เธอนั่งอยู่คนเดียวมองเกลียวคลื่น โศกสะอื้นดั่งเจ็บและเหน็บหนาว สิ้นลำแสงสาดสรวงและดวงดาว คนใจร้าวครวญคร่ำเพียงลำพัง ลมกรรโชกหวิวหวั่นคราวฝันร้าย คงแพ้พ่ายอารมณ์ไม่สมหวัง คลื่นสาดซัดถาโถมโหมประดัง คนริมฝั่งเรรวนป่วนฤดี ฉันแค่คนเดินทางดูห่างเหิน หากบังเอิญผ่านไปในวิถี เธอคงช้ำเดียวดายหน่ายชีวี อยากจะหนีความจริงกลับยิ่งตรม เธอถามฉัน ทำไม? เมื่อใจเจ็บ จึงต้องเก็บความทุกข์ไม่สุขสม อยากปลดปล่อยเรื่องราวคราวระทม กลับทับถมเนิ่นนานยากผ่านไป ฉันทำได้แค่เพียงนั่งเคียงข้าง มองฟ้ากว้างกับเธออย่างเผลอไผล แอบรู้สึกแทรกทรวงคล้ายห่วงใย กลัวหวั่นไหวใจเปล่าเฝ้ารำพัน จึงไม่มีคำตอบปลอบดวงจิต หรือใกล้ชิดดั่งเพื่อนลางเลือนฝัน เสียงทะเลครางครืนสะอื้นพรัน ใต้เงาจันทร์รูปเคียวเธอเดียวดาย เทียนหยด .*´¨`*.¸¸.*´¨`*.¸¸.*´¨`*.
5 พฤศจิกายน 2553 08:36 น. - comment id 1166418
คุณมวลภมร.... ตามสบายค่ะ..จะนั่งจะยืนหรือจะวิ่งแก้หนาว เต็มทีเลยค่ะ..เต็มที่..อย่าได้แคร์สื่อขอบคุณที่แวะมาทักทายค่ะ
5 พฤศจิกายน 2553 08:41 น. - comment id 1166519
คุณตี๋.... หวัดดีค่ะ...นี่กระมังที่เขาว่าความอ่อนไหว ของอารมณ์เราสามารถจินตนาการออกมา ได้หลากหลายเรื่องราว... สำหรับกลอนบทนี้ ก็เป็นอีกจินตนาการของ หนึ่งอารมณ์ ความรู้สึก..ของคนเรานี่หล่ะค่ะ ขอบคุณที่แวะมาทักทายนะคะ และยินดีที่ ได้รู้จักค่ะ
5 พฤศจิกายน 2553 08:31 น. - comment id 1166521
คุณแซม.... บางทีความเหงา หรือความหนาวนี่ก็ช่วย ให้เราสัมผัสกับอารมณ์ที่แท้จริงล้วนๆได้ เป็นอย่างดีเลยหล่ะค่ะ ... มามะ เรามากอดกันแก้หนาวดีกว่า..
4 พฤศจิกายน 2553 10:11 น. - comment id 1166522
สวัสดีคะ คุณเที่ยนหยด แค่อาการที่แสดงออกมา...จริงใจ มีความหมายมากกว่า...คำพูดนะคะ เจมิไนเข้ามานั่งเป็นเพื่อนด้วยคนคะ
5 พฤศจิกายน 2553 08:28 น. - comment id 1166525
คุณเจมิไน.... หวัดดีเช่นกันค่ะ....นั่นซิค่ะบางทีการไม่พูด อะไรเลยกลับดีเสียกว่าอีกแน่ะ..มาซิค่ะที่ ว่างยังมีอีกเยอะเชียวค่ะ..นั่งด้วยกันอบอุ่น ดีออก ว่ามั๊ยค่ะ...ขอบคุณที่แวะมาทักทาย เสมอๆค่ะ
4 พฤศจิกายน 2553 10:25 น. - comment id 1166526
อ่านแล้วเหงา....หนาว.. แต่ไพเราะมากๆเลยค่ะ..
