๑.แสงตะวันทาบผ่านสะพานไผ่ เกลื่อนใบไม้กรอบแห้งสีแดงฉาน แล่นไปเถิดสองล้อจักรยาน ไปบอกลาวันวาน..อาคารไม้ ลานโรงเรียนเตียนร้างและว่างเปล่า ธงยอดเสาล้าแรงจะแกว่งไหว ราวรับรู้การลาคำอาลัย ของผู้ไปไขว่คว้าชะตาตน ผนังห้องเรียนไม้แตกลายเก่า วันที่เขามาหยุดสุดถนน เพื่อนบ้างอยู่บ้างย้ายไปหลายคน แต่สายชลฝันสลายเมื่อปลายเทอม เพราะความฝันดุจดาวอันวาววับ มามอดดับโดยพลันมิทันเริ่ม การเดินทางสิ้นสุดที่จุดเดิม เมื่อเชื้อเติมเรี่ยวแรงมาแห้งเลือน เขาไม่ได้เรียนต่อจาก ม.สาม จึงติดตามลมฟ้ามาหาเพื่อน กว่าสามปีที่เพียรมาเวียนเยือน บัดนี้เรือนเรียนร้างไปทั้งโรง เพื่อนเรียนจบ ม.ปลายกันไปหมด อนาคตรุ้งสายคงฉายโค้ง อาจจะไกลเกินเอื้อมไปเชื่อมโยง แต่ลานโล่งยังกรุ่นด้วยฝุ่นลอย จักรยานผ่านเนินเคยเดินเท้า รอยเท้าเก่าหายไปมิใช่น้อย รอยเท้าใหม่มากมายอีกหลายรอย ต่างทยอยปรากฏขึ้นทดแทน เหลืองรวงข้าวอีกเดี๋ยวคงเกี่ยวข้าว ก่อนลมหนาวพัดใจไปไกลแสน ไปเถิดจักรยานกับอานแบน ปั่นสู่แดนทุ่งทองทานตะวัน น้องจะขึ้น ม.สี่ในปีหน้า จงสานต่อปรารถนาและกล้าฝัน จงเรียนต่อให้ได้อย่าพ่ายมัน กี่หมื่นพันพี่จะหาเป็นค่าเรียน อย่าหวังเงินที่ได้จากขายข้าว เพราะทุกคราวต้องเจียดกระเบียดกระเสียร ที่เหลือจากใช้หนี้ไม่กี่เกวียน ก็จวนเจียนร่อยหรอไม่พอใช้. ๒.จักรยานคันเก่าที่เขาขับ ได้หวนกลับมาบนสะพานไผ่ มองสายน้ำไหลผ่านสะพานไป จะสื้นสุดที่ใดยังไม่รู้ มีความฝันมากมายในกระเป๋า สองบ่าเขาแบกไว้จนไหล่ลู่ ขอเมืองหลวงได้โปรดเปิดประตู ต้อนรับผู้ไส้กิ่วและผิวนิล. ๓.สองล้อจอดหยุดหมุนใต้ถุนบ้าน ดอกอ้อบานลอยไกลสุดไพรผิน จะเติบโตเมื่อละอองเจ้าต้องดิน แต่ไม่เคยคืนถิ่นจนสิ้นลม สิ้นแสงสูรย์ขอบฟ้าตะวันตก เสียงหมู่นกคืนรังก็ดังขรม ดวงตะวันแดงส้มรูปทรงกลม ค่อยค่อยจมจบวันที่คันนา ดอกโสนเด็ดรอในหม้อต้ม หอมแกงส้มปลาช่อนยังร้อนฉ่า พอพ่ออิ่มข้าวสุกก็สูบยา ผ้าขาวม้ากวัดไกวคอยไล่ยุง แม่นั่งข้างสายชลอยู่บนเถียง แขวนตะเกียงตามไฟไว้ใกล้ยุ้ง หลังคาเถียงเป็นเพิงที่เพิ่งมุง อยู่ข้างคุ้งสำหรับนั่งนับดาว ฟ้ามีดาวดาษดื่นในคืนนี้ แม่จึงชี้ให้ดูดวงสีขาว ดวงที่ทอดทอแสงสุกสกาว เยือกเย็นราวน้ำค้างกลางใบไม้ แม่ว่าดาวนี้นามว่า..