หนึ่งใบ สองใบ สามใบ มีบ้างไหมที่ไม่เปื้อนหยดน้ำค้าง ปลายกิ่ง โคนกิ่ง กึ่งกลาง ดอกหญ้าข้างล่างยังเปียกชื้น นี่มันเกิดอะไรกัน ทุกสิ่งเหมือนว่าดังฝันแค่ข้ามคืน น้ำค้างพร่างพรมลงทั่วผืน ชั่วว่าหลับตาตื่นก็ลานตา หรือว่าเป็นวันเกิดแห่งน้ำค้าง จึงแวบวับไสวสว่างที่เบื้องหน้า สดชื่นในสายลมที่พรมมา ดังว่าฟ้าอวยพรช่วยรับขวัญ น้ำเอยน้ำค้าง ละอองบางรับแสงแห่งตะวัน ฟ้าเปลี่ยนไปสายลมอาจเปลี่ยนผัน หวังให้เธอสุขนิรันดร์ ไม่เปลี่ยนแปลง
9 กันยายน 2547 11:23 น. - comment id 327526
:)
9 กันยายน 2547 11:47 น. - comment id 327556
เจ้าหลับอยู่ในนามความอ้างว้าง อยู่ท่ามกลางแสงสรรค์แห่งจันทร์ฉาย ขับลำนำบอกกล่าวกล่อมดาวราย สู่ย่ำค่ำพรึกพรายของราตรี รอคอยห้วงเวลาพฤกษาหลับ เริงระยับศศิธรสะท้อนสี มารินสายพรายพรูสู่วารี ปลุกดอกไม้สวัสดีแก่ค่ำคืน เจ้าพรมพรำอยู่ใน..เถื่อนไม้ป่า แล้วเริงร่าเที่ยวล่องท้องนาผืน ฝากรอยรักสลักใจในลมครืน ไปกลบเสียงสะอื้นเหล่าเรไร คือหมายเหตุแห่งพันธุ์และฤดู ยืนหยัดอยู่เที่ยงตรงอสงไขย คอยบอกกล่าวราวเรื่องของเมืองไพร แล้วจากไปเมื่อวันพรุ่งมารุ่งราง เจ้าอ่อนไหวบอบบางกลางอุษา สิ้นกายาเหือดเหงื่อเมื่อแสงสาง ทิ้งรอยชื้นปื้นเขียวเรียวริมทาง บนใบบางไม้ป่าดอกหญ้าดิน เดินทางไกลจากสวรรค์ชั้นเวหา นำน้ำตาอัปสรร่อนสู่สินธุ์ มาเกิดดับนับเริ่มเจิมอาจินต์ มาดื่มกินทิพย์รสแห่งกฎพุทธ เจ้าหยาดวับจับใจในคืนค่ำ หยดลำนำความสาวบริสุทธิ์ อิ่มเกษมอยู่กลางความสมมุติ พริบตาหยุดลับโลกย์โศกแทนตา เจ้าหลั่งไหลอยู่ในกระแสเสียง สื่อสำเนียงพริ้งพรายไร้เดียงสา เพียงข้ามคืนอาจลับไปกับตา วนเวียนลาหวังอยู่ไม่รู้เว้น เริงระบำร่ายริ้วทุกทิวภู มาพรมพรูเกาะใจใครรู้เห็น หนาวยิ่งงามเกร็ดเจ้าพราวกระเซ็น ลืมย่ำเย็นย่ำรุ่งวันพรุ่งนี้ เจ้าหลับอยู่ในนามความอ้างว้าง เจ้าคือหยดน้ำค้างกลางวิถี แท้เกิดดับอยู่ในความไม่มี เป็นมายาราตรีที่เปรอปรน จนดรุณธรรมทองรุ่งส่องหล้า น้ำค้างคาเหือดไอจากไพรสณฑ์ เคยชะโลมโลกย์ภพนพดล ต้องดับตนเหยแห้งกลางแสงธรรม --------------------------------------- หยดน้ำค้างคงกำลังพรมพรายอยู่ ณ ทุกหนทุกแห่งของเมืองราตรีคืนนี้ น้ำค้างอันบริสุทธ์บอบบาง เจ้าไร้เดียงสานัก ที่โชคชะตากำหนดให้เจ้านั้นเป็นดัชนีความงาม