แซมค่ะ
4 พฤศจิกายน 2553 11:18 น. - comment id 1166550
มีที่ว่างให้นั่งด้วยสักคนมั้ยครับ จะแวะมานั่งเป็นเพื่อน
4 พฤศจิกายน 2553 11:31 น. - comment id 1166559
ความหมาย ทำไมเหงาเหลือเกิน ดูเหมือนชีวิตนี้ผิดหวังมากๆ เห็นภาพได้ชัดเลยครับ ได้อ่านแล้วใจสั่นๆเลย ขอบคุณมากครับ คุณเที่ยนหยด
4 พฤศจิกายน 2553 11:34 น. - comment id 1166562
ผู้หญิงในบทกลอน คงยากที่จะลืม และคงยากที่จะเปิดรับสิ่งใหม่ๆ ^ ^
4 พฤศจิกายน 2553 12:49 น. - comment id 1166578
เสียงเกลียวคลื่นซัดหาดเหมือนฟาดแส้ ที่ดวงแดน้อยน้อยให้พลอยขม ห่างไกลเกินยิ่งหนาวร้างระบม เหลือเพียงลมลูบไล้ให้กายเย็น สุดคิดถึงหนึ่งนั้นพันผูกจิต เพราะใจติดชิดกายไม่วายเว้น คว้าแต่ลมพรมร่างท่ามกลางกระเซ็น เมื่อไหร่เห็นคงสุขไม่ทุข์ตรม แวะมาแจมกลอนเพราะๆของศิษย์น้องครับผม จุ๊บๆ ไปหาอะไรหม่ำก่อนน๊า
4 พฤศจิกายน 2553 15:22 น. - comment id 1166591
เหงาได้ใจ อะ
4 พฤศจิกายน 2553 15:25 น. - comment id 1166592
มาเยี่ยมศิษย์นับวันจะเก่งขึ้นมากรู้จัก ใช้อักษรผสมผสานทำนองงดงามอ่อนไหว พลิ้วอารมณ์ยิ่งนัก ทำนองกับอักษรคำกลม กลืนกันได้เหตุได้ผลจ้า รักศิษย์เรามากเสมอ ไม่นานหรอก จะก้าวหน้ากว่านี้อีกจ้า
แก้วประเสริฐ.
4 พฤศจิกายน 2553 15:51 น. - comment id 1166601
ย่องๆๆๆกลอนเหงาค่อดๆเลยอ้อยเอ๊ย ยิ่งรูปนี้ด้วยนะใครถ่ายให้แกรฟระได้บรรยากาศความเศร้าตลบอบอวล
4 พฤศจิกายน 2553 15:52 น. - comment id 1166602
10 ไข่แม่เอ๊ย
4 พฤศจิกายน 2553 16:03 น. - comment id 1166610
ดีจร้า...คุงเที่ยนอ้อย... มาบอกใครอ่ะเนี่ยะ...งดงามในน้ำจิต....แม่เอย...
แจมมั่งจร้า...
มองจันทร์เสี้ยว เซียวอารมณ์ ตรอมตรมฝัน ดั่งเคียวจันทร์ บาดเนื้อใจ ให้ขื่นขม เคียวเดือนเสี้ยว เกี่ยวเนื้อขาด บาดอารมณ์ ยามนั่งชม ตรมดวงจิต คิดล่องลอย รอยความหลัง ครั้งเมื่อยาม ความก่อนเก่า วันสองเรา มองเงาจันทร์ มันเคลื่อนคล้อย มาตกปุ๊ ตรงหลังบ้าน ผ่านร่องรอย เหมือนถูกสอย จนร่วงหล่น พ้นนภา ไร้มือคว้า จากดารา คราตกหล่น คงเหมือนคน ไร้ใครเหนี่ยว เกี่ยวพันผา ตกก็ช้ำ ระกำเดียว เดี่ยวเอกา เลยแสร้งว่า มาชื่นเดี่ยว เสี้ยวจันทร์เพ็ญ บนโขดหิน ยินเสียงคลื่น กระทบฝั่ง อยู่นิ่งฟัง นั่งหยุดนิ่ง ยิ่งมองเห็น มองคลื่นน้ำ ยามกระแทก แตกกระเซ็น เห็นเสี้ยวเพ็ญ ในเกลียวคลื่น คืนมืดมน เค้าเรียก ว่าดื้อม่ะเนี่ยะ...ขอรับ..อิอิ
4 พฤศจิกายน 2553 16:28 น. - comment id 1166622
แวะมาอ่านกลอนเพราะๆค่ะ....
