๐ เป็นสายน้ำฉ่ำหวานในธารหมอก ริ้วระลอกลอยเล่นก็เป็นได้ ไม่เห็นต้องหนีหลบไม่พบใคร? วิหคไพรพึ่งพาเมื่อล้าลม ๐ ฉันข้ามน้ำข้ามทะเลหลบเล่ห์เหลี่ยม หวานเต็มเปี่ยมกลับปร่าจนมาขม ได้สัมผัสพงพฤกษ์ก็นึกชม ผวาคมรมย์ลึกแต่นึกลอง ๐ อยากเปลี่ยนแปลกแลกเรื่องจากเบื้องหลัง มิได้หวังคลึงเคล้าเป็นเจ้าของ เพื่อนทั้งกลุ่มลุ่มหลงในกรงทอง ทิ้งฉันนองน้ำตาอย่างอาดูร ๐ เริ่มเรียบเรียงเคียงบ่าว่าสันโดษ อย่าเกลียดโกรธขอกลับไปนับศูนย์ ทุกบทเพลงผูกพันนิรันดร์กูล มันเพิ่มพูนเติมเต็มอย่างเอมใจ ๐ พอถึงวันคลื่นลมโหมกระหน่ำ ฝนคราคร่ำเปียกปอนนอนร่ำไห้ เสียงโหยหวนครวญครางก็ต่างไป ผิดที่ใครลิขิต..ผิดที่เรา !!! ๐ นกเขาคูคู่ขาดและบาดเจ็บ ยังกลืนเก็บนัยห้วงที่ดวงเศร้า อยากให้เธอปลอบขวัญอันวัยเยาว์ ในหลืบเงารู้ไหม?..มีใครรอ ๐ รักษาใจในเพลงบรรเลงเหงา จู่จู่เขาลบล้างที่วางล่อ เหมือนซ้ำเติมเพิ่มแผลไม่แคร์คลอ ฉันลอยคอ.รอคอยอย่างน้อยใจ ๐ ทุกคำพูดบูดบึ้งก็ถึงหู ฉันคือผู้เดี่ยวโดดมันโหดไหม? ฟังทุกถ้อยรอยลึกสำนึกนัย อรรถรส.บดใจ.เหมือนใบบัง ๐ ผู้เข้มแข็งแข่งแขมาแต่ก่อน กลับไหวอ่อนวางจิตว่าผิดหวัง แม้บินเดี่ยวเปลี่ยวเปล่าเป็นข่าวดัง ว่าเรือยังห้ามเกาะเพราะรำคาญ ๐ จะถามท้วงทวงสิทธิ์คนจิตนิ่ง ว่ายากยิ่งอิงอำทำอาจหาญ มิรู้เลยเป็นเหยื่อเหนือลำธาร อยู่เนิ่นนานน้ำใจ.กลับไม่มี ๐ หมดคลื่นลมโหมซานึกว่าซึ้ง กลับขังขึงสะกิดว่าผิดที่ ใช้ความโกรธโหดกว่าไม่ปราณี เรื่องถือดีถูกผิดใครติดใจ? ๐ มิได้อยากกินปลาหรืออาหาร ช่วยสงสารวิหค.จวน.หมกไหม้ กลับชี้บอกหนทางให้ต่างไป นี่ยังไกลไม่พอหรือพ่อคุณ? ๐ เคยคิดถามเหตุผลคนบนฟ้า ไหนล่ะบ่า?เคียงไหล่เคยให้หนุน จินตนาค่าครวญเคยพรวนบุญ ไม่ค้ำจุนค้ำใจเกาะใบเรือ ๐ พระธรรมอยู่ในใจใช่หนังสือ ไม่ยึดถือครอบครองแม้ของเหลือ เพียงคำปลอบตอบมาว่าเหลือเฝือ มิต้องเจือ-จุนหรอกแค่บอกความ ๐ นกจึงเจ็บเก็บตัวเพราะกลัวโกรธ ไม่ลิงโลดตามเรือถ้าเผื่อห้าม ลิขิตกรรมธรรมใดถ้าใจงาม อีกชั่วยาม.บั้นปลายก็ตายรัง ๐ เป็นสายน้ำฉ่ำหวานในธารหมอก หรือเป็นหอกข้างแคร่ให้แถหนัง ทุกบทกลอนคือชีวิต.อนิจจัง พอประทังอารมณ์..ใช่งมงาย (..กลอนบทนี้..ลอกมาจากการต่อกลอนกับกลุ่มเพื่อนๆ ที่วางในเวปอื่น..) (เนื้อหา..มีที่มาที่ไปกับ..เรื่องราวที่มีต่อกัน) (กลอนจึงดำเนินแบบไม่ต่อเนื่องในอรรถรส..จะศึกษาให้มากกว่านี้ค่ะ)
