น้ำเอ๋ยน้ำใจ. เปรียบใจคล้ายเรือ บางครั้งเหมือนเสือ โลดแล่นตามทาง วกวนเวียนว่าย ร่อนเร่สับส่าย ฟุ้งซ่านอ้างว้าง บางครั้งตาขวาง สอดส่ายจับวาง ดุดันโลดลิ่ว ดุจดั่งขาดใบ สายลมพัดไป ระเห็จจนปลิว ดั่งน้ำใจคน คลุกเคล้าปะปน จนเกิดความกริ้ว เผ่นโผนละลิ่ว หน้าย่นเป็นริ้ว ก่อเรื่องใหญ่โต. บางคนมักอวดโอ้ เกินตัว จริงนา ชอบข่มคนระอา แน่แท้ ดั่งเสือชอบเสาะหา เรื่องก่อ มากเฮย เห็นดุจกวางอ่อนแล้ อวดอ้างข่มเหง ฯ บัณฑิตย่อมหลีกเร้น คนพาล เกิดก่อการสืบสาน สิ่งรู้ คนพาลมักประจาน คนอื่น ชอบแฮ พอจับทำคุดคู้ ซ่อนหน้าหนีอาย ฯ อนิจจังย่อมมากล้น เปลี่ยนแปร ยิ่งนา เร้นหลีกหนีบาดแผล ต่อสู้ แฝงไว้ดั่งเสียงแตร บอกกล่าว เล่าเฮย ปรับเปลี่ยนสิ่งรับรู้ ก่อตั้งหลีกพาล ฯ ฉันท์ใดคนมากรู้ อ่อนแอ พบสิ่งย่อมผันแปร เปลี่ยนสร้าง คนพาลดั่งกระแส ไหลเชี่ยว ชลธี ชอบก่อเรื่องแฝงสล้าง พลิกไว้คนเกรง. ** แก้วประเสริฐ. **
20 มกราคม 2553 13:02 น. - comment id 1088546
สวัสดีครับคุณครู เหมือนรู้ใจกันเลยครับ ผมกำลังว้าวุ่นใจ หาสาเหตุไม่ได้ครับ
20 มกราคม 2553 13:51 น. - comment id 1088566
ชอบมากค่ะอ่านแล้ว สบายใจ ติดตามผลงานตลอดค่ะ
20 มกราคม 2553 14:54 น. - comment id 1088581
ใจคนยากแท้หยั่งถึง จริงนะคะ
20 มกราคม 2553 15:43 น. - comment id 1088596
น้ำใจ....ได้ดื่มทีไรชื่นใจที่สุดค่ะ แต่ก็อย่างว่านะคะคุณลุงแก้วฯ บางทีใจคนก็ยากแท้หยั่งถึงจริงๆ ทุกวันนี้อยู่แบบขอเรียนรู้ชีวิตค่ะ อิอิอิ ที่คุณลุงป่วยก่อนปีใหม่คงหายดีแล้วใช่ไม๊คะ ขอให้คุณลุงสุขภาพแข็งแรงและมีความสุขค่ะ
20 มกราคม 2553 15:56 น. - comment id 1088601
น้ำใจ..ได้อารมณ์กลอนจริงๆเลยนะคะ ให้ข้อคิดอีกด้วย
20 มกราคม 2553 16:42 น. - comment id 1088622
อันน้ำใจแม้ใช้มาไม่มีหมด เมื่อรินรดสดชื่นรื่นหรรษา ถึงสิ้นเดือนไม่มีบิลส่งมา ใช้เทน้ำเทท่าหาสิ้นเปลือง....
20 มกราคม 2553 16:58 น. - comment id 1088627
หลานโชคดีเสมอค่ะ ได้รับน้ำใจจากมิ่งมิตรตลอดเลยค่ะ
20 มกราคม 2553 18:17 น. - comment id 1088644
...คนดีมักจะอ่อนแอนะคะ..ส่วนใหญ่... นั่นอาจทำให้ท้อที่จะทำดี...เพราะคนพาลมันมีเยอะเกินไปมั้งคะ...
