กลั่นมาจากขี้เลื่อยความเฉื่อยแฉะ คลานเตาะแตะเขียนความตามเชื่อถือ ว่าเลือดไทยพอชะซึมกระทึอ ด้อยฝีมือเพียงใดแต่ใจฮึด ทรนงรุ่มร่ามบนความห่วย แม้ว่าใครไม่อวยร่ำรวยอึด ฉันทลักษณ์ดำรงยังคงยึด เขียนตะพึดตะพือคือนิยาม ถึงใครจะดูถูกว่าปลูกหญ้า เป็นภักษาเลี้ยงตนเสียงก่นหยาม มิใยดีวาทะคอยประณาม คงมีดีพอตามดูลีลา สำนวนแย่คำง่ายกระจายเกลื่อน วาจาเถื่อนงึกงักหลักภาษา ต้องขัดเกลาอีกเยอะเปรอะลูกตา จนปัญญาดึงผลักจากปลักเลน เฝ้าตำหนิติเตียน..เฆี่ยนด้วยแส้ ทุยต้องแก้ให้สวย..ฮ่วย! กางเขน ผลัดขนเอี้ยงหยอกเย้าเฝ้าเบี่ยงเบน ช่างจัดเจนแปรสภาพลบสาปควาย!!! ..
กุ้งหนามแดง 1 ก.ย. 2552 13:45 น. - ID 128829 
1480
9
0
5 กันยายน 2552 12:03 น. - comment id 993327
คุณ DL ในสังคมต้องพึ่งพาอาศัยกัน...เหมือนทุยกับเอี้ยง...เพราะฉะนั้นน่าจะถ้อยทีถ้อยอาศัยกันได้น่ะค่ะ ส่วนเรื่องที่จะบอกอะไรกับเอี้ยง หากเอี้ยงได้ยินก็คงเข้าใจหัวอกทุยบ้างน๊า...
1 กันยายน 2552 14:24 น. - comment id 1034320
หลากเรื่องราวกานท์กวีที่สื่อสาร เป็นสัญญาณความหมายให้ค้นหา แฝงบางสิ่งย้ำให้ได้พิจารณา อาจด้อยค่าไร้คุณเกื้อกูลตน หากบทความบางคราวเฝ้ารังสรรค์ เคยประพันธ์บทกวีที่สับสน ขออภัยที่ล่วงล้ำตามใจตน นึกว่าฝนผิดฤดูครู่เดียวเอง อันโพธิ์ไทรสูงยิ่งมากกิ่งก้าน เปรียบครูกานท์นักกวีที่ฉกาจเก่ง มองตัวเราเพียงกอหญ้าพากริ่งเกรง - หากยืนเพ่งคงเข้าใจไร้ราคา ขอวอนหมู่นักกวีเป็นที่รัก แจ้งประจักษ์สรรพสิ่งชัดจริงว่า หากนิยามคำกวีที่เขียนมา แม้นด้อยค่าขอให้อภัยกัน ป๊าดธ่อ .. รับสมยอมเป็นทุยอีกตัวก็ได้ ฟระ .. ฮ่า
1 กันยายน 2552 14:59 น. - comment id 1034331
กลั่นมาจากหัวจ่ายคล้ายเดียงสา เปิดตำรากางคู่อยู่เสมอ เขียนเหมือนเป็ดไล่ทุ่งรุงรังเออ แต่เสนอเลยสนองตามต้องการ ด้วยอารมณ์พาไปใช่เลอล้ำ สร้างถ้อยคำตามแต่แค่ประสาน ให้สอดรับประดับไว้ในกลอนกานต์ ไม่เคยหวังลูกหลานมาอ่านกัน หากใครเก่งเขียนมาตาก็อ่าน หากใครไม่ชำนาญก็อ่านนั้น หามีใครหลับตาเขียนนั่งเทียนกัน ทุกสิ่งนั้นกลั่นไปจากใจเรา นะพี่จ๋าหนูเป็นเช่นลูกไก่ ครั้นจะไปตามหมูรู้ว่าเศร้า เดินตามเป็ดเฉไฉเราไม่เอา เดินตามเงาผู้รู้ท่าดูดี ใครอวดเก่งกว่าทุยแต่ฉุยแฉะ คงอยากแทะเล็มหญ้าหน้าบ้านนี้ ปล่อยให้กันตามสบายเถอะคนดี หญ้าเรามีอีกมากไม่ยากเลย เขียนไปมาตำราพาลงหนอง เขียนลงคลองงานเข้าแล้วเจ้าเอ๋ย ไปแล้วพี่ไม่ว่างเหมือนอย่างเคย แค่เอื้อนเอ่ยประสา"คนบ้ากลอน" คริ คริ พี่กุ้ง หนูแค่บ้ากลอนเองน๊า
1 กันยายน 2552 15:01 น. - comment id 1034332
อย่าใส่ใจกับเรื่องหยุมหยิมเลยครับ เสียดายความสุขที่พึงมีครับ
1 กันยายน 2552 15:06 น. - comment id 1034334
กานต์เคยเป็นเด็กเลี้ยงควายนะคะ ดีกว่าเป็นเด็กเลี้ยงแกะตั้งเยอะเลยค่ะพี่กุ้ง ^_^
1 กันยายน 2552 15:27 น. - comment id 1034337
หน้าส่วนตัว
กลิ่นสาบควาย
กลิ่นสาบควายยังไม่วายจากท้องทุ่ง
อร่ามรุ่งเรืองรองสีทองคล้าย
เมล็ดสวยรวยเรียวดูเพรียวพราย
งอกรวงรายเพรียงเรียวสวยตระการ
เห็นทุยน้อยค่อย ๆ เล็มแทะกินหญ้า
ไม่เคยคิดนิ่งเงียบเสียงกล่าวขาน
ช่างเป็นทุยจิตสงบใจเบิกบาน
เขาไหว้วานทำนาแม้หลังตน
ต้องแบกแอกคันไถแสนจะหนัก
ไม่ลดละหนักมากสักกี่หน
ทุยไถนาทุยเหนื่อยก็ยังทน
ไม่เคยบ่นเกิดเป็นทุยร้องแต่มอ
ขอให้ทุยได้ไถนานะดีแล้ว
สร้างรากแก้วเลี้ยงชีวิตไม่คิดฉ้อ
คนเรานี้มีฃีวิตอยู่รู้ว่าพอ
อย่างทุยหนอแสนลำเค็ญไม่บ่นเลย
จิตของคนเราส่วนใหญ่คิดสองด้าน
คิดแบบสงลหรือคิดแบบฟุ้งซ่าน
1 กันยายน 2552 16:04 น. - comment id 1034345