ความหวัง ถ้าบางครั้งลูกล้มและร้องไห้ ดาวจะนำทางลูกตลอดไป แม้วันวัยโชติช่วงและล่วงเลย เขาเอนร่างหนุนพักบนตักแม่ ไม่มีแม้คำใดจะให้เอ่ย ตักของแม่อบอุ่นและคุ้นเคย ช่วยชดเชยเรี่ยวแรงที่แหว่งเว้า แม่บอกว่าสายน้ำที่ไหลหลั่ง คือความหวัง..คือนิยามของนามเจ้า น้ำย่อมเริ่มจากดินและรินเบา กระทั่งเท่ากับกว๊านธารนที มีเม็ดทรายบนโลกกี่ล้านเกล็ด มีกี่เม็ดกันบ้างที่ต่างสี มีกี่เม็ดเป็นอัญมณี แหละจะมีกี่เม็ดเป็นเพชรแท้ บนหนทางที่ถมด้วยคมหนาม ผู้เดินข้ามย่อมพร้อยด้วยรอยแผล หนามจะกรองตะกอนที่อ่อนแอ จะคัดแร่จนเหลือแต่เนื้อดี.. ๔.ฟ้าในเมืองพรุ่งนี้คงสีหม่น มีอีกคนบนลาดบาทวิถี เขาจากบ้านลานข้าวเขียวขจี เข้ามาทำหน้าที่ของพี่ชาย มีสมุดเก่าวิ่นกับดินสอ ซึ่งคงพอใช้จดเขียนจดหมาย เมืองที่มีเสาไฟฟ้าทางม้าลาย ลูกคงคล้ายก้อนกรวดกลางยวดยาน หากจดหมายไปรษณีย์ไม่ตีกลับ แม่ได้รับขอแค่ให้แม่อ่าน ตอบว่าอยู่สุขสันต์หรือกันดาร คนไกลบ้านอย่างลูกยังอยากรู้ จะมองดาวความหวังทุกครั้งค่ำ คำแม่พร่ำยังก้องทั้งสองหู คำนั้นแทรกทุกเยื่อเนื้ออณู จารึกอยู่ในจินต์ดวงวิญญา ไม่ว่าโลกจะค่ำหรือย่ำสาย ดาวไม่เคยสูญหายจากใต้ฟ้า ยังสาดแสงส่องลอดตลอดเวลา ซึ่งหัวใจ..ใช่ตารู้ว่ามี ............................................ ๖.รถขนแกลบแหนบเก่าแต่เพลาแกร่ง ทิ้งฝุ่นแดงพาโค้งผ่านโรงสี ขณะบ้านลับตาเพียงนาที ขณะที่ความเหงาคลอเบ้าตา.. ๑ มกราคม ๒๕๕๕
11 ธันวาคม 2554 15:16 น. - comment id 1217658
เพิ่งผ่าน เที่ยงคืนมาได้ 13 นาที.. แซมสมควรจะต้องไปนอน.. เปิดมาพบกลอนของพี่ฤทธิ์... "สายชล" เรียกแซมไว้ ให้มาทักทายกันก่อน... ขอบคุณสำหรับสิ่งดีๆ ทีพี่ฤทธิ์นำมาแบ่งปันนะคะ... ขอให้พี่มีความสุข โชคดี และปลอดภัยในทุกๆ วันค่ะ... แซม
11 ธันวาคม 2554 17:28 น. - comment id 1217659
ว่าจะไม่ใช่โทรฯมือถือเข้ามาแล้วเชียว..แต่คุณฤทธิ์มาทั้งที..สักหน่อยน่า... ภาษากลอนที่เรียบง่ายแต่แฝงความหมายได้ลึกซึ้งดีจัง..คิดถึงงานคุณฤทธิ์เสมอค่ะ..สบายดีนะคะ
11 ธันวาคม 2554 18:24 น. - comment id 1217660
