ไม่มีทางเลือก

แกงเขียวหวาน

alone.jpgไร้ที่พึ่งพักพิงอิงข้างเสา
อาชีพเราเขาเมินให้เดินหนี
ริมฟุตบาทลาดเอียงเตียงชั้นดี
สำบัติมีที่ถือคือกะลา
ลูกหลานมีหนีหน้าคราตกอับ 
กาลล่วงลับหนีหายไม่กลับมา
รับเศษเงินผู้ที่มีเมตตา
พอประทังร่างกายไปวันวัน
ด้วยโรคภัยรุมเร้าเข้ามาหา
กินเพียงยาพาราเวลาไข้
ยามฝนตกแดดออกอย่าบอกใคร
ข้างเสาไฟริมทางว่างคอยรอ
แต่ไม่เคยย่อท้อต่อชีวิต
พรหมลิขิตพาเดินเมินความท้อ
จะก้มหน้ารับกรรมที่ทำก่อ
แผ่นดินรอฝั่งร่างยามวางวาย				
comments powered by Disqus
  • cicada

    5 มิถุนายน 2553 07:48 น. - comment id 1132730

    น่าสงสาร  บ้านแซมนี้  มีที่ว่าง
    ให้มาค้าง  พักผ่อน  ก่อนเดินไหว
    ยังมีที่  สำหรับคน  หม่นหัวใจ
    แบ่งปันให้  พอเกื้อหนุน  ยามคุณตรม
        พักผ่อนก่อน  กายใจ  ให้ยังชั่ว
        แล้วตั้งตัว  กันใหม่  ไยขื่นขม
         คนแปลกหน้า  ยังห่วงใย  ในอารมณ์
        ทิ้งความขม  ไว้บนทาง  ข้างเสาไฟ
    16.gif16.gif16.gif16.gif
    
    แซม
  • ไม้หอม

    5 มิถุนายน 2553 10:26 น. - comment id 1132737

    ข้างเสาไฟต้นเก่าเหงาจังหนอ
    ได้แต่นั่งเฝ้ารอขอความหวัง
    ไร้ผู้ใดให้พักพิงยามภินทร์พัง
    เหลือเพียงหวังสุดท้ายใต้เสาไฟ
  • คนเมืองน้ำ

    5 มิถุนายน 2553 12:10 น. - comment id 1132742

    มาชื่นชมผลงานค่ะ
    
    1.gif
  • วิทย์ ศิริ

    5 มิถุนายน 2553 12:16 น. - comment id 1132744

    อ่านแล้ว  เห็นใจเขาคนนั้นคับ6.gif
  • Gemini58

    5 มิถุนายน 2553 12:44 น. - comment id 1132746

    สวัสดีคะ คุณแกงเขียวหวาน
    ที่นี่...ก็เยอะคะ ส่วนมากจะยืนตาม4แยก 
    บางบางคน "น่าสงสาร" จริงๆคะ
    แต่บางคน "น่าหมั่นไส้" เขาเล่นยืน "กรึ่ม" ซดเบียร์ไปด้วยขอเงินคนไปด้วย
    25.gif25.gif25.gif
  • ครูกระดาษทราย

    5 มิถุนายน 2553 13:22 น. - comment id 1132762

    623568ac0ge74yni.gif
    
    อ่านแล้วก็เศร้าใจ
    
    ทางกว้างไกลไยหมดหวัง
    
    ใครล่ะจะช่วยเติมพลัง
    
    ให้ชีพยังต่อไปในโลกา
  • แก้วประเสริฐ

    5 มิถุนายน 2553 19:27 น. - comment id 1132820

    36.gif16.gif36.gif
    
        ครูอ่านกลอนไม่ถูกต้องหลายจุด ที่ให้ไปนั้น
    สงสัยไม่ได้อ่านกระมัง
    
    วรรคแรกเรียกว่ากลอนสลับ (นับคำสุดท้าย
    หมายถึงเป็นกลอนส่งในตัวเพื่อให้วรรคสองใน
    คำที่สามรับด้วย)
    วรรคสองเรียกว่ากลอนรับ หมายถึงไปรับทั้งอักษร
    ทำนองเสียงของกลอนส่งมาผสานกัน
    วรรคสามเรียกว่ากลอนรอง อย่าใช้สระเสียงเอก
    เสียงโทเด็ดขาดหรือพยายามอย่าให้มีสระบนคำ
    วรรคสี่เรียกว่ากลอนส่ง ห้ามใช้คำตาย คนจะใช้
    ต้องเก่งและรู้จักปรับระดับเสียงเข้าสู่ปกติได้
       ดังกลอนที่เขียนไว้คือ
    
