ต้องบอกว่า ขอโทษอย่างแรงนะครับ ที่กลอนแนว ติ๊งตีอง ไร้สาระ แนวบ้าๆ หนังจีนของผมไม่อาจเสร็จภายใน 3 วัน ไม่ใช่ว่า ผมไปฝึก วรยุทธที่ไหนหรอกครับ เผอิญ เน็ตเน่าซะก่อน เลยห่างมา 3 วัน หวังว่า คงไม่ลืมกันนะครับ..... เข้าเนื้อเรื่อง แบบจับประเด็นคร่าวๆ หลังจากที่ จูล่งตี๋ในตอนที่ 2 ได้เจอกับ ตงฟาน (ฟุป้าย) ผู้ที่ลอบสังหารบิดา และสังหารแม่ของเขา ต่อหน้าต่อตา ตั้งแต่อายุ 15 ปี บริบูรณ์ จูล่งตี๋ นึกอยากจะฆ่าคนๆนี้ทันที แต่ด้วย ที่ ซัมโป จอมยุทธขี้เมา ต้องการจะมาล้างแค้นให้กับตระกูลปราบมาร อันมี คัมภีร์ ฟุเหว่ย 72 ท่า (พึงดูหนังจีน เรื่อง จอมยุทธเย้ยยุทธภพมา อิอิ เลยได้แนวคิด) แต่บิดาของเขาฝึกไม่สำเร็จ และตัวของเขาเองก็เป็นคนเกเร จึงฝึกไม่สำเร็จทั้ง 72 ท่า ได้เพียง 55 ท่า เท่านั้น ด้วยเหตุนี้ ตระกูลปราบมาร จึงถูกฆ่าล้างตระกูลไปจนหมด...ยกเว้น จอมยุทธขี้เมา นามซัมโป ผู้นี้ ขณะที่ แม่นางเตียวเสี้ยน-ซัง คนรักของ จูล่งตี๋ ก็จำได้ถึงสัญลักษณ์ ที่เป็นเครื่องหมายในรอยหลังมือ ที่ตงฟาน เป็นคนทำลาย พรรคฟ้าทะลาย-มาร ได้อย่างแม่นยำ ส่วนจูล่งตี๋นั้น แม่จะมีความแค้น ต่อตงฟาน เพียงใด แต่ความแค้นของเขาก็หาใช่มีแค่เขาคนเดียวไม่ และตัวเขาเอง จำเป็นต้องต่อสู้กับ องค์ชายเล็ก (ลูก กบฏ) ป๊วยคำเหล่ง ผู้อยู่เบื้องหลัง พรรคมาร และจอมมารที่แสนเย็นชา รวมถึง โหดเหี้ยมที่สุด ในยุทธภพ ขณะนั้น ที่สำคัญ ฝ่ามือเหล็กไหล เป็นฝ่ามือที่เกิดจาก ธาตุไฟเข้าแทรก ขณะที่ ฝึกวิชาเคลื่อนย้ายจักรวาล สามารถดูดพลังศัตรูเป็นของตน และดูดชีวิต ไปพร้อมๆ กัน ทำให้ฝ่ามือ เหล็กไหล ของเขา จึงเป็น วิชาที่มี พลังวัฏฏ์ ไร้ขีดจำกัด พอๆกับ ท่าดาบสายฟ้าคู่ ของจูล่งตี๋ เลยทีเดียว ศึกครั้งนี้ แม้จูล่งตี๋ จะฝึกวิชา ฝ่ามือ อรหันต์สิบทิศ ได้สมบูรณ์ แต่ทว่า การจะเอาชนะศัตรูที่มีพลังวัฏฏ์ใกล้เคียง หรือ มากกว่า ด้วยวิชา ฝ่ามือเหล็กไหล ดูดจักรวาล คงจะไม่ใช่เรื่องง่าย ผลของการต่อสู้จะเป็นยังไง ติดตามชมได้ใน จอมดาบขี่ม้าขาว ศึกอัศวินสัญลักษณ์แห่งผู้กล้า.........