24 กุมภาพันธ์ 2553 18:08 น. - comment id 1104061
มุมมองของกวี ซีม่า...ครับ เฉดสีที่มองเห็น ไม่จำเป็นต้องเลือกสี ปล่อยวางในบางที อาจมีทางกระจ่างใจ ใจเน้นความเป็นกลาง เปิดใจกว้างยอมรับได้ ไม่เกี่ยวข้องกับสีใด เพื่อถิ่นไทยสุขไพบูลย์ เฉดสีที่แตกต่าง อาจลบล้างไทยเป็นศูนย์ ถูกเผาในกองกูณฑ์ ผู้อาดูรคือผู้ใด เฉดสีที่มองเห็น นำทุกข์เข็ญจำเป็นไหม ? เมื่อไรหนอเมื่อไร ไทยทั้งผองปรองดองกัน
24 กุมภาพันธ์ 2553 20:59 น. - comment id 1104146
คำว่า "เฉดสี" ทำให้ฝนนึกไปถึงสายรุ้งเลยเนาะ อัลมิตรา มีหลายสีอยู่บนผืนแผ่นเดียวกันรวมกันแล้วก็ทำมุมโค้งแลดูสวยงาม ไม่แข็งกระด้าง และก็ไม่เลอะเทอะ
24 กุมภาพันธ์ 2553 21:58 น. - comment id 1104158
โอย...แสบตา
24 กุมภาพันธ์ 2553 22:34 น. - comment id 1104163
ขดแย้งอย่างสร้างสรรค์ นั้นเป็นส่วนหนึ่งของประชาธิปไตย ครับ
24 กุมภาพันธ์ 2553 22:37 น. - comment id 1104166
เมื่อเฉดสีตีกันบรรลัยล้าง มีผู้วางแผนฆ่าน่าสงสัย ให้ประชาแยกสีประเทศไทย ต้องใส่ไฟให้คุและลุกลาม มีพวกโรงน้ำแข็งไว้แต่งเรื่อง ทำลายเมืองตอกย้ำแต่คำถาม อีกพวกหนึ่งตัดสินไม่สิ้นความ สื่อก็ทรามหยามเหยียดให้เกลียดกัน บ้านเมืองใดยุติธรรมถูกทำลาย ความฉิบหายเกิดแน่แม้ถูกกั้น ใครจะยอมถูกดขี่ทุกวี่วัน จะไม่ให้ใครหยันฟันข้างเดียว ....................................................... ไม่มีคำบอกเล่าใดใดในยามนี้...... มีคำหนึ่งทีที่จำได้... ช่วยคนดีให้ปกครองบ้านเมือง.... แต่วันนี้ข่วยเช่นนั้นไม่ได้... ก็ขอช่วยให้คนดีไม่ถูกรังแก...เท่านั้นพอ
24 กุมภาพันธ์ 2553 22:42 น. - comment id 1104169
แวะมาเยี่ยมเฉยๆ ครับ
24 กุมภาพันธ์ 2553 22:51 น. - comment id 1104172
สวัสดีค่ะ เฉดสีที่มองเห็น หลากประเด็นหลายปัญหา พิสูจน์ได้ด้วยปัญญา ของดีแท้ต้องคงทน
24 กุมภาพันธ์ 2553 22:59 น. - comment id 1104175
