อาวรณ์รัก
แก้วประเสริฐ
อาวรณ์รัก
หนึ่งนางเดียวเกี่ยวก้อยร้อยสู่ฝัน
หนึ่งเธอนั้นพันผูกปลูกสดใส
หนึ่งหมายปองครองไว้ในห้วงใจ
แสนวาบไหวคลั่งไคล้ให้ลืมตัว
จันทร์เอ๋ยเจ้าแสงนวลชวนสวาท
งามพิลาสหายไปในแสงสลัว
ใยบอบบางเหลือเกินเพลินลืมกลัว
ตราบมืดมัวแฝงซ่อนยอกย้อนฤดี
ปากกับใจมิตรงส่งมธุรส
แล้วแสร้งปดหลอกไว้ให้หมองศรี
นี่แหละหนอรักแรกเหมือนแฝกตี
ผ่านนวลฉวีชอกช้ำระกำใจ
จะรักใครสักคนจนต้องคิด
เหมือนหนามปลิดเลือดไว้ไร้สดใส
น้ำจากตาหลั่งรินสิ้นห้วงใย
เธอฝากไว้เหมือนลมบ่มกายา
มองบุปผาเบ่งบานผ่านเศร้าหมอง
หยาดละอองสายฝนปนเสน่หา
อันความหวานฝากไว้ในรจนา
ยากนำพาบั่นทอนห่อนเปรมปรีดิ์
หอมระรวยชวยชื่นคืนแสงสกาว
อบอวลพราวระรินจินต์เกษมศรี
สู้หมายปองครองไว้ในห้วงชีวี
ป่านฉะนี้ความหวังสร้างลางเลือน
เปรียบบุปผาแปรเปลี่ยนเยียนนิเวศน์
สู่อาณาเขตแสงสีพลีถูกเฉือน
เปลี่ยนเป็นช้ำระกำคล้ำมาเยือน
แสนสะเทือนหัวใจใยหวนคืน
ผ่านแสงทองผ่องอำไพมลายแล้ว
ก่อนเสียงแจ้วหวามเก่าเฝ้าสุดฝืน
ฟ้าเปลี่ยนสีพราวไสวคล้ายยั่งยืน
เสียงสะอื้นจากห้วงดวงแหลกราญ
คราแสงนวลจันทร์ผ่องละอองไสว
เหมือนภายในแตกช้ำระกำผ่าน
เคยแลปองนวลเจ้าเฝ้านงคราญ
สู่ร้าวฉานแยกทรวงห้วงระบม
หวนเฝ้ามองรัญจวนคร่ำครวญรัก
ดุจหนามปักเลือดหลั่งหลังขื่นขม
ปลอบขวัญเจ้าอย่าไหวในสิ่งปม
ทิ้งตรอมตรมผ่านไปสร้างใหม่มา
ดุจจันทร์เจ้าหายลับยังกลับใหม่
ผ่องอำไพคืนกลับนับวาสนา
ความพลั้งพลาดมีได้ในทุกครา
เหลือเวลาที่ปองครองมากมาย.
แก้วประเสริฐ.