ฟ้าหม่นระคนทุกข์ จิตถูกปลุกคุกรุ่นไฟ แสงดับปลงหลับใหล นิทราไซร้ไฟฝันมรณ์ เงาทึมสิสาดส่อง ครรลองล่องดั่งสังหรณ์ ฟ้าพรากพเนจร ให้อาวรณ์ทุกวารวัน ปิศาจเข้าครอบงำ ชวนตอกย้ำพิษสวรรค์ คราหนึ่งลุกตื่นพลัน เพียงแค่ฝันในนิทรา - - - - - - - - - - - - - - - หวังเพียงแสงน้อยนิด ปลุกชีวิตคิดสู้ฟ้า หวังเพียงเศษเวลา จักฆ่าฟ้าพินาศลง - - - - - - - - - - - - - -
9 มกราคม 2547 11:38 น. - comment id 200026
ตะหงิด ตะหงิดจัง ขัดๆยังไม่รุ้สินะ แต่หน้าที่เขียน ในหนึ่งเรื่องก็จบลง :P INdEpEndEnT
9 มกราคม 2547 12:54 น. - comment id 200046
เพียงมีหวังไม่ท้อแท้ ไม่อ่อนแอและสิ้นหวัง ลุกขึ้นสู้ด้วยพลัง ก็สมหวังได้เหมือนกัน *-*ขออภัยนะจ๊ะน้องจ๋า พี่ยังไม่ได้เล่น msn เลยวันนี้ ไม่ค่อยสบายจากเมื่อวาน แถมยังติดงานด่วนยาวเป็นกิโลเลยจ๊ะ แต่เดี๋ยวตอนบ่าย ๆ จะเข้าไปหละนะ*-*
9 มกราคม 2547 14:03 น. - comment id 200074
--- กลัวฟ้าหรือครับ +-+
9 มกราคม 2547 16:27 น. - comment id 200170
คนเราเมื่อมีหวัง ตราบนั้นเราก็ยังไม่แพ้
9 มกราคม 2547 18:51 น. - comment id 200247
แม้นว่าฟ้าจะ ทึมหม่น .. หรือเทาดำ ใจคนจะชอกช้ำ เหงาเศร้าเพียงใด วันหนึ่งที่ฟ้าเปลี่ยนสี ก็มาถึงได้ ใจคนเราจักหาย ช้ำ หายเศร้าใจในสักวัน เพียง มีหวัง
9 มกราคม 2547 22:18 น. - comment id 200331
เมื่อมีหวังมีพลังจะต่อสู้ ก็ยังตะวันเคียงคู่วันข้างหน้า ดาวบนฟ้าสาดแสงส่องนำพา เจ้าจันทราเป็นเพื่อนทุกค่ำคืน