๏ ตะโกนถามดวงดาวบนราวฟ้า ดาวเฮ้ยพบแก้วตาของข้าไหม ย้อนอดีตกาลที่ผ่านไป คนเดนใจทั้งคู่ชอบดูดาว เพลาผ่านนานลืมความปลื้มหมด เหลือเพียงรอยรันทดให้สืบสาว ได้ยินบ้างบางครั้งกับข่าวคราว บอกเรื่องราวเล่าลือไม่เจอตัว ดาวบอกข้าต้องเฉลยไม่เคยเห็น ถามเป็นวรรคเป็นเวรน่าปวดหัว ความอยากของพวกเอ็งช่างน่ากลัว รักหรือมั่วชั่วหรือดีตอบทีเอ็ง ไม่รู้คนหรือดาวกันแน่บ้า ดันพูดจารู้เรื่องกันเหมาะเหม็ง แต่ท้ายสุดเป็นคนที่เส็งเคร็ง ทำเป็นเก่งกลบเกลื่อนคุยกับดาว เพราะปกปิดจิตซ่อนใต้สำนึก ความรู้สึกหวั่นไหวเรื่องอื้อฉาว อยากจะลืมปลดเปลื้องกับเรื่องราว จึงอยู่ไกลฟังแต่ข่าวจนชาชิน ไร้สาเหตุแค่ไร้วาสนา ไม่เคยคิดหลบหน้าคนใจหิน หนึ่งคำลามิเอ่ยให้ได้ยิน อาจเป็นเพราะยังมิสิ้นสายสัมพันธ์ นวลเคยชื่นเคยชมสมปรารถนา แม้ห่างไกลสายตาเกินกว่าฝัน ร่ายวลีหมื่นถ้อยส่งถึงกัน ก็แค่ปันฝันดีอย่ามีเวร เก็บสายใยใจบางบางอย่าพิสูจน์ ถ้อยที่พูดเพียงคำทำให้เห็น ยังห่วงใยอยู่เสมอแม้เธอเป็น ความฝันอันลำเค็ญตลอดกาล ๚ะ๛
30 กรกฎาคม 2553 18:29 น. - comment id 1148614
ดูท่าจะไม่ติ๊งต๊อง นะครับ เป็นเรื่องเป็นราว ซะขนาดน้านนน แต่งกลอน ก็ออกจะโดนใจวัยรุ่นเสียด้วย ใช้ถ้อยคำได้...สุดยอดๆๆ มากครับ
27 ตุลาคม 2553 21:23 น. - comment id 1164477
ขอบคุณที่เข้ามาทักทายครับท่านกวีน้อยเจ้าสำราญ นานๆเข้ามาที ขอโทษที่มารับแขกช้า แล้วก้อนานๆจะเขียนกลอนได้สักเรื่อง ขาดตกบกพร่อง ลงร่องลงฝาไปบ้าง ท่านใดมาอ่านก็รักษาสายตาเอาเองครับ 5555