20 มกราคม 2553 19:12 น. - comment id 1088673
น้ำใจ ช่วยทำให้คนเราชุ่มชื่นหัวใจได้นะคะ
20 มกราคม 2553 19:14 น. - comment id 1088675
10 ชุบ นอนมาแบบเนียนๆ อิอิ
20 มกราคม 2553 21:19 น. - comment id 1088746
คุณ อินสวน สวัสดีครับ ระยะนี้ผมพอจะเขียนได้ก็รีบ เขียนด้วยสายตาชักแย่มองคอมฯนานๆน้ำตาไหล ร่างกายก็ทรุดโทรมมากครับ ขอบคุณรักเสมอ แก้วประเสริฐ.
20 มกราคม 2553 21:20 น. - comment id 1088747
คุณ เพียงขวัญ ขอบคุณที่แวะมาเยี่ยมครับผมเองก็เขียน ไปเรื่อยๆแหละครับ มิได้คิดอะไรมากช่วงนี้จะเขียน แยะหน่อย สายตาชักจะแย่แล้วครับ ขอบคุณ แก้วประเสริฐ.
20 มกราคม 2553 21:22 น. - comment id 1088749
คุณ ไหมไทย ใช่แล้วครับน้ำใจคนยากแท้หยั่งถึงจริงๆ ไม่ว่าใครๆ สิ่งที่ผมพบมามันแปรเปลี่ยนไปหมดเลยครับ รักเสมอ แก้วประเสริฐ.
20 มกราคม 2553 21:24 น. - comment id 1088750
คุณ ยายแม่มด นั่นซีหลานหยกเอ๋ย ใจคนนี่ลึกล้ำจริงๆ อย่าไปคิดคนอื่นเลย แม้ใจเราเองบางครั้งก็ยัง รวนเรเลยครับ จริงไหมครับ รักเสมอ แก้วประเสริฐ.
20 มกราคม 2553 21:25 น. - comment id 1088751
คุณ นางฟ้าซาตาน จริงๆนะน้องมันเป็นอย่างนั้นจริงๆด้วยนา ในชีวิตผมก็คบและผ่านมามากก็เห็นมาแยะพอ สมควร จะเอาอะไรจริงจังไม่ได้จริงๆครับ รักเสมอ แก้วประเสริฐ.
20 มกราคม 2553 21:27 น. - comment id 1088752
คุณ ครูกระดาษทราย จริงครับมันไม่หมดจริงๆแม้ใกล้จะตายยัง เปลี่ยนได้เลย ฉนั้นคบคนควรจะไตร่ตรองให้ดี และอย่าให้จนหมด ให้เผื่อไว้โดยเปิดทางออก ให้เราด้วยนะครับ รักเสมอ แก้วประเสริฐ.
20 มกราคม 2553 21:30 น. - comment id 1088753
คุณ เพียงพลิ้ว หลานรักถือว่าโชคดีแล้วล่ะ ลุงเองช่างหา ยากเย็นจริงๆนะ ส่วนใหญ่หลอกลุงเสมอๆแหละ บางครั้งทั้งๆที่รู้ก็ยังยอมให้เขาหลอก มันน่าตบหน้า ตัวเองจัง สันดานนิสัยลุงไม่ดีเองไว้ใจคนง่ายๆไป พอเห็นเขาดีหน่อยก็ไม่ระวังตัวแล้วก็โดนจนได้ มันน่าเจ็บใจตัวเองจัง ลุงถึงไม่ค่อยได้คบใคร ไปไหนก็มักไปคนเดียวจ๊ะ รักหลานเสมอ แก้วประเสริฐ.
20 มกราคม 2553 21:32 น. - comment id 1088754
คุณ คมดาบนารี ใช่แล้วครับคนทำความดีมักจะใจอ่อน เลยดูเป็นคนอ่อนแอก็ด้วยเหตุนี้แหละ แต่ว่า การอ่อนแอตั้งอยู่ในความดีถือว่าช่างเถอะเวร กรรมของเราเองจ้า รักเสมอ แก้วประเสริฐ.
20 มกราคม 2553 21:34 น. - comment id 1088756
คุณ โคลอน จะพูดแบบนี้ก็ถูกอีกแหละ แต่น้ำใจนี่นะ ฆ่าคนตายทั้งเป็นมาก็มากแล้ว ฉนั้นควรให้ความ เชื่อสักห้าสิบหรือกว่าก็ได้หากแน่ใจแต่ไม่ควรจะ เต็มร้อยจ้า รักเสมอ แก้วประเสริฐ.
