เผด็จการ ! ทหารโหม อมประเทศ น่าสมเพททุเรศชนจำทนอยู่ จะกู่ก้องฟ้องฟ้าหาใครดู ไร้ทางสู้ ต้องเก็บกดหดหัวเกรง อำนาจปืน ฝืนเสรีที่พม่า ได้เข่นฆ่าท้าทายไล่ข่มเหง ปิดประตูขู่โขกทั่วโลกเกรง คุกอินเส่ง ! ใครไม่ฟังขังลืมตาย ตะวันโผล่พ้นผ่านม่านมืดเมฆ เหมือนสรรค์เสก เอกสตรีที่ยิ่งใหญ่ ลูกอองซาน ผู้หาญสู้กู้ชาติไว้ อังกฤษให้ อิสระชนะพ้น ซูจี ! ..สตรีแกร่งขอแข่งสู้ ให้โลกรู้ ผู้กล้า ฝ่าแดดฝน ขอปลดแอกแบกบ่าประชาชน ให้หลุดพ้นเผด็จการที่นานนม ประชาธิปไตยจอมปลอม ยอมเลือกตั้ง ชนะหลายครั้ง ยังแพ้ปืนจำฝืนข่ม ถูกกักตัว มั่วใส่คดี หลายปีระทม แต่โลกชม เชิดชูใจ..ให้โนเบล เผด็จการ ! ทหารพม่า ท้าทายโลก คงไร้โชค ช่วยซูจี..ที่แสนเข็ญ อหิงสา ! คือทางสู้ ผู้เลือดเย็น แม้ไม่เห็น ประกายไฟ..ปลายอุโมงค์ ต้องตะลึงทึ่งกับตา..พม่าเปลี่ยน ปลดบังเหียนคอกแอกแหวกประสงค์ บอกกับโลกตกปากคำเจตน์จำนง ขอมุ่งตรงประชาธิปไตย..ให้คอยดู ถกโสร่ง..เพื่อโปร่งใสในพม่า เปิดหน้าหราท้าโลกวกมาสู่ เลิกเย่อหยิ่งนิ่งหน้า อ้าประตู ยากใครรู้..สู่เสรี ..ที่คลุมเครือ เดอะเลดี้ หนังซูจี.. ฉายตีแผ่ ขอเพศแม่มาแก้เมืองเรื่องเหลือเชื่อ เพราะเพศผู้ บู๊อำนาจมาดน่าเบื่อ คนกัดก้อนกินเกลือ..เหลือกำลัง ถกผ้าถุงแม่หญิงไทย ..คล้ายพม่า ลองให้ขา ขาวๆ เข้ามาสั่ง ประชาธิปไตย ไทยๆ ไร้พลัง อีลุงตุงนัง.. ยังไม่ไปที่ไหนเลย ! @@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@ นายกฯ ยิ่งลักษณ์ ร่วมเปิดตัวหนังชีวประวัติ อองซาน ซูจี ผู้นำการต่อสู้เพื่อประชาธิปไตยในประเทศพม่า เรื่อง The Lady อองซาน ซูจี ผู้หญิงท้าอำนาจ พร้อมถ่ายรูปคู่กับ มิเชลล์ โหย่ว นักแสดงนำ และ ลุค เบซง ผู้กำกับชาวฝรั่งเศส ที่สยามพารากอน พร้อมร่วมชมภาพยนตร์เรื่องดังกล่าว มนุษย์ย่อมแสวงหาเสรีภาพเสมอ เสรีภาพที่จะเลือก เสรีภาพที่จะปกครอง หรือถูกปกครอง เหมือนที่เธอกล่าวว่า การบังคับให้เลือก มันคือเสรีภาพแบบไหนกัน