การฟืนคืนชีพของจูล่งตี๋ และความตายของเจ้าแหงมาร 27 ทั้งซัมโปแลเตียวเสี้ยนต่างเคียดแค้น กำหมัดแน่นหมายมั่นการฟันฆ่า ศึกครั้งนี้ถึงตายวอดวายชีวา อนิจจาสุดฟ้าเห็นและเป็นใจ 28 ขณะที่ชาวจอมยุทธสุดประหม่า สมุนมารแกร่งกล้าโหมมาใส่ ทั้งค่ายกลหลุมพรางวางพิษไอ ธนูไฟหมื่นเล่มเต็มประดา 29 ฝ่ายบู๊ตึ้ง หัวซาน บริวารพร้อม เส้าหลินหลอมรวมใจไปแนวหน้า ส่วนง้อไบ๊ ไทซาน ผ่านปีกขวา คุณหลุน พา ปราบมาร ต้านปีกซ้าย 30 ป๊วยคำเหล่งมือทองผยองยิ่ง ไม่ละทิ้งทีท่าวาจาหยาบคาย จูล่งตี๋มองหน้าอย่างท้าทาย ต่างคนหมายพิชิตให้นิทรา 31 พี่ซัมโปจิตใจเหมือนไฟร้อน กงจักรร่อนแรงฤทธิ์หวังปลิดชีวา ตงฟานหลบหลีกซ้ายย้ายขวามา แล้วใช้ท่ามือ อรหันต์ สะท้านกาย 32 ถึงกับทำซัมโปโมโหหนัก เลือดทะลักซวนซมระทมหงาย เตียวเสี้ยนนึกคิดพินิจคลับคล้าย ท่าไม้ตายจูล่งตี๋นี่หรือไม่ 33 ฝ่ายซัมโปเข้าใจในท่ายุทธ หัวเราะสุดเสียงดังระฆังใส ตงฟานถามเจ้าบ้าหรือว่าไร จึงตอบไป ท่าอรหันต์ตะบันทิศ 34 เตียวเสี้ยนจึงเหาะเหิรเดินเวหา แล้วใช้ท่ามือยูไลวิไลนิมิต ให้ตงฟานมีนเมาดลเข้าจิต ฝ่ามือสิบทิศพลิกแพลงทะแยงกาย 35 แล้วรวบรวมพลังวัฏฏ์ซัดกระหน่ำ ซัมโปถลำรุกโซ่ตรวนล้วนเหมาะหมาย แต่พลังมืออรหันต์พลันทลาย โซ่ขาดสายซัมโปอึ้งคะนึงนาน 36 เตียวเสี้ยนเห็นทีท่าไม่น่าไว้ใจ ดาบวงเดือนเลื่อนไหลดั่งสายธาร ไม้เท้าทองเก้าเงาเจ้าตงฟาน ปัดดาบรานแหลกยับย่อยกับมือ 37 เมื่อซัมโปเห็นท่าไม้ตายโหดร้ายเหลือ ดาบมังกรเถือแทงอกแล้วพกถือ ขีดนิ้วตนรนร่ายมั่นหมายคือ มังกรซื่อกำเนิดระเบิดวิชา 38 ดาบมังกรแกร่งกล้ากว่าขุนเขา ไม้เทาเงาหลากทิศประชิดกายา เตียวเสี้ยนหยิบดาบอ่อนที่ซ่อนมา ดาบอิงฟ้าแสงวิบวับประทับตงฟาน 39 เสียงเพลงดาบกวัดไกวในเวหน ตงฟานหล่นร่วงกรูสู้อาจหาญ เลือดติดกายตายทรนงมิคงทาน ไร้อาจต้านดาบอิงฟ้าผ่าอกเอย 40 สมุนมารเจอยอมยุทธเป็นชุดฉาก เหมือนน้ำหลากไหลบ่าท่วมมาเฉย จึงยอมแพ้ถ้วนหน้าน้ำตาเปรย กล่าวชมเชยจอมยุทธสุดฝีมือ 41 แต่ศึกใหญ่ใกล้เข้ามาเวลานี้ จูล่งตี๋ใช้กระบวนท่าน่านับถือ ป๊วยคำเหล่งเก่งสมคำชมลือ ใช้ฝ่ามืออำมหิตคิดร้ายมา 42 อันฝ่ามืออรหันต์พลันสิบทิศ เนรมิตทิศทางต่างเสาะหา ใส่คำเหล่งเพ่งมองจ้องนัยน์ตา พลังวัฏฏ์มารหนาพาดูดกลืน 43 จูล่งตี๋ถลำไปในท่ายุทธ มิอาจหยุดพลังมารต้านสุดฝืน เจ็บปวดตรมระทมกายมิคลายคืน ยิ่งเเข็งขืนยิ่งกลืนกินสิ้นชีวา 