นานนานเจอกันที ไปด้วยกันไหมพี่และเพื่อนผอง ควบวิบากตากลมชมทุ่งทอง ไต่คันนาผ่าท้องร่องลุยหนองบึง ปล่อยออฟฟิศปิดไว้คงไม่เหงา วันมะรืนผองเราจึงค่อยบึ่ง มาปั่นงานสานฝันอันอื้ออึง วันนี้ไปตามคำนึงในหนึ่งปี เราทำเงินทำงานตัวเป็นเกลียว มีเวลานิดเดียวใช่ไหมพี่ อยากจะคิดทำอะไรตามใจที อยากจะสูดอากาศดีจากที่ไกล บ่ายไปทางกลางภาคเหนือตอนล่าง จะพาไปตามทางที่ไปได้ อาจขึ้นเขาลงภูก็ดูไป สลับไต่ผาตาดพอลาดชัน ระหว่างภูดูโน่นแน่ะทุ่งโล่ง ภูแถวนี้เป็นแนวโค้งเหมือนฉากกั้น ระหว่างความมึนตึงความดึงดัน กับความมีอารมณ์ขันความบันเทิง ทุ่งยามแล้งอาจดูแล้งราวจนไร้ อยากให้พี่ดูใกล้ใกล้หรี่ตาเบิ่ง เห็นอะไรหรือว่าใจมันกระเจิง เห็นไหมเวิ้งวงไหวอยู่ในวิว นั่นแหละป่าแต่มิใช่ป่าในป่า ทั้งมิใช่ป่าช้าพาหวาดหวิว แต่เป็นป่าคนปล่อยไม้ให้ขึ้นทิว หลายปีปล่อยก็ไปลิ่วเป็นป่าไป เอ็มทีเอ็กซ์ของพี่แรงดีแท้ อาร์เอ็กซ์ แซ็ด แก่แก่แม้ดูใหม่ ของผมครางราวโคขืนให้กลืนไฟ แต่ก็ยังไปต่อไปถึงในดง เราผ่อนเครื่องเสียงครางค่อยจางคลาย เริ่มแว่วยินนกมากมายเขาร้องส่ง ความเย็นต้องเข่าศอกบอกตรงตรง มาหนนี้สมประสงค์เป็นแน่เชียว รอพรรคพวกที่ตามมาดูป่ารอ เห็นผึ้งก่อรังใหญ่กอไผ่เขียว เริ่มเห็นนกผกร่อนระยอดเรียว ของเถาวัลย์ที่พันเกี่ยวเป็นสายโยง ก็คลายความขุ่นมัวในตัวตน เห็นชีวิตที่สับสนและสุดโต่ง ที่เคยใช้ในวังวนแก่กลโกง ที่เคยพูดที่เคยโพ่งที่เคยพบ เราทอดน่องคืบไหวไปช้าช้า เพื่อรอเพื่อนอีกสี่ห้ามาบรรจบ ก็เริ่มมองเห็นกองฟางพรางคาคบ เห็นเหมือนมือกระพุ่มนบวันทาคน เห็นสระน้ำที่ขุดใหญ่อยู่ในป่า มีทางลาดลงหาน้ำสีหม่น มีรอยวัวย่ำป็นทางบางรอยวน ไปตามขอบของบ่อจนหญ้าเตอะ เตียน ป่าผืนนี้มีคนพามาเยี่ยมชม ผมเห็นแล้วนึกนิยมไม่เคยเปลี่ยน จึงพาพี่และเพื่อนแท้มาแวะเวียน มาเก็บเกี่ยวเอาบทเรียนที่เพียรพอ เจ้าของป่าเป็นชาวนาตัวเล็กเล็ก แต่หัวใจราวเหล็กนั่นเลยหนอ มั่นคงกว่าหิมาลัยใช่เยินยอ สิ่งเหล่านี้เห็นจริงต่อเมื่อจริงใจ ตั้งตัวไม่กลัวเมื่อยหรือเหนื่อยยาก มีชีวิตลำบากบ่บ่นไห้ เก็บจากเล็กผสมน้อยค่อยค่อยไป แล้วค่อยต่อฝันใหม่ไม่ขาดตอน เริ่มจากหนึ่งจึงมีที่สองสาม เมื่อเป็นสิบก็งอกงามบ่หยุดหย่อน อุปสรรคขวากใดไม่สั่นคลอน ด้วยปลายทางงามกว่าก้อนความขัดเคือง เขาเลี้ยงวัวไม่กี่ตัวตอนเริ่มต้น ก็มีทุนทบจนมากเอาเรื่อง