สะอื้นนางครวญ ...๏หวามหวิวซาบซ่านซึ้ง นางครวญ เพ็ญพักตร์น้องเนื้อนวล ร่ำไห้ ใจคงป่วนพลิกหวน ผันสู่ รักแฮ ฤาสิ่งมิอาจได้ พลาดซึ้งตรึงฤทัย ฯ กุหลาบแดงทาบข้าง วางแนบ เด่นเฮย สรรค์สิ่งซึ้งเคียงแอบ บ่วงน้อง ซุกเร้นซ่อนจนแปลบ สุดป่วน นวลแฮ หวานล่มบ่มร่ำร้อง สั่นพลิ้วพร่างขจาย ฯ เสียงสะอื้นซ่านสล้าง ลอยลม แว่วผ่านห้วงอกตรม หม่นไหม้ นางป่วนล้วนคงขม หมองยิ่ง ครวญเฮย พักตร์แม่แม้นงามไซร้ เทียบล้ำแมนสรวง ฯ ไยจึ่งเป็นดั่งนี้ แม่นาง งามเอย ม่านรักคงขัดขวาง จากฟ้า สิ่งสิ้นหยุดจัดวาง ต่อสิ่ง รักแฮ ทิ้งพรากมิอาจคว้า ม่านล้ำฤาสนอง ฯ หอมหวนชวนสิ่งซึ้ง ปลอบใจ เย้าสิ่งหยอกฤทัย จากเจ้า ตะละแม่เหตุไฉน ปิดม่าน- ตาเฮย รักมากจึ่งหมองเศร้า ผ่านแล้วมาลี ฯ รักมากยามซ่านพลิ้ว เจือจาง ผ่านนา ยามสุดสิ้นเบาบาง หล่นฟ้า เหลือไว้แต่อับปาง มากต่อ ใจเอย แสนสุดจะเหนื่อยล้า หมดแล้วบ่วงถวิล ฯ สงสารเสียงสะอื้น ลมลอย น้ำหยาดตาหวังคอย รักแท้ หลั่งเพียงหยดฝังรอย ลบสิ่ง ผูกแฮ ก้มพักตร์หมดใจแล้ สู่ซึ้งห้วงหทัย ฯ มาดแม้นงามดั่งฟ้า โลมดิน ถวิลแฮ ยังพลาดจนสิ้นจินต์ หมดแล้ว เศร้าทรวงต่อชีวิน ควรคิด คนึงนา ให้รักอย่าหมายแพร้ว หว่านซึ้งพึงครวญ. ๚ะ๛ *** แก้วประเสริฐ. *** (ภาพนี้ขออนุญาตแล้ว จำบ่ได้ว่าของใคร)
19 พฤศจิกายน 2552 13:13 น. - comment id 1043734
คุณ แก้วประภัสสร ศิษย์รักเรา พยายามอย่าทานน้ำแข็งหรือน้ำ เย็น ให้ทานน้ำธรรมดาหรือน้ำอุ่นๆ หากผ้าพันคอ ไว้ หากมีอาการไอ ให้ไปซื้อยาแก้ไข "ไบโซวอนซ์- เอ็กซ์ มาจิบทานเสีย ครูเองอาศัยยาตัวนี้แหละบอก เขาแบบผู้ใหญ่ด้วย เขียนโคลงได้งดงามแล้วจ้า รักศิษย์เราเสมอ แก้วประเสริฐ.
19 พฤศจิกายน 2552 16:19 น. - comment id 1043797
คุณ มณีจันทร์ ขอบคุณที่นำภาพสวยๆมาฝากให้ผมครับ รักเสมอ แก้วประเสริฐ.
18 พฤศจิกายน 2552 20:58 น. - comment id 1044439
สวัสดีครับครูแก้ว..วันนี้มาด้วยโคลงงามๆ เลยครับ..เห็นกลอนที่แล้วครูเคยบอกว่า การใช้คำตาย นะครับ เลยอยากถามครูแก้วนะครับ คำ...ประดัง..จะนับเป็นคำเดียวได้หรือเปล่าครับครู...หรือจะเอาแค่คำว่าประ..เป็นเสียงแทนคำเอก(คำตาย)จะได้ไม่ครับ..รักษาสุขภาพด้วยครับครู ..กลิ่นร่ำกุกลาบแร้ง.....กอดริน รำบัดระโบยบิน..........บั่นเร้า ดินแห้งเหือดหยาดสินธุ์...ไหลผ่าน หากพบน้ำใจเจ้า.....จึ่งได้เบ่งบาน..