44 เตียวเสี้ยนเห็นดังนั้นพลันร่ำร้อง ซัมโปมองออกไปอาลัยหนา ป๊วยคำเหล่งยิ้มย่องหัวเราะก้องฟ้า พลังข้าเหนือใครในปฐพี 45 เพียงสักพักม้าขาวขนพราวสยาย มาเคียงกายจูล่งปลงโศกศรี จนอกตรมขมไหม้ไปทุกที สิ้นชีวีเป็นแสงทองแก่ท้องฟ้า 46 ณแสงนั้นพลันกำเนิดเกิดอกซ้าย มากลับกลายสัญลักษณ์สลักว่า เมื่อตัวตายกายดับลับชีวา ฝ่ามือข้าอรหันต์สิบทิศไร้จิตใจ 47 จูล่งตี๋จึงฟื้นแล้วคืนชีพ ดั่งว่าบีบคำเหล่งเกร็งหมัดใส่ ด้วยฝ่ามือดูดจักรวาลผสานเหล็กไหล เเผ่นดินไหม้เป็นผง ณ ตรงนั้น 48 จูล่งตี๋ยันฝ่ามือถือข้างซ้าย ม้ากลับกลายเป็นเป็นมังกรร่อนเวหัน สัญลักษณ์อัศวินบินเย้ยจันทร์ ฝ่ามือนั้นย้อนไปไร้อณู 49 สรรพสิ่งโลกร้อนยังอ่อนหวาน ไทเก๊กกว้านร่ายรำทำสวยหรู ฝ่ามือเหล็กหลากไหลไร้ท่าสู้ อ่อนรู้อยู่ต้านแข็งแรงผลักคืน 50 ป๊วยคำเหล่งร่างแหลกแตกกายยับ โลกสดับรับรู้ยังชูชื่น แผ่นดินไหวก้องสำเนียงเสียงคราครืน จูล่งยืนปลายเขาเจ้าจอมยุทธ...... ขอจบลง เพียงเท่านี้ นะครับ เพรามากกว่านี้ ผมเห็นว่า ไร้สาระมากเกินไป ยิ่งแต่งยิ่งเพี้ยน กะเอาแค่ 32 บท เลยกกำหนด มานิดหน่อย และชดเชย หลายวันที่ไม่ได้แต่งเรื่องนี้ ปะติดปะต่อ ขอให้มีความสุขมากๆ ครับทุกคน และขอบคุณสำหรับท่าน ที่แวะมาอ่านงานของผม จะมากจะน้อย ตามแต่ความชอบ และอีกอย่าง ใช้ถ้อยคำ เกินกลอนแปด ไปหน่อย คงไม่ว่ากัน ถือว่าแต่งเอามันส์ ไว้ให้พัฒนากว่านี้ ค่อยให้เรื่องราว สละสลวย และน่าอ่าน......
22 สิงหาคม 2552 01:47 น. - comment id 1030339
อืม...นอกจากกระบี่ปราบมารแล้ว ยังมีฝ่ามือเหล็กไหล ที่สามารถพิชิต ยุทธภพได้ พี่ปรางกะว่าจะฝึก กระบี่ไร้ใจ กับ ฝ่ามือพิฆาต ง่ะ อิอิ...แต่ติดครอสฝึกวิชาไร้รักอยู่ค่ะ หากจบบทเรียนเมื่อไร จะรับบอกนะคะ ชมนิดนะคะ น้องกวีน้อยฯ มีความ พยายามเป็นเลิศค่ะ
22 สิงหาคม 2552 08:49 น. - comment id 1030368
มาติดตามตอนจบเจ้าค่ะ.....
22 สิงหาคม 2552 09:44 น. - comment id 1030391
คมกระบี่นารีมีอยู่มาก ล้วนหลายหลากลึกล้ำสุดกำหนด เพลงกระบี่ลีลาท่างามงด แต่คมคดหมดท่าลีลางาม.. กลอนคงจะไม่เกี่ยวกับเนื้อเรื่องของกวีน้อยฯ เป็นแน่แท้... แค่นึกครึ้มๆแต่งเล่นๆอ่ะจ้ะ พี่กำลังรออ่านตอนจบเหมือนกันจ้า.....