คุณอัลมิตรา แด่ควายผู้ยะโส...อิอิ .................................................................. คุณแก้วประภัสสร เขียนซะยาวเลย นับว่าคลั่งไคล้กลอนพอควร..อิอิ .................................................................... นายอินสวน ไม่ได้ใส่ใจมากมาย แค่เห็นกลอนเพื่อนแล้วอย่างนี้มันต้องตอบ..อิอิ .................................................................... เจ้ากานต์...เพียงพลิ้ว เคยเลี้ยงแต่หมู....อู๊ด อู๊ด.. .................................................................... คุณวิชัย นั่นสิเพราะฉะนั้นเราควรรู้บทบาทของตนเองใช่ไหม... :) ส่วนมากเราคิดว่าตนเองสงบแล้ว แต่หารู้ไม่ว่าฝุ่นผงได้ตกตะกอนอย่างเงียบๆ จนเมื่อมีอะไรมากวนมันนั่นแหละ..จึงรู้ว่าแท้จริงแล้วมันไม่ได้สงบเลยสักน้อย....ข้อเท็จจริงเป็นเช่นนี้...เป็นเรื่องธรรมดาที่เรียนรู้ได้ด้วยตนเอง...ไม่จำเป็นต้องไปกดทับไว้..เพียงแต่รับรู้... แรงบันดาลใจในการเขียน บางครั้งไม่ได้มาจากตัวเอง ก็ย่อมได้ใช่ไหมค่ะ คุณวิชัย.. ....................................................................
1 กันยายน 2552 16:49 น. - comment id 1034358
ไม่มีใครที่สุดยอดอย่างเที่ยงแท้ มีแต่แปรปรับเปลิ่ยนไปตามวิถี เหนือฟ้ายังมีฟ้าใช่ไม่มี ยอมเป็นทุยก็ดีจักพัฒนา หากเป็นคนแล้วยึดมั่นวาตนเก่ง ทำตัวเยี่ยงนักเลงให้ครหา แต่ให้เก่งเกินใครในโลกา ก็ไร้ค่าของคนให้นิยม
1 กันยายน 2552 17:20 น. - comment id 1034371
1 กันยายน 2552 17:37 น. - comment id 1034398
1 กันยายน 2552 20:13 น. - comment id 1034494
ขออนุญาตย้อนหลังให้โค(ชรา)ร่วมรำพันด้วยนะครับ 555
1 กันยายน 2552 20:15 น. - comment id 1034496
สองเกลอ หัวแข็งคือใครละนี่ เป็นอะไรกับสามเกลอหัวขวดน๊า อิอิ อยากรู้จัง
1 กันยายน 2552 21:43 น. - comment id 1034549
จากควายกลายเป็นเอี้ยงแล้วหรือครับ
2 กันยายน 2552 09:37 น. - comment id 1034680
นาย DH :) ฝึกกระบี่ในถ้ำก็คิดว่าเป็นยอดฝีมือทั้งที่ยังไม่ได้เข้าสู่ยุทธภพเลย.... .................................................................... เจ้าฉางน้อย ขอบคุณสำหรับคำทักทายจ๊ะ.. .................................................................... คุณโคลอน :) ไม่มีอะไรจะกล่าวใช่ไหม.. ................................................................. นายกุ้งชาย ก็ย่อมได้.. .................................................................... คุณใจปลายทาง อัลมิตรา+กุ้งหนามแดง .................................................................... นายก่องกิก :) ก็ต้องอาศัยกันอยู่นี่จ๊ะ.. ....................................................................
2 กันยายน 2552 14:51 น. - comment id 1034805
ทันรำพุย
2 กันยายน 2552 19:48 น. - comment id 1034939
ช่วงนี้ ทุยฟีเวอร์ สงสัยเป็นกันทั้งบาง อย่างนี้ หญ้าคงหมดทุ่งแน่ๆสบายดีนะครับ
3 กันยายน 2552 09:54 น. - comment id 1035143
เจ้าเฌอ.. กีซะไม่มวน.. ................................................................... นายนักสืบ ก็ว่ากันไปตามกระแส... ....................................................................
3 กันยายน 2552 17:30 น. - comment id 1035300
เข้ามาทักทายพี่กุ้งค่ะ พักนี้บ้านกลอนแต่งเป็นทุยกันเยอะนะคะ กะจะบอกอะไรกับนกเอี้ยงหรือป่าวเอ่ย...?? หึ หึ หึ หึ หึ ด้วยจิตคารวะ
กลอนอกหัก รักหวานซึ้ง
กลอนอวยพร
กลอนให้กำลังใจ
กลอนให้ข้อคิด