20 มกราคม 2553 21:36 น. - comment id 1088760
คุณ โคลอน จะนอนมานั่งมาเนียนหรือไม่ก็ดูเอาเอง นะแต่ว่าอย่ามาฉกไข่อีกล่ะ ฮ่าๆๆ รักเสมอ แก้วประเสริฐ.
21 มกราคม 2553 00:40 น. - comment id 1088806
มาให้กำลังใจเจาคะ
21 มกราคม 2553 07:07 น. - comment id 1088849
เป็นคติเตือนใจล้วนๆเลยครับ..ท่านอาจารย์
21 มกราคม 2553 08:22 น. - comment id 1088867
มาอ่านงานนี้ดูเหมือนครู ถูกใคร ว่าเอาหรือครับนี่ ..น้ำใจของคนมีทั้งที่ไม่ดี และดีครับครู.. บางครั้งดูเหมือนดี แต่กับซุกซ่อนอะไรไว้มากมายในความไม่ดี..ผมวัยเท่านี้ ยังเจอมาพอสมควร บางครั้งเรียกว่าเข็ดไปเลยก็มีครับ.. ยังไงครู ต้องดูแลสุขภาพ และการใช้สายตามากๆด้วยนะครับ..
21 มกราคม 2553 11:19 น. - comment id 1088985
ไม่เคยเกิดเป็นเสือครับ แม้ลูกเสือ ก็ยังห่างไกล เรื่องไปข่มใคร ไม่มีอยู่แล้วครับ เพราะถ้าเราเจอคนที่เก่งกว่า ดีกว่า ถ้าเขาข่ม หรือ หักหน้าบ้าง นั่นแหละครับ จะปวดใจ สู้เป็นมิตร กะทุกคน และรับรู้รับฟัง ก็น่าเพียงพอ แล้ว
21 มกราคม 2553 12:07 น. - comment id 1089000
คุณ เจ้าสาวแห่งโลกวิญญาณ ขอบคุณในน้ำใจที่แสนดีมากเชียวครับ รักคุณเสมอๆ แก้วประเสริฐ.
21 มกราคม 2553 12:11 น. - comment id 1089004
คุณ ประทาน ขอบใจมากเชียวครับเพราะผมมีเจตนา เช่นนั้นจริงๆ จึงเขียนกลอนแบบนี้ไว้ เขาเรียกว่า กาพย์ขับไม้ห่อโคลง ซึ่งเป็นอีกรุปแบบหนึ่งของ กานท์ไว้ครับ แตกต่างกับกาพย์อื่นๆบ้างในสิ่งเล็กๆ น้อยๆ คุณนำไปศึกษาได้ครับ ขอบคุณ แก้วประเสริฐ.
21 มกราคม 2553 12:18 น. - comment id 1089008
คุณ กิ่งโศก เจ้ากิ่งศิษย์รักเอ๋ย เรื่องที่ว่านั้นครูเองไม่ ค่อยสนใจมากนัก ความโมโห หรือโกรธใครก็แค่ เพียงไฟไหม้ฟาง วูบเดียวก็หายไป มิได้ติดใจอะไร ไว้นานหรอกศิษย์เรา การเคืองอาจจะมีบ้างนาน หน่อยแต่ไม่แสดงออกเท่านั้นเอง แต่การเขียนนี้ ไม่ได้ติดใจเคืองหรือโกรธใครๆทั้งสิ้น แต่มีเจตนา ที่จะเขียนเตือนสติคนเราไว้เท่านั้นเอง จึงได้ เขียน "กาพย์ขับไม้ห่อโคลง" ให้แตกต่างออก ไปจากที่เคยเขียน ที่ครูเคยกล่าวกับเธอไว้ ว่าเมื่อเขียน โคลงก่อนกลอนแปด นั้นเธอมัก จะเรียกว่า กลอนห่อโคลง ครูก็ไปเที่ยวค้นดู ตอนแรกครูก็คิดเช่นเธอเหมือนกันและยังได้ นำโคลงมาสรุปตอนท้ายแล้วเรียกว่า กลอน ห่อโคลงไว้เช่นที่เธอเล่นนั่นแหละ แต่ที่ถูก ต้องแล้วเป็นการผิด เขาจะเรียกการเขียนตอน แรกว่าเป็นการห่อสิ่งที่จะเขียนต่อไป ดังเช่นที่ ครูเขียน กาพย์ขับไม้ห่อโคลง ก็อยู่ในลักษณะ นี้ ตลอดจนจะห่ออะไรๆก็จะเรียกบทแรกก่อน ว่าจะไปห่ออะไรก็ตามนะ จำไว้ด้วย รักศิษย์ เราเสมอๆ แก้วประเสริฐ.
21 มกราคม 2553 12:28 น. - comment id 1089016
คุณ กวีน้อยฯ หลานรักเรา เธอจะรู้หรือว่าเคยเกิดเป็น อะไรๆ ด้วยเธอเองยังไม่ได้ฌานที่รำลึกชาติได้ จึงย่อมไม่รู้ก่อนจะมาเกิดภพนี้เป็นอะไรๆมาก่อน บางครั้งเราเป็นมิตรด้วยหัวใจอันแท้จริง แต่ได้รับผลในทางตรงกันข้ามเสมอดังลุงเองที่ มีความจริงใจต่อทุกๆคนแต่บางครั้งยังได้รับผล กระทบเสมอๆ แต่อาศัยที่ลุงเองไม่สนใจใยดีต่อ สิ่งเหล่านี้ จึงผ่านไปได้ ด้วยลุงเองรู้ว่าการที่จะ ตัดสิ่งเหล่านี้ต้องทำอย่างไร ลุงมีความคิดเองว่า หากจะคบก็คบได้ หากไม่อยากคบก็ไม่คบกัน การเข้าการจากหาได้ส่งผลกระทบต่อลุงเองไม่ ที่ลุงเขียนไว้นี้นานๆทีจะเขียนไว้แทบ นับครั้งได้ เขาเรียกว่า "กาพย์ขับไม้ห่อโคลง" ซึ่งเป็นกาพย์หนึ่งที่มีความไพเราะมากๆนะ หลานรัก จำเอาไว้ อ้อ การตอบกระทู้ของลุง หลานเราควรอย่าข้ามอ่านเสมอๆไม่ว่าจะเป็น กระทู้ของหลานหรือของคนอื่นๆ ด้วยลุงมักจะ แนะนำบางอย่างไว้เสมอๆ เพื่อตอบแทนสิ่งที่ เขามีน้ำใจมาเยี่ยม หาใช่สั่งสอนใดๆทั้งสิ้นเพียง แค่แนะนำทดแทนน้ำใจคนมาเยี่ยมเท่านั้น หลานเราก็ควรนำไปศึกษาเพิ่มเติมด้วยนะ รักหลานเราเอ็นดูมากเสมอๆ แก้วประเสริฐ.
21 มกราคม 2553 19:48 น. - comment id 1089219
21 มกราคม 2553 20:27 น. - comment id 1089232
คุณ คนตัวเล็ก ผมเองเคยพบเห็นชื่อมักจะตรงกันข้าม กับชื่อเสมอๆ เช่นชื่อ สิงห์โต ตัวเล็กนิดเดียว ชื่อใหญ่ ตัวก็เล็กอีก ชื่อตัวเล็กคงจะตัวใหญ่มั๊ง เพราะมักจะตรงกันข้ามเสมอ ไม่รู้นะหากผิดอย่า โกรธก็แล้วกันนะครับ ขอบคุณ แก้วประเสริฐ.