18 พฤศจิกายน 2552 21:58 น. - comment id 1044468
คุณ กิ่งโศก ศิษย์รักเรา ด้วยบางคนเขานำมาใช้อันที่จริง คำตายคือคำๆเดียวที่มีความหมายในตัวเอง แต่คำ ประดัง นั้นใช้คำประเป็นคำตายครูว่าไม่ถูก ต้อง ด้วยประดังนั้นผสมกับดัง อ่านเป็นสองคำจะนับ เป็นคำตายไม่ได้นะ เรียกว่าโมเมก็ว่าได้ อย่าคิดทำ เป็นอันขาด ต้องคิดเสมอว่าคำตายคือคำโดดเดี่ยว เท่านั้น เช่นพ่อ แม่ ลูก จะ เป็นต้น เพราะไม่ได้ ไปผสมกับคำอื่น หาก เป็น ปะ ไม่เป็นไรถือเป็น คำตายจ๊ะ เราค้นปะซึ้งแล้ว เฉลียวฉลาด จริงแฮ จะเห็นได้ว่าเป็นคำโดดเด่นคำเดียวจ๊ะ แต่ครู พบเห็นเขาใช้บ่อยครูว่าผิดนะ แต่เขาคิดอย่างไร ครูไม่ทราบ แต่ทราบเจตนาเขาต้องการคำตาย เท่านั้นเองจ๊ะ เป็นต้น ปะความหมายคือพบนั่นเอง ฉนั้นเราเดินตามฉันทลักษณ์ดีที่สุดจ้า โคลงที่นำมาให้ครูนั้นเธอต้องระวังความหมาย ด้วย กลิ่นร่ำกุหลาบแร้ง (คำแร้ง ผิด แร้งหมาย ถึงนกชนิดหนึ่ง) ควรเป็น แล้ง (หมายถึงความ แห้งเหี่ยวเฉา) กอดริน (เราไม่ได้ไปกอดตามเนื้อหา) ควรเป็น โรยริน เป็นต้น รักศิษย์เราเสมอ แก้วประเสริฐ.
18 พฤศจิกายน 2552 22:00 น. - comment id 1044470
เสียงนางคร่ำรำไห้.........โหยหา เพียงคิดถึงพี่ยา..............ย่อมเศร้า หนาวยามค่ำดารา...........รอร่ำ ไยอกยอกหยอกเหย้า......ย่อมย้ายคล้ายครวญ.. เสียงนางครวญแว่วมาถึง ริมฝั่งโขงเลยค่ะ..ครูแก้ว หนาวมากเลย...ดูแลสุขภาพนะคะ
18 พฤศจิกายน 2552 22:12 น. - comment id 1044476
ขอบคุณครับสำหรับโคลงเพราะ ๆ และคำแนะนำดี ๆ
18 พฤศจิกายน 2552 22:16 น. - comment id 1044477
คุณ กิ่งโศก ศิษย์รักครูยกตัวอย่างผิดไปจ๊ะ เดี๋ยวจะไปกัน ใหญ่ คือ เราค้นปะซึ้งแนว เฉลียวฉลาด จริงแฮ จ๊ะ ไม่ใช่ แล้ว ซึ่งผิดจ้า ครูรีบไปเลยพลาดนี่แหละ เป็นตัวอย่างงานโคลงพลาดง่ายๆตกน้ำตายตื้นๆนะ รักเสมอ แก้วประเสริฐ.
18 พฤศจิกายน 2552 22:22 น. - comment id 1044479
คุณ ครูพิม ครูผู้แสนสวยแห่งเมืองเลยสถานที่เที่ยวที่ผม ติดใจมิรู้ลืม ครับผมก็ว่าหนาวแน่ๆเพราะเคยไปมา แล้ว แต่ทางกรุงเทพฯแปรปรวน เช้ารู้สึกเย็นๆ ตกสายบ่ายร้อนแทบตับแตก ตกค่ำๆเริ่มเย็นอีก แล้ว ครับ คุณชินกับอากาศแบบนี้แล้วคงไม่เป็นไร ผมเป็นคนกลัวความหนาวมากๆเสียด้วย นี่เขาลูกๆ เขานำลูกน้องไปเที่ยวดอยอ่างข่างพักที่นั่นให้ผมไป ผมปฏิเสธบอกว่าทนหนาวไม่ไหวยอมแพ้ครับ ยิ่ง ตอนนี้ร่างกายพึ่งทุเลาเขาไปเดือนหน้าครับ อากาศคงหนาว ทั้งๆที่ผมยังไม่เคยไปแต่กลัวๆ มากๆครับ ดอยอ่างข่างจะหนาวมากๆด้วย เขา คิดจะไปดูน้ำค้างเป็นเกล็ดครับ รักและคิดถึง เสมอๆครับ แก้วประเสริฐ.
