คราเหมันต์หันมาอุราร้อน อนาทรอ่อนไหวหัวใจเอ๋ย นครนี้เปลี่ยนไปไม่เหมือนเคย ทุกสิ่งดูงอกเงยแต่ไม่งาม ไม่ห่วงตัวแต่กลัวลูกจะรับเคราะห์ ยิ่งคิดไปเหมือนใจเสาะเพราะยิ่งขาม สังคมเปลี่ยนเหมือนบาปกรรมมันทำตาม- อำเภอใจของมันยามมันย่ามใจ ข้ออ้างมันแสนง่ายได้ทุกกฎ มันแหกค่ายได้หมดเกินสมัย คือทำแล้วไม่หนักก้านกบาลใคร ฟังแล้วเหนื่อยธาตุขัยได้เพียงนั้น พิเคราะห์ดูจริงหรือเล่นเห็นแก่ตัว จนแก่นใจมืดมัวและม่วงหมัน คนรายรอบชอบคำเธอจำนรรจ์ ความชอบธรรมจึงพลิกผันเพียงผายมือ จึงเห็นมากหลากรายในหลายแหล่ง ความรุนแรงเหลือร้ายในหลายสื่อ ความเอื้อเฟื้อผุกร่อนถูกต้อนตือ ความมักได้ลุกฮือขึ้นกร้าวกราว หิริโอตตัปปะผละหนี ภูติผีและเทพเผินก็เหิรหาว ดาริกากล่นเกลื่อนก็เปื้อนคาว สังคมลอกแบบราวไม่รู้ร้าย คราเหมันต์หันมาอุราร้อน อนาทรอ่อนไหวหัวใจหาย นครนี้เปลี่ยนไวใจจะวาย ครูกับศิษย์หญิงชายเป็นข่าวคาว .
11 พฤษภาคม 2547 14:08 น. - comment id 265751
หนาว- ผมเขียนไว้แต่เหมันตฤดู ผ่านวสันต์ จะเข้าพรรษก็มาเกิดเรื่องแบบนี้อีก จริยธรรมของคนตกต่ำย่ำแย่เหลือเกิน เห็นข่าวในหน้าหนังสือพิมพ์แล้วรู้สึกแย่มากๆ
11 พฤษภาคม 2547 15:30 น. - comment id 265814
เกิดสลดสังเวชอาเพทข่าว ครูศิษย์ฉาวโลกีย์ขยี้หื่น ศีลธรรมย้ำเตือนกลับเลือนลืม ไม่รู้ฝืนอารมณ์เขลาเบาปัญญา **คนเรา ถ้าไร้ซึ่งหิริและโอตตัปปะ แล้ว อะไร ๆ ก็สามารถทำได้ทั้งนั้นแหละครับ น่าสงสารจริง ๆ**
11 พฤษภาคม 2547 16:07 น. - comment id 265838
ครับผม ผมอยากชวนคุณออกแบบเครื่องเพิ่ม หิริโอตตัปปะ คุณอยากร่วมหุ้นไหมครับ
11 พฤษภาคม 2547 16:44 น. - comment id 265862
....หนทางจะยาวไกลสักเพียงไหน... แต่หากหัวใจสองเรา..ใกล้กัน อุปสรรคนานานับพัน..ก้อหมดความหมาย วันนี้..ความไกลห่าง..ความเงียบเหงา ...จะสามารถผ่านและบรรเทาไปได้.. หากหัวใจสองดวง..ผูกพันธ์แน่นหนา ..อย่าให้ความอ่อนไหวในหัวใจ.. มาทำลายสายสัมพันธ์..อันบอบบาง ..บทพิสูจน์ความรัก มีมากมายนักหนา.. ขึ้นอยู่กับว่า..ใครจะสามารถผ่านไปได้ .....มากน้อยแค่ไหน....เท่านั้นเอง ฯ ** ขอชมนะครับ คุณเขียนได้ดีมาก ๆ เลยครับ ผลิตผลงานออกมาให้อ่านเรื่อย ๆ นะครับ **
11 พฤษภาคม 2547 16:56 น. - comment id 265868
อืม.......หืม........ คุณเมกกะชมผมแน่หรือครับ แต่ก็ขอบคุณมากล่ะครับ ที่คุณแวะมาทัก
12 พฤษภาคม 2547 15:58 น. - comment id 266370
เกิดแต่เรื่องไม่งามตามแบบอย่าง วัฒนธรรมเปลี่ยนบ้างตามสมัย แต่เหตุไฉนครูศิษย์คิดเปลี่ยนใจ จากรักกันกลายเป็นไคร่ไฉนเลย *-*้เป็นเรื่องน่าเศร้าจังเลยค่ะ กลอนแต่งได้ดีมากๆๆๆๆๆๆเลยค่ะ ชื่นชมในผลงานนะค่ะ*-*
12 พฤษภาคม 2547 16:17 น. - comment id 266390
(ผมถอนหายใจ) เห็นมากขึ้นทุกวันด้วยครับ ขอบคุณครับที่แวะมาพูดคุย
14 พฤษภาคม 2547 07:26 น. - comment id 267401
ยิ่งเจริญสังคมยิ่งโทรมทรุด ใจมนุษย์ปรวนแปรเห็นแก่ได้ ฉวยโอกาสวาสนาหากำไร คุณธรรมไม่นำพาน่ากังวล จะเยียวยาแก้ไขอย่างไรเล่า เด็ก..ผู้ใหญ่..มัวเมาเฝ้าสับสน แล้วตัวอย่าดีดีมีกี่คน ต้องอดทนฝืนกระแส..ทำแต่ดี
14 พฤษภาคม 2547 14:30 น. - comment id 267569
แล้วตัวอย่างดีดีมีกี่คน ต้องอดทนฝืนกระแส..ทำแต่ดี ถูกต้องไหมครับ
17 พฤษภาคม 2547 09:59 น. - comment id 269209
มัทมาทัก พี่พงษ์ ไว้ตรงนี้ อีกทั้งมี เรื่องราว มาเล่าขาน ไปสัมมนา one stop service กัน เลยไม่ทัน บอกลา ขออภัย ทุกสิ่งอย่าง ย่อมแปร ไม่แน่นะ ทุกถ้วนหน้า ก้าวเดิน เกินสมัย ทั้งนุ่งน้อย ห่มสั้น มันกินใจ หากทำได้ จับไปฆ่า ให้หมดเลย ให้คงไว้ แต่คนดี เท่านั้นค่ะ ไม่โหดนา ล้างเผ่าพันธุ์ นั้นเฉย ๆ คนที่ดี เป็นตัวอย่าง ได้งอกเงย มัทเฉลย ได้แค่นี้ แหละพี่พงษ์
18 พฤษภาคม 2547 00:25 น. - comment id 269845
พี่ไม่โหดปานฉะนั้นหรอกครับคุณมัท แค่ติงกันนิดเดียว