5 พฤศจิกายน 2553 13:09 น. - comment id 1166529
สวัสดีคะ คุณBoomerang เจมิไน... ก็พูดไม่ออก-บอกไม่ถูก ได้แต่กรอกลูกกะตา แต่ขอให้รู้ว่าดีใจนะ...ที่กลับมา
6 พฤศจิกายน 2553 23:22 น. - comment id 1166660
เข้ามาอ่านบทกลอนครับ
5 พฤศจิกายน 2553 13:49 น. - comment id 1166747
สวัสดีครับ... กลอนเพราะมากนะครับ ไม่เม้นท์เนื้อหานะครับ
7 พฤศจิกายน 2553 16:44 น. - comment id 1166773
ดั่งนกเจ็บ เหน็บหนาว ร้าวในอก เหมือนใครฉก แก้วตา พาสั่นไหว หรือว่าถูก ริดรอน ก่อนลาไกล หรือหัวใจ เอนเอียง เลยเกี่ยงงอน วานนี้ร้อน มาหนาว เหงาไหมพี่ น้องคนนี้ บางวัน นั้นก็หลอน มีเรื่องราว ที่ต้อง ไปตะลอน มาเว้าวอน บางวัน เท่านั้นเอง สวัสดีตอนเย็นค่ะ
5 พฤศจิกายน 2553 14:04 น. - comment id 1166775
มาอีกรอบหนึ่งครับคุณบูม อดไม่ได้อยากเมนท์ครับ ถูกต้องครับธรรมะอยู่ในใจไม่ใช่อยู่ในหนังสือ..และไม่ควรอยู่ที่ปากด้วย มีบางคนพูดมากชอบอวดอ้างว่ามีธรรมะ พระอาจารย์ท่านหนึ่งเคยลงโทษลูกศิษย์โดยงดพูด 1 วัน..แต่ก็ว่าแหละคนพวกนี้ส่วนมากเข้าขั้นสันดานไม่ใช่นิสัย ไม่ยอมรับหรอกว่าปากมาก ถ้าเป็นรด.ครูฝึกคงสั่งตบปากด้วยรองเท้าครับ
5 พฤศจิกายน 2553 14:53 น. - comment id 1166788
จากบทกลอนดั่งนกเจ็บที่เก็บไว้ เพิ่งจะได้บ่งบอกออกเปิดเผย ข้ามทะเลเล่ห์เหลี่ยมมาเยี่ยมเลย จึงขอเชยชมนกวิหคไพร จะแลกเรื่องเบื้องหลังมิหวังอื่น ให้เริงรื่นชื่นจิตพิสมัย เพียงคนเอื้อเกื้อกูลอาดูรใจ จึงร่ำไรรัญจวนให้หวนมา โอ้นกเจ้าบาดเจ็บและเหน็บหนาว ยังถามข่าวบางใครรู้ไหมหนา ว่าลอยคอรอคอยน้อยใจยา ถ้อยวาจาปรากฎมิบดบัง คนว่ายแหวกธาราหาที่เกาะ อกใจเดาะเขารำคาญพาลขึงขัง ซ้ำถูกปล่อยลอยคว้างอย่างชิงชัง มิกล้าหวังเรือใดจึงว่ายวน นกยังมีปีกกล้าฝ่าลมคลื่น คนสะอื้นจมน้ำตาใครมาสน แม้นสะกิดผิดไปให้ร้าวรน ใช่เหตุผลบอกทางให้ต่างไป แม้ของเหลือเชื่อใจไม่ยึดถือ มาฝึกปรือกานท์กลอนที่อ่อนไหว มิใช่เรือเมื่อจะตามก็ตามใจ ก็อยู่ในมหรรณพจนจบกาล ห้วงมหรรณพแห่งกลอนไงครับ
5 พฤศจิกายน 2553 18:56 น. - comment id 1166807
ขอบคุณค่ะ..เพื่อน ๆ ซาบซึ้งกว่ากลอนบูม.อีกนะ แต่ไม่ต้องมา จ๋งจ๋าน กันหรอกนะคะ เป็นเพียงจินตนาการ เฉย ๆไม่มีใครทำหรอกครับ ...................คนที่มีใจเดียว..
