๏ ฤาข้า ฯ ประมาทในรัก ? ๚

tiki

 ๏  ฤาข้า ฯ  ประมาทในรัก ? ๚  
ทิกิ_tiki
 องค์นำ    ๚   
 รักหรือ คืออะไร
เราจะไขเพื่อหนทาง
อ้างว้างไม่มีเขา
ก็มีเราอยู่ข้างข้าง
ต่างคนก็ทางต่าง
ต่างคนก็ต่างทำ
ต่างคนก็หม่นจำ
ต่างคนก็แค้นใด
       ๏    รักนี้มีนี่แล้ว...........เธอจำ
เธออย่าหลงลืมคำ...............ขีดเก้อ
วันใดหากรอยกรรม..............รอยก่อ....ตามฤา
วันหนึ่งใจถึงเพ้อ...................พร่ำแล้วยินฟัง  ๚  
     องค์หนึ่ง    ๚    
   ๏     ขอให้เธอแค่ปรายตามาสักนิด
ขอใช้สิทธิ์เรียกหาเธอสักหน่อย
ขอใช้ฝันที่มีมาตั้งหน้าคอย
ขอใช้ใจเต็มร้อยมารักเธอ  ๚  
  สิ่งใดเป็นสิ่งดีมีความสุข
ไม่เป็นความทุกข์
นั่นคือความดีงามแห่งใจ
ปล่อยใจให้เป็นความสุข
ให้เขาเป็นสุขในสิ่งที่เขารัก
ปล่อยให้ใจเขาได้ฝัน
ได้มีความสุขในฝันของเขา๚  
    หากน้ำตามาเป็นเพื่อนไว้เยือนใจ
ให้น้ำใสนี้เป็นเพื่อนเยือนเสมอ
หากทุกครั้งพลั้งมาหาครารักเธอ
จะเจอะเจอกินน้ำตาทุกคราคำ ๚  
ทิกิ_tiki
 ๏   คือความจริงจากใจใครคนนั้น
นึกถึงวันที่เราเหงาเขาเคียงข้าง
ซับน้ำตาให้เราไม่ละวาง
ไม่เคยห่างสักหนเมื่อจนใจ ๚    
 องค์สอง   ๚     
  ๏    ยามคนเราคิดว่าจะทำชั่ว
ใจอาจมัวหมองไหม้ในโมหา
คือมืดบอดต่อธรรมกรรมตามมา
เห็นจักราเป็นยุบลฉงนใจ ๚    
   ๏    ฤาไฟราคะแม้น..................เวียนวน
         เห็นแต่หมองกมล........................อย่างนั้น
         ฤาหากเร่ารึงตน..........................รักร่วม..ท่วมแล
         ดุจพ่ายโมหะคั้น..........................คืบให้ลืมตัว ๚   
                ๏     ดับใดไหนดับเถ้า...............ราคะ
         ไฟพลุ่งพล่านชนะ......................ท่วมท้น
         ดับเถ้ามิอาจจะ...........................ดับถ่าน..มอดเอย
         ใจยิ่งกลับคุล้น...........................เปล่งกล้าไฟแรง ๚   
                ๏     ความประมาทอย่างแท้.............เป็นภัย
         คืบหนึ่งศอกวางไหว.......................สั่นรู้
         ใจเอยหยิ่งปานใด............................ใจเก่ง...ใดฤา
         ใจพ่ายรักหักสู้.................................พ่ายแล้วรอยกรรม ๚   
 
