อินทรวิเชียรฉันท์ ๑๑ (๑) ๐ ปรายโปรยประพร่างพรม ดุจห่มละอองมัว ม่านหมอกกระจายทั่ว พสุธาฉะฉ่ำไอ ๐ พิศดูนภากาศ มิพิลาศและอำไพ หากไม้ ณ หนใด สิจะชื่นกะดอกฝน ๐ ราวริ้วประสานสาย ปะพระพายสบัดวน หนาวกายสะท้านตน เพราะมิมีนรีเคียง ๐ อยู่ใดนะน้องนุช ผิวสุดจะยินเสียง หมายส่งสิคำเรียง กะกวีเสนอนวล ๐ ยิ่งคิดคนึงหา อุระข้าก็ไห้หวล จิตใจจิรัญจวน นฤมลนะรู้ดี ๐ โปรยปรายประพร่างพรม ดุจห่มละอองคลี่ ป่าดงและพงพี ก็จะชุ่มชะอุ่มกัน ๐ เหมือนใจสิหมายชิด มนจิตหทัยฝัน พบสุขละโศกพลัน ก็เพราะหมายจะสมปอง (๒) ๐ หากพิศวสันต์ดู ก็จะรู้สิครรลอง ชีวิตผิตรึกตรอง ก็จะแจ้งวิถีตน ๐ ท่องธารละหานใส ระดะไป ณ ไพรสณฑ์ เจิ่งนองสิมณฑล จรดลกระซ่านเซ็น ๐ สบแสงสุรีย์ศรี ปฐพีก็คงเห็น น้ำใสละเยียบเย็น จะระเหยละอองกลาย ๐ เป็นเมฆละล่องฟ้า ประนภาประดับหมาย เมฆินทร์ผิผินพราย ขณะนั้นจะแสนงาม ๐ มองคล้ายกะปุยฟ่อง นภผ่องจะล่องตาม นุ่มนวลและแสนงาม ก็จะเป็นนะชั่วคราว ๐ เนิ่นกาลผิผ่านผัน ชลนั้นจะลาหาว จากแล้วนะเดือนดาว ก็เพราะคราวสิลาไกล ๐ พิรุณชโลมหล้า ลุมหาชลาไหล รอวันจะเป็นไอ และจะเยือนทิฆัมพร ๐ เปรียบปานประดุจชน จรดล บ่ สังวร โชติช่วงลุห้วงตอน ศิริศักดิ์จรูญไกล ๐ ถึงวันจะต้องเสื่อม มิจะเอื้อมฤครองได้ เหมือนโลกจิล่วงไป ละวสันต์ฉะนั้นแล ........... คนกุลา ในวสันต์ สนใจค้นคว้าเรื่องอินทรวิเชียรฉันท์เพิ่มเติมได้ที่ http://www.thaipoem.com/forever/ipage/board6536.html# และ http://www.thaipoem.com/forever/ipage/board6535.html ครับ
8 กรกฎาคม 2553 08:49 น. - comment id 1144006
ท่าน คนกุลา สวัสดีค่ะ ไพเราะมากมาย
8 กรกฎาคม 2553 16:49 น. - comment id 1144132
ขอบคุณ ครับ
8 กรกฎาคม 2553 20:10 น. - comment id 1144185
ยอดเยี่ยมอย่างเคยเลยนะครับ
9 กรกฎาคม 2553 00:00 น. - comment id 1144273
ยอดเยี่ยมอย่างเคยเลยนะครับ สุริยันต์ จันทราทิตย์ ............................ ขอบคุณมากนะครับ ที่มาเยี่ยมและให้กำลังใจกันนะครับ
9 กรกฎาคม 2553 17:35 น. - comment id 1144577
ขอคารวะ ท่านอาจารย์ "คุณน้า คนกุลา" ผมก็นึกว่า ลืมกวีไทย ไปเสียแล้ว ตอนนี้ แอบเล่น เวปอื่นบ้าง แต่ก็ไม่ค่อยได้ แต่งกลอนบ่อยเท่าไร น่ะครับ ขอให้อาจารย์แข็งแรงตลอดไป อีกอย่าง ตอนนี้ ผมก็กำลังหางานทำไปพลาง เคารพรัก และ คิดถึง อาจารย์ คนนี้เสมอ
9 กรกฎาคม 2553 18:13 น. - comment id 1144601
ตอบถ้อยวสันต์นี้ ดุจมีหทัยแฝง บางถ้อยก็เคลือบแคลง สิแถลงกระจ่างหรือ ....อิอิ...แบบว่า อินทรวิเชียรฉันท์บรรยายวสันตฤดู...เหมาะทีเดียวครับ...
