำเรอให้ช้ำชอกใจ รักต้องห้าม เหมือนไฟลาม เผาใจให้ไหม้ สุดจะผ่อนความร้อนลงไป เหมือนตกอยู่ในอ-เว-จี...
12 กันยายน 2547 11:02 น. - comment id 329520
รักต้องห้ามยามนี้เขามีรัก หมายสมัครผู้อื่นชื่นสุขสม เหลือเพียงเราเหงาเศร้าและโศกตรม โทษพระพรหมโยงใยให้ยุ่งรัก ..อิอิ..
12 กันยายน 2547 12:59 น. - comment id 329553
อ้าววว ..แล้วกันสิคะ .. เพิ่งมาเห็นเอาตอนนี้ว่ามีกลอนรักต้องห้ามอีก 1 .. แต่ชมอักษรเขียนขึ้น .. เหตุเพราะกลอนรักต้องห้ามของคุณเรไรค่ะ .. เขียนได้ดีมากเลยค่ะ .. เข้าถึงอารมณ์รักขมที่ต้องหักใจ .. แวะมาเยี่ยมเยือนค่าาา ..........................
12 กันยายน 2547 14:38 น. - comment id 329639
รักต้องห้าม อยากรู้จังเลยว่าใครนะบังอาจมาห้ามได้.
12 กันยายน 2547 15:07 น. - comment id 329676
แต่งได้ดีค่ะ น่าสงสารคนที่มีรักต้องห้ามนะคะ หวังว่าพี่จิ๊ก คงไม่ได้มีรักต้องห้ามนะคะ อิ อิ รักต้องห้ามห้ามใจกันได้หรือ รักนี้คือการมอบให้ไม่ใหลหลง รักที่แท้มั่นใจให้อยู่คง รักต้องห้ามย่อมเสื่อมลงในทันที...
12 กันยายน 2547 21:16 น. - comment id 329881
คุณเมกกะ ขอบคุณนะคะ วันนี้มีธรรมะมาฝากกันด้วย ขอให้มีความสุข ขอคุณพระคุ้มครองนะคะ
12 กันยายน 2547 21:17 น. - comment id 329884
คุณ keekie ยิ่งห้ามเหมือนยิ่งยุนี่ ไม่ดีเท่าไหร่นะคะ ไม่รู้เหมือนกันแอบรักใคร แอบรักเจ้าของคอมเม้นท์ป่าวน้อออออออ อิอิอิอิ
12 กันยายน 2547 21:19 น. - comment id 329888
คุณภูตะวัน ตะวันรอน ความรักที่ไม่สมควรรักก็ต้องห้ามสิคะ ไม่งั้นยุ่งแน่ ขอบคุณพี่ภูตะวันค่ะที่แวะมา
12 กันยายน 2547 21:21 น. - comment id 329892
คุณ ม.ปณิธาน ไปแอบชอบใครอยู่เอ่ย ถ้าไม่ได้ชอบเขาข้างเดียวก็ไม่น่าเป็นรักต้องห้ามนะ........ขอบคุณนะคะที่มาทักทายกัน
12 กันยายน 2547 21:22 น. - comment id 329893
คุณ Robert TingNongNoi ขอบคุณค่ะพี่พีทที่เอาเพลงเพราะ ๆ มาฝากกันด้วย.........นี่แหละวัตถุดิบในการเขียน อิอิ
12 กันยายน 2547 21:24 น. - comment id 329895
คุณ พี่ดอกแก้ว ใช่ค่ะ โทษพระพรหม พรหมลิขิตอย่างเดียวเท่านั้น ขอบคุณนะคะพี่ดอกแก้วที่แวะมา
12 กันยายน 2547 21:26 น. - comment id 329899
คุณ ชมอักษร อ้าว วันนี้ก็เพิ่งแวะไปเยี่ยมมาค่ะ อ๋อค่ะที่ลงเพราะอยากประชันกะคุณเรไรค่ะ อิอิอิอิ ขอบคุณนะคะที่แวะมาเยี่ยมค่ะ แล้วมาอีกนะคะ
12 กันยายน 2547 21:28 น. - comment id 329904
คุณ คนเมืองลิง ถ้าเป็นรักต้องห้าม ก็คงต้องเป็นตัวเองห้ามใจตัวเองค่ะ ใครคงห้ามไม่ได้..........ขอบคุณนะคะที่มาเยี่ยมเยียนกันเสมอค่ะ
12 กันยายน 2547 21:31 น. - comment id 329908
สวัสดีจ้าน้องแวว ใช่น่าสงสารคนที่มีรักต้องห้ามมาก ๆ เลยล่ะ ก็ไม่รู้เหมือนกันว่าพี่จิ๊กจะมีรักต้องห้ามหรือเปล่า โปรดติดตามตอนต่อไป อิอิ ขอบคุณนะคะสำหรับบทกลอนอันไพเราะ และก็ไม่ลืมที่จะแวะมาทักทายกันค่ะ
13 กันยายน 2547 10:41 น. - comment id 330218
รักต้องหาม.อุ๊ยรักต้องห้าม.. อ่านแล้วคิดถึงเพลงสามหัวใจอีกหนึ่งเพลง.. อ่านชื่อเพลงคงพอเดาออกนะคะว่าเป็นเช่นไร.. น้องจิ๊กคนดี..ไม่พบรักต้องห้ามอยู่แล้วแหละ..แน่นอน มาทักทายยยยามสายนะคะ.. สวัสดีค่ะ