6 พฤศจิกายน 2553 08:18 น. - comment id 1166855
6 พฤศจิกายน 2553 08:18 น. - comment id 1166856
6 พฤศจิกายน 2553 08:19 น. - comment id 1166857
6 พฤศจิกายน 2553 08:19 น. - comment id 1166858
2
6 พฤศจิกายน 2553 12:49 น. - comment id 1166917
เศร้าจริงกลอน สงสัยนั่งคนเดียว เพราะเสียวอดไข่ป่าว จุ๊กกรู้...
6 พฤศจิกายน 2553 12:51 น. - comment id 1166919
จันทร์รูปเคียวเกลียวคลื่นในคืนเก่า กับความเหงาเงาจันทร์ที่หวั่นไหว ทะเลครางลางเลือนเหมือนเตือนใจ ถึงคนไกลใจอยู่เคียงคู่เธอ.... ใครกันนะ ที่นั่งมองทะเลจนมืดค่ำ แล้วจะกลับบ้านถูกไหมเนี้ย
6 พฤศจิกายน 2553 14:21 น. - comment id 1166954
ทะเลตอนกลางคืนมีปูให้จับด้วยนะคะพี่อ้อย
6 พฤศจิกายน 2553 20:47 น. - comment id 1167078
6 พฤศจิกายน 2553 21:17 น. - comment id 1167106
เจ๊แบม.... เสียงเกลียวคลื่นซัดหาดเหมือนฟาดแส้ ที่ดวงแดน้อยน้อยให้พลอยขม ห่างไกลเกินยิ่งหนาวร้างระบม เหลือเพียงลมลูบไล้ให้กายเย็น สุดคิดถึงหนึ่งนั้นพันผูกจิต เพราะใจติดชิดกายไม่วายเว้น คว้าแต่ลมพรมร่างท่ามกลางกระเซ็น เมื่อไหร่เห็นคงสุขไม่ทุข์ตรม ................................................... เหลือเพียงลมรำเพยที่เคยคุ้น รอยความอุ่นจางหายรักกลายขม จึงร้อนรุ่มผะผ่าวร้าวระบม ชวดเชยชมปวดแปลบแทบขาดใจ จะมีไหมวันคืนที่ชื่นสุข รอคนปลุกปลอบขวัญเลิกหวั่นไหว จับมือฉันเคียงคู่สู้ต่อไป วันสดใสกลับคืนคงริ่นรมย์ ขอบคุณกลอนที่ร่วมแจมค่ะคุณเจ๊ขออภัยที่มาตอบช้าไปโหน่ยนุง.
6 พฤศจิกายน 2553 21:19 น. - comment id 1167108
ปู่กิ่งฯ... ได้ใจใครง่า...เง้อขอบคุณมากค่ะ ศิษย์พี่...ดูแลหัวใจพี่สาว น้องดีๆเด้อ...
6 พฤศจิกายน 2553 21:21 น. - comment id 1167109
ครูแก้ว... หวัดดีค่ะครูขอบคุณครูมากนะคะที่แวะมาเยี่ยมศิษย์ พร้อมคำแนะนำสั่งสอนเสมอมาค่ะ ดูแลสุขภาพด้วยนะคะครู ...
ด้วยความเป็นห่วงค่ะ
6 พฤศจิกายน 2553 21:23 น. - comment id 1167110
ลิงฝน... อิอิ...แกรรู้ได้ไงฟร่ะ..ว่าเปงตรู..ใครบอกแกว๊า..
เนียนเชียวน๊ะแกร...หนีบไข่ตรูไปซะได้..