ยังได้อรรถรสไม่เปลี่ยนแปลง คุณฤทธิ์สบายดีนะคะ
11 ธันวาคม 2554 19:08 น. - comment id 1217664
ยินดีที่คุณฤทธิ์กลับมาแต่งกลอนดีๆอีึกค่ะ หายไปนานเลยนะคะ
11 ธันวาคม 2554 20:07 น. - comment id 1217668
มาอ่านหลายรอบ..เลยค่ะ ดวงดาวแห่งความหวัง..เสริมพลังให้คนอ่อนล้า สะพานแห่งศรัทธา.ที่ทอดยาวไปข้างหน้า .ก้าวไปอย่างช้า ช้าแม้อ่อนล้าจะไม่อ่อนแรง..ค่ะ
11 ธันวาคม 2554 21:34 น. - comment id 1217675
๑.แซม หวัดดีแซม อยู่ที่นี่ได้คุยเป็นเรื่องเป็นราวดี สายชลเป็นตัวละครหนึ่งในสามที่จะสานเรื่องราวหลายๆเรื่องที่เขียนไปแล้วให้เป็นเรื่องเดียวกันครับ ไปนอนได้แล้วครับ ขอให้มีความสุขมากๆ และฝันดีครับ ๒.คุณอ้อย ดีใจจังทีได้เจอกันอีก ปีนี้เขียนไม่ค่อยออก เรียกว่าจะเขียนแต่ละทีต้องเคาะสนิมก่อน เบื่อๆด้วย ไม่อยากบอกว่างานเยอะ เพราะทุกคนคงงานเยอะเหมือนกัน คุณอ้อยสบายดีนะครับ ขอให้มีความสุขมากๆครับ .. ๓.คุณเพื่อนเก่า สวัสดีครับ คุณเพื่อนเก่าไม่รู้เป็นเพื่อนคนไหน แต่ถ้าเป็นเพื่อนชื่อ ป.จะยินดีมาก เพราะเป็นคนที่จุดประกายให้ผมกลับมาเขียนร้อยกรองใหม่หลังจากเลิกไปเป็นสิบปี ผมสบายดีครับ หวังว่าเพื่อนเก่าคงสบายดีเช่นกัน ขอให้มีความสุชมากๆครับ.. . ๔.คุณอนงค์นาง สวัสดีครับ ไม่ได้หายไปไหนหรอกวนเวียนอยู่แถวๆนี้แหละครับ ที่นี่ดูเงียบๆ หัวมันตื้อๆ ด้วยครับ ที่กลับมาเขียนเพราะเพื่อนอยากให้กลับมาเขียน ก็เท่านั้นเองครับ ขอให้คุณอนงค์นางและครอบครัวมีความสุขมากๆครับ ๕.คุณกลั่นแก้ว สวัสดีครับ ผมไม่ค่อยคุ้นชื่อนี้เลยครับ ถ้าไม่เคยคุยกันก็ขอกล่าวว่ายินดีที่ได้รู้จัก ถ้าเคยคุยกันแล้วต้องขออภัยที่ผมจำไม่ได้ ดาวความหวัง เป็นดาวดวงใดก็ได้ที่เราปรารถนาที่จะใช้เป็นสัญลักษณ์ สำหรับบางสิ่งบางอย่างที่จะสร้างกำลังใจครับ concept นี้จะถูกกล่าวถึงในภายหน้าครับ ขอให้มีความสุขมากๆครับ
11 ธันวาคม 2554 22:38 น. - comment id 1217681
ลึกล้ำ งามง่าย ..ความหมายเปี่ยม
12 ธันวาคม 2554 02:03 น. - comment id 1217685
สุดยอดครับพี่ ร้อยเรียงอักษรเห็นภาพเป็นฉากๆ เลย ... ขอคาราวะครับ
