..๏ ผู้ใดหนอจักเป็นเช่นนภา โอบจันทราแนบเคียงเยี่ยงสนม มิแปรผันวันคืนระรื่นชม ร้อยอารมณ์นิพนธ์กานท์สราญใจ ฤๅจะเป็นเพียงฝันวันที่ท้อ เขาลวงล่อหลอกเราเย้าไฉน อ่อยคำหวานหยอกเอินจนเพลินใจ หากหลงใหลคงเศร้านะเจ้าจันทร์ เพราะโดดเดี่ยวเดียวดาย ณ ปลายฟ้า ไร้คุณค่าต่ำต้อยด้อยสีสัน ต้องอาศัยลำแสงแห่งตาวัน กระทบจันทร์สะท้อนย้อนประกาย แม้นผ่านคืนและวันมิผันเปลี่ยน จวบกาลเวียนขึ้นแรมแย้มความหมาย ว่าหรุบแสงวงเรียวเสี้ยวจันทร์กลาย แลหลากหลายภาพเด่นเขาเค้นมอง ต่างยกยอปอปั้นว่าจันทร์สวย เลิศเลอด้วยรูปลักษณ์ประจักษ์ผอง เพียงแค่เห็นยังละเมอเพ้อใจปอง ศศิ* พ้องหรือไรจึงใฝ่ชม จะขอเป็นบุหลันครั้นราตรี สถิตที่นภาแดนแม้นขื่นขม ผู้ใดจะมอบรักภักดิ์ภิรมย์ เป็นคู่ชมชื่นจิตนิจนิรันดร์...๚ะ๛
20 พฤษภาคม 2547 11:24 น. - comment id 271172
ขอเป็นเพียงดาราคู่กับจันทร์ฉาย ส่องสีสันประกายบรรเจิดจ้า ชุบชูโลกให้สบายสุขวิญญา บรรเจิดจ้าให้แลหมายชมมอง. แก้วประเสริฐ.
20 พฤษภาคม 2547 11:39 น. - comment id 271176
เป็นบทรำพึงอันเศร้ามากและไพเราะมากค่ะ คุณอัลมิตรา
20 พฤษภาคม 2547 11:55 น. - comment id 271182
เขียนรำพันได้งามมากทีเดียวครับ.... มิกล้าแนะนำ สั่งสอน...แต่มาชื่นชมครับ... งามจัง
20 พฤษภาคม 2547 12:51 น. - comment id 271201
กระทบใจค่ะ... ....................
20 พฤษภาคม 2547 13:18 น. - comment id 271209
โดดเดี่ยวเดียวดาย
20 พฤษภาคม 2547 13:37 น. - comment id 271226
อยากจะขอแบบฟอร์มใบสมัคร เพื่อจะมอบความรักให้บุหลัน จะข้างขึ้นข้างแรมกี่กัปกัลป นิจนิรันดร์ใจภักดิ์รักเพียงเธอ... อิอิ ได้ข่าวเปิดรับสมัครก็เลยรีบมา จะรับไม๊นี่ อิอิ
20 พฤษภาคม 2547 13:43 น. - comment id 271229
..ฟ้ารำพึงว่าข้านั้นเฝ้ารอจันทร์... ๏โอ้ฟากฟ้าอย่างข้าหนอเฝ้ารอจันทร์ คงสักวันเจ้าบุหลันฯที่หันหาย คงกลับมาหาฟากฟ้าว่าไม่คลาย แม้โลกวายก็ไม่หมายกลายจากฟ้า ขอจงดลมนต์ภักดิ์ให้กลับจิตต์ ขอจงอย่าพรากชีวิตจนคิดล้า ขอเถิดหากไกลกันมั่นศรัทธา ขอเถิดขอซึ่งมนต์ตราว่ากลับยัง คืนเถิดคืนฟากข้าเฝ้ารอ ไม่เคยท้อรอจันทราด้วยความหวัง แม้วันนี้เจ็บรวดร้าวเข้าประดัง ระลึกหลังเถิดจันทราพากลับใจ๚๛
20 พฤษภาคม 2547 13:45 น. - comment id 271231
เศร้าจังเลยค่ะ....อัลมิตรา.. T_T แวะมาชื่นชมค่ะ วีนัสก่ะเจ้า..