22 มกราคม 2553 18:30 น. - comment id 1089675
มาช้าหน่อยครับครูผลงานยังเยื่อมเหมือนเดิมครับ
23 มกราคม 2553 11:34 น. - comment id 1089877
คุณ ป๋อง สหายปุถุชน ไม่เป็นไรหรอกป๋องเอ๋ย ทุกๆคนย่อมมีธุระ ผมเคยบอกคนไว้ว่า ให้ถือเสมือนว่าการเล่นกลอน คือการพักผ่อนอารมณ์เราไม่ให้เครียด ฉนั้นแนว ทางผมจึงไม่เหมือนคนอื่นเขา คือไม่ซีเรียสนักกับ เรื่องเหล่านี้ผิดถูกไม่เป็นไรค่อยๆเป็นค่อยๆไปหา ทางแก้ไขภายหลัง ช้าหน่อยช่างมันถือว่านี่คืองาน อดิเรกของเขา ด้วยเราไม่ต้องการชิงดีชิงเด่น และเอาดีทางนี้ ด้วยความสามารถของเรานั้น แค่พอตัวก็ถือได้ว่าดีแล้ว ด้วยคนตรวจสอบ ไม่ใช่ผมจะดูถูกเขามีจิตใจและแนวความคิด หลายแง่มุมทั้งสิ้นของใครก็ว่าถูกทั้งนั้น เรา เล่นแบบโบราณนั่นแหละดีผิดถูกก็ว่ากันไป ตามฉันทลักษณ์ที่เขาวางไว้ อย่างเช่น บางราย บอกว่าสัมผัสซ้อนสัมผัสใน มากเกินไป บางคน บอกว่าชิงสัมผัสไม่ถูกต้องนัก คำพร้องนี้ผมเห็น ด้วยแต่เรื่องสัมผัสผมไม่เห็นด้วย นี่ก็เป็น ความคิดเห็นส่วนตัวผมเอง ไม่เกี่ยวกับคนอื่น และคนที่มีหน้าที่ตรวจสอบก็จะยึดถือใจตนเอง เป็นใหญ่จะเอาอะไรแน่นอนไม่ได้ ผมจะยก ตัวอย่างให้ดู บัดเดี๋ยวดังหงั่งเหง่งวังเวงแว่ว อันนี้เป็นการสัมผัสในระหว่างคำที่ห้ากับคำที่เจ็ด สะดุ้งแล้วเหลียวแลชะแง้หา อันนี้เหมือนกับ วรรคแรก เห็นโยคีขี่รุ้งพุ่งออกมา สังเกตุว่า สัมผัสในเป็นคำที่ห้าและหก ประคองพาขึ้นไป บนบรรพต อันนี้แปลกนะไม่มีสัมผัสในให้เห็น แต่ผมว่าเป็นสัมผัสในเชิงทำนองจึงไม่มีสัมผัส ให้เห็น ผมเรียกว่าซ่อนสัมผัส ผมเรียกเองนะ แล้วสอนว่าอย่าไว้ใจมนุษย์ จะเห็นได้ว่าสัมผัส เป็นสัมผัสในสองแห่ง คือ ว่า กับ อย่า และ ไว้ กับใจ ที่คนเก่งในปัจจุบันมักตำหนิว่าใช้ สัมผัสฟุ่มเฟือย แม้แต่บรมครูยังทำแล้วเขาเก่ง กว่าท่านสุนทรภู่หรือ น่าคิดนะ นี่จะเห็นได้ว่า คำว่ามนุษย์นั้นท่านแบ่งเป็น สองพยางค์ออกจากกัน บางครั้งผมเรียกว่าคำ กล้ำหากกระชั้นผมถือว่าเป็นคำเดียว ซึ่งท่าน บรมครูฯท่านก็ใช้เช่นเดียวกัน คุณอ่านบทนี้ ที่ใช้ในการเรียนผมถือว่าเป็นบทครูมีการสั่งสอน และเน้นให้เห็นการใช้สัมผัสได้ดีที่สุด อ้อยังไม่ ถึงที่เรียกว่าชิงผัสซึ่งเขารังเกียจมาก ก็จะอยู่ ในบทนี้เช่นเดียวกัน คือ ที่พึ่งหนึ่งพึ่งได้แต่กายตน ซึ่งเขาจะคิดคำที่สามกับคำที่ห้า ว่าชิงสัมผัสกันฯลฯ จะเห็นได้ว่า คำหนึ่งกับพึ่งสัมผัสกัน และคำ พึ่งกับพึ่งก็สัมผัสกัน จะเรียกว่าชิงสัมผัสไหม เนี๊ย น่าคิดนะ หากดูเป็นการชิงสัมผัสซ้อนสัม ผัสในกันเอง ท่านบรมครูฯก็ยังใช้อยู่เลย แล้วนับประสากับพวกเราอาศัยแนวทางท่าน ในการเล่นกลอนจะเก่งไปกว่าท่านหรือไง น่า คิดนะ เอาเท่านี้ก่อนนะผมยิ่งถูกเขาเขม่น ทั้งในนอกเวปฯด้วยซิ ยิ่งเขม่นยิ่งขึ้นแต่ช่าง เถอะผมไม่แครร์หรอกจะแครร์ก็สำหรับคนที่ รักเข้าใจผมเท่านั้นและผมก็มานั่งคิดตัดใจไป ก็หลายคนแล้วด้วยล่ะ อิอิ รักเสมอ แก้วประเสริฐ.