แม่ชีน้อย สัมมาสัมพุทธะ พุทธวัจนะที่บรรเจิด มวลธรรมอันล้ำเลิศ ก็บังเกิดธสันดาน มนุษย์สัตว์แลน้อยใหญ่ รำลึกไปวัฏฏะสาร ก่อเกิดความพิสดาร กมลมาลย์ก็อ่อนล้า มุ่งมั่นในธารธรรม ก็เลิศล้ำสุดพรรณนา ดั่งเด็กไร้เดียงสา เพาะปัญญาแด่เยาว์วัย ท่องบ่นธรรมพลิกกาย ก็ซึ้งไสวมวลอาศัย ดินแดนแห่งวิไล สิ่งไฉไลเข้าครอบงำ ตัดกิเลสทางโลก เข้าบริโภคสิ่งเลิศล้ำ โลภะโทสะนำ โมหะย้ำจนผิดทาง สิ้นแล้วในทางก่อ สิ่งลวงล่อมิอาจขวาง มุ่งมั่นกิเลสจาง เข้าสะสางซึ่งปัญหา เข้าสู่สาวิกา เป็นสิกขาลัยวาสนา สำนักชีเมตตา พุทธศาสนาก็ชื่นบาน มุ่งมั่นในทางธรรม ปัญญาล้ำก็หฤหรรษ์ ตัดแล้วกิเลสพลัน ด้วยจิตมั่นแม้เยาว์วัย สร้างสรรค์พุทธศาสน์ ผ้าขาวสอาดบ่งบอกไว้ ครองจิตอันวิไล มิให้สลายปัญญาเกิด ตรวจสอบแล้วละวาง มุ่งลดล้างกายงามเลิศ ลดเลิกสิ่งบรรเจิด หวังกำเนิดทางนิพพาน อริยสัจจ์สี่สร้าง เป็นหนทางแห่งสืบสาน หฤทัยก็เบิกบาน เข้าประสานแห่งปัญญา รอบรู้กิเลสทุกข์ ที่คอยปลุกแห่งกายา ลิดรอนสิ่งกังขา พบทางหาเข้ามาขยาย มรรคแปดชี้บ่งบอก ที่ล่อหลอกให้กระจาย ลบล้างให้สิ้นสลาย ศีลลูบไล้ด้วยกฎเกณฑ์ สมาธิเข้าวางละ สร้างพุทธะแห่งปัญญา ก็ลบกิเลสหนา เข้ามรรคาโสดาบัน ทุกสิ่งวางข้างหลัง ก็เกิดพลังแห่งฌานนั้น ล่วงลุกายาพลัน ที่แบ่งปันทุกข์ทั้งผอง ล่วงสู่อนาคามี บานเต็มที่ปัญญาครอง โลกุตระหมายปอง อรหันต์สนองสิ้นสุดทาง. ** แก้วประเสริฐ. **
20 มกราคม 2553 21:38 น. - comment id 1088762
เคยได้รับเมลล์นี้ค่ะ ประทับใจมาก..เห็นแล้วปลื้ม..อิ่มอกอิ่มใจ สุขใจแทนคุณพ่อคุณแม่ของแม่ชีน้อย... ภาพงดงาม...จริงๆๆ
20 มกราคม 2553 21:43 น. - comment id 1088763
คุณ ครูพิม ก็ด้วยภาพต่างๆนั้นน่าประทับใจมากจริงๆ แม้ว่าจะไม่มีการบรรยาย แต่ภาพบรรยายให้ เสร็จทั้งหมดเลยก็ว่าได้ครับ ดูแล้วสุดปลื้มจริงๆ ทำให้ผมสายตาแย่ก็ยังอดไม่ได้ที่จะนำมาเผยแพร่ รีบเขียนๆๆแล้วก็ลงเลยภาพจะเอามาหมดก็ไม่ดี เลยคัดให้สอดคล้องกันมาให้ชมครับ รักเสมอ แก้วประเสริฐ.