12 ธันวาคม 2554 08:18 น. - comment id 1217688
สุดยอดค่ะ ขอบอก กลิ่นอายแห่งท้องนาอบอวลตอนนี้คนอีสานกำลังมุ่งหน้าสู่บ้านเกิดเพื่อ กลับไปเกี่ยวข้าว บ้านเกิดคือสิ่งที่ทุกคนต้องการ และเป็นกำลังใจได้อย่างมหาศาลทีเดียวแวะมาเยี่ยมค่ะ
12 ธันวาคม 2554 10:05 น. - comment id 1217691
สวัสดีค่ะคุณฤทธิ์ ศรีดวง ชื่นชมในผลงาน ประทับใจเวลาอ่านทุกครั้ง นับว่าความทรงจำที่งดงามมากค่ะ หทัยกาญจน์
12 ธันวาคม 2554 13:39 น. - comment id 1217705
คนนั้นแระ
12 ธันวาคม 2554 23:47 น. - comment id 1217732
๘.คุณสีเมจิก ขอบคุณสำหรับการมาทักทาย ยินดีที่ได้รู้จักครับ ขอให้มีความสุขมากๆ ๙.คุณทิพย์โนรา พันดาว ขอบคุณครับที่แวะมาเยี่ยม สงสัยเหมือนกันว่า กลิ่นอายของความเป็นอีสาน อยู่ตรงวรรคไหนน้อ (ดีใจนะ ที่มีผู้สัมผัสได้ว่าเป็นอีสาน) ขอให้มีความสุขมากๆครับ . ๑๐.คุณหทัยกาญจน์ ดีใจครับที่ได้คุยกันอย่างเป็นเรื่องเป็นราวซะที สอนแต่กลอนรักหน่อยซิครับ ขอให้มีความสุขมากๆครับ ๑๑.เพื่อนเก่า ดีใจมากๆ รู้ไหม หนาวๆอย่างนี้ บางทีก็เผลอนึกเห็นภาพถ่ายดอกทิวลิปสวยๆ ฝีมือเพื่อนเก่าคนหนึ่งเหมือนกัน คิดถึงเพื่อนเสมอครับ
13 ธันวาคม 2554 06:22 น. - comment id 1217737
สวัสดียามเช้าค่ะคุณฤทธิ์ หทัยกาญจน์เพิ่งเขียนกลอนได้ไม่นานค่ะ ไจะให้สอนก็มิกล้าค่ะ ขอให้มีความสุขมาก ๆ เช่นกันนะค่ะ อากาศหนาวแล้ว รักษาสุขถาพด้วยนะค่ะ
13 ธันวาคม 2554 12:46 น. - comment id 1217759
ตอนนี้ในกล้องมีแต่ภาพประเทศใกล้ๆ เมืองไทยค่ะ บินใกล้ๆ แต่บ่อยมากๆ นี่ก็เพิ่งกลับมาค่ะ ปีหน้าช่วง spring วางแผนจะกลับไปธุระที่เก่า ยังไงจะเก็บภาพดอกไม้สวยๆ มาฝากอีกค่ะ
13 ธันวาคม 2554 13:44 น. - comment id 1217761
สวัสดีครับ มาเก็บความประทับจากบทกลอนคุณฤทธิ์ครับ ไม่เคยผิดหวังเลยจริงๆ
13 ธันวาคม 2554 20:53 น. - comment id 1217834
สวัสดีค่ะคุณฤทธิ์ หายไปนานเลยนะคะ มาพร้อมสายชล ทีแรกนึกว่าเขียนเรื่องน้ำท่วมซะอีกค่ะ อิอิ ชื่นชม+ชื่นชอบผลงานเสมอค่ะ
13 ธันวาคม 2554 21:41 น. - comment id 1217842
