ไม้ใหญ่ยืนตระหง่าน นก กา ยืดถือเป็นบ้าน พื้นดินแผ่ไพศาล คนกลับ ไม่รู้จะอยู่ไหน แจกันใหญ่มุมห้อง ต่างมอง.. หยุดชื่นชม แม่เฒ่านั่งอยู่หน้าบ้าน ต่างเดินผ่านแล้วยิ้มให้ แม่เฒ่าใช่เห็นรอยยิ้มหรือไม่หนอ พิ้นดินแผ่ไพศาล แม่เฒ่านั่งอยู่หน้าบ้าน คนมากมายไม่รู้จะอยู่ไหน แม่เฒ่านั่งเดียวดาย ใจไม่รู้อยู่ไหน ..
14 กุมภาพันธ์ 2546 09:00 น. - comment id 108879
แผ่นดินแผ่ไพศาล แม่เฒ่ามองผ่านวันวาร กาลเวลาไยเคี่ยวกรำผู้คน ใจที่เคยวิ่งตาม....บัดนี้รู้แล้วว่าไล่ไม่ทัน...หากหยุดใจได้...ฤๅโลกจะหยุดด้วย สวัสดีครับ...เฮียวลี....ปรัชญาซะ
14 กุมภาพันธ์ 2546 09:11 น. - comment id 108882
แหะๆ .. เรียก อย่างอื่น ได้แมะ เรียก เฮียวลี แหะๆ ทะแม่งๆ อะ .. สวัสดีตอนเช้า ครับ ...^L^
14 กุมภาพันธ์ 2546 09:28 น. - comment id 108888
เขตแดนแผ่นดินกว้าง พื้นภพร้างว่างเปล่าดูสิ้นสูญ กระท้อมน้อมมีผู้เฒ่าเฝ้าอาดูร ริ้วรอยพูนเพิ่มทับที่หน้าตา
14 กุมภาพันธ์ 2546 15:13 น. - comment id 108914
wowสัจธรรมมากคะชอบมาก
14 กุมภาพันธ์ 2546 17:12 น. - comment id 108920
สวัสดีครับ คุณไอฯ .. บทนี้ ลอกแบบอย่าง บทกวี ของจีน นะครับ แต่ของผม เรียกว่า บทรำพึง ดีก่า ...^L^ ... สวัสดีครับ คุณแจฯ .. คิดว่า น่าจะชอบอ่าน บทกวีจีน หรือ ญี่ปุ่น เกาหลี แน่ๆ ถ้าชอบ แบบนี้ ผมเองชอบ ของทางจีนมาก อิงธรรมชาติ ความรู้สึก ลึกๆ ทั้งขัดแย้งและคล้อยตาม ... ที่จริง บทกวี ของจีน และญี่ปุ่น ก็มีสัมผัส นะครับ ทุกท่าน ..^L^ ...
15 กุมภาพันธ์ 2546 01:16 น. - comment id 109026
ไฮกุ ใช่ปะค่ะ
15 กุมภาพันธ์ 2546 08:34 น. - comment id 109048
ไม่ใช่ ครับ .. แบบนี้ เป็นลักษณะ กวีจีน มากกว่าของญี่ปุ่นครับ .. ความคล้ายคลึงกัน คือ ลักษณะการพัฒนาการจากความคิด ด้าน เต๋า(จีน) และ เซน (ญี่ปุ่น) แต่ของจีน จะมีลักษณะหลากหลายด้านความคิดจาก ขงจื้อ เต๋า และ พุทธ ผสานกัน แหะๆ เรื่องยาวเลยละ ครับ ....^L^ ...
16 กุมภาพันธ์ 2546 09:06 น. - comment id 109160
ต้นไม้ใหญ่..ในความรู้สึกของเรน... ..ดูอบอุ่น... ..เรนขอ..ซุกหลับ..พักใต้ร่มเงา.. ..ขอแค่ลมบางเบา..ใต้ต้นไม้ใหญ่.. ..ขอแค่..พัก..หลับตา..อยู่ใกล้... ..อย่าใจร้าย..กับ..เรนเรยย..(นะค่ะ)... ....
16 กุมภาพันธ์ 2546 09:34 น. - comment id 109162
... อย่างน้ คุณเรน .. คงเป็นนกโนรี สีสันงดงาม บนต้นไม้ใหญ่ แน่ๆ ....^L^ ...
9 มกราคม 2551 09:33 น. - comment id 146187
ฤดูใบไม้ผลิจากไปสู่แห่งหนใด ฤดูใบไม้ผลิจากไปสู่แห่งหนใด มันจากไปอย่างเงียบเชียบไร้ร่องรอย ถ้าหากมีใครรู้ว่าฤดูใบไม้ผลิไปแห่งหนใด โปรดเรียกให้กลับมาอยู่กับฉันเถอะ มีใครรู้เห็นร่องรอยฤดูใบไม้ผลิบ้าง นอกจากไปถามนกขมิ้นแล้วไม่รู้ไปถามใครได้ แต่นกขมิ้นร้องเสียงเจื้อยแจ้วนับร้อยครั้งก็ไม่มีใครเข้าใจ มันจึงบินตามลมผ่านพุ่มไม้กุหลาบจากไป หวงถิงเจียน ค.ศ. 1045-1105