ตาเหม่อมองแม่ปิงอ้อยอิ่งไหล ขณะใจเลื่อนลอยคอยใครหนอ ก่อนรำลึกความหลังฟังขับซอ คนที่รอกลับเร้นไม่เห็นเงา เขาครวญถึงชีวาว่าว้าเหว่ คลอเสน่ห์เสียงซึงซึ่งซึ้งเศร้า เพลงพ้อพ่อพอดีชีวิตเรา ทุกคำเล่าเรื่องร้ายร่ายรายรุม รักเคยมีเมื่อห่างก็ร้างรัก สุมทุกข์หนักในใจเหมือนไฟสุม คลุมเครือกับฝันเลือนเหมือนหมอกคลุม กลายกลัดกลุ้มเกือบเพ้อเธอกลับกลาย กับรักซึ่งกรรมซัดอุบัติซ้อน พอสังหรณ์ก็เห็นรักเร้นหาย ใจคงตรมตีบตันจนวันตาย หวังมลายหมดแล้วเมื่อแก้วลา ทุกทุกครั้งฟังซอทุกข์ก็ทับ คล้ายคล้ายกับจมปลักโศกหนักหนา หวิวหวิวหวั่นหวาดช้ำหลั่งน้ำตา ใกล้ใกล้บ้าแล้วเราเฝ้าคร่ำครวญ เพราะคำซอคลอซึงซึ้งใจแสน เพราะเจ็บแค้นคอยย้ำรอยกำสรวล เพราะใจยังฝังใจใครเรรวน เพราะทบทวนทุกครั้ง..ยังรักเธอ
30 กรกฎาคม 2546 10:42 น. - comment id 157417
ไพเราะและงดงามมากเลยค่ะ ชื่นชมค่ะ
30 กรกฎาคม 2546 10:47 น. - comment id 157418
..ด้วยศรัทธา..ขอรับ
30 กรกฎาคม 2546 12:18 น. - comment id 157441
โห ใส่กลบทเพียบเลยนะครับ
30 กรกฎาคม 2546 13:40 น. - comment id 157450
เดี๋ยวปิดเทอมผมจะลองแต่งมั่งครับ แฮ่ ๆๆ
30 กรกฎาคม 2546 14:51 น. - comment id 157466
ซึ้งจับใจจังคะ...
30 กรกฎาคม 2546 17:18 น. - comment id 157486
ผู้หญิงไร้เงา, ผีขี้เมา.....ผมก็บ้ายอเป็นนะ ตะเอ๋า.....พอกล้อมแกล้มน่ะ เจ.....แล้วจะรออ่าน ดาหลา.....:)
30 กรกฎาคม 2546 17:54 น. - comment id 157494
ผู้หญิงไร้เงาไม่ได้ยอค่ะ เป็นพูดความจริงเท่านั้นเอง เพราะจริง ๆ จะบอกว่าชื่นชมบทกลอนของคุณเวทย์มาก ๆ เลยค่ะ ยังไงจะติดตามผลงานบทต่อ ๆ ไปนะค่ะ
30 กรกฎาคม 2546 19:12 น. - comment id 157511
สุดฟากฟ้าแม้นแสนไกลใจใฝ่หา ฝากรักมามอบเธอไว้ให้สดใส สุดแว่นแคว้นดอยแดนดินณ.ถิ่นใด ด้วยดวงใจแนบชิดใกล้ไม่ห่างกัน ข้ามขอบฟ้าภูผาไพรใจเจ้าเอ๋ย อย่าละเลยแรมร้างราคราร่วมฝัน ห่วงฤทัยด้วยอาลัยรักผูกพัน ขอเธอนั้นรักจริงใจไม่จากลา....ฯ บทกลอนไพเราะมากค่ะ...หวานปนเศร้า...อ่านแล้วนั่งซึม...ซึ้งนะคะ...(เป็นคนที่ชอบเมืองเหนือมากค่ะ..เลย.. in ...มากไปหน่อย..ขออภัยค่ะ) ขออนุญาตมาร่วมแต่งกลอนนะคะ...