22 สิงหาคม 2552 09:44 น. - comment id 1030392
ท่าน พี่ สุ้..สู้... เอาใจช่วย จะรอติดตามจ้า
22 สิงหาคม 2552 10:49 น. - comment id 1030422
สนุกดีครับ คุณกวีน้อยฯ
22 สิงหาคม 2552 11:18 น. - comment id 1030443
๑ เตียวเสี้ยนซังหลั่งเลือดเพื่อยุทธภพ แต่..มิถึงจุดจบจนอาสัญ มีจอมเทพอำนวยช่วยเหลือพลัน ชุบชีวันพลันฟื้นคืนชีพมา ๒ จึงดั้นด้นเสาะหาวิทยายุทธ ขั้นสูงสุดไร้ใจไร้ปัญหา ท่านอาจารย์สำนักใดให้วิชา รวบรวมมาซ่องสุมขุมกำลัง ๓ จะล้างแค้นจอมมารสะท้านภพ ให้เป็นศพสิ้นยโสและโอหัง จะเข่นฆ่าล้างสิ้นให้ภินท์พัง ฝากความหวังให้ยุทธจักรอีกสักครา ๔ จึงเร่งรี่ฝึกตนจนกล้าแกร่ง โดดกำแพงแฝงตนด้นเวหา เพลงกระบี่สุริยันจันทรา อหังการ์ครานี้ต้องมีชัย ๕ พบซิมโปให้งวยงงสงสัยยิ่ง คือตัวจริงหรือเปล่าเฝ้าสงสัย เจ้าซิมโปยังชีวันมิบรรลัย ด้วยเทพไท้ฝ่ายธรรมนำคุ้มครอง ๕ ฝ่ายธรรมะชนะอธรรมคำศักดิ์สิทธิ์ อิทธิฤทธิ์ส่งผลดลสนอง จูล่งตี๋ฟื้นชีวันตามครรลอง ธรรมทั้งผองนำชีวาตม์ปราศโพยภัย ๖ รวมพรรคพลครบครันหมายฟันฟาด จะพิฆาตเหล่ามารมิพรั่นไหว ขี่ม้าศึกคึกคะนองก้องเกรียงไกร ประกาศชัยวันนี้ที่โรมรัน ๗ จูล่งตี๋ ขี่ม้าขาวพราวไสว กระบี่อยู่ที่ใจร้ายมหันต์ ลูกเตะทลายมารหาญประจัญ ฤทธิ์มีดสั้น ลี้คิมฮวงทะลวงมาร ๘ ฝ่ามืออรหันต์สิบทิศฤทธิ์แรงกล้า ดรรชนีนิ้วฟ้าเร่งพร่าผลาญ เทพกระบี่รี่เร็วเร่งรอนราญ ลูกเตะทลายมารหาญราวี ๙ ฝ่ายซิมโปมิ่งมิตรพิชิตศึก ควบม้าคึกตามมาสง่าศรี ฝ่ามือหมื่นบุบผาไร้ปราณี ไม่รอรีขี่ม้าไล่ล่าฟัน ๑๐ พร้อมกงจักรลมหวนทวนสายฟ้า โซ่พันธนาการมารอาสัญ เพลงดาบฟ้าคะนองก้องโลกันตร์ หมายโรมรันมารร้ายจนวายปราณ ๑๑ ถึงบัลลังค์วังหลวงที่หวงห้าม เหาะเหินข้ามเร่งรัดประหัตประหาร ปุ้ยคำเหล่งหัวหน้าพรรคฝ่ายมาร ต้องตัดหัวเสียบประจานทั่วชานเมือง ๑๒ กรีฑาทัพฝ่ายธรรมนำประชิด ตงฟานศิษย์คิดร้ายเลี้ยงไม่เชื่อง ดรรชนีนิ้วฟ้าสั่งมลังเมลือง ทั่วทั้งเมืองไหวสั่นสะท้านครัน ๑๓ เจ้าตงฟานสิ้นใจในครานี้ จูล่งตี๋เด็ดชีวาจนอาสัญ เจ้าสำนักเขาเซียงซานกราบกรานพลัน ขอชีวันคุกเข่าเฝ้าอ้อนวอน ๑๔ เจ้าซิมโปมิรอรั้งเร่งสังหาร เจ้าทุรยศฆ่าอาจารย์อุทาหรณ์ เจ้าเป็นศิษย์คิดล้างครูจนม้วยมรณ์ ขืนใจอ่อนจะพลาดพลั้งครั้งต่อไป ๑๕ ฟาดฝ่ามือหมื่นบุบผาจนหน้าหงาย ให้ตกตายตามพรรคสิ้นตักษัย ปล่อยจอมมารหญิงให้รอดจนปลอดภัย กาลก่อนไซร้นางนั้นหรือคือมารดา ๑๖ แต่งเองจนเบลอแทบเอ๋อแว้ว จบได้แจ๋วจริงเออเฌอมาลย์จ๋า อ่านแล้วงงงันเง็งเซ็งระอา รอคุณยามาสานต่อก็แล้วกัน เหนื่อยอ่ะ เรื่องไร้สาระ ไม่เก่งอ่ะ อิอิ เอากลอน..ของเก่าตามมาทวงจ้า จบแฮปปี้เอนดิ้งป่าว
