ยุคนี้สมัยนี้ ใช่เสรีจะมีได้ ความจริงนั้นไม่ตาย แต่ชีพวายนั้นคามี คิดเห็นประเด็นต่าง ยัดตะรางและเมืองผี สมยอมจึ่งว่าดี นี้เสรีประการใด หมดยุคทาสอำมาตย์ แต่อำนาจมิจากไหน เคยมีมีต่อไป กดขี่ไซร้ก็ธำรง ลวงว่าสละสิ้น แต่ดวงจินต์ยิ่งใหลหลง วางปล่อยทระนง เบื้องหลังคงอำนาจมัน ไพร่ลืมว่าตนไพร่ ตะกายใฝ่บันไดฝัน ยกเมฆเสกสุบรรณ ว่าสวรรค์เสมอเทียม ไพร่ลืมกำเนิดไพร่ เถลิงใหญ่บ่อายเหนียม เท้าย่างช่างบ่เจียม โธ่! คุณเรียมเกรียมสันดาน มักได้และง่ายขอ สำคัญพอให้เหิมหาญ แจ้งลับอัประมาณ บริวารสนองพลัน ยศยิ่งอภิฤทธิ์ มหาสิทธิ์พระเดชหรรษ์ กรานกราบกำซาบทัณฑ์ โลมานั้นศิริคุณ ถือว่าวาจาศักดิ์ ศิริลักษณ์เฉลาหนุน ห่มครองกองนาบุญ พาทีดุลย์ตุลาการ อำมาตย์อำมหิต วิปริตวิตถาร สมเสพสมสำราญ ทั้งหลังอานและพานกรวย ตัวดีไม่มีใคร พิสุทธิ์ใสวิไลสวย ธนทวีรวย ประชาซวยกันเถิดรา ประเทศทั้งเขตขันธ์ องค์กรสรรพ์เสมอหน้า พลิ้วลิ้นก็ปลิ้นฟ้า ขยิบตาธานินทร์จม เปลวเทียนเมื่อเปลี่ยนแสง ก่อนสิ้นแรงสว่างสม วาบหายสลายลม เหลือชื่นชมความวางวาย อำมาตย์ปัจฉิมภาค เสวยอยากก่อนจากหาย วาบแสงจำแลงพราย เพื่อมลายสถาพร ยิ่งร้ายก็ยิ่งเร่ง ยิ่งเส็งเคร็งยิ่งสังหรณ์ สายันต์ทินกร ทิฆัมพรอนธการ นี้คือสัจธรรม ศยามดำนำเปลี่ยนผ่าน ใดเลยจะเคยต้าน คชสารเมื่อตกมัน สูงส่งสิ้นส่งสูง สิ้นพันธุ์ยูงพันธุ์สวรรค์ นกกาเท่าสามัญ น่านฟ้านั่นบินเสรี คอยรออย่าท้อหวัง มีฝันฝั่งอันเฉิดศรี ฟ้าใหม่อุษามี สมัยนี้ย่อมแน่นอน บางความจากสังเวชประเทศศยามหมายเลข ๒
29 ตุลาคม 2552 16:54 น. - comment id 1058262
ยุคนี้สมัยนี้ หาเสรีอยู่ที่ไหน ประชาหรือว่าใคร กำเอาไว้ในกำมือ กำมืออันโสมม และสังคมอันกึกกือ กอปรกำเป็นคำคือ ขย้ำเนื้อประชาชน สูบเลือดลงเชือดเนื้อ ทั้งเถือหนังให้ทุกข์ทน คนค่าคำว่าคน อยู่ที่ใครในแผ่นดิน ดวงตาที่กล้าตื่น ย่อมหยัดยืนอยู่อาจิน หยาดเลือดที่หลั่งริน จักลุกลามเป็นความดี ลูกปืนสักหมื่นแสน ความกลัวสิ้นฤาจักมี เชี่ยวกล้ากว่านที ถล่มโถมอธรรมทราม หยาดเลือดประชานี้ ประดับธรณีงาม คือคนและคือความ คืออำไพในแผ่นดิน สวัสดีครับ ขอชื่นชมครับ ผมชอบบทกลอนที่ รังสรรค์ขึ้นด้วยจิตวิญญาณครับ ผมขอเป็นกำลังใจ เขียนต่อไปนะครับ
29 ตุลาคม 2552 18:57 น. - comment id 1058327
ผมเพิ่งเจอคนใจเดียวกัน เอาไปลงประชาไทด้วยนะ ของผมลงไป70คำกลอนครับ คุณ ณ ณ ปากนัง ขาประจำที่นั่น ประชาไทดอทคอมอย่าลืมนะครับ