เพราะเสรีภาพเป็นสิ่งที่พระเจ้าสร้างมนุษย์ให้มีมาตั้งแต่ต้น เสรีภาพจึงถูกปลูกฝังลงสู่จิตใต้สำนึกของมนุษย์ทุกคน ซึ่งในหนังได้ทำให้เราเห็นภาพๆ หนึ่งว่า คนพม่าจำนวนไม่น้อยก็ไม่ได้ต่อสู้เพื่อให้ได้มาเพื่อเสรีภาพ แต่ยอมอยู่ใต้สิ่งที่เค้าปกครองเรามานานเพราะเพียงคำว่า เคยชิน จนกระทั่งวันหนึ่งที่คนกลุ่มหนึ่งเลิกที่จะกลัว ในการต่อสู้ แล้วลุกขึ้นสู้ เพื่อเสรีภาพ โปรดใช้เสรีภาพของคุณ ในการสนับสนุนเสรีภาพ [ของเรา] อองซานซูจี
5 กุมภาพันธ์ 2555 16:49 น. - comment id 1223508
5 กุมภาพันธ์ 2555 17:17 น. - comment id 1223512
พยายามเลี่ยงสัมผัสซ้ำนะครับ
5 กุมภาพันธ์ 2555 17:23 น. - comment id 1223513
5 กุมภาพันธ์ 2555 18:03 น. - comment id 1223518
ประชาธิปไตย ไทยๆ ไร้พลัง อีลุงตุงนัง.. ยังไม่ไปที่ไหนเลย ! อยู่กับใครไม่รู้ ใครรู้ เอามาคืนด้วยเน้อ
5 กุมภาพันธ์ 2555 19:56 น. - comment id 1223523
มอบดอกไม้กับปรบมือให้กลอนของท่านศรีสมภพค่ะ
5 กุมภาพันธ์ 2555 20:05 น. - comment id 1223525
ถกโสร่งนี่เห็นภาพเลย จะหวิวไปไหมค่ะท่านศรีฯ เห็นรูปของ The Lady ทั้งสองคนแล้ว นายกเราสวย เปล่งประกายมาก มิเชลล์ โหย่ ก็ลงทุน Diet ซะคล้ายท่านซูจีเลย เห็นเขาเปรียบเทียบกันอยู่น่ะ ในรูปร่างบอบบางนั้น ท่านซูจีดูเข้มแข็งมาก ถึงไม่มีออร่าแต่มีพลังบางอย่างเจิดจรัสมากมาย..
5 กุมภาพันธ์ 2555 23:49 น. - comment id 1223534
ขอบคุณ.. ท่านไหมแก้วฟ้าสีคราม มาเยือนย่ำ ..อ่านคำกลอน ขอบคุณ.. ท่านพิพัฒนชัย.. ที่เตือนใจในสัมผัส ครั้งนี้ขอข้องขัด ครั้งหน้าจัด ไม่ขัดใจ อิอิ.. ขอบคุณ.. คุณครูอนงค์นาง โพสต์สองครั้งยังน่ารัก คนใกล้คงประจักษ์ ความน่ารัก ..อยู่ใกล้ๆ ขอบคุณ.. ท่านรัถยา.. ประชาธิปไตย อยู่ไหนหนอ ? ๘๐ ปี ที่เฝ้ารอ หน้าไม่หล่อ ขี้เหร่หลาย..เน๊าะๆ.. ขอบคุณ.. ท่านกุ้งหนามแดง.. สาวไฟแรงแห่งเธอสอง คล้ายกันในครรลอง เปรียบมุมมอง น้อง(ไทย) สวยกว่า หน้าขาวปิ๊ง.. ขาด ! ขอบคุณทุกๆท่าน ..ครับกระพ้ม !