เปลี่ยนวัวเป็นที่ดินไกลถิ่นเมือง ปล่อยไม้ขึ้นเขียวเหลืองเปลืองที่ดิน ใครเห็นก็ว่าเป็นพวกคนบ้า เพราะใครอื่นทำนาอยู่ทั้งสิ้น แบบขายข้าวเอาเงินข้าวซื้อข้าวกิน ชีวิตมีแต่หนี้สินพะรุงพะรัง เขามีนาห้าไร่ยังไม่ถึง แต่มีข้าวหุงนึ่งเกินร้อยถัง นั่นเหลือกินเหลือทานสำราญจัง บ่ต้องขายให้นึกชังคนกินคน ข้าวงามเพราะน้ำใบของไม้ป่า ไหลลงสู่ผืนนาในหน้าฝน สีของน้ำต่างจากนาประชาชน ที่อาศัยเบื้องบนต่างตนเอง ข้าวจึงแตกกอโตและโชว์รวง ไกวและก่องถ้วนช่วงรวงปลั่งเปล่ง หอมกลิ่นข้าวกรุ่นไกลใจครื้นเครง เจ้าของนาบ่เครียดเคร่ง คง นิ่ง - เย็น แปลงดินเป็นแปลงแปลงเพื่อแบ่งแนว ให้หญ้าขึ้นถ้วนแถวเป็นแนวเห็น วัวกินหญ้าที่ละแปลงไล่แปลงเป็น วงจรไปไม่ใช่เล่นแนวคิดดี สุดแปลงโน้นวนกลับมาแปลงเก่า หญ้าก็ขึ้นเขียวเอาให้อิ่มหมี เถิดฝูงวัว ตัวขอบ - กลาง ต่างอ้วนพี เราลองนับดูซีมีกี่ตัว เจ็ดสิบ แปดสิบ เก้าสิบสอง มากแบบนี้แม้เคยหมองก็ต้องหัว เจ้าของว่าต้องแบ่งขายเสียดายวัว แต่ก็กลัวหญ้าฟางบ่พอกิน ขายวัวสามสิบตัวออกต่อปี เลี้ยงมากเกินจากนี้มีทางบิ่น หากโรคแรงร้ายมาน้ำตาริน จึงควรตรองบ่ให้ดิ้นรนจนตาย โน่นพรรคพวกควบช้าเพิ่งมาถึง นี่ก็เกือบเที่ยงครึ่งจะถึงบ่าย พอดีกินข้าวกันกันตาลาย อิ่มสบายแล้วค่อยต่อ ขอชมดง To be continued
2 กันยายน 2547 08:17 น. - comment id 321619
เขียนบทชีวิตสัญจรได้อย่างงดงาม ในความหมายและภาษาครับ แดน ทุ่งไพศารี ดินแดนนี้เหมือนทุ่งกุลา ร้องไห้ในอดีต เพราะมันถูกขีดให ้เป็นแดนกันดาร ที่ต้องทนทรมาน กับความแล้งซ้ำซากตลอดมา๚ะ๛ size>
2 กันยายน 2547 10:00 น. - comment id 321683
เห็นสาวนาใส่งอบจูงวัวมั้ยคะ จะรีบหาปลามาต้อนรับ แวะหนำนับนอนหนุนหมอนไม้ ดูดอกข้าวร่ายรำก่อนละกันค่ะ เด๋วจะหุงข้าวหอมพันธุ์แก่นจันทร์ ให้กินอิ่มหมีพีมันพุงกางหลาม นอนแผ่แบบงูเหลือม มีแกงเหลืองรสแซ่บอีหลีเปรี้ยวจี๊จิ๊ดจ๊าดบาดทรวงเลิกระทม มีน้ำพริกโขลกเองบรรเลง เก็บพริกจากริมรั้ว เก็บใบกาหยูมาให้แกล้ม แกงพุงปลาและก็มีปลาทอดใหม่ๆ มีหัวใจสาวนา คอยเอาใจ ดีไหมค่ะมามะมามากินกัน..