ฉันเห็นกระดาษใบหนึ่งโดนขย้ำ ขยำ........จนยับ ฉันหยิบมันขึ้นมา...... กระดาษใบนั้นมีคำว่าเสียใจ....ฉันเสียใจ เธอเสียใจ.......?
8 สิงหาคม 2547 22:43 น. - comment id 308654
อยากจะถามอยู่เหมือนกันว่ากลอนเปล่าเขียนยังไง...?? ด้วยความสัตย์จริงให้ดิ้นตาย..... อาจจะเคยได้ยินมาบ้างหรืออาจจะเคยแต่งมาแล้วด้วยซ้ำ.. แต่รูปลักษณะเป็นยังไง...ยังไม่แน่ใจว่ารู้จัก.. นะเจ้า วีนัสก่ะเจ้า ...ปล.>>เอาเป็น ฉันเสียใจละกัน เพื่อไม่ให้เค้าต้องเสียใจ ยอมเสียใจแทนดีกว่า..หุหุ
8 สิงหาคม 2547 22:50 น. - comment id 308666
มาฝากกลอนขย้ำ..นะ อิอิ.. เฮ้อ... คำว่ารักคำเดียวมันไม่เพียงพอ.. ที่จะทำให้เธอรอแค่เพียงฉัน.. หมดประโยขน์ก็หมดสิ้นความผูกพันธ์.. รักเรานั้นเป็นกระดาษที่เขาเมิน.. จะขยำขยี้..เสียให้แหลก.. จะฉีกแหวกให้ขาดก็เชิญ.. เพราะฉันมันง่ายๆไม่ต้องอ่อนหวานเกิน.. หการักแค่ผิวเผิน..ก็คงต้องขอลา.. นะจ๊ะ.. วีนัสก่ะเจ้า
8 สิงหาคม 2547 23:15 น. - comment id 308681
....วีนัสก่ะเจ้า คุณวีนัสครับการเขียนกลอนเปล่าก็เหมือนกับการกินน้ำเปล่าละครับ พอเรากินน้ำเปล่าหมด มันก็จะเหลือแต่แก้วเปล่า แต่ถ้าเราเติมน้ำแข็งเปล่าพร้อมน้ำเปล่าลงไป แก้วเปล่าก็จะกลายเป็นแก้วไม่เปล่า เพราะมันมีน้ำแข็งเปล่าและน้ำเปล่าในแก้ว แต่ถ้าเรากินน้ำแข็งเปล่าและน้ำเปล่าหมด แก้วก็จะเหลือแต่แก้วเปล่า และถ้าเรากินน้ำแข็งเปล่าและน้ำเปล่าบ่อย โดยไม่กินข้าวกินปลา ท้องเราก็จะเป็นท้องเปล่า แต่ถ้าเรากินข้าวลงไป ท้องเราก็จะไม่เป็นท้องเปล่า จะกลายเป็นท้องที่รกไปด้วยขยะอาหาร อาจจะเป็นคาร์โบไฮเดท,วิตามิน,โปรตีน หรืออาจจะเป็นไขมัน....... .......ที่วิจิตรเขียนมาทั้งหมดคุณวีนัสรู้แล้วใช่เปล่าครับว่ากลอนเปล่าเขียนยังไง
9 สิงหาคม 2547 07:59 น. - comment id 308746
อืม...ครืองานที่มิได้ขัดเกลาอะไรมากมาย ไม่ได้แต่งด้วยสีสรรที่สดสวย... แต่สื่อจากกลอน ง่ายๆ อ่านแล้วมิงง งวย และหากจะปรับให้ดีได้ด้วย..ใจความเดิม..ก็ยังไม่เปลี่ยนแปลง.. **************************************************** แก้วเปล่าก็ยังเป็นแก้วเปล่าอยู่วันยังค่ำ และถ้าเติมแล้วก็หมดก็ยังเป็นแก้วเปล่า... แต่ขณะเติมลงไป มันจะได้อรรถรสที่ดีมากกว่าเก่า.. แต่วีนัสคิดว่ากลอนเปล่าก็คือใจความสำคัญ... .. ม่ายรู้ถูกไหม......อย่าเขียนอะไรยากๆ อ่านแล้วงง ิืิือิอิ ช่วงนี้ยิ่งเบลอเพราะสอบอยู่.. วีนัสก่ะเจ้า
