๏ หมอกขาวเริ่มเลือนรางยามสางรุ่ง ยามสูรย์ปรุงแสงวันเข้าผันผาย น้ำค้างรินหยาดหยดรันทดกาย รอลับวายพร้อมเดือนล่วงเลือนไป เหลือเพียงความทรงจำให้รำลึก ในรู้สึกสะกดกลั้นความหวั่นไหว ยิ่งแสงทองรุกเข้าแรงเท่าใด ดั่งตอกใจคนช้ำต้องจำนน ท่ามแสงวันฉันยืนสะอื้นร้อง น้ำตานองท้นฟ้าราวห่าฝน คิดถึงรักเลือนรางของบางคน ยิ่งเจ็บล้นปวดร้าวโศกเศร้าทรวง หมอกขาวเริ่มลับลาอุษาสาง ใจบางบางร้างแล้วแววห่วงหวง เหลือเพียงซากธุลีฤดีดวง ทับถมห้วงความฝันท่ามวันเยือน๚ะ๛
13 พฤศจิกายน 2552 13:09 น. - comment id 1063827
อยากเห็นหมอกขาวบ้างจังค่ะ อยากจะหนาวกับเขาบ้าง
13 พฤศจิกายน 2552 13:36 น. - comment id 1063834
หายไปนาน มาพร้อมกะน้ำตาหมอกเลย เป็นกำลังใจให้แล้วกันค่ะ ที่นี่ร้อนมากๆ ไร้หมอก ไร้ฝน แดดล้วนๆค่ะ
13 พฤศจิกายน 2552 15:43 น. - comment id 1063933
มาช่วยซับน้ำตาค่ะ เป็นกำลังใจให้นะคะ
13 พฤศจิกายน 2552 16:34 น. - comment id 1063965
คุงลุงลี้หมื่นเดียวสบายดีนะเจ้าคะ
13 พฤศจิกายน 2552 17:35 น. - comment id 1064018
กลับมาพร้อมความเหงาเลยนะคะ
14 พฤศจิกายน 2552 00:05 น. - comment id 1064205
น้ำตาหมอกซอกซอนเมื่อตอนสาง เงาเลือนรางหว่างใจฤทัยหมอง ยามเจ็บร้าวคราวนี้รตีตรอง แม้ร่ำร้องก้องไปมิได้คืน บทกลอนเหงาเศร้าได้ใจเลยนะคะ
14 พฤศจิกายน 2552 00:35 น. - comment id 1064210
เดินทางกลางดอยเถื่อน ไร้เพื่อนที่มุ่งหวัง ตูบเก่าที่ผุพัง ความหลังยังฝังใจ อิอิ สงสัยเข้าป่าไปดูกระท่อมรังรัก
14 พฤศจิกายน 2552 14:29 น. - comment id 1064462
แวะมาอ่านกลอนเพราะๆค่ะ...
14 พฤศจิกายน 2552 15:30 น. - comment id 1064518
เข้ามาอ่านกลอนเพราะๆค่ะ หายไปนานเลยนะคะ