5 พฤศจิกายน 2553 23:05 น. - comment id 1166824
กลอนเต็มไปด้วยความหมายดีๆครับ ขอบคุณมาก คุณบูม
5 พฤศจิกายน 2553 23:44 น. - comment id 1166827
เป็นกลอนที่เป็นนามธรรม ไม่ก่อให้เกิดภาพ งานพวกนี้ต้องระวังคำด้านความหมาย การวางอุปมาให้ดีๆ จะไม่ต้องแปลความหมายอุปมา ผู้อ่านจะเข้าใจเองอยู่ที่จังหวะการวาง ระวังเรื่องคำผิดให้มาก โปรดปราน ครับ ไม่ใช่ปราณ ลมปราณ สระ เอา ไม่สัมผัสกับ กับสระอา เรากับเศร้า โอเค แตไม่สัมผัสกับ ดาวและ คราว ครับ ส่วนงานที่ส่งให้ผมดูอันนั้นเป็นรูปธรรม ต้องสร้างภาพให้เกิดด้วยตัวอักษรครับ แล้วจะว่าให้ฟัง ฝีมือโดยพื้นฐานดีอยู่แล้วครับ ขอให้มีความสุขมากๆ
6 พฤศจิกายน 2553 03:05 น. - comment id 1166830
....กราบขอบพระคุณคุณฤทธิ์มากค่ะ(อยากเรียนว่าท่าน..ด้วยซ้ำ) ....นักกวี.อย่างท่านจะดูออก..ว่ากลอนบูมขาดการคงเส้นคงวา ....สิ่งที่ท่านเตือนมา..จะกลับไปแก้ไข และ แก้คำที่ผิดพลาดค่ะ ....ขอบพระคุณที่ให้เกียรติ.ให้เวลาในการแนะนำมานะคะ .............................................
6 พฤศจิกายน 2553 04:49 น. - comment id 1166835
โอ..คุณบูมมีอาจารย์ฤทธิ์คอยให้คำแนะนำ อาจารย์ฤทธิ์ครับแล้วผมล่ะรู้จักกันมาตั้งนาน ...หรือดูผมท่าทางดื้อไปครับ....
6 พฤศจิกายน 2553 05:50 น. - comment id 1166841
....ปลิดปลิงเคว้งคว้าง ชีวิตฉันดั่งใบไม้ที่หลุดลอย น้ำตาฉันเป็นลำธาร อาบรักที่ผิดหวังในตัวเธอ ร้องทุกข์กับผืนทรายที่เผลอใจไปรักเธอ จึงต้องมานั่งซึมเหม่อเพราะรักเธอเพียงผู้เดียว...... ....หากเป็นนกฉันจะโผบิน แต่ได้ยินเธอนั้นหลายใจ ฉันคงบินไปไม่ไหว่ ปีกหักทันใดเพราะรักเธอ..... .....หวัดดีครับคุณบูเมอแรง..... กลอนหวานมากครับ.... ผมอยากร้องเพลง ก็เลยขอ ๒ เพลง... ละเมอเพ้อพกคนเดียว.......
6 พฤศจิกายน 2553 08:12 น. - comment id 1166852
.......(ช่วยอ่านด้วยค่ะ) บูมไปต่างจ.ว.เพิ่งกลับมาถึง กทม. ตี.3 เอาบุญมาฝากค่ะ ขอขยายความ..เรื่องกลอน"ดั่งนกเจ็บ" ที่นำมาวาง เป็นความผิดพลาด.... ปกติจะเป็นคนแต่งกลอน..ด้นสดๆ ที่หน้าจอคอมฯ แต่งกลอนนี้ บูมลอกมาจาก..การต่อกลอนคนที่รู้จักในเวปอื่น ความหมายนัย...ของมันจึงไม่ประติดประต่อ.ที่ท่านจะเข้าใจความเป็นไป ขออนุญาตคนรู้จักที่เวปนั้นด้วยที่นำมาลง..และขอเล่าท้าวความให้ที่นี่เข้าใจนะ ขอเล่านิดหน่อย..พอสังเขป .....บูมอยู่เวปอื่นหลายเวป..ใช้หลายชื่อ .....ฝึกปรือไปเรื่อยๆ เพราะชอบเขียน มีเพื่อนมากมายในกลอน .....ทุกเวป.มีช่วงคึกคักและเงียบงัน .....