อิอิ แล้วนอนฝันใต้ต้นตาล ให้ลูกหวานตกหล่นใส่หัวอิอิ http://www.thaipoem.com/web/songshow.php?id=363 ทัศนาจร ดิอิมพอสซิเบิ้ล : : Key F รื่นเริง ทัศ-นาจร พักผ่อน เพื่อหย่อนใจ พร้อมกัน ท่องเที่ยวไป จิตแจ่มใสหัวใจเบิกบาน ร่วมกัน ทัศ-นาจร พักผ่อน วันหยุดงาน ทุกคน สุขสำราญ ชีวิตชื่นบาน ยืน ยาว ปลอดโปร่ง ชี วา เหมือนนกเริงร่า โบย บิน จากรังโผ ผินเหินไปทั่วถิ่น แดน ไกล ชุ่มชื่น ชี วัน เหมือนดังความฝัน ลอย ไป ได้พบสิ่งใหม่ใหม่ ล้วนพาตื่นใจ เพลินตา รื่นเริงทัศ-นาจร พักผ่อน เพื่อหย่อนใจ พร้อมกัน ท่องเที่ยวไป จิตแจ่มใสหัวใจเบิกบาน ร่วมกัน ทัศ-นาจร พักผ่อน วันหยุดงาน ทุกคน สุขสำราญ ชีวิตชื่นบาน ยืน ยาว อยู่แต่ ใน เมืองล้วนมีแต่เรื่อง รวน เร วุ่นวาย หัน เห พบร้อยพันเล่ห์ มา ยา ตัดห่วง กัง วล หนีความสับสน นา นา ชีวิตเจิดแจ่มกว่า แล้วควรรีบหา กำ ไร ก่อเกิด แรง ใจ ผลดีคงได้ ตาม มา เกิดความ หรร ษา ล้วนมีคุณค่า ทาง ใจ ท่องเที่ยว พร้อมมิตร ชุบชูชีวิต ยืน ไป เรียนรู้ สิ่งใหม่ใหม่ แล้วคงก้าวไป ได้ ดี...
2 กันยายน 2547 11:36 น. - comment id 321795
น่าไปจริงค่ะ ขอเวลาทำงานหน่อยแล้วกัน ช่วงนี้ยุ่งเสียจริงค่ะ
2 กันยายน 2547 11:52 น. - comment id 321806
ไม่ค่อยเห็นหน้าเห็นตาเลยนะพักนี้อ่ะ มาอ่านเป็นกำลังใจให้
2 กันยายน 2547 11:56 น. - comment id 321808
ดีครับพี่ ผมยิ่งชอบการเดินทาง เพราะสองข้างทางมีอะไรให้เราแวะซื้อกินเยอะไปหมด อร่อยทั้งนั้น
2 กันยายน 2547 20:08 น. - comment id 322212
สวัสดีครับผมมวลมิตรทุกท่าน แต่ก่อนผมขี่Honda MTX ไต่ภูอยู่แถวอ.ไพศาลี จ.นครสวรรค์ น่ะครับ ไม่ได้ไปเยี่ยมเยียนชาวบ้านนานแล้ว ลุงถนอม ช่วยงาน ลุงฉลวย แก้วคง ลุงชู แก้วพรม ลุงสาย กลิ่นชื่น และอีกหลายๆท่าน ผมก็ยังคิดถึงเสมอ
2 กันยายน 2547 20:59 น. - comment id 322260
เป็นเรื่องเล่า .. ที่สนุก..น่าติดตามมากเลยคะ.. เรน ..ชอบที่คุณ ..เขียนบรรยายด้วยดิคะ..
2 กันยายน 2547 22:44 น. - comment id 322372
ขอยคุณครับคุณrai
2 กันยายน 2547 22:53 น. - comment id 322382
มาขอร่วมชมนกไม้ในทุกที ด้วยอยากรู้ความมากมีเป็นที่หนึ่ง ถึงธรรมชาติมากหลายให้คำนึง ฉันจึงมาเป็นคนหนึ่งเพื่อนเดินทาง *-*ขอเกาะล้อไปด้วยคนค่ะ อิอิ กลอนแต่งได้ดีมากๆๆๆๆๆๆๆๆๆเลยค่ะ ชื่นชมในผลงานเสมอนะค่ะ*-*
2 กันยายน 2547 22:57 น. - comment id 322387
นึกว่าจะไปเยี่ยมประเทศอินเดีย เคย ๆ คุ้น ๆ ชื่อนี้ เขียนวิถีชีวิตชาวบ้านได้ติดดินมากครับ
3 กันยายน 2547 20:03 น. - comment id 323278
สวัสดีครับคุณผู้หญิงไร้เงาและคุณชัยชนะ ไม่ได้คุยกันนานแล้วนะครับ ขอบคุณมากครับที่แวะมาทักทาย