ร่ำไห้ (แด่ความขัดแย้งทางการเมืองที่ยังไม่มีทีท่าว่าจะยุติ) คือคนที่ค้นคิด กำหนดกิจ กำเนิดการ สืบทางเพื่อสร้างฐาน เจิมศรัทธาจากสาไถย เกินนับเลือดกับเนื้อ ถมชีพเหยื่อถูกชักใย โกรธฟุน ร้อนกรุ่นไฟ ซ้ำเดือดฟาดโซรมดาษฟืน บทเรียนเบียดเบียนรู้ ใครยับยู่? ใครเหยียดยืน? เพียบหนเห็นพลหืน ล่อคนฮึกแล้วคึกเฮ สั่งย่ำ หลายส่ำยาตร ทิวแถวทาสโถมทุ่มเท ห้ำหั่นห่อนหันเห อย่างแค้นโหด เยี่ยงโคตรหิน เชื่อเขาหลอกเช้าค่ำ เตือนเจ็บจำแต่จุดจินต์ ร้อนผ่าวภพร้าว ภินท์ มนต์ชั่วพาดมรรคชาติพัง ไทยหนอน่าท้อ หน่าย นับวันว่ายในวนวัง เหนื่อยล้ามองหน้าหลัง ติดกับหล่นตกกลลวง อิ่มซาบรักอาบซึ้ง หยุดอ้างถึง อย่าเอ่ยทวง ด้าวแหนดินแดนหวง ร่ำร้องไห้ร่ำไรฮือ (๙ ถึง ๑๐ มิถุนายน พ.ศ. ๒๕๕๕)
11 มิถุนายน 2555 12:25 น. - comment id 1235197
ปั่นปลุกแนวรุกรับ เข้าโถมทับอย่างทาสแท้ เหง้าผองไม่มองแล สักกี่แผลจักจดจำ ยางหัวยังไม่ออก จึงกลับกลอกให้กลืนกล้ำ เข่นขยี้แล้วขยำ เจ้าจักทำไปถึงไหน ! งามอักขราตราชู..ผู้ชูธรรม
11 มิถุนายน 2555 13:50 น. - comment id 1235201
สวัสดีครับ ท่านผู้อ่านที่เคารพทุกท่าน เดือนนี้มิถุนายน อีกไม่กี่วันก็จะครบรอบแปดสิบปีประชาธิปไตยไทย แต่อนิจจา ต้นประชาธิปไตยบ้านเราช่างแคระแกร็นเหลือเกิน แถมทำท่าจะลีบเล็กลงกว่าเก่าเสียด้วยซ้ำ น่ากลุ้มใจจังครับผม สวัสดีครับ คุณบุญพร้อม จริงครับ หลายประเทศทั่วโลกเขาก็วุ่นวาย ขัดแย้ง เดือดร้อน แต่ถ้าประเทศของเราสามารถป้องกันได้ก่อน รู้เหตุแห่งความเสื่อมแล้วขจัดเสีย ผมว่าดีกว่าวัวหายล้อมคอกครับ ยังมิสายเกินไปหากเราจะหยุดทบทวน ทว่าเท่าที่ดู ต่างฝ่ายต่างเห็นชาติเปรียบเสมือนเชือกชักเย่อ พยายามดึงเชือกให้ไปทางฝ่ายตน ผมได้แต่ภาวนา อย่าให้เชือกขาดเลยครับผม สวัสดีครับ คุณแก้วประภัสสร ขอบพระคุณเป็นอเนกอนันต์ครับสำหรับกำลังใจซึ่งคุณกรุณาสละเวลาอันมีค่า อ่านงานจากความรู้สึกนึกคิดของคนกระจอกงอกง่อยต้อยต่ำอย่างผม ขณะนี้ อุทกภัยเริ่มต้นขึ้นแล้ว ผมคิดว่า ทุกขั้วควรหยุดเสียที น้ำท่วมปีกลายสร้างบทเรียนระทมขมขื่นแก่พวกเราทั่วหน้า อย่าให้ปี พ.