   องค์สาม  ๚     
        ๏  ในห้วงรักหักหาญที่ผลาญพร่า
จะเตือนตนใดหนาไม่ถลำ
หนึ่งในวงศ์วารใดให้พ้นกรรม
กรรมเก่าย้ำวิ่งไล่ไม่พ้นกัน ๚  
ทิกิ_tiki
 ๑๑:๐๒
๒๗  เมษายน พุทธศักราช  ๒๕๔๗.
       ๏    ฤาเสียงหัวใจเจ้าบ่นเพ้อละเมอกระไร
เสียงสะอื้นในใจเจ้า ข้าฯมาฟังมาเก็บเอาไว้
ข้าฯมายืนฟังเสียงน้ำตาร่วงหล่นรินเจ็บช้ำหัวใจยิ่งนักหรือ
เสียงสะอื้นของเจ้านั้นคือเสียงแห่งความผิดหวังแลเสียงเหงาเป่ล่าเปลี่ยวใจ
ฤาว่าเจ้ากำลังหาใครก็ได้หรือไรให้เข้าใจเจ้า ๚  
อ่อนะ ชีวิตเจ้าฤาชีวิตข้าฯ ก็ไม่แตกต่างกันเท่าไหร่นะเล่า
ล้วนแล้วแต่หลงวนอยู่ในโลกเก่าเก่า   อันเต็มไปด้วยความเศร้าเดิมเดิมอย่างที่ผ่านมา  นั่นฤา๚  
                         จึงภพชาติแห่งเจ้าผู้มัวเมาในรัก
               จึงไม่แม้นเปรียบเทียบไกลไปจากผู้ตาบอดไปได้
           จึงเป็นผู้หลงงมงายอยู่แต่ในกามราคะจริต
        จึงสมควรให้มิตรต้องเมินหมางระคางในความไม่รู้จักยับยั้งชั่งใจ
     จึงแม้นได้ผิดพลาดไปเสียแต่แม้ประการใด แห่งใจอันไม่ยับยั้ง
   จึงราวกับ ทะเลคลั่งที่เรือไร้หางเสือใดย่อมล่มลงสู่ก้นธารเสียเท่านั้น.
นั่นแล ๚ะ 
    
องค์สี่  ๚ 
  ๏    หอมใดในโลกล้วน.............เสื่อมคลาย
หอมหนึ่งหอมมิวาย......................ห่อห้อม
หอมศีลหยั่งลึกกาย......................หอมห่อน ..หายฤา
หอมดั่งหอมใจย้อม......................ผ่านพ้นข้ามภพ  ๚
มองไปข้างหน้า แล้วทำใจให้สบาย สลายความทุกข์ของเจ้าไปให้หมดสิ้นเทอญ
ข้าฯ ขอสรรเสริญผู้สำนึกตนสำนึกใจ ผู้ให้พระธรรมย้อมใจให้คลายหม่นกังวลกรรม
ขอให้เจ้าหลายอยู่ในศีลในธรรมในความยับความยั้งตั้งสติไว้ไม่ประมาทในภพชาติอันย่างกราย
รายรอบล้อมเจ้าไว้ด้วยเงากรรมแห่งกาม โอหนอเจ้ายามสติมาอย่าประมาทจะพลาดเมื่อสาย
ขอสติกำกับกายใจเจ้าดุจหางเสือเรือเล่าก็นำนาวาให้โลดแล่นฝ่าพายุร้าย 
ขอสติกำกับใจกายเจ้าให้รอดตลอดถึงฝั่ง รอดทั้งโลกนี้ โลกหน้าสถาพรในธรรม  แลนา ๚ะ .
องค์จบ
    ในโลกอันมืดมิดรอบราย
นางห่อห้อมตัวเองไว้ด้วยผ้าเพียงพันกาย ปล่อยสยายผมยาวไว้ด้วยมิได้ดูแล
ดวงตานางก็แลอยู่แต่แสงเทียนวับแวบนำ..ฤานางนั้นเจ็บช้ำน้ำใจกระไรฤา
หรุบตาต่ำมองแค่มืออันถือพระธรรม ในใจนางนั้นราวพายุกระหน่ำอันเพิ่งได้จางหายไป
 ฤาเจ้าจะมิเมตตาต่อนางอันใด...ก็ด้วยใยรักฤาตัดไม่ขาดนางจึงบาดใจตนก่นหาแต่พระธรรม 
ข้าฯจึงนำพระธรรม มาให้นาง แต่ก็ได้แต่ยืนอยู่ดูห่างห่างด้วยเศร้าใจในนางเหลือประมาณ
 โอหนอ..นางเอยใยเจ้าเผยความไปใครเขาก็ทุกข์ร้อนหม่นไหม้ด้วยรักใสในใจนางช่างทำให้นางนั้นทุกข์ทรมาณเป็นหนักหนา
ข้าฯยืนเอาใจอยู่ให้ว่า นางจะได้สงบสติปัญญาจะนานสักเท่าใด....ก็แล    ๚ะ๛- .   
ทิกิ_tiki
จารรวมจบเมื่อ ๘:๓๐ นาฬิกา
พระพุธ  ๒๘ เมษายน พุทธศักราช ๒๕๔๗
 
 
สงวนลิขสิทธิ.. ๏ทิกิ_tiki ๚