จากหนังสือไอน์ไสตน์พบพระพุทธเจ้าเห็น พอสุรปได้ว่าทุกสิ่งทุกอย่างบนโลกนี้ล้วนไม่มีอะไรเลย แม้แต่สี ก็ไม่มี จะมีก็ต่อเมื่อเราไปสังเกตเห็นมันเท่านั้น จะเห็นก็ต่อเมื่อแสงจากดวงอาทิตย์ตกกระทบมายังผืนผ้า และอนุภาคโฟตอนของผ้านั้นตกกระทบมายังสายตามนุษย์เท่านั้น ดังนั้นทุกอย่างล้วนเป็นมายาตามพระพุทธศาสนา เราไม่ควรอย่าไปยึดติดกับเฉดสีใด ๆ โดยไม่ใช้สตินำทางครับ
25 กุมภาพันธ์ 2553 07:16 น. - comment id 1104229
อรุณสวัสดิ์ค่ะ เช้านี้อากาศดี ไม่ร้อน ไม่เย็นจนเกินไปนัก ได้สูดอากาศบริสุทธิ์ก่อนใคร ๆ อีกด้วย การมีเวลาให้กับตัวเองในยามเช้า ทำให้เหมือนได้เปรียบคนที่ยังซบเซาอยู่บนที่นอน อัลมิตราทานมื้อเช้าแล้ว รู้สึกว่าการทานมื้อเช้าเป็นวินัยที่อัลมิตราปฏิบัติอย่างเคร่งครัด สำหรับเพื่อนบางคนที่ทานกาแฟเพียงแก้วเดียว และใช้พลังงานจากกาแฟจนเที่ยง จนเย็น ก็อยากจะให้เพื่อนปรับพฤติกรรมสักนิด โดยการเริ่มทานมื้อเช้าอย่างที่เรียกว่ารักษาสุขภาพ ว่าแล้ว.. เห็นที่จะต้องขอตัวไปทานมะม่วงสุกก่อนล่ะ ตะกี้แม่ค้ายังไม่มา ป่านนี้คงมาแล้ว ข้าวเหนียวไม่ค่อยสน แต่มะม่วงสุก เล็งมาสองวันแล้ว .. วันนี้จะให้รางวัลตัวเองสักผล ล่ะ
25 กุมภาพันธ์ 2553 11:00 น. - comment id 1104251
ดีจร้า...คุงอัล.. แหมะ...วันนี้....เด็ดขาด...มาดอัลมิตรา...เชียว...อิอิ คุยด้วยน้า...จ๊ะ... ถ้ามองเฉดสี...บนผืนผ้า มันก็ต้องงามตา...อยู่แล้ว เพราะลายผ้า...จัดไว้เป็นแนว ไม่กระแด่ว...จนลายเปลี่ยนไป อิอิ (แต่ผมขอ).... เปรียบประเทศเป็นกระดาษ เปียกหมาดๆ...ดั่งสีขาวใส พู่กันรัฐฯ จัดวาดไป ประชาไทย...เป็นสีทา รัฐคอยรดน้ำ...พรมกระดาษ เพื่อเขียนวาดตามแต่ปรารถนา เกินรึขาด...หลักเกณฑ์คือธัมมา กลับกลายเป็นวาสนา...ที่พาไป ประชาคือสีหยด แต่ไร้กฎผสม...เตรียมรอไว้ เสกว่าศักดิ์แต่หยดตามชอบใจ กระจายไป...ซึมไปไหนก็ช่างมัน... สีเลยไปเบียดเสียด... เหลื่อมกล้ำเกียรติ...ลดสีสรรค์ แทนที่รัฐ...จะป้องกัน... เก็บเกินกั้น...สีสรรค์ตามครรลอง ที่เกริ่นก็เพื่อเพียง...ว่า จริงก็นานา...สีที่ค่าหม่นหมอง เพราะพู่กันรัฐฯ...โดนครอบครอง จากสี(คน)ที่หมอง...แล้วก็ขึ้นมาถือมัน... มันผิด...มาตั้งแต่... คนที่เป็นผู้แทน...ที่มีอัตตา... ขึ้นมาปกครองบ้านเมือง... ปล่อยให้...