30 กรกฎาคม 2546 19:54 น. - comment id 157516
เพราะมากค่ะ
30 กรกฎาคม 2546 20:59 น. - comment id 157522
ผู้หญิงไร้เงา, ราชิกา, tiki....:)
30 กรกฎาคม 2546 21:23 น. - comment id 157530
โดนประท้วงว่าไม่บอกชื่อ กลบท ที่ใช้ บทที่2 ตรีประดับ บทที่3 ครอบจักรวาฬ บทที่4 (จำไม่ได้น่ะ ใครรู้ช่วยบอกที) บทที่5 ธงนำริ้ว บทสุดท้าย บุษบงแย้มผกา
30 กรกฎาคม 2546 22:12 น. - comment id 157541
ซึ้งลีลาซอซ่อซ้อที่ส่งเสียง พริ้งเพราะเพียงเพลงพิณพลิ้วเพราะพริ้ง แว่วแว่วเสียงเมียสั่งจากฝั่งปิง สะบัดสะบิ้งกลอนรักสะบักสะบอม
31 กรกฎาคม 2546 00:29 น. - comment id 157569
ชอบฟังเสียงแคนเสียงขลุ่ยค่ะ เพลงเดือนเพ็ญ.. งานยังงามและมีสาระเหมือนเดิมนะคะ และเศร้าค่ะกับเสียงซอในค่ำคืนนี้
31 กรกฎาคม 2546 06:33 น. - comment id 157588
... เรน..กราบสวยๆ...นะคะลุงเวทย์ ..แบบว่า... แอบมา..ก่อนไปโรงเรียน...นะคะ.. .. บ้านเรน...อยู่ริมปิง..ด้วยดิคะ... ..มองลงมา... ..ให้ความรู้สึก..มากมาย.... ....ด้วยเคารพ...และผูกพัน...
31 กรกฎาคม 2546 08:56 น. - comment id 157598
แก้ว กรุงเก่า.....แบบนี้เมียที่โคราชก็รู้ความลับสิ อิอิ พุด.....แหะๆ เรน.....ริมปิงฝั่งไหนล่ะ
31 กรกฎาคม 2546 08:57 น. - comment id 157599
เพราะครับ... ส่วนมากผมจะชอบบทสุดท้าย ประทับใจ...ดีครับ
31 กรกฎาคม 2546 09:05 น. - comment id 157601
ก้อง..... ลุงยึดหลักที่ได้รับการสั่งสอนมาว่า ขึ้นต้นน่าติดตาม เดินความตามลำดับเรื่อยไหล ประทับใจเมื่อจบ แต่บางทีก็ทำไม่ได้เท่าที่ควรนะ แหะๆ
31 กรกฎาคม 2546 10:28 น. - comment id 157620
พี่เวทย์คนดีแนวรักหวานน้ำตาลเกาะใจเลยมีแจมนิ เสียงซอซล้อ เศร้าแสน คิดถึงน้อง เพราะเว้าวอน ความรัก จึงห่วงหา แม้นไม่สม ใจเจ้า ขอจากมา เพียรอุตส่า ส่งเสียง สั่งลาเอย อิอิ เขียนรักแนวนี้เขียนได้ทั้งวัน ชอบจังพี่เวทย์คนงาม
31 กรกฎาคม 2546 11:11 น. - comment id 157633
สวัสดีค่ะ คุณลุง อ้อมมาฟังเสียงซอค่ะ อ้อมนึกไม่ออกแล้วค่ะเสียงซอ เป็นอย่างไร
31 กรกฎาคม 2546 12:21 น. - comment id 157656
สวัสดีค่ะ คุณลุงเวทย์... ตามฝันแวะมาอ่านผลงานเช่นเคยค่ะ เพราะพริ้งเหมือนเคย โดยเฉพาะบทที่ 3 ที่คุณลุงบอกว่าเป็นกลบท ครอบจักรวาฬ ชอบจังเลยค่ะ :)
31 กรกฎาคม 2546 14:11 น. - comment id 157677
ลุงเวทย์ขา...ไพเราะ...เพราะพริ้ง...ซะจริงๆเลย แถมความรู้กลบทอีก...ชอบมากๆค่ะ *^_^*
31 กรกฎาคม 2546 15:05 น. - comment id 157683
ซึ้งไม่ซึ้ง...ไม่บอก บอกแต่ว่าคิดถึงคุณพ่อก็พอ แหะแหะ..................
