ยังมีเมืองเลื่องชื่อในกาลก่อน มีบิดรครองเมืองรุ่งเรืองแสน มีอำมาตย์ซ้ายขวาเฝ้าดินแดน ช่วยให้แผ่นดินงามนามเลื่องลือ อำมาตย์หนึ่งกรำศึกไม่ย่นย่อ เก่งการหมอดูแลราษฎร์ชนนับถือ ว่างงานศึกจับยาหาเครื่องมือ รักษาจนสุดฝีมือไม่เก็บเงิน ยังงานสอนสร้างคนบนแผ่นดิน ให้รู้จักทำกินอย่าขวยเขิน จงรู้จักแบ่งปันเมื่อมีเกิน จงดำเนินชีวิตอยู่อย่างเพียงพอ อีกอำมาตย์ดูแลราชวังสง่า คอยตรวจตราถ้วนถี่ที่สึกหรอ คอยซ่อมแซมแต่งปรุละเอียดลออ คอยเฝ้ารอปรนนิบัติพระบิดา ราชพิธีมีคราวใดคอยออกสั่ง เฝ้าระวังมิให้ได้น้อยหน้า ทั้งเคี่ยวเข็ญนางในใช้ศักดา จงบันดาลงานออกมาให้เกรียงไกร เมื่อถึงคราวสืบตำแหน่งแห่งแผ่นดิน พ่อแผ่นดินเรียกอำมาตย์อยู่หนไหน อำมาตย์เมืองเข้าเฝ้าอย่างว่องไว อำมาตย์ไพรพัวพันศึกลำบากตน เจ็ดทิวาราตรีก็ผ่านคล้อย อีกอำมาตย์ก็ค่อยมาฝ่าแดดฝน การถามการณ์จึงเริ่มในบัดดล เจ้าแผ่นดินถามเหตุผลที่สมควร อำมาตย์วังตั้งคอแล้วตอบมั่น ตัวของฉันแต่งวังและแต่งสวน ราชพิธีริ้วธงแลขบวน ทุกสิ่งล้วนงามล้ำเลื่องลือไกล ข้านี่แหละสมควรขึ้นครองราชย์ เพื่อประกาศว่าชาติเรายังผ่องใส ความเจริญโอ่อ่าจะแผ่ไป สู่ดินแดนป่าไพรไกลทมิฬ พระพ่อผินมาหาอีกอำมาตย์ จงประกาศความของเจ้าเพื่อทรัพย์สิน เพื่อตำแหน่งยิ่งใหญ่ในแผ่นดิน อำมาตย์ศึกคิดสิ้นจึงตอบมา ข้ารบราฆ่าฟันมามากแล้ว พระพ่อแก้วเพียงใฝ่ถวิลหา ผู้จะขึ้นครองบัลลังก์เป็นราชา อันตัวข้าไม่หมายจะแย่งชิง เพราะหมายใจจะช่วยชนที่ทุกข์ยาก ที่ลำบากร้อนใจกายดั่งไฟผิง ทั้งข้าศึกรุมเร้าเข้าแย่งชิง ไม่อาจทิ้งการป่าที่ข้าดู แม้นมงกุฏที่สวมใส่ก็ไร้ค่า มีบังลังก์วังราชาที่สวยหรู ราษฎร์ยังเจ็บยังร้อนไร้คนดู ไม่อาจอยู่อย่างโอ่อ่าในวังงาม พระราชาจึงหัวเราะอย่างชอบใจ ว่านี่ไงเจ้าแผ่นดินที่เฝ้าถาม เจ้าจงครองราชย์เลิศให้ลือนาม คงถึงยามข้าพักผ่อนหย่อนกายใจ อำมาตย์วังนั่งอึ้งถึงความตรัส แล้ววิ่งลัดออกจากโถงไปร้องไห้ ออกไปเห็นพลจุดพลุคนดีใจ จึงหลบไปในห้องนอนก่อนเศร้าซม เสร็จพิธีราชาภิเษกแล้ว อำมาตย์แก้วเป็นราชาสง่าสม วางมงกุฏหยิบดาบอันแหลมคม ควบอาชาเกลียวกลมสู้ศัตรูภัย
28 สิงหาคม 2552 09:22 น. - comment id 1032798
เก่งจังเลยค่ะ นิทานแฝงคติธรรม ยังเป็นบทร้อยกรองที่เพราะมากๆด้วย.... ใครบ้างนะ ที่จะคิดใคร่ครวญได้แบบนี้บ้าง
28 สิงหาคม 2552 11:51 น. - comment id 1032839
ไพเราะและให้คติธรรมดีจังค่ะ ...
28 สิงหาคม 2552 19:00 น. - comment id 1032925
ยามใดที่เราเฝ้ามองแผ่นดิน คงได้ยินที่คนที่เเล้วมาฟันฝ่ามามากยิ่ง กว่าได้ยื่นบนปฐวีนี้ได้คงทน.....เจ้าจงมองหาอดีตที่ผ่านมา..... ดีมากครับ......ชื่นชมด้วยใจ....
29 สิงหาคม 2552 07:36 น. - comment id 1033054
เขียนได้ดีที่เดียว มีพลาดจุดเล็ก น่าจะคีย์ไม่ครบคำ นะ
29 สิงหาคม 2552 18:10 น. - comment id 1033252
แต่งได้คติสอนใจมากๆ ครับ ว่าแต่ว่า อำมาตย์เหมาะหรือยังจะเป็นราชา...
2 กันยายน 2552 20:54 น. - comment id 1034964
จริงๆแล้วก็ไม่ได้ตั้งใจว่าจะให้ถึงกับเป็นคติธรรมสอนใจขนาดนั้นหรอกค่ะ แต่ได้แนวคิดมาจากรุ่นพี่ที่ได้รางวัลชิ้นหนึ่งมาด้วยวความยากลำบาก ตากแดดตากฝน ซึ่งรางวัลนี้มีหลายคนต้องร้องไห้ หนึ่งในนั้นก็คือคนลักษณะอำมาตย์วังน่ะค่ะ ทำแต่งานเอาหน้า เปรียบเทียบการเป็นราชากับการได้รางวัลน่ะค่ะ ส่วนราชาก็คือผู้ใหญ่ที่จับตาดูผลงาน ว่าไปแล้วไม่ว่าราชาคนนี้จะเหมาะหรือไม่เหมาะ แต่เชื่อว่าคนทั่วไปคงชื่นชมและพร้อมจะหมอบกราบ ขอบคุณทุกคนที่เข้ามาชื่นชม และให้กำลังใจค่ะ ขอตั้งใจฝากผลงานไว้ในบ้าน Thaipoem ตลอดไป