12 กรกฎาคม 2553 12:33 น. - comment id 1145060
๐ วสันต์งามณยามนี้ มนพี่สิชื่นใจ ม่านหมอกกระจายไป หฤทัยมิร้อนรน ๐ รุ่งรางสว่างแสง ประดุจแรงพระพายวน หนาวกาย สะท้านตน เพราะนรีมิมีเคียง ๐ แสนไกลนะใจนุช ผิวสุดจะ ยินเสียง น้องส่งสิคำเรียง ณกวีสนองครวญ ๐ คราคิดพินิจหา อุระพาก็ไห้หวล จิตใจสิรัญจวน มนป่วนฤดีพลัน ๐ วสันต์พรายสิหมายชิด ดลจิตหทัยฝัน ขอรักณ.คืนวัน ผิวมั่นมิห่างนวล.......ฯ ไพเราะมากค่ะ...มาร่วมแจมนะคะ...คิดถึงและเป็นห่วงเสมอ...รักษาสุขภาพนะคะ...มาขอเป็นกำลังใจ..ให้กันและกันค่ะ...
13 กรกฎาคม 2553 14:50 น. - comment id 1145378
ขอคารวะ ท่านอาจารย์ "คุณน้า คนกุลา" ผมก็นึกว่า ลืม กวีไทย ไปเสียแล้ว ตอนนี้ แอบเล่น เวปอื่นบ้าง แต่ก็ไม่ค่อยได้ แต่งกลอน บ่อยเท่าไร น่ะครับ ขอให้อาจารย์แข็งแรงตลอดไป อีกอ ย่าง ตอนนี้ ผมก็กำลังหางานทำไปพลาง เคารพรัก และ คิดถึง อาจารย์ คนนี้เสมอ # กวีน้อยเจ้าสำราญครับ ....................... ก็เข้ามาอ่านอยู่เสมอๆนะครับกวีน้อย เพียงแต่ไม่ค่อยได้ลงกลอน เพราะงานยุ่งมาก ตอนนี้พอจัดระบบงานได้บ้าง เลยพอมีเวลา มาแต่งกลอน ได้บ้าง คิดถึงเช่นเดียวกัน ครับ ขอบคุณสำหรับคำอวยพร และ ขอให้โชคดี เช่นกัน นะครับ
13 กรกฎาคม 2553 15:17 น. - comment id 1145384
ตอบถ้อยวสันต์นี้ ดุจมีหทัยแฝง บางถ้อยก็เคลือบแคลง สิ แถลงกระจ่างหรือ ....อิอิ...แบบว่า อินทรวิเชียรฉันท์บรรยาย วสันตฤดู...เหมาะทีเดียวครับ... ลมแปรแขมร์เลอ ....................... ไม่ค่อยจะได้เจอ หากใจกระจ่างจำ ผิจะย้ำมิยึดถือ ถ้อยคำจะร่ำลือ จะแถลงก็แจ้งจินต์ คิดถึงอยู่นะครับ
13 กรกฎาคม 2553 17:02 น. - comment id 1145411
๐ วสันต์งามณยามนี้ มนพี่สิชื่นใจ ม่านหมอกกระจายไป หฤทัย มิร้อนรน ๐ รุ่งรางสว่างแสง ประดุจแรงพระพายวน หนาวกาย สะท้านตน เพราะนรีมิมีเคียง ๐ แสนไกลนะใจนุช ผิวสุดจะ ยินเสียง น้องส่งสิคำเรียง ณกวีสนองครวญ ๐ คราคิดพินิจหา อุระ พาก็ไห้หวล จิตใจสิรัญจวน มนป่วนฤดีพลัน ๐ วสันต์พรายสิหมายชิด ดลจิตหทัยฝัน ขอรักณ.คืนวัน ผิวมั่นมิห่าง นวล.......ฯ ไพเราะมากค่ะ...มาร่วมแจมนะคะ...คิดถึง และเป็นห่วง เสมอ...รักษาสุขภาพนะคะ... มาขอเป็นกำลังใจ..ให้กันและกันค่ะ... ราชิกา ................................. ๐ ฟ้าแลบสิแปลบพร่าง คคนางค์ก็ครางครวญ แสงจ้ากระจ่างสวน สิวะวาบและดับพลัน ๐ เหมือนปานสะท้านฟ้า พสุธาก็เลื่อนลั่น คนไกลสิไหวหวั่น ดุจพลันระย่อใจ ๐ ลมวนพระพายพัด จะขจัดฤสิ่งใด หมู่ไม้และพฤกษ์ไพร ดุจถอนละรากโคน ๐ คืนค่ำมิมีใคร หฤทัยจะไหวโอน ส่งเสียงเพราะปลอบโยน มนนั้นละหวั่นเกรง..ฯ ขอบคุณ นะครับ คุณตุ้มที่มาร่วมแจม บทฉันท์ที่ไพเราะ รักษาสุขภาพ เช่นกันนะครับ เป็นห่วง ครับ แสนคำนึง