ค่านิยมผิดๆ.. มาหล่อหลอชีวิตของคนในชาติ จนที่สุด...ค่านิยม...นั้นๆ ก็เลยกลายเป็น นิสัยถาวร...ของคนในชาติ และก็คนในชาติ...นี่แหละ ที่ขึ้นมาเก็บเกี่ยวผลประโยชน์ จากผ้าขาวฝืนนี้... (ที่ว่า...เนี๊ยะ...ตั้งแต่...เมื่อ...เริ่มๆ... เปลี่ยนมาใช้ระบอบฯ พ.ศ.โน้น... เด้วคนที่มีอคติ...จะมองผิด...นะจ๊ะ) ผ้าผืนนี้...เมื่อก่อน...มีลวดลาย ที่สวยงามมาก...จร้า... จากที่กล่าวมา... ผ้าผืนนี้...สีมันเหลื่อมกัน... จนเป็นความเลอะเทอะ...หมดแระ... สีแห่งสื่อ...ก็เสื่อม สีแห่งจิต...ก็เสื่อม สีแห่งศรัทธา...ก็เสื่อม สีแห่งชีวิต...ก็ต้องเสื่อมตามไปในไม่ช้า... ตอนนี้...ที่เหลืออยู่...เห็นมีดีแต่... สีแห่งวิญญาณ...ของความเป็นไทย... ที่แกร่งมาก... มองดูซิ... ทุกฝ่ายอ้างว่า...เราคือ ไทย... โดยที่ลืม...ไป...ว่า... เป็นไทยที่อะไรเสื่อมไปบ้าง... หลายคนบอกว่า...เบื่อการเมือง... อยากให้ลองตรองดูว่า... อุปกรณ์ใดในตัวเสื่อมบ้าง... เพราะมันหนีไม่ออก...หรอกจร้า..... เราไม่เจอ...ลูกเราก็เจอ... อยู่ดี....เน๊าะ คุงอัลฯจร้า...ผมชอบความคิดคุณนะ... ชอบตามมาคุยด้วย...อ่ะ... บ้างที...ได้ปลดปล่อย...ความนึกคิดบ้าง...อ่ะนะๆ พูดจบ...ขอตัว...ไปสอยมะม่วงทานบ้างแระ...จร้า... ขอบคุณจร้า...ที่ให้บ่น...
25 กุมภาพันธ์ 2553 11:25 น. - comment id 1104262
สีอะไรก็ได้ค่ะ ขอให้สีทนได้ก็พอแล้วค๊า..
25 กุมภาพันธ์ 2553 12:47 น. - comment id 1104275
เลิศศศศศศศศศศศศ ครับคุณผู้หญิง แม้สีสันพรรณรายจะหลายหลาก แม้จะมากหลากหลายซึ่งลายสี ตัวแทนความต่ำทรามและความดี แต่ปวงสี..ที่เห็น..เป็นมายา
25 กุมภาพันธ์ 2553 12:51 น. - comment id 1104276
คุณกวีซีม่า .. ยินดีกับแซยิดที่ผ่านไปด้วยค่ะ :) . ".เฉดสีที่มองเห็น ไม่จำเป็นต้องเลือกสี ปล่อยวางในบางที อาจมีทางกระจ่างใจ" บทนี้ช่างคมคายจังค่ะ คุณโคลอน .. ก็เพราะว่า ในแต่ละคนไม่ยอมที่จะกลมกลืนกัน ทั้งที่ความจริงแล้ว การประสมสี มันก็ไม่ได้หมายความว่าทำให้สีนั้นหายไป เพื่อสีที่เกิดใหม่ เพื่อสิ่งที่ยอมรับกันได้ บางทีก็ต้องเลือกให้เป็น SUBSET อะนะ คุณใบคา .. ต้องหลับตาพักยาวล่ะ เผื่อว่า เมื่อลืมตาขึ้นมา ก็จะได้พบสิ่งที่สดใสค่ะ คุณไอยรา .. ก็ต้องวิเคราะห์เชิงลึกในข้อขัดแย้งนั้นค่ะ ว่าสร้างสรรค์หรือเปล่า นายพระจันทร์ .. แหะ แหะ หมู่นี้อัลมิตราหลับก่อนนายพระจันทร์มาหลายหนแล้วนะ เขียนได้คมบาดเนื้อเลือดซิป ๆ แท้ .. ขำน่ะ พวกโรงน้ำแข็ง 5555 อุปมาได้ประหลาดแท้ คุณมวลภมร .. เฉย ๆ นี้ หมายถึง ไม่ดุ๊กดิ๊กด้วยหรือเปล่าคะ นิ่งสนิทเชียวนะนั่น คุณกันนาเทวี .. เชื่อได้ว่า สถานการณ์จะดีขึ้นค่ะ คุณสุริยันต์ .. ใช่แล้ว ทุกสิ่งว่างเปล่า กระทั่งแสงจากพระอาทิตย์ที่ส่องผ่านมายังผิวโลก ที่พวกเรามองกันไม่เห็นว่ามีสีอะไรบ้าง (ด้วยตาเปล่า) หากเมื่อแยกแยะทางวิทยาศาสตร์แล้ว ก็จะพบว่า มีหลายสีทีเดียว เป็นสิ่งที่จับต้องไม่ได้ แต่พิสูจน์ได้ และให้ข้อคิดมากมายทีเดียวค่ะ คุณkirati .. :) ได้แง่คิดอีกมุมมอง ซึ่งก็ดีนะ ถ้ามาอ่าน ปลี้ ๆเปล่า ๆ โดยไม่กลั่นไม่กรองบ้าง ก็อาจจะเรียกได้ว่า ได้ผลประโยชน์ยังไม่คุ้มค่าเท่าที่ควร อ่านความคิดของคุณแล้วทำให้นึกถึงเพลงหนึ่ง ซึ่งเป็นเพลงดังทีเดียว ให้ความหมายของเพลงดีมาก วงแมงป่องผยองเดช เคยฟังมั๊ย Dust in the wind, All we are is dust in the wind ... คุณแก้วประภัสสร .. แหมมมมม มาเลยเชียว มาซักผ้า ล้างจาน ซะให้เข็ด
25 กุมภาพันธ์ 2553 12:58 น. - comment id 1104278
คุณแมวเหลือง .. ( แหะ แหะ แบบนี้หรือเปล่านะที่เขาเรียกกันว่า หัวโขกกันโป๊ก) ทุกวันนี้ อัลมิตรายังนึกถึงเรื่องของท้าวศรีสุดาจันทร์ เชื้อพระวงศ์สายสุพรรณ อยู่เลยค่ะ สมมุติว่า คราวนั้นท้าวศรีสุดาจันทร์ เป็นฝ่ายชนะ ประวัติศาสตร์ที่เราร่ำเรียนกัน จะเป็นในรูปแบบไหนหนอ
25 กุมภาพันธ์ 2553 13:25 น. - comment id 1104288
เฉดสี..ต้องผสมให้เท่ากันๆ ม่ายงั้นมันจะเข้มไปอีกทางหนึ่งอิอิ... ..แต่ทุกๆ สีหากเอามารวมๆ มันก้อจะเปงสีเดียว..อะนะ สมัยเป็นเด็กมัธยม จะชอบเรื่องสีมาก เพราะ มักจะมีกีฬาสี...สนุกตรงได้เล่นกีฬา..สนุกตรงนักเรียนหลายๆชั้นมาอยู่รวมกัน.. ...แต่มันจะไม่ดีตรงช่วงหนึ่ง คือตอนเลิกกีฬาสี ..ตามใบหน้า ลำคอ...แขน จะลอกอะ.. อิอิ..
