๐ ยินเพรงกาล..หวานล้ำ..ในคำพจน์ เพียงมธุรส..ปลอบใจ..ที่ไหวอ่อน ปลอบขวัญห้วง-อุรา-คราร้าวรอน และลดทอน..ความเศร้า..ให้เบาบาง ๐ ความรวดร้าว..คราวจาก..ก็พรากสิ้น รอยถวิล..ตรึงอยู่..มิรู้สร่าง ที่ลำบาก..ยากเข็ญ..พอเห็นทาง ประกายแห่ง..แสงสว่าง..นำทางเดิน ๐ จากที่เคย..ท้อแท้..กลับแน่แน่ว เสียงกระซิบ..วิบแว่ว..เพียงแผ่วเผิน ก็เพียงพอ..ชักนำ..ให้ดำเนิน แม้เผชิญ..พลัดพราก..วิบากกรรม ๐ หากบุญญา..พารัก..สลักให้ สมดั่งใจ..ใฝ่เฝ้า..ในเช้าค่ำ ความรวดร้าว..คราวเจ็บ..เคยเก็บ-จำ ที่ครอบงำ..กลางมาน..ก็รานไป ๐ หมายนวลเรียง..เคียงขวัญ..ประหวั่นจิต ด้วยรู้แจ้ง..แห่งฤทธิ์..พิสมัย ยามรักจาก..พรากพลัด..ยากตัดใจ ต้องคร่ำครวญ..หวลไห้..อาลัยนุช ๐ เพราะเพรงกาล..ขานสู่..จึงรู้ว่า ปรารถนา..ในจินต์..มิสิ้นสุด ยังหมายปอง..สองมือ..ยังยื้อยุด หมายรั้งฉุด..รักไว้..มิให้กลาย ๐ คำกรองมอบ..ปลอบขวัญ..ในวันนี้ ทุกทุกถ้อย..ร้อยวลี..มีความหมาย ปลุกปลอบห้วง..ดวงฤดี..ของพี่ชาย ผ่อนความเศร้า.เหงากาย.ให้คลายลง (อักษรารำพัน) ๐ หากเป็นเพราะเพรงกรรมชักนำให้ สองดวงใจเวียนวัฏฏ์..กายพลัดหลง หวังสายใยหวานล้ำผูกจำนง ให้รักคงมั่นอยู่อย่ารู้คลาย ๐ แม้เนิ่นนานเพียงไหนขอใจชิด ทุกขณะแห่งจิตนิมิตหมาย ขอมีน้องแนบในห้วงใจชาย ผูกเป็นสายใยฝันสู่วันครอง ๐ สุดแผ่นหล้าฟ้าห่างอยู่ต่างถิ่น ฝากถวิลผ่อนปรนความหม่นหมอง ปัดเป่าความเงียบงัน..สู่ครรลอง ที่ทรวงสองปรารถนาร่วมฟ้าเดียว เพรงสัญญาก่อนเก่าสองเราสร้าง ยามจากร้างคอยแต่ชะแง้เหลียว ความคิดถึงฝังจมดั่งคมเคียว บาดทุกเสี้ยวส่วนทรวงผ่านล่วงวาร- วอนบุพเพร่ำบทกำหนดให้ สบสมัยเสมอรักสมัครสมาน ร่นฟากฟ้าจรดดินหลอมวิญญาณ รวมดวงมานหวานซึ้งเป็นหนึ่งทรวง เช้านี้..สร้อยไมตรีจะคลี่บท จำเรียงร้อยมธุรสจนจรดสรวง จากหัวใจหวานซึ้งของหนึ่งดวง ผูกเป็นบ่วงรัดล่ามความอาลัย ต่ออีกหนึ่งดวงใจที่ไกลถิ่น ค่อยหลั่งรินถึงกันคลายหวั่นไหว- รับรู้เถิดรักล้นจากคนไกล บัดพลีให้เพียงพี่..สุดที่รัก...(วลีลักษณา) ๐ คำเรียงร้อย..สร้อยสาน..ที่ขานขับ ยามซึมซับ..กับใจ..ให้ประจักษ์ เหมือนน้ำทิพย์..ชโลมใจ..คราไกลพักตร์ จึงตระหนัก..รักยิ่ง..เพียงมิ่งใจ ๐ แม้อยู่ห่าง..ร้างนุช..ถึงสุดหล้า ฝากรักงาม..ข้ามฟ้า..มอบมาให้ แทนถ้อยคำ..ล้ำค่า..จากฟ้าไกล ว่าฤทัย..ใบนี้..มิมีคลาย ๐ เพราะหน้าที่..มีทำ..จึงจำพราก ความตรากตรำ..ลำบาก..ทั้งหลากหลาย ที่หนาวเหน็บ..เจ็บแสน..ถึงแก่นกาย คือพี่ชาย..กรายพราก..ไปจากนวล ๐ ยังหมายพบ..สบพร้อง..ร่วมครองฝัน ยังหมายมั่น..วันชื่น..พี่คืนหวน ยังหมายใจ..ในฝัน..อันรัญจวน ยังหมายชม..ชิดชวน..เพียงนวลปราง ๐ เป็นรักที่..พลีให้..โดยไม่ฝืน แม้วันชื่น..คืนสู่..ยังอยู่ห่าง ยังมุ่งมั่น..ฝันปอง..เพียงน้องนาง แม้ฟ้าขวาง..ทางไกล..ไม่อาจคลอน ๐ ขอฝากความ..ห่วงใย..ส่งไปถึง ยังคงซึ้ง..ตรึงอยู่..มิรู้ถอน จากแดนไกล..ในพง..ท่ามดงดอน สู่นาคร..วอนขวัญ..อย่าหวั่นเลย..ฯ..(อักษรารำพัน)
15 สิงหาคม 2554 23:05 น. - comment id 1205830
มาอ่านกลอนเพราะๆ ก่อนนอนครับ สบายดีนะครับ
15 สิงหาคม 2554 23:21 น. - comment id 1205833
เพราะมากค่ะ อ่านแล้วชื่นชวนใจให้วาบหวาม อารมณ์หลงใหลไปตามลักษณ์อักษร อกหวั่นไหวใจสะท้านเมื่ออ่านกลอน เป็นเพลงพรนอนหลับใหลให้ฝันดี ชื่นใจจัง... ฝันดีค่ะ ทุกๆคน
16 สิงหาคม 2554 01:34 น. - comment id 1205834
เห็นต่อกลอนเกี๊ยวหวานสะท้านจิต อยากจะคิดต่อด้วยก็ขวยเขิน รินทั้งรีทั้งเบียร์เสียเพลิดเพลิน แต่เผอิญเมาก่อนพรอดรำพัน.....
16 สิงหาคม 2554 03:41 น. - comment id 1205839
หวานมากมาย หวานได้อีกๆนะครับเนี่ย
16 สิงหาคม 2554 06:53 น. - comment id 1205844
เรียงร้อยอักษราเป็นภาษารัก ไพเราะมากมายค่ะ
16 สิงหาคม 2554 10:25 น. - comment id 1205858
หวานซะไม่มี :)
16 สิงหาคม 2554 12:57 น. - comment id 1205868
......... อ่านบทกลอนอ่อนหวานซ่านดวงจิต ใจต่อใจแนบชิดสนิทสนม อักษราภาษาน่าภิรมย์ มาชื่นชม...อารมณ์รัก...บ้านนักกลอน ...............