20 พฤษภาคม 2547 15:43 น. - comment id 271297
ครายยยยย ใครหลอกหลานลิง เคยเห็นแต่ลิงหลอกเจ้า
20 พฤษภาคม 2547 17:50 น. - comment id 271350
ใครจะกล้าลวงล่อหลอกเจ้านั้น ในเงาจันทร์ยังมีศศิฉาย โอบละมุนหอมกรุ่นทั้งใจกาย รักมิวายเคียงข้างไม่ร้างลา.....ฯ ใครหนอ!!!...จะกล้าหรอก..คุณอิมได้...สงสัยจัง!! แวะมาเยี่ยมจ๊ะ..สบายดีมั้ยคะ...
20 พฤษภาคม 2547 19:16 น. - comment id 271386
....ฝากความคิดถึงผ่านจันทร์เจ้าได้ที่นี่อีกดวง แล้ว.....อิอิ
20 พฤษภาคม 2547 20:54 น. - comment id 271439
สิแปรภักดิ์เปลี่ยนผัน...จากจันทร์ผ่อง มิเหลียวมองเบิ่งฟ้า...นภาศรี จะหลีกเล้นหลบพ้น...ลืมคนดี ความเหล่านี้มิกล่าว...ให้เจ้าฟัง...
21 พฤษภาคม 2547 00:56 น. - comment id 271611
...การรำพึงถึงใครด้วยใจรัก เกินจะหักห้ามได้ไม่ให้หลง ดั่งแสงส่องของจันทร์ยังมั่นคง คอยรับส่งแสงให้โลกได้ยล... ..................สวัสดีครับ.............
21 พฤษภาคม 2547 01:21 น. - comment id 271622
ให้ช่วยแนะนำ คงไม่เหมาะนัก..เอาแค่ร่วมชมพอประมาณ... บทแรกสักบท...บรรทัดที่2...ลง...สนม บรรทัดที่3..ลง...ชนม์ จริงๆก็ได้นะ..แต่เวลาอ่านจะสะดุด... ผมลองเปลี่ยนอย่างง่ายๆ ให้ลองอ่านดู.... ผู้ใดหนอจักเป็นเช่นนภา โอบจันทราแนบเคียงเยี่ยงสนม มิแปรผันวันคืนระรื่นชม ร้อยคำคมกลอนกานท์สราญใจ... กลอนตลาดเสน่ห์อยู่ที่ อ่านแล้วเข้าใจง่าย เห็นภาพตามไปด้วย..สำคัญที่สัมผัสนอก..และสัมผัสในอย่าเฝือ..ก็อ่านพองามแล้ว.. โดยรวมทั้งหมดกลอนบทนี้ ไพเราะแล้ว..ขออภัยที่ติชม...สวัสดีครับ..
21 พฤษภาคม 2547 02:14 น. - comment id 271634
ปีนเด็ดบุผา .. จากฟ้าสูง .. สวย มอบให้ด้วย .. ใจรักสมัครสมาน หลงมองจันทร์ .. มาเนินนาน เวลาผ่าน .. ถึงเข้าใจ ................................พอดีกว่า เดี๋ยวมันจะมั่วกันไปเยอะกว่านี้เรา
21 พฤษภาคม 2547 06:30 น. - comment id 271678
แม้ความงดงามและเสน่ห์แห่งจันทรา จักเป็นแค่ภาพหลอน แต่สิ่งนั้นก็ต่อเติมอารมย์สุนทรีย์ให้กับมนุษย์มาตั้งแต่บรรพกาล เราต่างยินยอมที่จะรับเอาความงดงามส่วนนั้นมาด้วยความเต็มใจมิใช่หรือ?.