18 พฤศจิกายน 2552 22:26 น. - comment id 1044481
คุณ สุริยันต์ จันทราทิตย์ เช่นเดียวกันครับที่แวะมาเยี่ยมครับ ผมก็ นานๆจะแต่งสักทีก็ยังยกตัวอย่างให้ศิษย์พลาดจน ได้ครับ และผมมักจะแนะนำให้ศิษย์ผมไว้เสมอๆ ไม่มากก็น้อย หากเป็นประโยชน์ก็นำไปใช้ฝึกได้ เลยครับ หากเห็นว่าดีนะครับ รักเสมอ แก้วประเสริฐ.
18 พฤศจิกายน 2552 22:28 น. - comment id 1044483
ศิษย์รักเรา การเขียนโคลงต้องตรวจสอบหลายๆเที่ยวนะ เดี๋ยวตกม้าตายเช่นครู ที่ยกตัวอย่างไว้เน้อ ทุกๆ อย่างพลาดกันได้แต่หากรู้ตัวและรีบแก้ไขยังดีจ๊ะ รักศิษย์เราทุกๆคนเสมอจ้า นี่คือตัวอย่างไม่ดีของครู รักเสมอ แก้วประเสริฐ.
19 พฤศจิกายน 2552 00:01 น. - comment id 1044505
เสียงนางครวญร่ำไห้ ตามลม หมายบอกใจแสนตรม ข่มท้อ ความหมองหม่นระทม นานยิ่ง แล้วนา ฝืนอยู่ดังคำพ้อ ฝากไว้ยามครวญ ปรางตามเสียงสะอื้นมาค่ะ ครูแก้วครวญได้งดงามเช่นนี้ แสดงว่าสุขภาพดีขี้นแล้วนะคะ
19 พฤศจิกายน 2552 03:17 น. - comment id 1044518
แวะมาอ่านโคลงเพราะ ๆ ครับ
19 พฤศจิกายน 2552 08:51 น. - comment id 1044567
โคลงไพเราะค่ะ น้องไม่สามารถ จริงๆ เศร้าจังเลยค่ะพี่แก้วประเสริฐ..
19 พฤศจิกายน 2552 09:19 น. - comment id 1044573
ขอบคุณครูแก้วมากครับ.กับคำแนะนำ .อิอิ ผมเองก็พลาดโคลงที่ลงนะครับ..แร้ง...ต้องเป็นแล้งครับ.. ตั้งใจให้เป็นกลิ่นของกุหลาบที่แล้งน้ำนะครับ.. ขนาดตรวจสอบผมก็ยังพลาดครับ มัวแต่จะเล่นอักษร..โคลงนะครับ กลิ่นร่ำกุกลาบแล้ง.....โชยริน รำบัดระโบยบิน..........บั่นเร้า ดินแห้งเหือดหยาดสินธุ์...ไหลผ่าน หากพบน้ำใจเจ้า.....จึ่งได้เบ่งบาน..
19 พฤศจิกายน 2552 11:46 น. - comment id 1044620
คุณ ปรางทิพย์ นับว่าดีขึ้นมากแล้วจ้าศิษย์เรา ดีแล้วเขียน โคลงได้งดงามเรียกอารมณ์คนอ่านได้ดี ตอนแรก หัดเดินตามฉันทลักษณ์ ใช้เสียงเอกไปก่อน พอ คล่องขึ้นค่อยใช้ตัวแทนนะ ครูเองบอกแล้วว่าหาก เขียนกลอนแปดให้ได้แปดคำเสมอๆไม่ปะปนกัน แปดบ้างเก้าบ้าง ด้วยกานท์นั้นเขานับทำนองเป็น หลัก บางอักษรหมายถึงคำกล้ำจะมีสองพยางค์จึง นับเป็นหนึ่งคำ หากมาเล่นโคลงเขาเจาะจงทำนอง เป็นหลัก เมื่อเราเล่นกลอนแปดแปดคำแล้วมา เล่นโคลงจะง่ายดายมาก หากรู้จักพลิกแพลง เล่นอักษรหักมุมอักษรด้วยก็จะงดงามยิ่งขึ้น เพียงแต่ต้องระวังให้มากๆ แต่คนอ่านจะต้องคิด ติดตามทุกๆตัวอักษรเลยต้อง บังคับเสียงให้ได้ ประสานกันจ๊ะ รักศิษย์เราเสมอ แก้วประเสริฐ.