6 กุมภาพันธ์ 2555 07:45 น. - comment id 1223535
ขอร่วมชื่นชมด้วยอีกคนนะครับ
6 กุมภาพันธ์ 2555 08:11 น. - comment id 1223549
พม่า พยายามปรับตัวเพราะเล็งเห็นว่า การไม่เป็นประชาธิปไตย ยืนอยู่ยากบนเวทีโลก อรุณสวัสดิ์ครับ
6 กุมภาพันธ์ 2555 09:38 น. - comment id 1223554
คุณวัชรี สายสิงห์ทอง..ผู้ร้อยเรียงค่ะ อ่านตอน1..ก่อนนะคะ http://www.thairath.co.th/thairath1/2547/column/famous/jun/5_6_47.php ความรักของซู-1 มองจากการแต่งกาย เขาก็รู้ว่าเธอเป็น ผู้หญิงเอเชีย เป็นนักศึกษาที่เดินเข้าออก มหาวิทยาลัย อ็อกซ์ฟอร์ดทุกวัน เด็กสาวเจ้าของเรือนร่าง โปร่งบาง ผิวเนียนละเอียดสีน้ำผึ้งคนนี้ มักสวมเสื้อแขนยาวสีขาว ปลายแขนบานน้อยๆ คอกลมผ่าหน้า ตัวเสื้อสั้นแค่เอว นุ่งโสร่งยาวกรอมเท้า ลวดลายแปลกและสีไม่เคยซ้ำ มุ่นมวยผม ไว้ที่ท้ายทอยแล้ว เสียบช่อดอกไม้ทุกวัน เขาไม่เคยเห็นว่าผมของเธอ ขาดดอกไม้แม้แต่วันเดียว มันเป็น เอกลักษณ์ของเธอ ชายหนุ่มเดินตามเธอมาหลายเดือนแล้ว อยากทำความรู้จักแต่ไม่กล้า เพราะเธอไม่มีทีท่าว่าจะชอบใคร อีกทั้งมีนักศึกษาหนุ่มหลายคน ที่พยายามทอดไมตรี กับเธอ จนกระทั่งวันหนึ่งเขาเกิดใจกล้า เดินเข้าไปทักทาย ในที่สุดทั้งสองก็กลายเป็นเพื่อนกัน เธอบอกว่าเธอชื่อ ซู ยี มาจากพม่า *************** คลิ๊กอ่านต่อให้จบเองนะคะ http://www.thairath.co.th/thairath1/2547/column/famous/jun/5_6_47.php ความรักของซู-1 http://www.thairath.co.th/thairath1/2547/column/famous/jun/12_6_47.php และ ความรักของซู-2 โดย..วัชรี สายสิงห์ทอง **************** พุดพัดชา.... หลั่งน้ำตาสังเวยทุกคราที่อ่านประวัติค่ะ หวังทุกดวงใจงาม นามนิยามดวงดอกไม้ ที่หวังประดับงามประดับใจ ด้วยนิยามมากล้นค่า..คน ในหล้าโลก.. ขอพลีพร้อมน้อมใจดวงดอกไม้ไทยดอกไม้ไพร น้อมใจคารวะแด่เธอ!นะคนดี..ของโลก! *********** ซู ยี ถูกกักบริเวณ อยู่ในบ้านริมทะเลสาบ อิลยา มานานหลายปีแล้ว เธอทุกข์ทรมานใจมาก จดหมายของ สามีและ ลูกจากอังกฤษเท่านั้น ที่ปลอบใจให้สู้ชีวิตต่อไป ยามว่างเธอทำสมาธิ เขียนบันทึก และอ่านวรรณกรรมของเจน ออสเตน ขณะเดียวกันทหารเผด็จการ ก็ได้ออกข่าว บิดเบือนทำลายในทำนองว่า ขอประชาชนอย่าเชื่อถือซู ยี ผู้หญิงคนนี้ไม่ได้ดีเด่อะไร ตอนอยู่อังกฤษก็เป็นโสเภณี คบผู้ชายไม่เลือกหน้า เป็นผู้หญิงไร้สาระที่เรียกว่า Party Girl ซ่าส์อยู่ตามงานต่างๆ จนมีผัวเป็นฝรั่ง