21 พฤษภาคม 2547 08:55 น. - comment id 271709
คุณแก้วประเสริฐ.. มวลดาราพร้อมเพรียงเรียงรายล้อม หมายเห่กล่อมจันทร์เหงาคลายเศร้าหงอย ยามราตรีกระพริบเย้าเราหลงคอย ดาวดวงน้อยลี้หายมิกรายคืน คุณทิกิ .. ขอบคุณมากค่ะ คุณแทนคุณแทนไท .. ขอบคุณมากค่ะ คุณลี่.. ขอบคุณมากค่ะ คุณดินสอ .. อื้อ แขวนเติ่ง ณ นภา ใครจักรู้ว่า..เดียวดาย คุณฤกษ์.. อั่นแน่ ! เห็นอยู่แหม่บๆว่าจะร่อนการ์ด สงสัยต้องมีการแก้ชื่ออีกฝ่ายแล้วกระมัง ? ขอแปลงเป็นบุหลันพลันนภา งามโสภาพิลาสมาดสดสวย ใครแลเห็นอาจตะลึงพึงระทวย ก็เพราะด้วยภาพเน้น...ใช่เป็นจริง ยัยไหม .. จะกลับคืนผืนฟ้าคราราตรี ส่องแสงหรี่นวลใยให้สุขขา จวบจนสิ้นมนต์แห่งแสงสุริยา ก็จะขอลับลาชั่วกัปกัลป์ คุณวีนัส .. ขอบคุณมากค่ะ อาหมอวฤก.. อย่าเอ็ดไปเชียวค่ะ ปีนี้ปีลิง ไม่หลอกกันแล้วรอปีไหนคะ คุณราชิกา.. มิสิ แยะเลยค่ะ ที่เป็นเช่นนั้นค่ะ แลกระต่ายทาบทาจันทราเจ้า ก็เพียงเงาตำนานเขาขานไข หากความจริงโดดเดี่ยวดำเนินไป คำบอกเล่าใดใด..ไม่จริงเลย คุณรัถยา .. ขอบคุณมากค่ะ อัลมิตราชอบจันทร์มากค่ะ นายดอกไม้ .. คำที่บอกว่าภักดิ์รักคงมั่น มอบให้จันทร์อาจลดหมดความหมาย แค่วันคืนผ่านพ้นคนกลับกลาย คงเหมือนนายดอกไม้ใจเปลี่ยนแปลง คุณ..(กระซิบๆ ชื่อคุณนะ ..กระดากใจจัง) ที่รักของฉัน.. คำรำพึงฝากให้ใครคนนั้น ที่มองจันทร์ดวงเดียวเกี่ยวใจสอง แม้ห่างไกลแสนไกลยังหมายปอง สัญญาพ้องก่อนกาลยังขานจำ คุณคนจำแลง .. ขอบคุณมากค่ะ ที่แนะนำ อัลมิตรา ลงคำสัมผัสท้ายบทที่ ๑ ในวรรคที่ ๒-๓ ผิด ก็รออยู่ว่าจะมีผู้ใดสังเกตุเห็นหรือเปล่า แล้วแนะนำอัลมิตราให้ปรับปรุง นึกถึงตอนก่อนโน้น ..เมื่อครั้นอัลมิตราเขียนกลอนใหม่ๆ ก็จะมีหลายๆคนช่วยกันสอน ช่วยกันแนะนำ ตอนนี้ต่างคนอาจจะต่างมีภาระกิจ หรือปฏิบัติการบางอย่างที่สำคัญกว่า... บรรยากาศเดิมๆจึงหายไป ถ้าคุณอ่านบทย้อนเก่าๆของอัลมิตรา บางทีอาจจะขำ (เพราะว่า..เขียนไม่ได้เรื่องเลย มั่วซั่วอีกต่างหาก) จากบทที่คุณลองปรับให้อัลมิตรา อัลมิตราขออนุญาตนำมาผสมกับความเดิม ด้วยความตั้งใจว่าจะสื่อความนั้นๆ ดังนี้นะคะ ก่อนปรับปรุง ..๏ ผู้ใดหนอจักเป็นเช่นนภา โอบจันทราแนบเคียงเยี่ยงสนม มิแปรผันวันคื่นระรื่นชนม์ ร่วมนิพนธ์บทกานท์สราญใจ หลังปรับปรุง ..๏ ผู้ใดหนอจักเป็นเช่นนภา โอบจันทราแนบเคียงเยี่ยงสนม มิแปรผันวันคืนระรื่นชม ร้อยอารมณ์นิพนธ์กานท์สราญใจ คุณวิจิตร.. ขอบคุณมากค่ะ ได้รับดอกไม้แล้วค่ะ คุณรพี พรรณราย .. ค่ะ ทุกสรรพสิ่งที่แลเห็น สร้างจินตนาการได้หลากหลาย ก็แล้วแต่ว่าผู้ใดจะผูกใจตนเองไว้กับสิ่งใด ชื่อของคุณสื่อความหมายถึงพระอาทิตย์ ดังนั้นนามแฝงของคุณคงมีอะไรบางอย่างที่ทำให้เป็นชื่อนั้น และเพราะเหตุฉะนี้ ความสุนทรีย์ต่างๆที่เราเสพย์ หมายถึงเราพร้อมที่รับส่วนที่งดงามนั้นเข้าสถิตในใจ ..ค่ะ มิตรภาพตราบสิ้นฟ้า ..