22 สิงหาคม 2552 11:22 น. - comment id 1030446
ว๊า...รูปข้างบน เปิดไม่ได้อ่ะ เอารูปนี้ไปแทนนะ ไม่รุ้ตอนจบจะแฮปปี้เอนดิ้งป่ะ ท่านพี่จู
22 สิงหาคม 2552 11:22 น. - comment id 1030447
ว๊ายๆๆ กวีน้อยลบให้ที คห.ข้างบนอ่ะ
22 สิงหาคม 2552 11:24 น. - comment id 1030448
อ้าว มีรูปนี่นา คอมทำเหตุงั้นลบ คห.9 -10 นี้ด้วย บาย
22 สิงหาคม 2552 13:50 น. - comment id 1030482
เตียวเสี้ยนเห็นทีท่าไม่น่าไว้ใจ ดาบวงเดือนเลื่อนไหลดั่งสายธาร """""""""""""""""""""""""" ไอเดีย ดีมากครับ การเดินกลอนกับ เนื้อเรื่องก็ดีมากเลย แต่คำลงท้ายวรรค สอง(วรรครับ) ยังมีเสียงสามัญให้เห็น หลายที่ ลองอ่านออกเสียงดู นะครับ จะเห็นได้ว่า ทำให้ความไพเราะลดลง นะครับ ชมเชยในความมานะพยายามครับ ด้วยมิตรไมตรี
22 สิงหาคม 2552 14:34 น. - comment id 1030501
มาแอบศึกษาวิทยายุทธ์ ครับ แต่ละท่ายากจริง วุ้ยยยยยย
22 สิงหาคม 2552 15:37 น. - comment id 1030520
มาชมเหมือนเคยค่ะ ท่านจอมยุทธสบายดีนะคะ
22 สิงหาคม 2552 15:50 น. - comment id 1030531
เอาเพลงมาให้
22 สิงหาคม 2552 16:58 น. - comment id 1030555
ข้าไม่มีแส่.ไม่มีนามต้องถอยร่นก่อนนะคะ
22 สิงหาคม 2552 18:44 น. - comment id 1030594
มาตามหาเจ้ายุทธค่ะ มาหลบแถวเน้รึป่าว??
22 สิงหาคม 2552 19:24 น. - comment id 1030611
เราแห่งบัวกลางบึงพึงสยบ ขอสงบจอมยุทธด้วยสัมมา ใช้พลังชื่นฉ่ำนำเมธา องค์สัมมาโปรดเวไนยร่มเย็น จอมกระบี่บี้ฟันบั่นไม่เลิก วาดหวังเกริกเกรียงไกรให้ชนเห็น คู่ต่อสู้ล้มตายดาบกระเด็น เหลือโดดเด่นจอมยุทธสุดบันลือ ดูโดดเดี่ยวเดียวดายในโลกกว้าง ยืนอ้างว้างร้างไกลใครนับถือ และในมือมีดาบปราบบันลือ คนล่ำลือล้มตายไปหมดแล้ว จะดีได้อย่างไรในโลกนี้ คนแกร่งที่เงียบเหงาวาววับแห้ว กับสิ้นแววเพื่อนผองน้องเพื่อนแก้ว ยืนตระแง้วโดดเดียวในโลกนี้ สวัสดีค่ะ ท่านจอมยุทธกวีน้อยฯ ไม่มีอะไรมาก แวะมาพักทักทายเพื่อนร่ายอักษร มีแต่ความสุขเสมอนะค่ะ
23 สิงหาคม 2552 21:03 น. - comment id 1030820
มีกี่ตอนครับ
23 สิงหาคม 2552 22:45 น. - comment id 1030839
โห ... เขียนได้ยาวมาก ช่างมีพลังวรยุทธ์สูงส่งนัก ข้า... ผู้เฒ่า มิอาจมินับถือ