และได้สัญชาติอังกฤษไปแล้ว มันไม่ได้เป็นพม่า แต่กลับมาสร้างความวุ่นวายในบ้านเมือง เพื่อความดังให้ตนเอง ซู ยี ไม่มีโอกาสจะรู้ข่าวบิดเบือนนี้ เพราะต้องอยู่ในโลกแคบๆที่ขัดสนของตนเอง เธอส่งข่าวถึง สามีว่าไม่มีเงินซื้ออาหาร ต้องกินสิ่งที่ไม่มีประโยชน์ ร่างกายเริ่มอ่อนแอลงเพราะ ขาดสารอาหาร เธอเป็นลมบ่อยๆ และคิดว่าเป็นโรคหัวใจ เวลาเดิน รู้สึกหูอื้อ สายตาพร่า มัวลงเรื่อยๆ ซึ่งทางทหารก็เยาะเย้ยว่า พ่อมันถูกฆ่าตาย แต่เราจะไม่โหดร้ายขนาดนั้น ปล่อยให้มันตายคาบ้านหลังนั้น ไปก็แล้วกัน นี่ก็จวนแล้ว! คิม, ลูกชายคนเล็กเขียนมารำพันว่า รู้สึกเหงาและคิดถึงแม่เหลือเกิน พ่อมีแต่ความทุกข์ ต้องทำงานหนักมากและเลี้ยงลูกทั้งสองคน บ้านที่ อ็อกซ์ฟอร์ดไม่เหมือนเดิมอีกต่อไปแล้ว สมัยอยู่ด้วยกัน แม่เคยทำอาหารจนส่งกลิ่นหอมไปทั่วบ้าน เพราะแม่ปรุงอาหารเก่ง เราพ่อลูกเคยได้กินอาหารที่อร่อยๆ จากฝีมือแม่ แต่เวลานี้กินแบบ กันตาย ตอนนี้เขาโต ขึ้นจึงเข้าใจเหตุผลของแม่ ที่ยังกลับอังกฤษไม่ได้ เพราะแม่ มีภารกิจที่ต้องทำให้สำเร็จ พม่าต้องการ เสรีภาพ และควรมีการเลือกตั้งทั่วไป มันเป็นเรื่องยาก คิมให้ สัมภาษณ์ ผมอยากช่วยแม่ แต่ไม่สามารถช่วยได้ และแม่ก็ไม่ ต้องการให้ช่วย มันเป็นสิ่งที่แม่ต้องทำด้วยตัวของแม่เอง แม่มีจิตวิญญาณในการต่อสู้และ เสียสละ แม่ทำให้พวกเราเข้มแข็ง ไมเคิลพาลูกๆ มาเยี่ยมซู ยี เท่าที่สามารถจะทำได้ แต่ค่าเครื่องบินไป-กลับแพงมาก อีกทั้งคณะทหารก็หาทางกลั่นแกล้ง โดยอนุญาตให้เข้าประเทศได้ แต่อีก 2-3 วันต่อมาบอกว่าไม่อนุญาต ไมเคิลหมดปัญญาที่จะช่วยภรรยาสุดที่รัก เขาทำได้แค่ให้กำลังใจ และปลอบโยนเธอ บางครั้งก็อ้อนวอน ให้เลิกยุ่งเกี่ยวกับการเมืองเสียที ผู้หญิงตัวคนเดียว จะไปสู้รบตบมือกับทหารโหดไม่ได้ อย่างไรก็ตามเขาทราบดีว่า เธอไม่เลิกล้มความตั้งใจ อย่างเด็ดขาด ไม่มีสิ่งใดในโลกสามารถขัดขวางเธอได้ ต่อมาเกิดเหตุการณ์รุนแรง รัฐบาลทหารสลายตัวไป เกิดมีสภาปฏิรูปกฎหมาย ที่เรียกว่า สล็อร์ก (State Law and Order Restoration Council) โผล่ขึ้นมาแทนที่ เริ่มแรกก็ประกาศกฎอัยการศึก และให้สื่อของรัฐประโคมข่าวใส่ร้ายซู ยี, สามีและลูกๆ อย่างต่อเนื่อง แต่ด้วยเหตุอื่นกดดัน ให้สภาสล็อร์กจัดการเลือกตั้งในปี 1990 ซู ยี ก็ลงสมัคร ผลปรากฏว่า เธอชนะการเลือกตั้งอย่างขาดลอยถึง 82% ทำให้สภาสล็อร์กเสียศักดิ์ศรี อย่างรุนแรง จึงกักตัวเธอไว้ในบ้านดังกล่าวต่อไป