20 มกราคม 2553 22:10 น. - comment id 1088778
อ่านแล้วศรัทธาในตัวแม่ชีน้อยจังค่ะครู แวะมาสวัสดีครูค่ะ ดูแลสุขภาพด้วยนะคะ
20 มกราคม 2553 22:21 น. - comment id 1088783
แม่ชีน้อย น่าเสือมใส แต่ก้อน่าเป็นห่วง เด้กอยู่มากทำไรยังต้องมีคนคอยดูแล ใกล้ชิด
21 มกราคม 2553 00:25 น. - comment id 1088803
น่ารักจริงๆอ่ะ กลอนก็เพราะนะเจ้าคะ มาชื่นชมเจ้าคะ รักษาสุขภาพนะคะ
21 มกราคม 2553 06:23 น. - comment id 1088825
แม้ชีน้อยกลอยใจสดใสนัก แสนน่ารักบริสุทธิ์ดุจผ้าขาว สะอาดกายสะอาดใจคล้ายเพชรวาว ประดุจดาวน้อยน้อยลอยเมฆา...
21 มกราคม 2553 06:35 น. - comment id 1088832
ผมแวะมาฟังธรรมครับ..พร้อมกับชื่นชมแม่ชีน้อย ครับผม..
21 มกราคม 2553 08:18 น. - comment id 1088864
ภาพบ่งบอกถึงความเอิบอิ่มในบุญ และความสีขาวคือความบริสุทธิ์ผุดผ่อง ดูแล้วจำเริญตา จำเริญใจครับครูแก้ว ..อ่านบทนี้ แล้วดูมีความสงบดีครับครู.. อ่านในเม้นเห็นครูว่าจ้องคอมฯนาน แล้วน้ำตาไหล อันนี้อาการคงเกิดจากการใช้สายตามากนะครับครู ต้องพัก สายตา ไปมองอย่างอื่นๆ ให้คลาย ก่อนนะครับ แล้วค่อยมาใช้คอมใหม่.. ผมเองตอนนี้ต้องอาศัยแว่นด้วย ..เริ่มแย่เช่นกัน เพราะใช้คอม ฯตลอดวัน ดูแลสุขภาพด้วยครับครู เป็นห่วงครับ
21 มกราคม 2553 10:47 น. - comment id 1088963
สวัสดีค่ะคุณลุงแก้วฯ อ่านและดูภาพแล้ว มีความสุขไปด้วยจังเลยค่ะ คิดเหมือนกันนะคะว่าวันนึงคงได้มีโอกาสเดินทางสงบอย่างนี้บ้าง มาร่วมอนุโมทนากับแม่ชีน้อยค่ะ ขอให้เจริญในทางธรรม...สาธุ
21 มกราคม 2553 11:20 น. - comment id 1088986
ชื่นชมด้วยใจจริงค่ะ
21 มกราคม 2553 12:36 น. - comment id 1089017
ดูหน้าตาท่านมีความสุขมากนะคะ ที่เค้าว่าอิ่มบุญ คงเป็นแบบนี้ รักษาสุขภาพนะคะพ่อ แพรวกำลังปรับชีวีตของตัวเองอยู่ เลยวุ่นๆค่ะ รักพ่อแก้วเสมอค่ะ
21 มกราคม 2553 12:44 น. - comment id 1089019
คุณ เทียนหยด ศิษย์รักเรา ครูเห็นก็รู้สึกฉงนใจน่าทึ่งมาก สิ่งแรกครูนึกว่าเป็นการแสดงโชว์เสียอีกแต่เมื่อ มาพิจารณาภาพต่างๆแล้วถึงทราบว่าเป็นการที่บริสุทธิ์ ใจยิ่งด้วยนิสัยครูเองไม่ค่อยเชื่อใครง่ายๆนักจึงทำ ให้เกิดกังขา หากการแสดงนี้จริงใบหน้าและการ ท่องตลอดจนอื่นๆต่างมิได้มีจุดที่จะจับผิดได้เลยถึง ทราบว่าเป็นการบริสุทธิ์ใจของเด็กหญิงคนนี้เองที่ มีความตั้งใจอย่างแน่วแน่ คงจะได้รับการ อบรมบ่มนิสัย และอีกประการหนึ่งต้องมีความ ต่อเนื่องมาจากชาติก่อนอีกด้วยที่เธอสะสมไว้ เข้ามาหนุนอีกประการหนึ่ง จึงทำให้เธอเองผิด กับเด็กทั่วๆไป ครูเองเมื่อพิจารณาแล้วทึ่งและ อนุโมทนาในใจ เลยรีบแต่งเพื่อแสดงถึงความ จริงใจและอนุโมทนาต่อสิ่งเหล่านี้ การเขียน เกิดเมื่ออ่านเสร็จรีบเขียนอาจจะไม่ดีนักเพราะ ไม่ได้ตรวจสอบอีกอย่างสายตาก็ไม่ค่อยจะดีนัก และร่างกายยังไม่ดีเท่าที่ควรจ๊ะ รักศิษย์เราเสมอๆ แก้วประเสริฐ.