เพื่อนๆ ก็ไปทำบล๊อค.ส่วนตัวกันหมด .....บางคนก็ร่ำลาวงการ..ทั้งติดภาระ/แต่งงาน/แฟนห้ามเล่นเน๊ต/บวช/ป่วย/ฯลฯ .....บางคนเขียนเป็นกลอนว่า...ล่องเรือไปตามวิธีธารา ....บางท่านเจ็บป่วย+เหงา ....บางท่านไปกราบอริยสงฆ์.ได้วัตถุมงคลมา..เพื่อแจกจ่ายคนร่วมแกงส์ ....บูม..นำกลอนไปต่อ..ล้อ+เรียก+อ้อน เพื่อนๆ ....จึงลอกมาลงที่นี่..ไว้อ่านรวมในบ้านนี้ได้ด้วย ....ความเป็นไปในแต่ละบท.จึงตั้งใจไปต่อกลอน..กับ เรื่องราวที่มีต่อกัน ....พอลอกมาลง..กลอนจึงอ่านไม่ได้อรรถรส. ....ดูเป็นการอุปมา+อุปมัย..ให้ตีความ.ฯ ....ช่วงนี้.คงดวงไม่ดี เลยไปกันใหญ่.(เพื่อนๆ เมล์+โทรฯมาบอก) ....อย่า..ไปพูดต่อดีกว่า............. ...."กระนั้นหรือ?"...น่าจะเหมาะที่สุด ....เป็นบทเรียน.เรื่องการลอกกลอน..ของตนเองมาลงในที่อื่นๆ.... หมายเหตุ.พิมพ์แล้วหลับค่ะ.เลยเพิ่งมาส่ง... ................................
6 พฤศจิกายน 2553 08:38 น. - comment id 1166863
เดี๋ยว จะเรียก Vet. ให้นะจ๊ะ... แซมน่ะ
7 พฤศจิกายน 2553 14:04 น. - comment id 1166872
ท่านคนเดียวกัน จากบทกลอนดั่งนกเจ็บที่เก็บไว้ เพิ่งจะได้บ่งบอกออกเปิดเผย ข้ามทะเลเล่ห์เหลี่ยมมาเยี่ยมเลย จึงขอเชยชมนกวิหคไพร จะแลกเรื่องเบื้องหลังมิหวังอื่น ให้เริงรื่นชื่นจิตพิสมัย เพียงคนเอื้อเกื้อกูลอาดูรใจ จึงร่ำไรรัญจวนให้หวนมา โอ้นกเจ้าบาดเจ็บและเหน็บหนาว ยังถามข่าวบางใครรู้ไหมหนา ว่าลอยคอรอคอยน้อยใจยา ถ้อยวาจาปรากฎมิบดบัง คนว่ายแหวกธาราหาที่เกาะ อกใจเดาะเขารำคาญพาลขึงขัง ซ้ำถูกปล่อยลอยคว้างอย่างชิงชัง มิกล้าหวังเรือใดจึงว่ายวน นกยังมีปีกกล้าฝ่าลมคลื่น คนสะอื้นจมน้ำตาใครมาสน แม้นสะกิดผิดไปให้ร้าวรน ใช่เหตุผลบอกทางให้ต่างไป แม้ของเหลือเชื่อใจไม่ยึดถือ มาฝึกปรือกานท์กลอนที่อ่อนไหว มิใช่เรือเมื่อจะตามก็ตามใจ ก็อยู่ในมหรรณพจนจบกาล (ท่านคนเดียวกัน) ดั่งนกเจ็บหวังเผื่อให้เอื้อโอบ ถูกเฉี่ยวโฉบจากเหยี่ยวเที่ยวประหาร จินตนา..พร่างพรมเริ่มซมซาน ต้องกราบกรานผ่านพรายสู่สายลม หวังส่งเสียงเจื่อยแจ้วให้แว่วหวาน ยิ่งสื่อสาร..ยิ่งเสียงสำเนียงข่ม สายนที..นิ่งสนิทดั่งจิตจม ไม่กลืนกลอมเหมือนก่อน..ที่ผ่อนคลาย น้ำตาหล่นฝนล่วงหมดช่วงแล้ว รู้คลาดแคล้วหมดหวัง..ใจยังหาย บินเรียบเรียงเคียงบ่าด้วยมาไกล ท่านอย่าไปไกลกัน...นะสัญญา กลางมหรรณ..อรรณพ..อยากพบเพื่อน ที่เอ่ยเอื้ยนบทกวี..ดีกับข้าฯ กายเจ็บป่วยช่วยป้อน..ลูกกลอนยา อย่าร้างลา..ลืมกัน ไม่ปันใจ .........................................