    สำบัติมีที่ถือคือกะลา
    
    ลูกหลานมีหนีหน้าคราตกอับ
    กาลล่วงลับหนีหายไม่กลับมา
    รับเศษเงินผู้ที่มีเมตตา
    พอประทังร่างกายไปวันวัน
    
    ด้วยโรคภัยรุมเร้าเข้ามาหา
    กินเพียงยาพาราเวลาไข้
    
    กะลากับมาออกเสียงต่ำ ควรรับด้วยเสียงจัตวา
    หากที่ดีที่สุดคือใช้อักษรสูง ด้วยอักษรสูงจะเป็น
    เสียงจัตวาโดยอัตโนมัติ ระดับเสียงกะลากับ
    กลับมา อยู่ในระดับเสียงเดียวกันไม่ผิดแต่
    ไม่ไพเราะ จำไว้
       ส่วนอีกคำคือกลอนส่ง นั้น " วัน " แต่
    กลอนรับเป็นไข้ ไม่รับสัมผัสกัน ไปคนละทาง
    กันเลยผิดอย่างมองเห็นได้ชัด
        อีกประโยคหนึ่ง
    พรหมลิขิตพาเดินเมินความท้อ
    จะก้มหน้ารับกรรมที่ทำก่อ
    
        กลอนรับคือ ท้อ ไม่ผิด ใช้สระเสียงโท
    แต่เวลาคำสุดท้ายวรรคกลอนรอง เสียงสระเอก
    ผิด ห้ามใช้สระเสียง เอก โท เด็ดขาด
    
       คนอ่านจะสับสนกลอนจะขัดกันอย่างมาก
    การเล่นกลอนควรจะรู้จักอักษรทุกๆอักษรทุกๆ
    คำ ด้วยแต่ละอักษรและคำมีทำนองอยู่ในตัว
    เองอยู่แล้ว เพียงแต่นำมาใส่ในทำนองให้
    ผสานเสียงลื่นไหลไม่ติดขัดกัน พยายามต่อไป
    อย่าคิดท้อถอย  
      ครูจะเลียนแบบกลอนเธอให้ดูนะ
    
       ไร้ที่พึ่งพักพิงอิงข้างเสา
    อาชีพเราเขาเมินให้เดินหนี
    ริมฟุตบาทลาดเอียงเตียงชั้นดี  (วรรคนี้สัมผัส
    ซ้อนสัมผัส คือ สัมผัสสองครั้ง ควรจะให้เป็น
    สัมผัสเดียว ยกเว้นทำนองบังคับเราเท่านั้นแต่
    ไม่ควรบ่อยๆนะ)
      สมบัติมีที่ถือคือกะลา
    
       ลูกหลานมีหนีหน้าคราตกอับ
    กาลล่วงลับหนีหายไม่กลับหา
    รับเศษเงินผู้ที่มีเมตตา
    ประทังพาร่างกายไปวันวัน (กลอนรองลงด้วย
    สระอา คือตา ต้องรับในวรรคที่สี่คำที่สามด้วย
    เพราะกลอนรองนั้นมีกลอนส่งอยู่ในตัวด้วย
    ครูจึงเปลี่ยนแปลงให้ ประทังพา คำตาสัมผัส
    กับคำพา)
    
       ด้วยโรคภัยรุมเร้าเข้ามาหา
    กินเพียงยาพาราเวลาสั่น (คำวันสัมผัสกับสั่น
    คำพาราเวลานั้นเป็นคำสระอาหมดไม่จำเป็น
    ไม่ควรใช้นะเขาเรียกว่ากลอนพาไป)
    ยามฝนตกแดดออกย่อมบอกมัน (หมายถึงโรคภัยในตัวเรา)
    