แต่การต่อสู้อย่างทรหดของซู ยี ไม่เสียเปล่า โลกต่างรับรู้ และเอาใจช่วยเธอ จนในที่สุดเธอได้รับรางวัลโนเบล สาขาสันติภาพในปี 1991 แต่แล้ววันหนึ่งในปี 1999 โลกทั้งโลกของซู ยี ก็พังทลายลงมา ไมเคิลโทรศัพท์ไปหา เพื่อนสนิทชื่อปิเตอร์ แครี่ ผมมีทั้งข่าวดีและข่าวร้ายจะบอก เขาเล่า เอาข่าวร้ายก่อนนะเพื่อน, คือ...หมอตรวจพบว่า ผมเป็นมะเร็งต่อมลูกหมาก และข่าวดี...ก็คือ ผมจะต่อสู้กับโรคร้ายนี้ จนสุดความสามารถ ผมไม่ยอมแพ้! เพื่อนๆที่อังกฤษตกใจมาก ต่างขอร้องให้ซู ยี กลับไปอยู่ใกล้สามี แต่เธอไม่ยอม ไมเคิลเองกระเสือกกระสนขอวีซ่า เพื่อเดินทางไปพม่าทั้งๆ ที่กำลังป่วย เพียงเพื่อพบภรรยา เป็นครั้งสุดท้าย หวังเพียงกล่าวคำอำลาต่อเธอ แต่อาการของเขาทรุดหนักลง ต้องเข้ารักษาตัวในโรงพยาบาลและ พยายามโทรศัพท์ถึงเธอทุกคืน แต่คู่สายโทรศัพท์ของเธอถูกทหารสั่งตัด จนไมเคิลไม่สามารถติดต่อกับภรรยาได้ ครั้นในวันรุ่งขึ้น เ ธอได้รับข่าวจากสถานทูตอังกฤษว่า ไมเคิลสิ้นใจเสียแล้ว! ซู ยี ร้องไห้จนน้ำตาแทบเป็นสายเลือด ศพของสามีได้ทำพิธีฌาปนกิจ ที่อ็อกซ์ฟอร์ดตามประเพณีในศาสนาพุทธ เธอเขียนไปหาเพื่อนๆที่นั่นว่า ฉันเป็นคนโชคดีมาก ที่มีสามีดีเลิศอย่างไมเคิล เขาให้ความเข้าใจเห็นใจ ในสิ่งที่ฉันทำ ความทรงจำที่ดีเหล่านี้ ไม่มีวันลบเลือนไปจากหัวใจ ของฉันตลอดชีวิต จนกระทั่งเมื่อเดือนมีนาคม มีข่าวจากทูตแห่งสหประชาชาติ รวมทั้งนายพลขิ่น ยุ้นต์ นายกฯคนใหม่ ว่า ซู ยี จะได้รับอิสรภาพในเดือนเมษายน 2004 แต่นี่ย่างเข้าเดือนมิถุนายนแล้ว อิสรภาพก็ยังริบหรี่ ไม่มีวี่แววว่าเธอจะรอดพ้น จากเงื้อมมือของเผด็จการทหารไปได้ ในขณะที่ โลกต่างรอคอย การคืนสู่เสรีภาพที่มนุษย์อย่างเธอควรต้องมี เผด็จการทหาร กลับรอคอยการตายของเธอ พวกเขากลัวผู้หญิงร่างเล็กคนนี้ที่สุด! ******************** พุดพัดชา และทุกดวงใจในหล้าโลกนี้ ที่รักสันติภาพ แสนเงียบงาม และโดยเฉพาะ ทุกยอดดวงใจที่ได้ชื่อว่าคืออิสตรี ขอพลีใจน้อมคารวะ แด่ คุณวัชรี สายสิงห์ทอง..ผู้ร้อยเรียงด้วยค่ะ พุดหวังงานงามนี้จะเป็นดั่งบทเรียน พร่ำเพียรสอนใจเพื่อนมนุษย์ ให้รู้สร้างคุณค่าในตัวเองเพื่อโลก และสร้างความงามความดี ความรักภักดิ์พลียามเราได้มาพานพบกัน ขอให้ถือเป็นขวัญเป็นโชค สร้างสุขลบโศก และเอื้อใจน้ำใจพร่างใสเมตตา ใช้ศาสนาบ่มเพียรภาวนา และให้รู้ค่าน้ำใจรัก เพราะ..ชีวินี้แสนสั้นนักนะทุกดวงใจ.. ก่อนสายเกิน...