24 สิงหาคม 2552 11:39 น. - comment id 1030940
นับถือจริงๆเลยค่ะ
24 สิงหาคม 2552 12:45 น. - comment id 1030943
ขอบคุณครับ พี่อรุโณทัย แอบไปฝึก ระวัง แฟนที่บ้านถามเอานะครับ ว่าพี่เป็นอะไรมากหรือเปล่า อิอิ ขอบคุณครับ ที่แวะมาติดตามผลงาน แนวไร้สาระของผม
24 สิงหาคม 2552 12:33 น. - comment id 1030948
ขอบบคุณครับ พี่กิ่งโศก จะว่าสนุก สำหรับผมก็ถือว่า นิดๆ น่ะครับ เพราะแต่งไม่ค่อยดีเท่าไร หากจะให้กลอนออกมาสวย คงต้องใช้เวลานาน และผมก็ไม่มีเวลามากถึงปานนั้น จึงแต่งได้เท่าที่แต่งเท่านั้นเอง และหลังๆ สมองชักตื้อๆ คิดอะไรไม่ออกเลย แย่จริงๆ พลังวัฏฏ์ หมดตอนท้าย
24 สิงหาคม 2552 12:50 น. - comment id 1030952
ขอบคุณครับ พี่มินตรา ต้องหาดีๆ นะครับ จอมยุทธ มักล่องหนไปทั่ว ระวังไปโผล่ บ้านพี่ มินตา นะครับ ระวังมีคน...สะ...กด....รอยยยย
24 สิงหาคม 2552 12:22 น. - comment id 1030953
ขอบคุณมากครับ พี่ปรางทิพย์ ก็ตั้งใจจะแต่งให้เสร็จ ภายใน 3 วัน แต่เน็ตร่มน่ะครับ ต้องเดินเรื่องกันหลายรอบ ที่สำคัญ ตัวฮับ พัง ต้องซื้อใหม่ พอเน็ตใช้การได้ หน้าจอผมสีไม่ขึ้น ตอนนี้ ยังไม่ได้ซ่อมเลย จึงตอบช้ามาก เพราะต้องเพ่งในการตอบ ดังนั้น จึงขออภัย ณ ที่นี่ ส่วนกลอนเก่า ที่ทุกๆๆ ท่าน เม้นท์กลับมา ผมขอขอบคุณแทนทุกๆ ท่าน ที่เสียสละเวลามาตอบกลอน ใน ตอนที่ 2 และคงไม่ได้ ไปตอบ ณ ตรงนั้น ส่วนเรื่องพี่ปรางทิพย์ กำลังเข้าครอสวิชาไร้รัก นั้น ขอให้สำเร็จเร้วๆ นะครับ สำเร็จแล้ว ก็ต้องรักได้ทุกคนใช่ไหมครับ ไร้ที่รักมักที่ชัง....ขอให้มีความสุขกับการเรียนครอสนี้นะครับ ขอบคุณมากๆๆ
24 สิงหาคม 2552 12:47 น. - comment id 1030956
ขอบคุณครับ พี่เพียงพลิ้ว เป็นแต่ผู้ชมนะครับ ไม่มาเผยโฉมจอมยุทธหญิงสักที ผมสบายดีครับ ขอให้พี่เพียง สบายกายและหัวใจ ตลอดไปนะครับ
24 สิงหาคม 2552 12:49 น. - comment id 1030957
ขอบคุณครับ คุณ มายาอักษรา ไม่มีแส่ ไม่เป้นไรครับ เขาถือว่า เป็นคนเรียบร้อย ไม่แส่เรื่องชาวบ้าน (ใครบอกให้พิมพ์ผิดล่ะครับ กลายเป็น เก็บตก ไปเลย อิอิ) ส่วนไม่มีนาม ไม่เป็นไรครับ ให้ผมตั้งให้เอาไหม เอ๊ๆๆๆ ชื่อไรดีน่า อิอิ
24 สิงหาคม 2552 12:30 น. - comment id 1030958