ศ. ๒๕๕๕ มีทั้งภัยน้ำภัยคนปนเปกันเลยครับผม สวัสดีครับ พี่พุด ขออนุญาตเรียนพี่พุด ตลอดจนท่านสมาชิกบ้านกลอนไทยทุกท่านครับ ผมประเมินประมวลตนเองแล้วพบว่า ผลงานยังอยู่ในเกณฑ์ต่ำทรามนักครับ อ่านงานเก่าๆของตัวทีไร พบจุดต้องแก้ไขทุกที ผมยังไม่พร้อมถึงขนาดรวบรวมงานอันด้อยค่าซึ่งโพสต์เล่นๆไว้ตามเว็ปไซต์ไปเผยแพร่ต่อคนจำนวนมากๆหรอกครับ เรียนตามตรงว่า อายครับผม สวัสดีครับ ท่านศรีสมภพ อำนาจคือขนมหวานอร่อยที่สุดในโลก คือสิ่งเสพติดร้ายกาจที่สุดในพิภพ ทว่า นับตั้งแต่โลกมีมนุษย์จวบจนปัจจุบัน อำนาจ ยังเป็นสิ่งปรารถนาคว้าไขว่ ได้มาก็อยากคงอยู่ เสียไปก็อยากได้คืน ทั้งๆรู้ดี ท้ายสุดยามสิ้นลม แม้เรือนร่างของตนก็หาพาไปได้ไม่ ต้องทิ้งให้พระเพลิงแผดเผา ถึงกระนั้น กิเลสหนา ตัณหาจัด ก็ทำให้ยากจะถอนตนพ้นข่ายมายา มนุษย์ต้องรบราฆ่าฟันกันเนืองๆ ผมคิดว่า เรื่องหยุดสงครามนั้นลำบากหนักหนาครับ เพราะคนก่อมันขึ้นสามารถยกเหตุผลสวยหรูมาอ้างได้ทุกยาม ยิ่งเทคโนโลยีพัฒนา ศักยภาพของอาวุธยิ่งมหาอำมหิตขึ้นพหุคูณ โลกจะล่มสลายมิใช่เพราะใคร มนุษย์นี่เองตัวการสำคัญครับผม
10 มิถุนายน 2555 15:47 น. - comment id 1235682
หลายชาติ หลายประเทศ มีเหตุ เช่นนี้มา ร้อนรุ่ม ไปใยหนา ถึงเวลา ก็เห็นเอง
10 มิถุนายน 2555 20:14 น. - comment id 1235697
11 มิถุนายน 2555 10:49 น. - comment id 1235732
น้องรัก พี่พุดค่ะ ขอให้น้องรวบรวมผลงานน้องทุกชิ้น ที่แสนมีค่ามากมายนี้ ได้ออกเผยแพร่ต่อสาธารณะชน พี่พุดคิดว่า หากวีที่มีพรสวรรค์ในการรังสรรค์งาน อย่างน้องยากมากค่ะ กวีแก้วในดวงใจพี่พุดไพร พี่พุดกำลังกลับไปอ่านงานน้องอย่าง ละเมียดอีกครั้ง รักและศรัทธาในความเพียรของน้องค่ะ
12 มิถุนายน 2555 07:38 น. - comment id 1235761
12 มิถุนายน 2555 08:36 น. - comment id 1235765
12 มิถุนายน 2555 14:23 น. - comment id 1235797
สวัสดีคำรบสองครับ ท่านผู้อ่านที่เคารพทุกท่าน สวัสดีครับ คุณกวีปกรณ์ คุณเปลวเพลิง ขอบพระคุณอย่างสูงยิ่งครับที่คุณการุณส่งกำลังใจมาสู่ผม เมื่อวาน ผมเขียนความเห็นเรื่องอำนาจ เลยพลอยนึกถึงนวนิยายเรื่อง อำนาจ ของท่านอาจารย์ประภัสสร เสวิกุล ขึ้นมา ท่านเขียนไว้หลายปีแล้วครับ แต่เนื้อหายังทันสมัยใช้ได้กับทุกสังคม ประเทศเอลเควญญา ประชาชนพลเมืองเห็นการรัฐประหารเป็นของปกติ เคยชินต่อความรุนแรง ไม่รู้สึกว่าคอรัปชั่น คือสิ่งเลวร้าย ฟังเรื่องนี้ทีไร อดสลดหดหู่ใจมิได้ทุกทีครับผม