หวัง ผนึกรอยร้าวจากดาวใส พาตัวเองมาแสนไกลเพื่อใฝ่ฝัน เดินตามรอยเท้าของใครกัน แสวงหาวารวันโลกนิทาน ฟอนไฟในแววตา มีความไร้เดียงสาในหมอกม่าน ความสุขเล็กๆเบ่งบาน บนรอยร้าวรานของพระจันทร์ ตากับยายตำข้าว เอ่ยปากถึงเรื่องราวเด็กช่างฝัน ความอบอุ่นคุ้นจำนรรจ์ หากแต่ไร้ความผูกพันเมื่อแหงนมอง เข้าใกล้ความด้านชา ปวดร้าวรอนล้าไปทุกห้อง หัวใจไร้คำตอบการครอบครอง ไม่มีเจ้าของความเป็นเรา เงาหม่นก็หม่นพร่า สะกดคำอำลาอย่างเงียบเหงา นับหนึ่งถึงศูนย์ขึ้นเบาๆ หุ่นกระบอกตัวเก่าไร้คนดู ฉันหยิบมันขึ้นมา จะเดินหน้าหันหลังยังไม่รู้ บางขณะฉันเตลิดคอย เชิด-ชู เพื่อแทนการมีอยู่ของตัวเอง ท่ามกลาง คืนค่ำคนรำพึง แสงดาวส่องถึงจะปลั่งเปล่ง รอยร้าวรอยนั้นจะบรรเลง ขับกล่อมบทเพลงสู่นิทรา เพื่อปฏิเสธความรู้สึก แห่งมโนสำนึกว่าห่วงหา แม้ดาวร้อยลอยเลื่อนนั้นเลือนลา จะวาดฝันบนฟ้าไว้แหงนมอง
1 เมษายน 2553 12:40 น. - comment id 1117304
-- เหมือนเดินในเงาหมอกโลกฝันของคนเขียนฝัน หยิบหุ่นกระบอกของตัวฉันเองออกมาดู เช่นกัน คล้ายจะชัด เหมือนจะใช่ แต่ยังไม่ชัด หน้าของหุ่นกระบอกแต่ละตัวไม่เหมือนกัน มีหลายเรื่องราวในหนึ่งฝัน ถูกแล้ว,, ความฝันไม่จำเป็นต้องอาศัยตรรกะในการเป็นฝัน
1 เมษายน 2553 12:45 น. - comment id 1117306
ดาวก็งามงด จันทร์ก็สดส่อง สองดวงน่ามอง ผุดผ่องจันทร์ดาว หัวใจมันใฝ่สูง อยากจูงในคืนหนาว นอนเรียงเคียงเดือนดาว ฟ้าพราวไม่ยืนดี จึงต้องคลี่ทางชีวิต ได้เพียงมิตรในอิตถี ทางที่ยาวในคราวนี้ คงไม่มีที่ให้ยืน ดาวก็เป็นดาวอยู่คราวนั้น จันทร์ก็เป็นจันทร์มิหันอื่น อาจเลี่ยงเพียงพรางบางคำคืน บางคราวขัดขืนฝืนดิ้อดึง ดูดวงดาวเหล่านั้นหลายพันนัก ยากจะปักหัวใจให้ดาวหนึ่ง แต่ว่าจันทร์แบ่งเสี้ยวรูปเคียวครึ่ง แม้มีหนึ่งลำบากจะฝากใจ ไม่ฝากจันทร์ทรือฝากดาวให้ร้าวรวด เกรงจะปวดเพราะว่าเขาพาเจ้าหาย ดีหรือเปล่าหากอยู่เดียวเปลี่ยวหัวใจ สร้างคานทองสวยสดใสไว้เกาะนอน
2 เมษายน 2553 13:03 น. - comment id 1117672
สุดยอดไปเลยขอรับ ^^b
2 เมษายน 2553 16:17 น. - comment id 1117783
แวะมาเยี่ยมค่ะ
2 เมษายน 2553 21:11 น. - comment id 1117932