19 พฤศจิกายน 2552 10:50 น. - comment id 1044622
ช่วยลบด้านบนด้วย ครับ เพราะพิมพ์ผิดไป ครับ ท่านพี่ ๐ คราครวญคร่ำ นางพร่ำเพรียกหา ถึงพี่ยา หรือว่าถึงใคร ๐ อยากปลอบขวัญ วันเจ้าหวั่นไหว กลัวนะใจ นวลไม่มองเรียม ๐ ใครครางครวญคร่ำคล้าย คราวไคล คลาเฮย จินต์เจ็บจำจนใจ จากเจ้า หนาวเหน็บหน่วงในใน นวลนิ่ม นางเอย ราวเรื่องรักรุมเร้า เล่ห์ลิ้นลมหลอน...ฯ ๐ ใครครางครวญคร่ำคล้ายหมายถวิล สุขโศกจินต์รินร่ำคร่ำครวญหา เศร้าเทวษเศษเสี้ยวเหนี่ยวอุรา ใครหนอมาลานางให้ครางครวญ...ฯ กลอนพาไปนะครับท่านพี่ คงไม่ว่ากัน มาอ่านงานงามๆเลยขออนุญาตแจมนะครับ รักษาสุขภาพให้มากๆนะครับ รักและเคารพเสมอ ครับท่านพี่
19 พฤศจิกายน 2552 11:49 น. - comment id 1044649
คุณ รัมณีย์ เจ้าแต้รูปงามเอ๋ย แกล้งชมหรือเปล่าล่ะ ว่างๆ สอนการจีบสาวให้ด้วยนะ รักเสมอๆ แก้วประเสริฐ.
19 พฤศจิกายน 2552 11:55 น. - comment id 1044650
คุณ ครูกระดาษทราย สวัสดีครับครู ผมเองก็มักจะชอบเขียนแนวนี้ ครับ ด้วยทั้งชีวิตผ่านความเศร้ามามากกว่าครับ จึงเป็นสาเหตุหนึ่งที่ฝังลึกๆไว้ในห้วงจิตใต้สำนึก ผมครับ แม้จะผ่านมาแต่ปัจจุบันยังหนีไม่พ้นเลย ครับ ขอบคุณ รักเสมอๆ แก้วประเสริฐ.
19 พฤศจิกายน 2552 11:58 น. - comment id 1044652
กุหลาบแดงแนบเนื้อ นวลเอย หอมกลิ่นชื่นทรามเชย ร่ำร้อง เย้ายวนจิตเปรียบเปรย รักใคร่ หวังมั่นบ่มรักต้อง แน่นแฟ้นเคียงกัน ยามรักกหวานซาบซึ้ง ตรึงกาย นานกลับแปรเปลี่ยนหมาย มนุษย์นี้ สัมพันธ์ย่อมเสื่อมคลาย ไม่แปลก ทุกสิ่งบอกชัดชี้ ส่วนเสี้ยวใจคน หากรักปักสู่ห้วง แกนใจ ทุกอย่างลึกลงใน แต่ต้น สองคนช่วยสายใย ไร้ขัด คอยส่งเสริมไม่พ้น สุขแท้จริงเอย สวัสดีค่ะคุณครู เจ็บคอ ไข้หวัดเล่นอีกแล้วค่ะ อิ
19 พฤศจิกายน 2552 12:05 น. - comment id 1044653
คุณ น้ำตาลหวาน ไม่ยากหรอกน้องรัก หากน้องติดตามอ่านกระทู้ ที่พี่เองตอบกับศิษย์พี่เสมอๆก็จะพอทราบหลักการ ต่างๆ คือ หัดเล่นกลอนแปดให้คล่องเสียก่อน แต่ กลอนแปดต้องแปดคำ คำเขานับทำนองเป็นหลัก เช่นเดียวกับโคลงจ๊ะจะนับทำนองเท่านั้น แต่กลอน แปดคือรากเง่าของการเล่นกานท์ทุกๆชนิด ไม่ใช่ว่า เป็นกลอนตลาดนะ ที่บ้างก็แปดบ้างก็เก้าจ๊ะ หากน้องเราเล่นกลอนแปดได้คล่องตามใจนึก ก็สามารถจะเล่นอย่างอื่นได้ง่ายขึ้น จะยากก็ตอน คิดเล่นอักษร การพลิกแพลง การหักมุมนี่แหละ ต้องระมัดระวังให้มากๆผิดง่ายเมื่อเล่นแล้วต้อง ประสานทำนองให้กลมกลืนกันตลอดจนคำที่ จะมารับคำนั้นๆด้วย หลักของพี่คือ เราต้องทำ จิตให้เป็นกลอน กลอนเป็นจิตให้เป็นหนึ่งเดียว ให้ได้เสียก่อน ฉนั้นหากนึกอยากจะเขียนก็จะ ไม่ติดขัดจ๊ะ อีกอย่างหนึ่งเราต้องรักเขา หมายถึงกลอน เขาก็จะรักเรา อย่าท้อถอย เป็นอันขาด สู้ๆๆๆๆ รักน้องมากเสมอๆ แก้วประเสริฐ.
