ปานน้ำค้างพร่างเกล็ดเป็นเม็ดน้อย แทนหยาดถ้อยหลั่งลามซึ้งความหมาย ปานวงแดดแผดผ่องส่องระบาย ค่อยย่างกรายเคลื่อนแวะแตะดวงตา รับอรุณห้อมห่มแห่งลมเช้า ดวงดอกไม้ไหวเบารบเร้าหล้า สูงสุดเอื้อมสุดสิ้นจินตนา เกินกว่าฟ้าสีเทาจักเข้าใจ เป็นอย่างไรหนอใจจิตความคิดถึง จึงรำพึงเพ้อพร่ำทุกคำไข เมื่อเมฆขาวลอยล่องเที่ยวท่องไป ก็แสนไกลเกินกว่าจักคว้ามา ท่ามกลางแดดสายและบ่ายนั้น ดวงตะวันล้อหยอกกับดอกหญ้า อุ่นอวลไอละออทอทาบทา ก็รู้ว่ากระแสกาลจะผ่านไป สู่ความเงียบงันในค่ำคืน อาจบางใครน้ำตารื้นสะอื้นไห้ เพราะเหว่ว้าขลาดเขลาไม่เข้าใจ จะหยุดโลกอย่างไรให้หมุนช้า เพื่อกลับสู่ฝันชื่นคืนวัยเยาว์ ฟื้นถ่านเถ้าทรงจำอันล้ำค่า ที่เลือนหายลับลิบชั่วพริบตา ให้เยือนมาทายทักอีกสักครั้ง.
18 พฤศจิกายน 2553 23:25 น. - comment id 1169692
เพราะจังครับ สวัสดีครับปาลินถ้าหากย้อนเวลาได้ คงดีนะครับสำหรับผมจะได้ไปแก้ไขในสิ่งที่ผมได้ทำผิดพลาดจนไม่น่าให้อภัย ขอบคุณบทกลอนดีๆที่ทำให้ความทรงจำพร่างพรายครับ
19 พฤศจิกายน 2553 16:51 น. - comment id 1169764
อ่านกลอนบทนี้แล้วจี้ดขึ้นมาทันทีเลยค่ะ ถ้าเป็นไปได้ จะไม่ตัดสินใจแบบนี้ เง้อออออออ เซ็ง
22 พฤศจิกายน 2553 19:00 น. - comment id 1170166
ไพเราะค่ะ วันเวลาผ่านไปไว อยากกลับเป็นเด้กไม่ต้องคิดอะไรมากมาย
22 พฤศจิกายน 2553 22:05 น. - comment id 1170202
สวัสดีค่ะ คุณสุริยันต์ฯ บางทีก็นึกถึงอดีตน่ะค่ะ ปาลินก็เคยคิดเช่นเดียวกับคุณ อยากกลับไปแก้ไขอดีตเหมือนกัน แต่คิดอีกทีสิ่งที่เราทำในวันนี้ มันจะดูแลตัวมันเองในวันพรุ่งนี้ ฉะนั้นก็ควรตั้งสติกับปัจจุบันให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ อันนี้ปาลินไปจำคำเขามาพูดอีกทีนะคะ สวัสดีค่ะ คุณหมอกระป๋อง อย่าเซ็งไปเลยค่ะ ปล่อยให้มันเป็นบทเรียนดีกว่าเน๊าะ สวัสดีค่ะ คุณเฌอมาลย์ ดีใจ และขอบคุณที่คุณแวะมานะคะ เวลาเห็นเด็กๆ บางทีก็อิจฉาค่ะ เพราะพวกเค้าหาความสุขได้ง่ายกว่าคนโตเยอะ