6 พฤศจิกายน 2553 21:51 น. - comment id 1167117
ดีค่ะ คุงกีฯ... มองจันทร์เสี้ยว เซียวอารมณ์ ตรอมตรมฝัน ดั่งเคียวจันทร์ บาดเนื้อใจ ให้ขื่นขม เคียวเดือนเสี้ยว เกี่ยวเนื้อขาด บาดอารมณ์ ยามนั่งชม ตรมดวงจิต คิดล่องลอย รอยความหลัง ครั้งเมื่อยาม ความก่อนเก่า วันสองเรา มองเงาจันทร์ มันเคลื่อนคล้อย มาตกปุ๊ ตรงหลังบ้าน ผ่านร่องรอย เหมือนถูกสอย จนร่วงหล่น พ้นนภา ไร้มือคว้า จากดารา คราตกหล่น คงเหมือนคน ไร้ใครเหนี่ยว เกี่ยวพันผา ตกก็ช้ำ ระกำเดียว เดี่ยวเอกา เลยแสร้งว่า มาชื่นเดี่ยว เสี้ยวจันทร์เพ็ญ บนโขดหิน ยินเสียงคลื่น กระทบฝั่ง อยู่นิ่งฟัง นั่งหยุดนิ่ง ยิ่งมองเห็น มองคลื่นน้ำ ยามกระแทก แตกกระเซ็น เห็นเสี้ยวเพ็ญ ในเกลียวคลื่น คืนมืดมน ............................................................... เพียงเสี้ยวจันทร์ บาดนิด สะกิดกด อย่าพึ่งหมด กำลัง สิ้นหวังผล เจ็บจิ๊ดจิ๊ด ร่ำไป มีใครยล ยังมาบ่น งึมงัม ทำล่องลอย ใครมือยาว สอยร่วง จากห้วงหาว หรือติดกาว ตราช้าง จึงง้างสอย คนเคียงข้าง สิ้นท่า ทำตาปรอย คงเลื่อนลอย คอยรอ คืนต่อไป ยังเหม่อมอง หลงใหล อยู่ใต้เสี้ยว จันทร์รูปเคียว ใครกัน แอบหวั่นไหว ตกระกำ แห้งเหี่ยว เปล่าเปลี่ยวใจ มองบันได ยิ้มแฉ่ง สิ้นแรงปีน > > ดื้อเจอดื้อ....เลยตื้อต้อแต๊..
6 พฤศจิกายน 2553 21:52 น. - comment id 1167118
คุณ White rose.... ขอบคุณมากค่ะที่แวะมาทักทาย
6 พฤศจิกายน 2553 21:53 น. - comment id 1167119
จวว.....ทำปายด้ายยยยย
6 พฤศจิกายน 2553 21:55 น. - comment id 1167120
ลิงลพ.... มานั่งเป็นเพื่อนตรูหน่อยฮี่...เหงป่ะว่า คนมันเหงา...เง้อ
6 พฤศจิกายน 2553 22:06 น. - comment id 1167125
พี่สืบ.... จันทร์รูปเคียวเกลียวคลื่นในคืนเก่า กับความเหงาเงาจันทร์ที่หวั่นไหว ทะเลครางลางเลือนเหมือนเตือนใจ ถึงคนไกลใจอยู่เคียงคู่เธอ.... ..................................................... เพราะคืนเก่าเงาจันทร์ทำหันเห นั่งมองเลเรื่อยไปจึงไผลเผลอ ทั้งชะเง้อแอบชะแง้ขอแค่เจอ หรือจะเบลอใบ้บ้าอยู่ท่าเดียว..กลับดึกอยู่ก็ลึกในซอยเปลี่ยว...
ซำบายดีบ่พี่ชายเอ๊ยยย
6 พฤศจิกายน 2553 22:08 น. - comment id 1167126
กานต์.... งั้นเรามาไล่จับปูกันดีกว่าเนาะ..
6 พฤศจิกายน 2553 22:08 น. - comment id 1167128
คุณดอกบัว... ยิ้มอารายยย...ตัวเอง