25 กุมภาพันธ์ 2553 14:52 น. - comment id 1104311
คุณกิ่งโศก .. ชวนรำลึกถึงตอนที่ยังเรียน งานกีฬาสี เป็นอะไรที่สนุกมาก พิธีปิดตรงกับวันเฉลิมฉลองคริสมาสต์ อัลมิตราเล่นกีฬาหลายอย่าง ตอนอยู่ในขบวนพาเหรดก็อยู่กองหน้ากลุ่มนักกีฬา ก็สนุกดีนะ เป็นสีสันที่รอคอย ตื่นตา ตื่นใจ ตื่นเต้น ค่ะ
25 กุมภาพันธ์ 2553 15:13 น. - comment id 1104318
สวัสดีตอนสายๆครับ ศิษย์พี่ ตอนที่ศิษย์น้องเรียนมัธยม มีพระท่านหนึ่งพูดให้ฟัง ความรักที่สมดุล คือรักตัวเองครึ่ง รักคนอื่นครึ่ง เดินไปตามสายกลาง จะเป็นทางแห่งความสงบร่มเย็น เวลาแวะมาบ้านกลอน ก็รู้สึกดี ที่หลายๆ คนไม่ได้สนใจเฉพาะเรื่องของตนเอง ยังสนใจผู้อื่นและสังคมรอบข้าง ดูจากเจตนาของหลายๆ คน ต่างก็หวังให้สังคมดีขึ้น ศิษย์น้องชอบอ่านปรัชญาของพระพุทธเจ้า เพราะให้แง่คิด และสามารถนำมาปรับใช้ในชีวิตประจำวันได้เป็นอย่างดี พระพุทธเจ้า สอนให้เราเอาชนะใจตัวเอง เป็นบุคคลที่ผ่านการฝึกทางจิตมาแล้ว ส่วนบุคคลที่ยังไม่ผ่านการฝึก จะมุ่งเอาชนะคนอื่น เคยอ่านหลักการของฝรั่ง เวลามีกรณีพิพาท หรือข้อขัดแย้ง เขาจะยึดหลักการ win to win พยายามหาวิธีการที่จะทำให้แต่ละฝ่ายได้ชัยชนะร่วมกัน ถ้าจะลองย้อนถามสังคม ของผู้ที่แบ่งฝ่ายทางการเมือง และมุ่งที่จะรบราฆ่าฟัน เอาชนะอีกฝ่าย ถ้าฝ่ายของตนได้รับชัยชนะ แน่ใจหรือว่าจะนำสันติสุขมาสู่สังคมโดยรวม อะไรคือจุดที่ทั้งสองฝ่ายจะได้รับชัยชนะร่วมกัน สิ่งนั้นน่าจะเป็นสิ่งที่นำมาซึ่งชัยชนะของสังคมไทยทั้งประเทศ ทุกคนต่างก็รักชาติ เพียงแต่วิธีการของฝ่ายนั้นๆ นำมาซึ่งความสงบสุขของคนไทยทั้งชาติแล้วหรือยัง ปัญหาต่างๆ ศิษย์น้องมองว่า เหมือนกับก้อนหินที่โยนมาใส่เรา ก็ขึ้นอยู่กับเราว่าจะเอาไปสร้างกำแพง หรือสร้างสะพาน พูดมายาวเลยนะครับ สงสัยศิษย์พี่จะเมื่อยสายตาแล้ว แต่ไม่ว่าอย่างไร ถนนสายนี้ ศิษย์พี่จะไม่เดินอยู่อย่างโดดเดี่ยว เพราะเราคือพี่น้องกัน และจะเดินไปด้วยกันตลอดไป ขอให้มีแต่ความสุขครับ
25 กุมภาพันธ์ 2553 17:16 น. - comment id 1104364