ขอบคุณครับ คุณเทียนหยด คมกระบี่นารีมีอยู่มาก ล้วนหลายหลากลึกล้ำสุดกำหนด เพลงกระบี่ลีลาท่างามงด แต่คมคดหมดท่าลีลางาม.. เพลงกระบี่น่ารีช่างมีค่า ล้วนลีลาอ่อนช้อยรอคอยถาม ว่าเหตุใดจึงไหวพลิ้วละลิ่วงาม สมนิยามนารีกระบี่ทอง ไม่เป็นไรครับ ร่วมแจมกลอนกับผมก็ถือว่า มีค่ามากต่อผมแล้ว ส่วนเนื้อหานั้น ก็สุดแท้แต่จะบรรจงใส่ ไม่ว่ากันนะครับ
24 สิงหาคม 2552 12:31 น. - comment id 1030959
ขอบใจจ้า น้องอ้อม จะติดตามอะไรอีกล่ะ ก็จบ บริบุรณ์แล้วน้า ถ้าติดตามงานต่อไป ก็คงได้ แต่งานนี้ เอวัง แต่เพียงเท่านี้ เพราะเนื้อหาและเนื้อเรื่องไม่ค่อยเป็นไปอย่างทีใจคิด
24 สิงหาคม 2552 12:24 น. - comment id 1030960
ขอบคุณมากครับ พี่รี ก็คลายกังวลไปได้หน่อยนึง ที่จบกลอนนี้ได้ เพราะเนื้อเรื่องค่อนข้างเยิ่นเย้อ และผมเองก็บังคับให้จบ ภายใน 32 บทไม่ได้ จึงมี 50 บท ที่เห็น และกลอนหลังๆ ค่อนข้างเเต่งยาก และผมก็แต่งไม่ค่อยดีด้วย ดังนั้นจึงขอบคุณมากๆ ครับ ที่ติดตามผลงานไร้สาระ ของผม จะจบหรือไม่จบ ไม่สำคัญครับ ผมเองก็ถือว่า ฝึกหัดกาแต่งกลอนไปในตัว
24 สิงหาคม 2552 12:44 น. - comment id 1030962
ขอบคุณครับ ท่านอาจารย์ คุณน้าคนกุลา ที่เคารพ เตียวเสี้ยนเห็นทีท่าไม่น่าไว้ใจ ดาบวงเดือนเลื่อนไหลดั่งสายธาร """""""""""""""""""""""""" ไอเดีย ดีมากครับ การเดินกลอนกับ เนื้อเรื่องก็ดีมากเลย แต่คำลงท้ายวรรค สอง(วรรครับ) ยังมีเสียงสามัญให้เห็น หลายที่ ลองอ่านออกเสียงดู นะครับ จะเห็นได้ว่า ทำให้ความไพเราะลดลง นะครับ ชมเชยในความมานะพยายามครับ ************************************ บางทีก็บอกยากน่ะครับ เรื่องเสียงอะไรนี่ ก็ขนาดนึกๆๆ ว่าต้องใช่ แต่ว่าบางทีนึกคำไม่ออกน่ะสิครับ และกลัวความหมายไม่ได้ ผมเลยแต่งแบบ ลวกๆๆ ขอบคุณในความกรุณาที่แวะมาชี้แนวทางให้ผมอยู่เสมอๆๆ และก็ทำให้ผมรู้ว่า แต่งเรื่องยาวๆ นี่ผมต้องละเอียดกว่านี้ แต่นี่ ถือ่ว่า แต่งเอามันส์ เป็นส่วนใหญ่นะครับ เลยไม่ได้พิถีพิถันอะไรมากมาย เคารพรัก ท่านอาจารย์ คุณน้า คนกุลา ที่ใจดีต่อผมเสมอมา
24 สิงหาคม 2552 12:38 น. - comment id 1030966
ขอบคุณ พลอย กะ เฌอ ทุกข้อความ คห 7-10 ขอติดค้างไว้ก่อนนะ 32 บท รอให้ลงเครื่องใหม่ หรืออาจต้องซ่อมอะไรบางอย่างให้เรียบร้อยซะก่อน แต่ตอนนี้ งบยังไม่เกิด อิอิ อีกนาน หากเสร็จเมื่อไรจะตอบกลอนให้ครบ ว่าแต่ว่า หลงตัวเองจริงๆ นะ มาเป็น นางเอกเลย อิอิ และยอมรับว่า แต่งได้เนื้อหาสาระ และกลอนก็เพราะด้วย (แต่งดีกว่า เจ้าของบ้านซะอีก )