21 มกราคม 2553 12:57 น. - comment id 1089022
คุณ ไหมไทย บอกตรงๆว่าไม่น่าเป็นห่วงหรอกครับ เพราะ ไม่ว่าจะเป็นเด็กหรือผู้ใหญ่ก็ตาม เมื่อเข้าสู่ใน พุทธบวรศาสนาแล้ว ผมเองก็เหมือนกันก็จะมี พี่เลี้ยงคอยดูแลหนึ่งเดือน คอยตักเตือนแนะนำ สิ่งต่างๆว่าสิ่งใดควรหรือไม่ควรในการปฏิบัติตน ให้ถูกต้อง ตอนผมบวชพระก็มีพระพี่เลี้ยงจนครบ กำหนดถึงได้ปล่อยวาง เมื่อเข้าเรียนอบรมผ่าน นวกะภูมิไปแล้วครับ ฉนั้นคุณวางใจได้และ ยิ่งเป็นสำนักชีที่โด่งดังนี้ด้วยแล้ว หากคุณเห็น ภาพต่างๆที่ผมได้รับไว้แล้วสิ่งเหล่านี้ก็จะผ่านไปครับ ขอบคุณรักเสมอ แก้วประเสริฐ.
21 มกราคม 2553 12:59 น. - comment id 1089024
คุณ เจ้าสาวแห่งโลกวิญญาณ ครับทั้งน่ารักและน่าอนุโมทนาในสิ่งที่เธอ ได้กระทำล้วนแต่สิ่งที่ดีและบริสุทธิ์ทั้งกาย วาจา และใจครับ รักเสมอ แก้วประเสริฐ.
21 มกราคม 2553 13:04 น. - comment id 1089026
คุณ ครูกระดาษทราย ก็ด้วยเหตุฉะนี้ดังความคิดที่คล้ายคลึงกันทำ ให้ผมอดที่จะเขียนเกี่ยวกับเธอพร้อมภาพไว้เป็น ที่รำลึกไว้และให้ทุกๆคนร่วมอนุโมทนาด้วยครับ รักเสมอ แก้วประเสริฐ.
21 มกราคม 2553 13:08 น. - comment id 1089028
คุณ ประทาน ในเมื่อเห็นเจตนารมณ์คุณในด้านนี้แล้ว ก็เกิดความคิดเห็นเกี่ยวกับชื่อคุณว่า น่าจะเป็น "เทพประทาน" มากกว่า คำว่า ประทาน เป็น ความหมายหลายหลากนัก และอาจจะทำให้คน บางคนเช่นผม นึกถึง พวกแขกประทานที่อยู่ แถวสระบุรีครับ ซึ่งส่วนใหญ่นับถืออิสลามครับ อิอิ อย่าโกรธผมนะครับด้วยเพราะรักหรอก จึงหยอกเล่นครับ รักเสมอ แก้วประเสริฐ.
21 มกราคม 2553 13:16 น. - comment id 1089032
คุณ กิ่งโศก ศิษย์รักเรา ใช่แล้วความคิดอ่านเหมือนครู ไม่ผิด สังเกตุซิใบหน้าที่อิ่มเอิบผลบุญนั้นเป็น ใบหน้าที่ปราศจากการเสแสร้งหรือการแสดงใดๆ ทั้งสิ้น เป็นการที่เพียบพร้อมด้วยความบริสุทธิ์ทั้ง กาย วาจา และใจ หากศิษย์เราดูภาพจนหมด แต่ครูล้างลบไปแล้วเดี๋ยวครูจะไปตรวจสอบที่ขยะ ว่าเขาล้างไปหรือยังหรือว่าครูล้างไปแล้วด้วยส่วน มากจะล้าง แล้วจะส่งไปให้ดูภาพจ๊ะ อ้อ เรื่อง สายตาเวลาเกิดอาการครูจะพักสายตาโดย ลุกขึ้นไปแล้วไปใช้ด้านอื่นสักครู่จนกว่าจะผ่อน คลาย จึงจะหันมาใช้ทางด้านนี้อีกจ้า ขอบใจ ศิษย์รักที่ห่วงใยอาการครูเสมอๆ รักเสมอ แก้วประเสริฐ.