๑๓.หทัยกาญจน์ สวัสดียามค่ำครับ เพิ่งเขียนได้ไม่นานแต่ผลงานหลายๆเรื่องน่าประทับใจครับ งานที่เขียนด้วยความรู้สึก ความรู้สึกจะถูกถ่ายทอดมาถึงผู้อ่านได้เสมอ ขอให้มีความสุขมากๆครับ . ๑๔.เพื่อนเก่า จะรอรูปถ่ายที่ว่าครับ แต่รูปที่มีก็เอามาอวดกันได้นะอยากเห็นว่าฝีมือพัฒนาไปถึงไหนแล้ว งวดหน้าถ้าได้ลงกลอนอีก ว่าจะทดลองเขียนรูปประกอบเองเหมือนกัน วางมือมาเป็นสิบปีแล้ว ขอให้มีความสุขมากๆนะครับ . ๑๕.คุณพอ ขอบคุณครับที่มาทักทาย ช่วงนี้ฝืดหน่อยครับ ขอให้มีความสุขมากๆครับ . ๑๖.จวว ไม่ได้หายไปไหนหรอกครับ วนเวียนอยู่แถวๆนี้แหละ ขอให้มีความสุขมากๆครับ
14 ธันวาคม 2554 17:53 น. - comment id 1217901
........... นานๆมาที แต่บทกลอนไพเราะทุกครั้งที่มาเลยจ้ะ ..............
14 ธันวาคม 2554 20:49 น. - comment id 1217913
อะแฮ่ม....สวัสดีค่ะ สายชล อิอิ ทุกครั้งที่ได้อ่านงานเขียนของ ฤทธิ์ ศรีดวง ฝนรู้สึกเหมือนกำลังนั่งดูหนังสั้นเรื่องหนึ่งที่คุณภาพคับแก้ว สะท้อนชีวิตในชนบทแต่ละชีวิต แต่ละอาชีพที่แตกต่าง รายละเอียดเล็กๆน้อย ฤทธิ์ ศรีดวงไม่เคยปล่อยให้ตกหล่นเลย ขนาดที่คนอ่านยังทึ่งว่า...ภาพแบบนี้ ความรู้สึกแบบนี้ ช่างคุ้นเคยนัก แต่มักถึงกลืนหายไปกับกาลเวลาทีละน้อยๆ ไม่ใคร่จะมีเวลาได้ย้อนนึกถึงบ่อยนัก การที่ได้อ่านงานเขียนของฤทธิ์ ศรีดวง ฝนว่าเหมือนได้ หวนระลึกไปถึงรากเหง้าของตัวเราเองว่ามาจากไหน... นับถือ ชื่นชม ผลงานเสมอมา... ปล. สายชล เป้นลูกและ พี่ชายที่อบอุ่นมากๆเลยค่ะ คำกล่าวที่ว่า "สายน้ำไม่เคยไหลย้อนกลับ" อ่านเรื่องนี้จบคงต้องคิดใหม่ และ บางครั้งการย้อนกลับ หรือ หวนไประลึกถึงสิ่งที่จากมา...ทำให้รู้ว่า คุณค่าของชีวิต ไม่ใช่การเดินไปข้างหน้าแต่เพียงอย่างเดียว หากต้องเรียนรู้ที่จะเหลียวกลับมามองข้างหลังภาพของตัวเราด้วย ฝนไม่ได้รู้สึกแบบนี้เมื่ออ่านกลอนจบ.....นานแค่ไหนแล้วนะ ขอบคุณที่ทำให้ฝนได้มีความรู้สึกแบบนี้ รักษาสุขภาพด้วยนะคะ ฤทธิ์ ศรีดวง
15 ธันวาคม 2554 12:33 น. - comment id 1217979
คนแกร่ๆ นี่ชอบเขียนอะไรยาวๆ เนอะคุณฤทธิ์
15 ธันวาคม 2554 15:19 น. - comment id 1218004
