รุ้งบนปุยเมฆ ใครเสกและใครสร้าง มองเห็น รู้สึก และปล่อยวาง ให้แขวนลอยเคว้งคว้างอยู่บนฟ้า ไม่อาจจับ ไม่อาจต้อง เพียงแค่มองก็คงเจ็บน้อยกว่า ติดปีกความหวั่นไหวเพื่อไขว่คว้า ก็คงจบด้วยน้ำตาประดับใจ พร่าเลือนเหมือนภาพหลอน รินรดทะเลอาวรณ์ให้แหวกว่าย หายลับยังคงเห็นไม่เว้นวาย น้ำตายังคงทลายทะลักตา คว้าก็เจ็บ ปล่อยก็ร้าว ตื่นตาเช้าทุกเช้านึกถึงหน้า หลับตานอนก็ถอนใจหลังเปลือกตา ซ่อนคิดถึงและอ่อนล้าหลังเปลือกใจ รุ้งบนปุยเมฆ เธอมาเสกมาสรรความหวั่นไหว มาให้เห็นมาพรากมาจากไป ฉันปวดร้าวเท่าไร รู้หรือเปล่า
26 เมษายน 2553 10:19 น. - comment id 1123892
26 เมษายน 2553 10:46 น. - comment id 1123907
วันที่เธอหวั่นไหว ฉันกลับช่วยอะไรไม่ได้แม้- สักนิด จึงกลมเกลียวกับเหลียวแล เธอไม่ใช่ผู้แพ้ที่เดียวดาย แวะมาช่วยปลอบใจ
26 เมษายน 2553 15:58 น. - comment id 1123964
ฉันปวดร้าวเท่าไร รู้หรือเปล่า .. ยามนับเดือนนับดาว บนฟากฟ้า แต่ละดวงทดแทนวันเวลา แทนหยาดหยดน้ำตาที่หลั่งริน เธอปวดร้าวเท่าไร ไม่อยากรู้ เพราะฉันคงทนดู แทบดับดิ้น ไม่อยากเห็นเธอปวดร้าวแทบพังภินท์ หากแต่อยากได้ยินเธอหัวเราะ .. บุ๋มๆๆๆๆๆๆๆๆๆ
27 เมษายน 2553 12:25 น. - comment id 1124097
รุ้งบนฟากฟ้า หลังฝนซาฟ้านั้นพลันสดใส แลให้เห็นแสงสีที่พิไล เจ็ดเฉดสีเลียงไล่ละไมตา ไม่อาจหยิบหรือเอื้อมสอย ได้แต่แหงนคอยคอตั้งบ่า รุ้งเจ็ดสีหายวับกับนภา เหลือเพียงค่าละอองน้ำไว้ย้ำใจ เลือนลางใช่ล้างหวัง แม้วันนี้ภินท์พังอาจสร้างใหม่ หลังม่านหมอกเมฆฝนพ้นโพยภัย ที่ร้าวไหวพลันพร่างกระจ่างจินต์ อยู่ที่ใจจะไขว่คว้า จะร้างลาเลือนลบให้จบสิ้น หรือสร้างหวังกำลังใหม่ให้คุ้นชิน ตามแต่ใจถวิลจินตนา รุ้งเลือนใช่เลือนลับ คงประดับหลังฝนหล่นจากฟ้า เป็นละอองกระทบแสงสุริยา ละมุนตาอีกหนหลังฝนเยือน 555 มาดำน้ำด้วยคน นานๆทีมาเคาะสนิมอ่ะ อย่าว่ากันนะ ไม่รู้เรียกว่าปลอบป่าวนะ