21 มกราคม 2553 13:20 น. - comment id 1089033
คุณ ยายแม่มด สวัสดีจ๊ะ อนุโมทนาล่วงหน้าสำหรับหลานหยกนะ นับ เป็นความคิดที่เกิดผลบุญกุศล เพียงแค่คิดเท่านั้น เท่าที่ศึกษามาว่า ก็เกิดผลบุญทางด้านจิตใจแล้ว การสร้างกุศลผลบุญนั้นไม่จำเป็นต้องไปหรือเข้า ร่วมงานนั้นๆ เพียงแต่เราแค่กล่าวคำหรือในใจว่า "อนุโมทนา มิ" เท่านั้นผลบุญก็จะเกิดขึ้นในด้าน จิตใจทันทีจ๊ะ รักหลานเราเสมอ แก้วประเสริฐ.
21 มกราคม 2553 13:22 น. - comment id 1089035
คุณ เพียงพลิ้ว หลานรักดังที่ลุงกล่าวไว้ในกระทู้เบื้องต้นนั่น แหละ นับได้ว่าเราได้พบภาพและรู้ในสิ่งที่ถือได้ว่า เป็นมงคลยิ่งจ๊ะ รักหลานเราเสมอ แก้วประเสริฐ.
21 มกราคม 2553 13:28 น. - comment id 1089037
คุณ เพียงแพรว ใช่แล้วจ๊ะลูกรัก นี่แหละที่เขากล่าวกันว่า อิ่มบุญเป็นอย่างไร อ่านกระทู้เบื้องต้นที่พ่อตอบเขา ไว้ก็จะได้อะไรมากขึ้นจ๊ะ ความว้าวุ่นนั้นแก้ไขได้ การแก้ไขคือการฝึกจิตใจเราไว้อย่างสม่ำเสมอ ด้วยการเจริญองค์ภาวนา ไม่ว่าในขณะใดเท่าที่ เราว่างๆเสมอๆ จะได้ผลบุญกุศลและความ ผ่องแพร้วในจิตใจ เมื่อฝึกไปนานๆเข้าก็จะละ เสียซึ่งความโกรธ ความขุ่นมัว ความเศร้าหมอง ในจิตใจเราได้ไม่มากก็น้อย ลูกพ่อจะหมั่นฝึก ไว้ ได้ทั้งผลบุญ และความดีที่สำคัญยิ่งคือค่อยๆ ปิดทางทุคติได้อีกด้วยจ๊ะ จิตใจเราก็จะประภัสสร คิดอะไร ทำสิ่งใดก็จะเพียบพร้อมด้วยความมี สติอยู่เสมอๆจ๊ะ พ่อเองก็รักลูกมากเช่นกันจ๊ะ ว่างๆมาเยี่ยมพ่อบ้างนะลูก รักลูกพ่อเสมอ แก้วประเสริฐ.
21 มกราคม 2553 14:18 น. - comment id 1089068
อนุโมทนาสาธุกับแม่ชีน้อยด้วยค่ะ ดูภาพที่ท่านแม่ชีศันสนีย์ปลงผมให้แล้ว มีความสุขจริงค่ะ ภาพนี้ถ่ายได้สวย เป็นธรรมชาติค่ะ
21 มกราคม 2553 16:09 น. - comment id 1089143
อนุโมทนากับแม่ชีน้อยด้วยค่ะครู ยากนักจะได้เห็นภาพเช่นนี้
21 มกราคม 2553 20:31 น. - comment id 1089233
คุณ bananaleaf ก็ด้วยภาพที่ได้ชมนี่แหละ ผมถึงได้รีบ เขียนเพื่อเผยแพร่และร่วมอนุโมนาด้วยพร้อม สำนักแม่ชีด้วย ครับเป็นแม่ชีที่ใสสอาด ผมคิดว่า มากกว่าภิกษุบางรูปเสียอีก เรื่องความสงบเยือก เย็นหากไปที่ สำนักแม่ชีแล้วก็จะพบเห็นว่าตรง กับที่ผมพูดหรือไม่หรือว่าคุณอาจจะไปมาแล้วก็ได้ ในกรุงเทพฯอยู่ที่ซอยวัชรพลครับอาณาเขตใหญ่ ร่มรื่นด้วยต้นไม้แยะครับ รักเสมอ แก้วประเสริฐ.
