เติมเต็มใจ...ในเสียงเงียบ

ทะเลดาว

ปากกา...มิพร่อง...น้ำหมึก
บันทึก...แห่งดาว...ร้าวไห้
สายธาร...เซาะฝั่ง...พังไป
อักษร...เลือนได้...ฉับพลัน
ด้วยรัก...ด้วยใช่...หมายวิชา
ทุมเท...เหนื่อยล้า...เพราะมุ่งมั่น
อ่อนแอ...ท้อแท้...เพิ่มทุกวัน
ฝ่าฟัน...นานไหม...ไฟจะคืน 
พยายาม...ทบทวน...ไม่เคยข้าม
ทั้งคัดตาม...ท่องจำ...ไม่เคยฝืน
ได้ ม.ผ...คือผล...ทนกล้ำกลืน
ปี๔๗...ขมขื่น...มิถุนา 
ขนตำรา...มาเปิดดู...อยู่คนเดียว
แปลความหมาย...หลายหลายเที่ยว...ทั้งค้นหา
กว่าเข้าใจ...ในเหตุผล...จนปัญญา
ใช่หรือเปล่า...คำกล่าวลา...ภาษาเขียน 
ทั้งฤทัย...ให้หมดใจใต้อักษร
รู้ตัวว่า...วิชาอ่อน...ต้องปรับเปลี่ยน
ขีดเส้นใต้...สีแดงไว้...ในบทเรียน
ถ้าไม่ใช่...ต่อให้เพียร...เกรดยังกลาย 
เรียนต่อไป...วิชาใหม่...ในเสียงเงียบ 
ภาษาเขียน...ค่าฤๅเทียบ...ความหวามไหว
เสียงกมล...สนทนา...ภาษาใจ
ใช่เดียวดาย...ในเสียงเงียบ...ถูกเติมเต็ม.....
เวลาไม่เคย...ลบความทรงจำ				
comments powered by Disqus
  • อาภาภัส

    30 มิถุนายน 2547 20:47 น. - comment id 291758

    ช่องความเงียบเสียบด้วยอักษรา
    รรักษาเรียนรู้ฤาอ่านเขียน
    ตั้งที่จิตคิดค้นวนเวียนเพียร
    รู้เพิ่มเปลี่ยนเรียนเริ่มจักเติมเต็ม
  • ผู้หญิงไร้เงา

    30 มิถุนายน 2547 23:54 น. - comment id 291810

    เรียนวิชาครานี้ที่เพิ่งเริ่ม
    และต่อเติมความหมายให้คลายเศร้า
    เรียนวิชาความรักพักดั่งเงา
    จึงมีเราชิดใกล้ไม่ห่างกัน
    
    *-*กลอนไพเราะมากๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆเลยค่ะ  พี่เขาคงยังไม่ว่างมั้งค่ะ  ถึงยังไม่ติดต่อมา แต่เชื่อความรักของพี่เขาและน้องยังมั่นคงต่อกันเสมอ  คิดถึงมากๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆเลยนะค่ะ*-*
  • ฤกษ์

    1 กรกฎาคม 2547 08:58 น. - comment id 291865

    เขียนได้ดีมีแง่คิด หมั่นเขียนหน่อย
  • พันดาว

    1 กรกฎาคม 2547 10:03 น. - comment id 291886

    รูปสวย กลอนเพราะ...
    สวัสดีทะเลดาว ... ดีใจที่แวะไป พันดาวแวะมาอ่านกลอน สวยๆของทะเลดาวแล้ว ชอบจัง
  • แก้วประเสริฐ

    1 กรกฎาคม 2547 12:49 น. - comment id 291922

    อันกลอนหกกลอนแปดและกลอนเก้า
    ดูมันเข้าตำราหาใดจะเหมือน
    ทะเลดาวเรามิได้แชเชือน
    เปรียบเสมือนยกตำรามาแผ่กาง
    
                         แก้วประเสริฐ.
  • ติตรากร

    2 กรกฎาคม 2547 16:21 น. - comment id 292223

    ผิวเพลงไผ่
    
    หอมดอกโมกขจรไกลกว้างไพศาล
    และตระการบานในหัวใจเหงา
    แว่วเสียงขลุ่ยแผ่วหวานมานานเนา
    เพลงขลุ่ยเลาลำไผ่ใต้ชายคา
    
    จับใจความบรรเลงเพลงขลุ่ยผิว
    เหมือนรอยริ้วพริ้วไหวของใบหญ้า
    และหอมโมกผลินานบานช้าช้า
    ในแววตาเจิดจ้าแม้พร่าลอย
    
    นิ้วที่พรมเพลงคล้อยล้วนรอยร่อง
    และสอดคล้องเพลงบอกดังดอกสร้อย
    บอกความหมายเอาไว้มิใช่น้อย
    ให้เพลงลอยล้อลู่สู่ผู้ฟัง
    
    ถึงยามเย็นชายป่าชลาชล
    เพลงขลุ่ยยังอึงอลปนความหวัง
    ไม่สามารถบรรเลงเพลงภวังค์
    คุณต้องฟังเอาเองบทเพลงนั้น
    
    แต่วันนี้ในกมลของคนกล้า
    หวั่นเกรงว่าอ่อนเพลียจนเสียขวัญ
    เพลงขลุ่ยเคยพริ้วไหวไปด้วยกัน
    และรังสรรค์เพลงไว้ในลำเลา
    
    เสียงเพลงซึ่งพริ้มพรายคล้อยบ่ายค่ำ
    จวบเย็นย่ำลำพังยังเงียบเหงา
    อยากฟังเสียงขลุ่ยบ้างแม้บางเบา
    และจะเฝ้ารอฟังอย่างตั้งใจ..
    -----
    คิดถึงมากนะคนดี....
    -----

thaipoem ที่สุดกลอนดีๆ

thaipoem บ้านกลอนไทยที่ที่สร้างแรงบันดาลใจของทุกๆคน เป็นเพื่อนเมื่อยามเหงา คอยปลอบใจเมื่อยามร้องไห้ ที่ที่อยากให้ทุกๆคนรู้ว่าสิ่งดีๆเกิดขึ้นได้ทุกวัน