19 พฤศจิกายน 2552 12:26 น. - comment id 1044656
คุณ คนกุลา พี่ลบให้เรียบร้อยแล้วนะน้องรัก ไม่ใช่กลอน พาไปหรอก มีบทหนึ่งอยากจะแนะนำน้องรักคือ การสัมผัสในนั้นควรยิ่งจะใช้เพียงแค่สัมผัสเดียว การใช้สัมผัสซ้อนนั้นจะออกแนวทางกลอนพาไปนะ เช่นของน้อง คือ สุขโศกจินต์รินร่ำคร่ำครวญหา จินต์กับริน สัมผัสกัน ร่ำกับคร่ำ สัมผัสกัน เรียกว่าสัมผัสซ้อนจ๊ะ ควรใช้ตัวเดียวจะดีกว่า มิฉนั้นจะกลายเป็น กลอนพาไปจ๊ะ รักน้องพี่เสมอ แก้วประเสริฐ.
19 พฤศจิกายน 2552 12:14 น. - comment id 1044670
คุณ กิ่งโศก ไม่เป็นไรนะศิษย์รักเรา ผิดคือครู เรารู้ตัวก็ แก้ไขได้จ๊ะไม่เสียเงินทองเลยดีจะได้รู้เพิ่มเติมอีก ไม่ต้องกังวล การเล่นอักษรนะดีแล้ว แต่ต้องรู้จ้ก การหักมุม พลิกแพลงด้วยให้ทำนองประสานกลมกลืน กันนะ ตอนท้ายเขียนได้ดีแล้วล่ะ ครูบอกแล้วว่า การใช้...จุด....นั้นให้ใช้ตัวเดียวเท่านั้น นี่หมายถึงว่า จะต้องมีต่อ การเขียนบทเดียวหรือหลายบทนั้นอยู่ ที่การลงท้ายเราคือบทสรุปนั่นเองจะ บทเดียว หากลงท้ายสรุปไว้ดีก็จะจบด้วยความสวยงามจ๊ะ รักศิษย์เรามากเสมอ แก้วประเสริฐ.
20 พฤศจิกายน 2552 09:27 น. - comment id 1066092
มาอ่านโคลงเพราะๆ ครับ แต่คงไม่อาจ ร่วมแจมได้ครับ ยังไม่ค่อยเป็นอะไรเลย ขอให้คุณลุง มีความสุข มากๆ ครับ
20 พฤศจิกายน 2552 13:41 น. - comment id 1066183
คุณ กวีน้อยฯ ไม่เป็นไรหรอกหลานรัก ลุงเองก็เคยเขียน กระทู้ตอบเหล่าศิษย์ไว้ก็ทดลองหรือสอบถามมาหรือ อาจารย์กุลาน้องลุงก็ได้นี่นา เห็นไปเล่นกลบทอยู่ ก็เลยเฉยๆ อันที่จริงแล้วกลบทนั้นใช้สมองมากเป็น ของเล่นของกวีสมัยโบราณท่านเบื่อๆก็เลยค้นหาวิธี ประกวดกันเล่นๆ ตามความจริงแล้วไม่อยู่ในหมวด กานท์หรอก พึ่งมาเติมในสมัยยุคหลังๆนี่เองแหละ ลุงคิดว่าลองหัดแต่งอักษรตัวเดียว เช่น ก ข คฯลฯ ทั้งบทยิ่งยาวๆยิ่งดี แต่ห้ามตัวช่วยนะ ทุกคำเป็น อักษรตัวเดียวหมดจนจบ ลุงเคยเล่นมาแล้ว แทบกระอักเลือดเชียวล่ะ ลองย้อนหลังไปอ่าน ของลุงค้นหาเอาเอง นำไปลงเวปฯคุณดอกแก้ว เขาตอบเล่นได้เหมือนกัน แต่ร้องลั่นเชียวล่ะ อิอิ สนุกกว่ากลบทเป็นไหนๆ แล้วไพเราะด้วย ข้อแม้ต้องให้สัมผัสสอดคล้องกันด้วยนะ ไม่ใช่ สักว่าจะใช้อักษรอย่างเดียวนะ รักหลานเราเสมอ แก้วประเสริฐ.