21 มกราคม 2553 20:33 น. - comment id 1089234
คุณ แก้วประภัสสร คงจะได้อ่านเมล์แล้วนะ จะพบภาพต่างๆ ของแม่ชีน้อยนี้ที่ส่งไปให้ดูแล้ว น่าปลื้มใจจริงๆนะ รักเสมอ แก้วประเสริฐ.
22 มกราคม 2553 08:59 น. - comment id 1089374
น่าทึ่ง ในกุศลจิตศรัทธา ของแม่ชีน้อย นะครับ คงเป็นอย่าง คุณลุงแก้วฯ พูดมา น่ะแหละว่า เป็นการสั่งสมบารมี มาแต่ชาติก่อน เด็กๆ สมัยนี้ แค่ห่างพ่อแม่ ก็กระจองอแง แล้ว นี่เด็กคนนี้ คงมี ระดับจิตใจที่สูงกว่าเด็กทั่วไป จึงอดทน และอดกลั้น ต่อการห่างพ่อแม่ได้ ผมบวชเณร มาแต่เด็ก ครับ เห็นเพื่อนรุ่นเดียวกัน บวชภาคฤดูร้อน หลายรูปร้องไห้ คิดถึงพ่อแม่ บางรูปกลัวผี ทนไม่ได้ บางรูปทนการปฏิบัติ ตื่นแต่เช้า นั่งสมาธิ สวมดนต์ ไม่ได้ ก็หนีกลับบ้าง แต่ผมกลับสนุกกับการบวชเณร มากๆ ทั้งๆที่ไม่รุ้อะไรเลย แม้จะกลัวผี อยุ่บ้าง เพราะบางทีนอนป่าช้า เณรรุ่นที่ นอนหน้าเมรุ ก็มี แต่ก็ทนกันมาได้ เป็นความรู้สึกที่น่าจดจำมากๆ ครับ ด้วยเคารพ คุณลุงเสมอ
22 มกราคม 2553 10:04 น. - comment id 1089394
คุณ กวีน้อยฯ กล่าวถูกต้องแล้วครับ หากหลานเราไปคุย กับพระปฏิบัติเคร่งครัดก็จะทราบถึงเหตุผลที่ทำไม เด็กบางคนผู้ใหญ่บางคน บ้างก็มีวาสนาต่อพุทธฯ บ้างก็ไร้วาสนากับพุทธฯ ถึงเวลาจะต้องบวชก็จะ บวช เปรียบคล้ายผู้หญิงจะคลอดลูกก็ห้ามไม่อยู่ เปรียบคล้ายๆนั่นแหละ เด็กคนนี้มีบุญวาสนาและ ได้สะสมบารมีต่อเนื่องจากชาติปางก่อน ถึงได้มี ความมั่นคงและแน่วแน่ในทางนี้เฉพาะ เมื่อถึง กำหนดก็ต้องไม่ลังเล แบบนี้ไม่ว่าพระ เณร หรือแม่ชีย่อมจะมีศรัทธาสมาธิสูงกว่าบุคคล ธรรมดา และเข้าถึงฌานสมาบัติได้อย่างเร็ว คล่องแคล่วมาก ที่หลานกล่าวมานี้เป็นการฝึก จิตให้เข้มแข็ง คนที่นั่งสมาธิจิตต้องอยู่ในระดับ กลาง แข็งไป อ่อนไปก็ไม่ได้ต้องพอดิบพอดี ถึงจะเจ้าฌานได้ แข็งไปก็เกิดความลังเลสงสัย ในการปฏิลัติ อ่อนไปก็เกิดความขี้เกียจ ต้อง สมดุลย์เพียบพร้อมเสมอกันธาตุในกายต้อง ผสานกันอย่างดีถึงจะเข้าถึงสมาธิฌานสมาบัติ ได้ดี ในเมื่อกล่าวเรื่องนี้แล้วก็จะขอบอกแก่ หลานเราเนื่องจากอ่านดูแล้วหลานเรามีแนวทาง มาทางนี้พอประมาณ การตั้งจิตกำหนดลมหายใจ เข้าออก เรียกว่า อาปาณานสติสนั้น