ภัยร้อน ภัยเย็น ปางกี้ คือปีก่อน ดาษชนมรณ์ดับชีพมวล ไฟหืน ฟุนฟืนหวน พันลึกฮือพันลือโหม พัฒน์ไร้ พ้อง ภัยร้อน เร่งราญรอนรี่รุมโรม พบศพซ้ำภพโทรม หมองศรีสร้างไม่สร่างซา ปางนี้ เป็นปีน้ำ- ท่วมสุมกรรมท้นโศกา แรงธารรุกรานถา หลายศพทบล้วนสบทัณฑ์ ภัยเย็น ยังเพ็ญเหย้า ฤาจางเบาเรื่องจาบัลย์ ฤทธาราวอาถรรพ์ มุ่งจ่อทุกข์มาจุกไทย ทุกที่ถ้วนถี่แท้ กำสรดแดกว่าสิ่งใด ป่วยนี่ แล้วปีไหน เปรมสุขเนา ปราศเศร้านาน? (๕ ตุลาคม พ.ศ. ๒๕๕๔) หมายเหตุ: ท่วงทำนองลีลาดำเนินกาพย์ยานีเยี่ยงนี้ ผมศึกษาจากวรรณคดีแห่งโบราณาจารย์ท่าน รวมทั้งงานกวีนิพนธ์ร่วมสมัยของท่านอัสนี พลจันทร, ท่านจิตร ภูมิศักดิ์, ท่านเนาวรัตน์ พงษ์ไพบูลย์, ท่านคมทวน คันธนู แหละกวีท่านอื่นๆอีกหลายท่านประกอบกันครับผม
6 ตุลาคม 2554 08:22 น. - comment id 1210519
ขอให้คนไทย และคนอีกหลายประเทศ อดทนกับภัยธรรมชาติในครั้งนี้
8 ตุลาคม 2554 09:20 น. - comment id 1210760
ภัยร้อน ตายร้อน ห่อนเย็น มันเป็นไปได้ภัยสอน ภัยเย็น ตายเย็น ห่อนร้อน เป็นได้ ภัยสอน ร้อนเย็น
9 ตุลาคม 2554 16:58 น. - comment id 1210835
สวัสดีครับ ท่านผู้อ่านที่เคารพทุกท่าน ปี พ.ศ. ๒๕๕๔ เป็นอีกศกหนึ่งที่ต้องบันทึกไว้ในประวัติศาสตร์ของประเทศไทยครับ อุทกภัยน่ากลัว ร้ายแรง สาหัสสากรรจ์มาก ผมฟังข่าวทีไร มีแต่น้ำ น้ำ น้ำ หดหู่จริงๆครับผม สวัสดีครับ คุณพจนา/หนังสือ ถึงจะอย่างไร มนุษย์ หากยังดำรงคงชีพอยู่ ภัยร้ายแรงเพียงใดมิเกินแรงใจฝ่าข้ามพ้นหรอกครับผม สวัสดีครับ คุณศรีสมภพ จะภัยร้อนหรือภัยเย็นล้วนอันตรายทั้งสิ้น เตรียมรับภัยโดยไม่ประมาทมัวเมา ผมว่าพอจะผ่อนหนักเป็นเบาได้ครับผม