24 สิงหาคม 2552 13:03 น. - comment id 1030977
ขอบคุณครับ คุณดอกบัว เราแห่งบัวกลางบึงพึงสยบ ขอสงบจอมยุทธด้วยสัมมา ใช้พลังชื่นฉ่ำนำเมธา องค์สัมมาโปรดเวไนยร่มเย็น จอมกระบี่บี้ฟันบั่นไม่เลิก วาดหวังเกริกเกรียงไกรให้ชนเห็น คู่ต่อสู้ล้มตายดาบกระเด็น เหลือโดดเด่นจอมยุทธสุดบันลือ ดูโดดเดี่ยวเดียวดายในโลกกว้าง ยืนอ้างว้างร้างไกลใครนับถือ และในมือมีดาบปราบบันลือ คนล่ำลือล้มตายไปหมดแล้ว จะดีได้อย่างไรในโลกนี้ คนแกร่งที่เงียบเหงาวาววับแห้ว กับสิ้นแววเพื่อนผองน้องเพื่อนแก้ว ยืนตระแง้วโดดเดียวในโลกนี้ ......................................... ผมงง น่ะครับ ยืนตระแง้ว นี่เป็นยังไง ครับ อิอิ งงจริงๆ ยังนึกภาพ ยืนตระแง้วไม่ถุกเลย โดดเดี่ยวที่ไหนครับ มีเพื่อน ร่วมยุทธ ตั้งหลายคน ก็คุณดอกบัว ยังมาร่วมเป็น สักขีพยาน ยืนตระแง้ว ด้วยนี่หน่า อิอิ แปลว่า มีคนเห้น.... ในยุทธภพยามนั้นน่าหวั่นหวาด ประชาราษฎร์เดือดร้อนจนออ่นศรี ด้วยเหล่ามารบุกขย้ำทำย่ำยี ทั้งกดขี่ข่มเหงด้วยเพลงอาวุธ จึงจำเป็นต้องอาสามานะสู้ ให้โลกรู้นามข้าว่าจอมยุทธ หนึ่งในพรรคเทพธรรมลึกล้ำสุด เพื่อยั้งหยุดความสามานย์อันตรธานย์ไป ด้วยเหตุนี้เทพกระบี่กวีน้อย หวังแค่คอยรักษาประชาไทย ให้อยู่เย็นเป็นสุขไร้ทุดข์ใด เบียดเบียนใจระบมระทมตรอม เมื่อการยุทธสุดสิ้นแผ่นดินฟ้า งามสง่าร่มรื่นชื่นกลิ่นหอม ทั้งไมตรีผูกจิตคิดออมชอม โลกจึงหลอมรวมเป็นหนึ่ง ซึ่งสามัคคี ขอบคุณมากๆ ครับ ที่แวะมาร่วมกลอนด้วย ขอให้คุณดอกบัว มีความสุขตลอดไปเช่นกันครับ
24 สิงหาคม 2552 13:04 น. - comment id 1030979
ขอบคุณครับ พี่ก่องกิก มีทั้งหมด 3 ตอนใหญ่ และ 50 บท ตอนแรก บทที่ 1-10 ตอนสอง บทที่ 11-26 ตอนสุดท้าย บทที่ 26-50 ทั้งหมดมีเพียงเท่านี้ครับ ให้มากกว่านี้ ไม่ไหวจริงๆ ครับ
24 สิงหาคม 2552 13:07 น. - comment id 1030980
ขอบคุณมากๆ ครับ พี่หมอ วฤก พี่หมอ วฤก เข้ามาตอบบ้านกลอนผมนี่ ดีใจมากๆ ครับ ถือว่า ระดับเซียน โคลง กาพย์ มาร่วมแสดงความคิดเห็น เป็นเกียรติอย่างยิ่ง ต่อผมมากๆ ครับ ว่าแต่ว่า พี่หมอ เป็นท่านผู้เฒ่าแล้วหรอครับ อิอิ เป็นแนวกลอน อิสระน่ะครับ อยากแต่งอะไรก็แต่ง เลยค่อนข้างยาวไปหน่อย อิอิ
24 สิงหาคม 2552 13:09 น. - comment id 1030981
ขอบคุณครับ คุณกบ จริงๆ ผมว่า แต่ง เรื่องสั้น จะน่าอ่านกว่ากลอน นะครับ เพราะรายละเอียด ไม่ถึง ขอบคุณมากๆ ครับ ที่แวะเวียนมาเม้นท์อยู่ตลอด