บ้างก็ตั้ง กำหนดที่ปลายจมูก บ้างก็ตั้งไว้ที่สูญกลางกาย คือสะดือ บ้างก็ตั้งไว้ที่หน้าผาก บ้างก็ตั้งไว้ที่ กระหม่อมกลางตามแต่ครูบาอาจารย์ท่านสั่งสอน ไว้ จะมีให้กำหนดไว้ที่อยู่อาศัยของใจส่วนน้อย เหตุผล ด้วยเมื่อกำหนดจิตตั้งไว้ที่อาศัยของใจ แล้วต้องควบคุมให้ดี เพราะจิตจะเข้มแข็งกว่า การตั้งที่อื่นใดๆ และอาจจะไปในแนวทางอาคม เสียเป็นส่วนมาก จิตเข้มแข็งเร็วจะไม่เกรงกลัว อะไรๆทั้งสิ้น หลานคงสงสัยว่าแล้วที่อยู่อาศัย ของจิตใจนั้นอยู่ที่ใด ลุงก็จะขอกล่าวไว้ว่า อันที่อยู่อาศัยของจิตใจเรานั้น อยู่ที่ทรวงอก ระหว่างชายโครงมาบรรจบกัน นี่แหละคือที่ อาศัยของจิตใจ หลานลองสังเกตุร่างกายเราซิ ว่าใจเราอยู่ตรงไหน ก็จะทราบตามลุงบอกนี่ แหละ แต่เมื่อเข้าสมาธิต้องควบคุมไว้ไม่ให้ เตลิดเพราะจิตใจจะแข็งแรงกว่าธรรมดา ไม่ ให้แข็งเกินไปจะควบคุมยาก ทดลองทำดูก็ได้ เมื่อกำหนดจิตไว้ที่ทรวงอกที่ใจอาศัยอยู่แล้ว สังเกตุว่าจิตใจเราจะเข้มแข็งไม่กลัวเกรงใดๆ แม้แต่ ผี สาง นางไม้ก็ไม่ยี่หระหรอก แต่หาก ปล่อยไปมากๆจิตก็เตลิดออกแนวทางธรรมไป เพราะเปรียบเสมือนดาบสองคมนั่นเอง หาก เรามีสติมั่นคงรำลึกไว้ตลอดเวลาก็สามารถบังคับ จิตใจเราได้ จิตใจเราก็จะกล้าหาญสามารถต่อ สู้กับกิเลสได้ดีเยี่ยมและรวดเร็วกว่าตั้งจิตใจไว้ ที่อื่นๆอีก เอาแค่นี้ก่อนนะเอาแค่ประทังความ สงสัยเท่านั้น รักหลานเราเสมอขอให้เจริญใน ทางธรรมได้อย่างรวดเร็ว แก้วประเสริฐ.
22 มกราคม 2553 18:23 น. - comment id 1089674
สวัสดีครับครู มาชมผลงานครับ ศัพย์ยากๆนะครับ
23 มกราคม 2553 11:41 น. - comment id 1089879
่คุณ ป๋อง สหายปุถุชน คุณบอกศัพย์ยากๆผมก็ งง ด้วยเป็นศัพท์ ทางสันสกฤตบ้าง คำไทยบ้างก็ตรงตัวมีความหมาย ในตัวเองเสร็จแล้วนี่นา แต่ช่างเถอะสำคัญอยุ่ ที่เขียนเรียกอารมณ์คนอ่านได้หรือไม่เท่านั้นนี่ เป็นกาพย์ยานี11 ซึ่งอยู่ในแบบหนึ่งของสองแบบ นะ อีกประการหนึ่งผมชอบเล่นแบบง่ายๆไม่ต้อง ภาษาไทยแปลเป็นภาษาไทยอีกที ผมเองไม่ ค่อยชอบนัก มักจะใช้เป็นบางคำเท่านั้น เองครับ คือเล่นแบบสบายใจ หากว่างก็เข้า ไปอ่านที่ตอบในกระทู้ในเรื่องก่อนหน้านี้นะ จะได้อะไรๆอีกหลายอย่าง รักเสมอ แก้วประเสริฐ.