ศิษย์น้อง .. ไม่ว่าอย่างไร ถนนสายนี้ ศิษย์พี่จะไม่เดินอยู่อย่างโดดเดี่ยว เพราะเราคือพี่น้องกัน และจะเดินไปด้วยกันตลอดไป ประโยคนี้ทำให้นึกถึงสโลแกนที่ชาวเดอะค็อปร้องเพลงให้กับทีมลูกหนังของเขาบ่อย ๆ You'll never walk alone .. เรื่องของคนที่ต่างความคิดเห็น มันยากที่จะให้ใครสักคนถอย ยากที่จะให้ใครสักคนยอม เพราะนั่นหมายถึงศักดิ์ศรี โดยเฉพาะผู้ที่ถือว่าตนเองถูกต้อง ก็ยิ่งลดค่านั้นไม่ได้เป็นอันขาด ซึ่งที่จริงแล้ว การถอยสักก้าว เพื่อให้เห็นมุมที่กว้างขึ้น การยอมสักนิด เพื่อเปิดโอกาสให้คนอื่นแสดงความคิดเห็น บางทีปมที่ขมวดเกลียวแน่นอาจจะมีทางแก้ไขได้ ไม่ใช่ว่า ต่างก็ต่างดึง ปมปัญหาก็ไม่ได้แก้ไขให้คลี่คลายสักที มีแต่ดึงกันไป ดึงกันมา ท้ายสุด ก็ขาด .. ตอนนี้เราจัดตารางเวลาของเราอย่างพิถีพิถันมาก พยายามให้เวลากับตัวเองมากกว่าแต่ก่อน อ่านหนังสือที่อยากอ่าน ทำในหลาย ๆ อย่างที่คิดจะทำ ซึ่งในโอกาสที่เหลืออยู่ อาจจะทำได้ไม่หมดเท่าที่ตั้งใจไว้ แต่ก็ยังดีที่ได้ใช้เวลานั้นตามใจชอบ ส่วนความเป็นไปของบ้านเมือง มันเลี่ยงไม่ได้ที่จะต้องรับรู้ และร่วมทุกข์สุขไปพร้อม ๆ กับเพื่อนไทยอีกหลายล้านคน ไม่ว่าจะเป็นสีไหน ฝ่ายไหน แต่ดั้งเดิมมาก็ไม่มีแตกเหล่า เพิ่งจะมีก็ไม่นานมานี้เอง และจะมีมากขึ้นหรือจะหาย ?? ศิษย์น้องอ่านเรื่องการละเลงสีของคุณกีรติสิ ให้แง่คิดดีทีเดียว เหมือนกระดาษที่ปาดน้ำรอท่าไว้แล้ว เหลือแต่การลงสี เราได้ใช้เวลาไปในก่อนหน้านี้ ในการวาดรูป ระบายสี ซึ่งก็ได้ภาพตามที่ตั้งใจบ้าง ไม่ถูกใจบ้าง ต้องปรับแต่งเพื่อให้ดูดี มันก็เลยทำให้ได้บทเรียนนะ บทเรียนจากการวาดรูป ทำให้รู้จักนิ่งด้วย ลองดูสิ ว่าแต่ว่า รูปยูนิคอร์น จะเก็บไว้ให้นะ บางทีภาพที่ถ่ายออกมาโชว์มันอาจจะดูดีกว่าของจริงที่ปรากฏบนกระดาษ นี่ก็พยายามเก็บรักษาไว้เป็นอย่างดี แต่ก็ยับนิด ๆ ฮา เอาเป็นว่า ถ้าไม่ขาดหรือบอบช้ำไปมากกว่านั้น ไว้จะเอาไปฝาก ไม่คิดตังค์
25 กุมภาพันธ์ 2553 19:36 น. - comment id 1104390
ขอบคุณครับ อ่านหมดแล้วครับ ยิ่งอ่านมาก ยิ่งเปิดโลกทัศน์มากขึ้น ได้เห็นอะไรหลากหลาย ได้รับรู้มุมมองอื่นๆ หลายๆ ท่านที่นี่ ก็มีความคิดดีๆ กันทั้งนั้น น่าชื่นชมครับ ^ ^
25 กุมภาพันธ์ 2553 19:52 น. - comment id 1104397
20..........
26 กุมภาพันธ์ 2553 12:39 น. - comment id 1104546
เห็นด้วยค่ะ
26 กุมภาพันธ์ 2553 20:11 น. - comment id 1104689