    เสาไฟนั้นข้างทางพลางคอยรอ
    
       แต่ไม่เคยย่อท้อต่อชีวิต
    พรหมลิขิตพาเดินเมินความท้อ (ท้อใช้สระเสียง
    โท เรียกว่าตัวช่วยเสียงอักษรสูง)
    จะก้มหน้ารับกรรมทำเพียงพอ
    แผ่นดินรอฝั่งร่างยามวางวาย.
    
       ครูแก้ไขให้ดูเป็นตัวอย่างไว้ว่าทุกๆบท
    นั้นต้องให้ผสานกันทั้งทำนองอักษรจึงมีความ
    หมายรองรับ ไม่ใช่กลอนถูกแต่ไร้ความหมาย
    ก็ใช้ไม่ได้นะ  ครูบอกเพื่อก่อจะได้ระวังใน
    โอกาสต่อไปด้วย รักศิษย์เราเสมอ
    
           16.gifแก้วประเสริฐ.16.gif
  • อรุโณทัย

    5 มิถุนายน 2553 20:13 น. - comment id 1132824

    เป็นไปตามวิถีของยาจก...เนาะ
    36.gif36.gif36.gif
  • ประทาน

    5 มิถุนายน 2553 20:42 น. - comment id 1132832

    ขออธิบายแบบง่ายๆดีกว่าเน๊าะ..ท่านอาจารย์แก้ว
    
    ประเสริฐ...คือกลอนแต่ละบทวรรณยุกต์..เป็นสิ่ง
    
    สำคัญมาก..ดังนั้นเขาจึงกำหนดให้..คำลงท้ายวรรค
    
    สอง..เขาห้ามใช้เสียงสามัญและเสียงตรี..คำลงท้าย
    
    วรรคสามและสี่เขาให้ใช้เสียงสามัญ..อนุโลม
    
    ใช้เสียงตรีได้..และยังมีอีกมากมายที่จะให้เรา
    
    เรียนรู้นะน้องแกงฯ..จำไว้แค่นี้ก็นี้ก็พอนะ
  • White roses

    5 มิถุนายน 2553 21:14 น. - comment id 1132861

    แวะมาอ่านค่ะ..11.gif36.gif
  • ยาแก้ปวด

    5 มิถุนายน 2553 21:15 น. - comment id 1132862

    ใครจะรู้
    นั่งเล่นคอมอยู่ดีๆ
    
    แผ่นดินอาจจะยุบไม่รู้ตัวก็ได้
    
    พรหมลิขิต พรหมลิขิต
    
    11.gif59.gif
  • ไร่ผาสุก กาญจนบุรี

    5 มิถุนายน 2553 23:10 น. - comment id 1132890

    มาเป็นตัวเลือกครับ19.gif
  • cicada

    5 มิถุนายน 2553 23:11 น. - comment id 1132891

    ไม่ได้ลงทะเบียน แต่แอบมาเรียนจะถูกปรับไหมคะ..29.gif29.gif
    
    แซมผู้ยังอ่อนต่อโลกกลอน
  • ป๋อง สหายปุถุชน

    6 มิถุนายน 2553 09:25 น. - comment id 1132912

    36.gifเขียนได้ดีครับเล่าเรื่องราวได้น่าสงสารครับชีวิตคน
    ก็มีทุกยากลำบากต่างกันครับ
    ในยามจนผู้คนหนีหาย
    ในยามมั่งมีเพื่อนฝูงรุมล้อมครับ
    29.gif31.gif41.gif57.gif
  • แก้วประภัสสร

    6 มิถุนายน 2553 12:09 น. - comment id 1132958

    อ่านแล้วเศร้าจังค่ะ
    แบมเคยผ่านเมล์เพื่อนๆส่งมาให้เรือง
    เงินยีสิบบาท  อ่านแล้วก็น้ำตาจะไหลเลย
    36.gif11.gif16.gif
  • สุริยันต์ จันทราทิตย์