สวัสดีค่ะ คุณคืนแรมสามค่ำหน้าร้อน ขอบคุณตัวหนังสือของคุณนะคะ สำหรับปาลินแล้ว มักจะฝันลมๆแล้งๆค่ะ อารมณ์ไม่คงที่ และมักทำเสียเรื่องอยู่บ่อยๆ ** หุ่นเอยหุ่นกระบอก นัยน์ตาเจ้าช้ำชอกหรือฉ่ำชื่น เหนื่อยไหมทุกคราวที่เจ้ายืน เมื่อเจ้าตื่นแย้มยิ้มอยู่ลำพัง ใครเอยมาเอ่ยฝัน กระตุกถ้อยจำนรรจ์เจ้าหันหลัง สงสัยหรือเปล่าทุกคราวฟัง ว่าเจ้ายังรับรู้อย่างผู้คอย
2 เมษายน 2553 21:13 น. - comment id 1117933
สวัสดีค่ะ คุณ เดินไม่ทันเงา กลอนแจมเพราะมากๆค่ะ ขอบคุณนะคะ ** แสงวิบวาวจากดาวใส เชิญดื่มรินน้ำใจลงพักก่อน ทางช้างเผือกทอดยาวคราวแรมรอน เป็นที่พักคนจรชั่วครั้งคราว พรุ่งนี้เราเดินทาง หอบผ้าผืนบางในคืนหนาว ห่มฟ้าห่มลมผสมดาว นานยาวเนื่องนับราตรีกาล รวยรินกับความฝัน เอนความผูกพันในวันผ่าน แทนรอยร้างร้าวอันยาวนาน หวังฟังนิทานมากล่อมนอน จันทร์เอยจันทร์เรียว คมเคียวแจ่มจันทร์นั้นออดอ้อน ข้างหน้าต่างบานหนึ่งจึงขอพร หยิบดวงดาวแทนหมอนให้ฉันที
2 เมษายน 2553 21:14 น. - comment id 1117934
สวัสดีค่ะคุณครูกระดาษทราย ชอบรูปมากค่ะ เข้ากับบทกลอนของปาลินเลย นี่ถ้าเจอเร็วกว่านี้ จะแอบขโมยแล้ว ** วาดดาวไว้กลางฟ้า ระบายความปรารถนาในคืนหม่น อยากนั่งตรงนี้ด้วยสักคน จับมือหมุนวนไปพร้อมกัน
2 เมษายน 2553 21:16 น. - comment id 1117935
สวัสดีค่ะ คุณกระบี่ใบไม้ ชอบชื่อคุณนะคะ ชอบคำว่าใบไม้ ^^ ** ใบไม้พลิ้วไสวท่ามลมพัด วิบไหวดาวนัดกันพริบแสง เคลื่อนคล้อยราตรีที่อ่อนแรง เหนื่อยไหมดาวแดงเจ้าทักทาย
2 เมษายน 2553 21:16 น. - comment id 1117936
สวัสดีค่ะ คุณนรสิริ ขอบคุณสำหรับน้ำใจค่ะ จำได้เสมอเลยนะคะ ** ดาวเหลืองดวงนั้นหันมาตอบ ยิ้มปลอบยลอยู่ไม่รู้หาย กี่ปีกี่วันแม้จันทร์คลาย จะไม่หายห่างเร้นเป็นเพื่อนเธอ
3 เมษายน 2553 14:01 น. - comment id 1118177
กระบี่คือคมกล้าศาสตราวุธ แหลมที่สุดและสูงส่งทนงค่า มิใช่แรงแห่งอำนาจของศาสตรา แต่คือแรงที่แข็งกล้าของหัวใจ ใบไม้มีหลากสีสันจรรโลงโลก แม้ยามโศกเศร้าสะท้อนไม่อ่อนไหว ใช้ชีวิตที่ยังเหลือสร้างเยื่อใย หยิ่งในความยิ่งใหญ่ของใบบัง มีอักษรซุกซ่อนคมพรหมลิขิต มีชีวิตที่ยังเหลือเพื่อผิดหวัง เป็นไม้ใบแห่งฤดีที่จีรัง มีความหลังที่ล้นเหลือ...เพื่อรอคอย ว่างๆแวะไปเยี่ยมห้องกลอนของข้าน้อยบ้างนะครับ http://writer.dek-d.com/Sunshiro2008/writer/view.php?id=422857
3 เมษายน 2553 14:11 น. - comment id 1118181
เพราะจังครับชอบมาก ๆ แล้วเขียนให้อ่านอีกนะครับ