20 พฤศจิกายน 2552 14:23 น. - comment id 1066197
แวะมาอ่านโคลงของคุณลุงแก้วค่ะ เคยแต่งตอนสมัยเรียน แต่ห่างมานานนนนนนนนนน จนไม่มั่นใจว่าจะแต่งได้แล้วค่ะ แหะๆ คิดอยากพยายามแต่งแต่ยังไม่ได้เรื่องเลยค่ะคุณลุง หนาวอีกรอบแล้ว คุณลุงรักษาสุขภาพนะคะ น้องมดเป็นห่วงค่ะ
20 พฤศจิกายน 2552 17:04 น. - comment id 1066254
คุณ ยายแม่มด หลานเอ๋ยโคลงนั้นไม่ยากหรอกจ๊ะหากทำ ตามฉันทลักษณ์ตามกฏที่เขาวางไว้ แล้วต้องรู้จัก พลิกแพลง หักมุม เล่นอักษรคำ ให้เขาคิด นี่คือ เคล็ดอย่างหนึ่งนะ อีกประการหนึ่ง ก่อนจะเล่น โคลงหรือกานท์ใดๆก็ตาม หลานควรฝึกกลอนแปด ต้องเป็นกลอนแปดจริงๆไม่ใช่กลอนตลาด คือ แปด บ้างเก้าคำบ้าง กลอนแปด ต้องแปดคำเขานับทำนอง ด้วยและต้องเป็นกลอนแปดจริงๆ ลุงเองก็เคย เขียนไว้ในกระทู้หรือแต่งกลอนเกี่ยวกับการ เล่นกลอนแปดไว้อยู่แล้วทำตามนั้นเถอะไม่ผิด หรอก หากหลานเราฝึกกลอนแปดต้องแปดคำ นะรวมทำนองแล้ว ลองไปหัดเล่นอย่างอื่นซิมัน จะง่ายจ๊ะ ส่วนเกล็ดย่อยก็อ่านกระทู้ที่ครูตอบศิษย์ ของลุงไว้นั่นแหละจ้า ทำไมถึงเน้นกลอนแปดไว้ หากเล่นกลอนแปดให้อ่อนไหวอ่อนช้อยพลิ้ว สามารถเรียกอารมณ์คนอ่านให้ไหลตามเราได้ นั่นถือว่าประสบความสำเร็จจ๊ะ ด้วยกลอนแปด นั้นจะย่อความเรื่องราวไว้อยู่ในตัวเองเสร็จ เมื่อมาเล่นโคลงหรืออื่นๆก็จะง่ายยิ่งขึ้น นี่ขนาด โคลงนั้นนานๆจะเล่นทีนะ ส่วนมากจะเล่นกลอน แปดไว้เสมอๆ หัดไว้ไม่ต้องกลัวเพียงใช้ใจเรา นี่แหละบังคับอารมณ์ไว้เสมอๆ ด้วยอารมณ์นั้น คือแห่งเกิดของการเขียน หากไม่ใช้ใจบังคับไว้ มันจะพาเราเตลิดเข้าป่าไป ที่เขาเรียกว่ากลอน พาไปนั่นแหละจ๊ะ ด้วยอักษรทุกๆตัวจะมีทำนอง อยู่ในตัวเองเสร็จ อยู่ที่ว่าเราจะเข้าใจอักษรนั้น ได้ขนาดไหนเท่านั้นเองว่าทำนองทำอย่างไรจึง จะมาผสานกับอักษรตัวอื่นจ๊ะ รักหลานเสมอเลย อดแนะนำไม่ได้จ้า อิอิ แก้วประเสริฐ.