    6 มิถุนายน 2553 14:20 น. - comment id 1133004

    อ่านแล้วเศร้าจังครับ
    10.gif10.gif10.gif
  • กวี ซีม่า

    6 มิถุนายน 2553 18:25 น. - comment id 1133053

    36.gif36.gif
    
    สวัสดีครับ...คุณแกงเขียวหวาน....
    กวี ซีม่า แวะมาเยี่ยมชม..และขอนับสนุน...
    ให้คุณปฏบัติตามความคิดเห็นที่ 7 และ ที่ 9
    นะ...ขอ-รับ ในอนาคตคุณจะเป็นนักกลอน
    ที่ยิ่งใหญ่คนหนึ่งแน่นอน.....
    
    16.gif16.gif16.gif
  • โคลอน

    7 มิถุนายน 2553 11:24 น. - comment id 1133173

    36.gif36.gif36.gif41.gif36.gif
  • เพียงพลิ้ว

    7 มิถุนายน 2553 12:45 น. - comment id 1133224

    เศร้าจังนะคะ
    
    
    36.gif36.gif36.gif36.gif36.gif36.gif36.gif1.gif
  • kirati

    7 มิถุนายน 2553 15:39 น. - comment id 1133315

    หวัดดีจร้า....คุงแกงฯ
    
    เมื่อวันก่อนที่นครสวรรค์
    ก็เจอคุณยายอายุเกือบแปดสิบ...
    หาบคอน เอาผักที่เก็บมาได้
    มาขายเร่ขาย....
    เลยเรียกยาย...ช่วยแกซื้อผักยกหาบ....
    ทั้งหาบ...ได้ไม่ถึงร้อย....
    ได้คุยกับยาย...
    คุยไป....
    น้ำตาจะไหล...
    
    ยังมีอีกเยอะมากๆ....
    ในประเทศเรา...
    เน๊อะ...
    นับถือๆๆ....ในเจตนา....
    ที่สื่อ...สู่...สาธารณะ
    เป็นที่สุด....
    
    ปรบมือให้....41.gif41.gif41.gif41.gif41.gif41.gif11.gif11.gif36.gif
  • เฌอมาลย์

    7 มิถุนายน 2553 17:19 น. - comment id 1133396

    น่าเศร้าใจ เห็นภาพแบบนี้เยอะเหมือนกัน10.gif
  • เขียวหวาน

    7 มิถุนายน 2553 20:47 น. - comment id 1133512

    คุณ..cicada 
    คุณ..ไม้หอม
    คุณ..คนเมืองน้ำ
    คุณ..วิทย์ ศิริ
    คุณ..Gemini58
    คุณ..ครูกระดาษทราย
    คุณ..ครูแก้วประเสริฐ
    คุณ..อรุโณทัย
    คุณ..White roses
    คุณ..ยาแก้ปวด
    คุณ..ไร่ผาสุก กาญจนบุรี
    คุณ..ป๋อง สหายปุถุชน
    คุณ..แก้วประภัสสร
    คุณ..สุริยันต์ จันทราทิตย์
    คุณ..กวี ซีม่า
    คุณ..โคลอน
    คุณ..เพียงพลิ้ว
    คุณ..kirati
    คุณ..เฌอมาลย์
    ขอบคุณมากค่ะ ขอให้ทุกคนมีแต่ความสุขนะคะ1.gif..36.gif
  • แกงฯ

    25 มิถุนายน 2553 10:09 น. - comment id 1141102

    ขอบคุณ พี่ประทานมากค่ะ....1.gif
    รักษาสุขภาพด้วยนะคะ

thaipoem ที่สุดกลอนดีๆ

thaipoem บ้านกลอนไทยที่ที่สร้างแรงบันดาลใจของทุกๆคน เป็นเพื่อนเมื่อยามเหงา คอยปลอบใจเมื่อยามร้องไห้ ที่ที่อยากให้ทุกๆคนรู้ว่าสิ่งดีๆเกิดขึ้นได้ทุกวัน