เจ้าเกิดเป็นคนกรุงทำฟุ้งเฟ้อ เจ้าเหิมเห่อเสื้อผ้าแต่งหน้าใหม่ เจ้านั่งรถคันโก้ขับโชว์ไป เจ้าชอบใช้ของที่มีราคา เจ้าเหยียบหยามชาวนาว่าต้อยต่ำ เจ้าเหยียดย่ำแรงงานประจานด่า เจ้าบอกว่าโง่เขลาเบาปัญญา เจ้าบอกลาโง่เง่าไม่เข้าใจ เจ้าบอกคนละชั้นมันไม่อาจ เจ้าตวาดส่งเสียงสำเนียงไล่ เจ้าชี้นิ้วบงการระรานไป เจ้าว่าไพร่ต้อยต่ำจึงย่ำคน ข้าเกิดเป็นชาวนาหน้าตาเซ่อ ข้ายืนเหม่อมองนาคอยฟ้าฝน ข้าถือเคียวเกี่ยวเก็บความเจ็บทน ข้าดิ้นรนปลูกข้าวเลี้ยงชาวไทย ข้าใช้เหงื่อหยาดหยดกำหนดสร้าง ข้าใช้ร่างเข้าแลกบ่าแบกไว้ ข้าใช้มือด้านแตกเข้าแลกไป ข้าใช้ใจพากเพียรไม่เปลี่ยนแปลง ข้าคือคนชั้นต่ำที่ย่ำอยู่ ข้าก็รู้พวกข้าชะตาแกล้ง ข้ายอมทนยอมอดแทบหมดแรง ข้าแสดงทั้งหมดคืออดทน แล้ววันหนึ่งพวกข้าก็สามารถ ใช้อำนาจของข้าเปลี่ยนฟ้าฝน เลือกผู้แทนแห่งข้าประชาชน กำหนดคนของข้าประชาไทย. เจ้าร่ำรวยเงินตราหรือสามารถ ใช้สิทธิ์ขาดเลือกใครดังใจได้ ด้วยหนึ่งเสียงหนึ่งสิทธิ์อธิปไตย ประชาชนย่อมเป็นใหญ่ในแผ่นดิน --------------
9 กรกฎาคม 2554 09:18 น. - comment id 1202258
ปรองดอง อยากร้องขอ มันมากพอต่อเหตุผล ใช่ห่างต่างชั้นชน ทุกตัวตน.. คือคนไทย เห็นต่างมานั่งแย้ง หนึ่งตำแหน่งราษฎร์แบ่งให้ ถูกต้องตามกฎหมาย ประชาไทยได้เลือกมา เสรีประชาธิปไตย... คือจุดหมายที่ทายท้า สมานฉันท์ร่วมฟันฝ่า สู่รัฐสภา..ประชาธิปไตย ! เคารพมติมหาชน เป็นเหตุผลระบอบประชาธิปไตย ..
11 กรกฎาคม 2554 15:42 น. - comment id 1202535
ข้าใช้มือด้านแตกเข้าแลกไป วรรคนี้โดนใจมากมาย เข้าใจถึงความยากลำบาก ขุดดินจนมือพอง แตก มันเจ็บจริงๆ พอได้ทำแล้วจะเข้าใจ..กว่าจะได้แต่ละแปลง ลงเมล็ดพันธุ์..
12 กรกฎาคม 2554 18:20 น. - comment id 1202582
คุณหละอ่อนหน้อย ขอบคุณที่เคารพมติมหาชน เป็นเหตุผลของประชาธิปไตยครับ
12 กรกฎาคม 2554 18:26 น. - comment id 1202585
คุณกุ้งหนามแดง กลอนบทนี้ เป็นความพยายามที่จะบอกว่า คนที่มีเสียงข้างมากจริงๆ คือชาวนา ชาวไร่ กรรมกร ไม่ใช่คนที่อยู่ในเมือง คนเหล่านี้ อาจดูไม่มีค่าในสายตาบางคน แต่เชื่อไหม เสียงส่วนใหญ่ของประเทศ คือคนพวกนี้ คนที่จะชี้ว่า รัฐบาล ควรเป็นอย่างไร และเป็นใครครับ (ถ้าไม่มีอุบัติเหตุทางการเมือง มาเกี่ยวข้องนะครับ)