9 สิงหาคม 2547 11:00 น. - comment id 308830
เขียนกลอนเปล่าก็ดีนะคะ เป็นการจินตนาการอีกอย่างที่น่าสนใจค่ะ เป็นการย้อนชีวิตอีกรูปแบบหนึ่ง ( ใช่ไหมเนี่ย ) แวะมาทักทายค่ะ ฉันเสียใจใช่ฉันเสียใจ เธอทำไมทำกันแบบนี้ รู้ก็รู้ว่ามันไม่ดี ยังเดินหนีจากไปไม่ร่ำลา
9 สิงหาคม 2547 11:49 น. - comment id 308873
..คุณวีนัสก่ะเจ้า รับมุขวิจิติรหน่อยครับ วิจิตรก็เขียนไปมั่ว คุณวีนัสก็อุตส่าห์ตีความเสียดิบดี มันไม่เกี่ยวกันเลย วิจิตรเขียนไปเล่นๆเรื่อย ตามอารมณ์... แต่ก็ขอบใจคุณวีนัสที่ชวยแปล แหะๆ......
9 สิงหาคม 2547 11:53 น. - comment id 308875
คุณลอยไปในสายลม วิจิตรก็ว่าดีครับ เขียนเองอ่านเอง เพราะคนอื่นอ่านแล้วไม่เข้าใจ ตัวเองอ่านเองก็ไม่เข้าใจ เปล่า...จริงๆ ***ขอบคุณที่แวะเยี่ยมเยียนกันนะครับ
9 สิงหาคม 2547 13:53 น. - comment id 308974
แวะมายิ้มให้ค่ะ
9 สิงหาคม 2547 14:02 น. - comment id 308981
.....คุณมัดหมี่ ยิ้ม... ฉันแอบเห็นเธอยิ้ม เธอยิ้มบางๆดูเหงาๆ แต่ไม่จาง จืดในใจ ยิ้ม...ฉันอยากเห็นเธอยิ้ม แม้เธอยิ้มให้ใคร รู้เถิดว่าทุกครา ที่เธอยิ้ม ยิ้มออกไป คนหนักแน่นแอบหวั่นไหว เพราะรอยยิ้มเธอ .......ขอบคุณมากครับ
9 สิงหาคม 2547 14:37 น. - comment id 309010
ตีความนัยไม่ออก....งง ๚ะ๛ size>
9 สิงหาคม 2547 14:44 น. - comment id 309015
............ ผมก็งง........ติ้วเหมียน....กรัน ครับ .........
9 สิงหาคม 2547 21:37 น. - comment id 309207
บ่อยเล้ย ..ที่เห็นในห้อง.. ก็คงเป็นของ ..เรนนี่.. ขย้ำ ..ขยับ..ขยี้.. อ่านอีกที .บทกลอนดีๆ.. ของเรนเอง ..อิอิอิ.. แบบ ตอนหัดเขียน..โมโห ..ก็เล้ยย.. ขยำ ..เสร็จแล้ว.. ก็จำ ว่าดี.. ..เลยต้องค้นหา ..อีกที.. ข้างถังสีฟ้า .. ข้างคอมฯ.. ..ความหมาย ..เป็นปรัชญาจริงๆ ..อิอิอิ.. ซาแว๊ป !..
10 สิงหาคม 2547 10:04 น. - comment id 309340
คงเหมือนข้าวเปล่ามั้ง อิอิ
10 สิงหาคม 2547 12:50 น. - comment id 309460
........คุณเรน ปรัญญาตรงไหนครับ อธิบายให้คนเขียนฟังด้วยครับ คนเขียน.......งง!!!! ...............
10 สิงหาคม 2547 12:55 น. - comment id 309463
.........พี่ฤกษ์ วิจิตรว่ามันไม่เหมือนข้าวเปล่าหรอกครับ เหมือนมาม่ารสหมูสับต่างหาก กินทุกวัน............แหะๆ ................