21 พฤษภาคม 2547 09:51 น. - comment id 271717
โอ้บุหลันจันทร์-ดาริกาสวย มิรู้เจ็บรู้ป่วยจึงสวยใส ส่องสกาวพราวฟ้าอยู่ร่ำไป เหมือนอยู่ไกลแต่ใกล้ชิดนิจนิรันดร์ เพียงใบไม้ใบเก่าเฝ้าสะท้อน ผ่านเม็ดหินสิงขรแผ่นฟ้ากั้น มีเพียงใจที่ส่องมาเสมอกัน แม้ใบไม้รอบวันโอบกอดดิน.....
21 พฤษภาคม 2547 10:08 น. - comment id 271725
สาดแสงทองส่องฉาบทาบผืนหล้า งามยวนตาชโลมโลกคลายโศกศัลย์ แสนสดชื่นรื่นอารมณ์ยามชมจันทร์ จึงรำพันเรียงรสเป็นบทกลอน จันทร์เจ้าเอยฯ จันทร์เพ็ญเช่นนวลน้อง คนต่างปองรุมรักภักดิ์สมร ไกลเพียงใดยังคล้ายหมายจับจอง ร่วมหอห้องแม้เพียงฝันอันปลอมแปลง สวัสดีค่ะ คุณส่องหล้า .. ระลึกถึงค่ะ
21 พฤษภาคม 2547 10:44 น. - comment id 271746
ขอนั่งชมจันทร์งามเคียงข้างเธอ ให้เธอเผลอกระซิบชิดหูฉัน เก็บดอกไม้ทัดแซมหอมแก้มพลัน เพื่อปลอบขวัญคลายเหงาคราวชมจันทร์ ...ยโส โย-อรินครับ.. มาอ่าน มาให้กำลังใจครับ
21 พฤษภาคม 2547 13:15 น. - comment id 271850
คุณยโส .. ขอบคุณค่ะ สำหรับดอกไม้ .. หอมมากค่ะ
21 พฤษภาคม 2547 15:20 น. - comment id 271900
เคยร่วมเรียงประสานสืบกานท์สอน เจ้าจันทร์วอนหมู่ดาวคราวครั้งหลัง วิบแวมวับกระพริบระยิบยัง ก็คงฝังในจิตมิคิดเลือน เพียงฟ้านี้จันทร์เด่นเป็นสง่า ทรงคุณค่าบทกวีที่เสมือน มิตรภาพตราบสิ้นฟ้าหาแชเชือน ดาวคู่เดือนเสริมส่งคงคำไทย แวะมา..ไปทำงานต่อล่ะ.. ..บ๊าย บาย..
23 พฤษภาคม 2547 09:01 น. - comment id 272782
^J^ ........... ^______^
23 พฤษภาคม 2547 21:12 น. - comment id 273157
ขอบคุณค่ะ คุณกุ้ง คุณกฤษณะ
24 พฤษภาคม 2547 18:02 น. - comment id 273626
ทุกๆคนสามารถทำสิ่งผิดพลาดได้ > >และนั่นคือเหตุผลที่เขาใส่ยางลบไว้ที่ปลายของดินสอ พระจันทร์เมื่อคู่กับฟ้าสวยเสมอ
27 พฤษภาคม 2547 08:43 น. - comment id 275156
ฟังจันทร์เว้าเศร้าสร้อยพลอยหดหู่ โอ้....วธูเอกสิตางค์เป็นไฉน หากไม่มีใครภักดิ์รักทรามวัย พี่จะขอเป็นคู่ใจนิรันดร ......มาร่วมแจมนะ กลอนคุณไพเราะมากเลย
4 มิถุนายน 2547 09:02 น. - comment id 279784
ไอซ์ .. แต่เผอิญว่า ถือปากกาอยู่น่ะ ผิดแล้วลบ รอยยังมี คุณกาพย์นภาลัย .. ขอบคุณมากค่ะ ยินดีที่ได้รู้จักนะคะ