ดีใจครับ ที่คุณฤทธิ์กลับมา ผมพึ่งกลับจากต่างจังหวัด วันนี้พึ่งเข้าบ้านกลอน เห็นงานคุณฤทธิ์ ดีใจจริงๆ ครับ งานชุดนี้มีเล่นสัมผัสอักษร ทำให้ดูแปลกตาขึ้นนะครับ รออ่านงานชุดต่อไปอยู่ครับ
15 ธันวาคม 2554 18:28 น. - comment id 1218014
คงไม่ต้องเอ่ยชมอีกแล้วล่ะมั้งคะ ท่านอื่นคงบอกคุณฤทธิ์ไปหมดแล้ว ปาลินไม่มีอะไรจะบอกค่ะ นอกจาก.. ดีใจที่ได้เห็นผลงานคุณอีก
15 ธันวาคม 2554 20:53 น. - comment id 1218032
ความคิดเห็นที่ 20 : หมายเลข 1249069 คนแกร่ๆ นี่ชอบเขียนอะไรยาวๆ เนอะคุณฤทธิ์ เพื่อนเก่า 15 ธ.ค. 54 - 12:33 IP 110.77.233.8 ^ ^ ^ เดี๊ยะๆ ...เพิ่ลเก่า โดนไปหลายคน
15 ธันวาคม 2554 21:01 น. - comment id 1218034
ไรๆ ปร้า แกร่แล้วสิ ร้อนตัว
15 ธันวาคม 2554 21:05 น. - comment id 1218036
ร้อนตัวก็ดีฝ่าร้อนใจนา
15 ธันวาคม 2554 22:16 น. - comment id 1218040
ร้อนไร..เขาหนาวกันจะตาย มีแต่คนแกร่ๆ นั่นแระ ร้อนตัว
15 ธันวาคม 2554 23:02 น. - comment id 1218043
๑๘.คุณ din ขอบคุณครับที่แวะมาทักทาย ขอให้มีความสุขมากๆครับ ๑๙.ฝน พยายามจะเล่าเรื่องย้อนกลับไปสำหรับงานชุดจดหมายถึงแม่ ทั้งสามเรื่อง รวมชุดนี้ด้วยเป็นสี่เรื่อง เขียนไม่ค่อยออกครับ เห็นคุณสืบอยากให้เขียน ก็พยายามเขียน ได้แค่นี้แหละ คุณฝนสบายดีนะครับ ขอให้มีความสุขหลายๆครับ .. ๒๐.เพื่อนเก่า ไม่ได้คุยกับกันนาน ก็เลยยาวววว หน่อย .. ๒๑.คุณสืบ ชุดนี้มาตามคำเรียกร้อง แต่ฝืดมากครับ สนิมจับ เกือบปีที่ผ่านมา เขียนอะไรก็ไม่ดี ไม่ถูกใจ อ่านงานใครก็ไม่เพราะ อ่านงานตัวเองก็ไม่เพราะ ไม่รู้เป็นอะไร คงอยากวางมือจากร้อยกรองละมั้ง ขอให้มีความสุขมากๆครับ . ๒๒.ปาลิน หวัดดี ปาลิน เป็นกวีหนึ่งในไม่กี่คนที่ผมชื่นชอบฝีมือ และความละเมียดละไมของถ้อยคำครับ ขอให้มีความสุขมากๆครับ .
16 ธันวาคม 2554 09:24 น. - comment id 1218085
สวัสดีครับ ตอนแรกที่ยังไม่ได้อ่าน ผมนึกว่าพระเอกในละครซะอีก อ่านแล้ว ไพเราะมากครับ
16 ธันวาคม 2554 13:34 น. - comment id 1218111
อ่านแล้วเห็นภาพเลย
17 ธันวาคม 2554 19:05 น. - comment id 1218205
นักสืบแวะไปบอกว่าคุณฤทธิ์มาลงกลอน เลยตามมาอ่านสักหน่อย ได้ศัพท์ใหม่ๆเยอะเลยค่ะ และก็เช่นเคย มาเป็นสตอรี่มีสาระไม่เปลี่ยน