ของดอกไม้ราตรี ดอกไม้งามที่บานในยามค่ำคืน ข้าพเจ้าประหวัดถึงน้ำค้างกลางไพรในบ้านนา บ้านป่าไพรของตัวเอง ในยามที่พระจันทร์อาบฟ้า และแสงทองส่องหล้าอาบทุกทิวตอนขอนนา... น้ำค้างกลางท้องทุ่งส่องเกร็ดแสงระยิบยับเต็มตา.. งดงามบรรเจิด เป็นน้ำค้างที่บริสุทธิ์.... ที่ตกลงมาจากสรวงสะท้อนแสงแรกแห่งอุษา น้ำค้างพร่างมาในยามราตรีและเหือดไปในยามอรุณ หมุนเวียนอยู่มิรู้จักเหน็ดเหนื่อย เป็นครรลอง ที่ธรรมชาติลิขิตฉันใด.....กฎธรรมชาติก็ยิ่งบ่งสอนเรา ให้เข้าใจในการเกิดดับของชีวิตฉันนั้น... มิเว้นแม้แต่ความเป็นมนุษย์โลกย์... ความยากย่อมมีการเกิดดับได้เฉกเช่นเดียวกัน.... หากแต่การดับไปแห่งความยากนั้นต้องใช้ แสงธรรมแห่งพุทธา..... ท่านพุทธทาสบอกเสมอว่า ธรรมชาตินั่นตะโกนโหวกเหวก สอนธรรมเราอยู่ตลอดเวลา เพียงเราเปิดใจรับฟัง
9 กันยายน 2547 12:13 น. - comment id 327597
งามในจิตสัมผัสที่ได้รับมาจากกลอนครับ ๚ะ๛ size>
9 กันยายน 2547 14:55 น. - comment id 327766
:) มายิ้มกลับครับคุณทิกิ เห็นด้วยอย่างยิ่งครับลำน้ำน่าน ทุกสิ่งทุกอย่างรอบตัวมีบทเรียนให้เราเสมอ เพียงเราเปิดใจ เปิดตาดู.. ขอบคุณกลอนเพราะๆที่เอามาลงครับ.. ขอบคุณมากเลยครับคุณ Robert.. -------------------------------------- .. สุขสันต์วันเกิดนะ.. -------------------------------------
9 กันยายน 2547 18:15 น. - comment id 327858
ขอให้ชีวิตงดงามตามที่ฝัน ขอให้ทุกวันเป็นวันที่สดใส ขอให้ทุกก้าวเป็นก้าวที่มั่นใจ ขอวันใหม่ให้ก้าวไกลไปกว่าเดิม เมกแวะมาให้กำลังใจนะครับ +-*-+-*-+ +-*-+-*-+ปู้ชายอารมดี+-*-+-*-+ +-*-+-*-+
10 กันยายน 2547 12:38 น. - comment id 328274
น้อยคนได้สัมผัสฉัน ไอแดด แสงตะวันยามเช้า ต้นหญ้า แสงจันทร์ แสงดาว น้อยคนนักจะแต้มเรื่องราวฉันไว้กลางใจ ----------------------------------------------------------------- อยากตื่นเช้ามาแล้วได้กลิ่นไอน้ำค้างบ้างจัง =^_________^=
10 กันยายน 2547 16:20 น. - comment id 328466
ขอบคุณกะลังใจครับ เมก แสดงว่าเป็นคนตื่นสายล่ะซิเนี่ย แม่มดน้อย.. :)
10 กันยายน 2547 17:19 น. - comment id 328547
อุ๊ย เพ่หมอกรู้ได้ไง อิอิ. . .ตอนนี้กลายเป็นคนนอนดึก ตื่นสายไปแล้วค่ะ (ถ้าวันไหนมีเรียน 8 โมงนะ แทบแย่. . .) =^______^=