6 กุมภาพันธ์ 2555 09:53 น. - comment id 1223556
ขอบคุณท่านอิสวน ที่ปั่นด่วนมาชื่นชม ซูจี ที่นิยม.. คือผู้ล้มเผด็จการ เราจะเป็นกำลังใจให้เธอตลอดไป..
6 กุมภาพันธ์ 2555 10:03 น. - comment id 1223561
ท่านพจนา.. ขอบคุณครับ ที่ยอมรับกับการนี้ ลวงหลอกบอกวิถี ล้มซูจี ..หามีผล ความอดทน อหิงสา ..ดีกว่าปืน !
6 กุมภาพันธ์ 2555 10:28 น. - comment id 1223567
ขอบคุณ.. คุณพุด ที่นำเสนออย่างซาบซึ้ง ขอบคุณ.. คุณวัชรี สายสิงห์ทอง ผู้ร้อยเรียง หลายวรรคทองงดงามยิ่ง เผยเห็นประเด็นจริง ของยอดหญิง.. ผู้อิงธรรม ! ............................................................... ขออนุญาต นำบทที่เคยแต่งไว้ช่วงพม่าปล่อยซูจีออกจากที่กักขัง 13 พฤศจิกายน 2553 เวลา 18:35 น. ดังนี้.- แสงสว่างปลายอุโมงค์..ที่ตรงหน้า ประตูพม่า กล้าเปิดออกบอกโลกเห็น ปล่อยซูจี มีเลือกตั้งสร้างประเด็น ใช่เบี่ยงเบน เผด็จการ..ที่ทานทน สัญลักษณ์ประชาธิปไตย ในพม่า ยังแกร่งกล้าเร้นกายเหมือนตายป่น ปลุกโลกตื่น ฟื้นความหวังพลังชน หลังผ่านพ้น สิบห้าปี ลี้หลีกภัย อิสรภาพ.. นอกกรงตรงเบื้องหน้า สลัดแข้งสลัดขา..กล้าหรือไม่ ? อาจหลงกล เผด็จการ ปั้นอุบาย หลอกตายใจ ไม่ให้รู้สู่กลลวง เจ้ากวางน้อย ซูจี ..อย่าหนีเสือ อย่าเป็นเหยื่อปลิ้นปลอกหลอกติดบ่วง ปล่อยหลงเพลินเดินผ่านหน้าท่าไม่ลวง ก่อนหลุดล่วงบ่วงรูดกิน ..สิ้นเสรี ! แสงสว่างปลายอุโมงค์..จงฟันฝ่า ดูทีท่า อย่าท้าทายไว้ศักดิ์ศรี อหิงสา.. คือทางสู้ของซูจี รอวันที่พยัคฆ์ใหญ่ ..แพ้ภัยตน ! ความอดทน อหิงสา พยายาม ..จะนำชัย
6 กุมภาพันธ์ 2555 13:43 น. - comment id 1223622
จบได้สุดยอดไปเลยค่ะ (ปล.จริง ๆ สำหรับ อองซาน ซูจี เป็นสตรีที่เราชื่นชมและยกย่องนะค่ะ)
6 กุมภาพันธ์ 2555 16:51 น. - comment id 1223654
สุดยอดเลยครับ หันมามองฝั่งเรา สุดรากเลยครับ คนละขั้ว
7 กุมภาพันธ์ 2555 01:07 น. - comment id 1223677
ผู้หญิงไร้เงา.. เอ้า! มาอีกแย้ว ยังมาแซว จบสุดยอด ตอดสนั่น เทียบผ้าถุงนุ่งโสร่ง อาจตรงกัน เผลอตัวลั่น ชอบซูจี ..กระดี๊กระด๊า ! ไม่ว่ากัน เน๊าะ..อิอิ
7 กุมภาพันธ์ 2555 01:17 น. - comment id 1223678
สีอำพัน ..อย่าพลันเปรียบ นายกหราทำหน้าเรียบ อย่าเปรียบนั่น แค่ช่วงต้น ทนเอา เขาฝ่าฟัน รอผลงาน ค้านสายตา ..ค่อยว่ากัน นะๆ