6 พฤศจิกายน 2553 10:35 น. - comment id 1166879
เมื่อนกเจ็บเหน็บหนาวที่ราวขอน ตะวันรอนร่อนกลับมาจับกิ่ง ไร้วี่แววคนไกลเคยไหวติง นกเจ้านิ่งเหมือนเก็บทั้งเจ็บจำ... หายเจ็บเร็วๆ ครับ
6 พฤศจิกายน 2553 12:05 น. - comment id 1166902
ไพเราะยิ่งครับ สำหรับถ้อยคำสำนวน ที่นำมาฝากมิตรใน ไทยโพเอมแห่งนี้ :)
6 พฤศจิกายน 2553 12:38 น. - comment id 1166910
ท่านไร้อันดับ..ขอต่อกลอนนะคะ ขอขอบคุณนะคุณแซม..ไม่มาใจหายเหมือนกัน ขอบคุณคุณระพินทร์ นะคะ (ติดตามผลงานค่ะ) .........................................
6 พฤศจิกายน 2553 17:32 น. - comment id 1166972
คุณบูม คงยังตอบเมลกลับให้ไม่ได้ งานยุ่งมากทั้งเสาร์และอาทิตย์นี้
6 พฤศจิกายน 2553 17:43 น. - comment id 1166976
กราบขอบพระคุณค่ะ ที่แก้ไขใหม่...ดูดีขึ้นนะคะ และแก้ตัว...ไปด้วยว่า... กลอนนี้ลอกมาค่ะ.... อุปมา+อุปมัย ที่ท่านกล่าว คือคุยแล้วเพื่อนเข้าใจในความหมายนัย ๆที่รู้กัน บูม..จะไม่ลอกกลอนมาลงอีกค่ะ.. ดูไม่ให้เกียรติ และ ก่อให้เกิดปัญหาปัญหา ในการ ตีความ ถ้าบูม ลงกลอน...แล้วมี สัมผัสผิด/สัมผัสเลือน/ชิงสัมผัส... แวะมาเตือนอีกนะคะ... ถือว่าได้แนะ เป็นวิทยาทานค่ะ นับถือกันตาม คุณวุฒิ...นะคะ "ขอบพระคุณมาก ๆ ค่ะ ..............................................
7 พฤศจิกายน 2553 08:37 น. - comment id 1166986
ต่อกลอนท่าน...นักสืบไร้อันดับ เมื่อนกเจ็บเหน็บหนาวที่ราวขอน ตะวันรอนร่อนกลับมาจับกิ่ง ไร้วี่แววคนไกลเคยไหวติง นกเจ้านิ่งเหมือนเก็บทั้งเจ็บจำ... ผ่านทุกข์ร้อนฆ้อนนุ่น..หวังอุ่นเอื้อ เผลอเปลี่ยนเสื้อเปลี่ยนสีเลยผีซ้ำ ไม่ได้โกรธโทษกล่าวเพราะเจ้ากรรม ท่านกระทำถูกต้อง...ปกป้องเวร ..เดี๋ยวนี้ขาไม่ค่อยดี..กลอนเลยไม่ได้เรื่องครับ...
6 พฤศจิกายน 2553 20:39 น. - comment id 1167069
7 พฤศจิกายน 2553 20:40 น. - comment id 1167154
Yesterday ครับคุณศิตา อยากร้องเพลง Yeaterday เวลาเศร้า เธอคงเข้าใจฉันกว่าวันไหน? เพราะบางครั้งประหลาดเหมือนขาดไป แต่ทำไม? วันนี้เพิ่ม..มาเติมเต็ม อยากร้องเพลง Decerated My Life เธอใช่ไหม? ทำให้ ใจฉันเข้ม ทั้งแววตารอยยิ้ม..ช่างอิ่มเอม ถูกแทะเล็มด้วยรักแล้วหักคา หรือ Women In Love ตอนเสริฟเหล้า เหมือนจะเข้า-ใจกัน..ในวันหน้า เสียงทอดยาวโหยหวนเย้ายวนตา คือการลา..การรัก..หรือทักทาย ........ทิ้งฉันไว้ตรงนี้เถอะที่รัก หลับตานิ่งสักพัก............ฉันใจหาย เสียดายความผูกพัน.จวน.,มลาย จะ.วาง.วาย.. Oh..My..Love ...Oh..My..Love