31 กรกฎาคม 2546 16:55 น. - comment id 157715
น้ำ.....:) อ้อม.....ซอ ในที่นี้หมายถึงการขับลำนำ คล้ายเสภา หรือเพลงพื้นบ้าน เป็นของทางภาคเหนือ ไม่ใช่ ซออู้ ซอด้วง ที่เป็นเครื่องดนตรีน่ะ ตามฝัน.....ชอบไม่เหมือนกันแฮะ จาวตาล, แก้ว.....คิดถึงอยู่เหมือนกัน มีคนประท้วงว่าทำไมบอกแต่ชื่อกลบท แต่ไม่บอกว่ามีบังคับอะไร ตรีประดับ ในแต่ละวรรคจะมีคำที่ไล่รูปวรรณยุกต์ สามัญ-เอก-โท หรือ โท-เอก-สามัญ อยู่ อย่าง วาว่าว้า หรือ ร้ายร่ายราย กลบทชนิดนี้ยากมากตรงที่คำที่บังคับต้องไม่เสียความหรือมั่วเอา ครอบจักรวาฬ(สมัยนี้น่าจะใช้ ล สะกด) ก็แค่คำแรกกับคำสุดท้ายของแต่ละวรรคซ้ำกัน ก็ต้องให้ได้ความด้วย ไม่ใช่สักแต่ว่าให้ซ้ำคำแล้วอ่านไม่รู้เรื่อง บทที่ไม่รู้ชื่อ ก็ คำที่ 3 5 และ 8 ของแต่ละวรรคใช้อักษรเดียวกัน ธงนำริ้ว คำที่1 และ 2 ของทุกวรรคซ้ำเป็นคู่ๆ บุษบงแย้มผกา คำแรกทุกวรรคเป็นคำเดียวกัน การเล่นกลบทนี้ ถ้าทำให้เสียความก็ถือว่าเล่นเสียของ ดูแย่มากกว่าดูดีนะ ผมไม่ชอบเล่นกลบทเพราะถ้าเขียนยาวๆจะยากแก่การเดินความ แต่แอบเอาวิธีของกลบทไปใส่ในกลอนบ่อยๆ อย่างสะบัดสะบิ้ง ในลำนำเลือด ก็มีหลายวรรค
31 กรกฎาคม 2546 18:11 น. - comment id 157747
นอกจากบทกลอนที่ไพเราะและสวยงามแล้ว..ยังได้ความรู้เพิ่มขึ้นมากเลยค่ะ...คุณลุงเวทย์.. อย่างนี้..ต้องให้รางวัล...คนประท้วง...จริงป่ะคะ..ที่ชอบสงสัย....อิอิ...
1 สิงหาคม 2546 22:28 น. - comment id 158035
เขาครวญถึงชีวาว่าว้าเหว่ คลอเสน่ห์เสียงซึงซึ่งซึ้งเศร้า เพลงพ้อพ่อพอดีชีวิตเรา ทุกคำเล่าเรื่องร้ายร่ายรายรุม ชอบมากค่ะลุง
2 สิงหาคม 2546 09:20 น. - comment id 158153
ราชิกา.....ตกลง แต่ราชิกาเป็นคนให้นะ พิมพ์.....ตรีประดับนี่ถ้าไม่เล่นแบบเสียของก็ให้เสียงไพเราะดีหรอก
2 สิงหาคม 2546 15:39 น. - comment id 158193
ชอบบทที่สองมากเป็นพิเศษค่ะ ~^_^~ อาขา มากราบขอโทษ
2 สิงหาคม 2546 17:01 น. - comment id 158219
ส้มโอ.....จำคุกตลอดชีวิต หรือ ประหารชีวิต ดีล่ะ อิอิ
29 มกราคม 2548 15:03 น. - comment id 283559
ยิ้ม!