ริมหน้าต่างที่ติดชิดเตียงตั้ง คนป่วยนั่งมองผ่านหน้าต่างนั้น เขาเล่าเรื่องเบื้องนอกบอกแบ่งปัน ให้เพื่อนกันป่วยหนักพักอีกเตียง จากห้องนอนคนป่วยหนักที่พักอยู่ สองเตียงคู่คนละฝั่งได้ฟังเสียง จากคนหนึ่งสู่คนหนึ่งซึ่งนอนเคียง ด้วยสำเนียงเหงาเศร้าคละเคล้ากัน ข้างนอกนั้นแลริ้วเห็นทิวหญ้า เห็นท้องฟ้าสวยงามดุจความฝัน เห็นสายธารไหลผ่านดังม่านควัน เห็นตะวันอบอุ่นละมุมละไม มีถนนทอดยาวเข้าตัวตึก เป็นซอยลึกผู้คนล้นขวักไขว่ มีสนามเด็กเล่นเห็นแต่ไกล ชิงช้าไกวม้าหมุนละมุนตา มีไม้ดอกสวยงามยามฟ้าใส ต้นไม้ใหญ่ใบบังพรั่งพฤกษา มีฝูงนกผกผินบินไปมา มีดารายิ้มเยือนเป็นเพื่อนจันทร์ แล้ววันหนึ่งถึงคราคนลาจาก ความตายพรากคนป่วยที่ช่วยฝัน เขาเคยวาดภาพแสงแห่งตะวัน เตียงใบนั้นพลันว่างร้างสำเนียง คนที่เหลือขอเปลี่ยนเวียนเตียงตั้ง ขอมานั่งมองภาพทราบจากเสียง เขาจะเง้อมองดูอยู่บนเตียง เห็นแต่เพียงกำแพงอิฐปิดบังตา ---------------- (ไร้อันดับ)
31 กรกฎาคม 2552 15:47 น. - comment id 890981
จ๊ากกกก ที่ 1 ก่อนเลย
31 กรกฎาคม 2552 15:50 น. - comment id 1021637
........อ้าววววววววว ไม่ทันพี่แบม... ย่าแบมๆ อิอิ ย่าแบมๆ กิ๊วๆๆๆ
31 กรกฎาคม 2552 16:00 น. - comment id 1021644
เคยอ่านเหมือนกันค่ะพี่ชาย ตอนสุดท้าย ทำให้รู้สึกอึ้งไปกับคนที่มีชีวิตอยู่ค่ะ เขาใช้ใจและความคิดมองภาพ "ตาบอด แต่ใจหาบอดไม่"
31 กรกฎาคม 2552 16:04 น. - comment id 1021648
อืม..ภาพนั้นช่างสวยงามนัก..
31 กรกฎาคม 2552 16:12 น. - comment id 1021655
ภาพคำนึงจากใจ ช่างใสงาม มาอ่านกลอนงาม มากความหมาย ครับ
31 กรกฎาคม 2552 16:35 น. - comment id 1021662
เคยได้อ่านเมล์เช่นกันพี่ไร้ โดยถูกปรามาสว่าขนาดคนตาบอดใจเขาไม่เคยบอดเลยอะ..เจ็บมาก กลอนมาแนวให้ข้อคิดดีๆอีกแล้วครับพี่ไร้
31 กรกฎาคม 2552 17:03 น. - comment id 1021679
เขียนได้เห็นภาพค่ะ เมลล์นี้ก็เคยได้รับ ซาบซึ้งประทับใจ และมีกำลังใจมากๆจากการได้อ่านเมลล์นี้ค่ะ
31 กรกฎาคม 2552 17:48 น. - comment id 1021698
"" ภาพในจินตนาการงดงามเสมอครับ ชีวิตในความฝันก็เช่นนั้นเอง
31 กรกฎาคม 2552 18:06 น. - comment id 1021709
จินตนาการทำให้โลกสดใสเสมอ น่านับถือที่แบ่งปันให้ผู้อื่น ขอบคุณพี่นักสืบสำหรับกลอนดีดี ที่เขียนมาให้อ่านค่ะ
31 กรกฎาคม 2552 19:06 น. - comment id 1021716
คุณแบม มาที่หนึ่งตัดหน้าฉางน้อย ไปสามนาที เป็นสามนาที ที่นานพอสมควรครับ อย่างนี้เรียกว่าไม่สูสี ครับ
31 กรกฎาคม 2552 19:07 น. - comment id 1021717
ฉางน้อย ช้าไปสามนาทีเท่านั้นเอง แต่ยอมรับเหอะ ที่สองก็ดีกว่าที่สามนะ จริงป่ะ
31 กรกฎาคม 2552 19:11 น. - comment id 1021718
คุณแบม เมล์ที่ส่งให้ผมอ่านเรื่องนี้ ไม่ใช่ใครครับ คุณแบมนั่นเอง ไม่ต้องสงสัยเลยว่า ต้องผ่านสายตาคุณแบมมาแล้ว เรื่องนี้ เป็นเรื่องที่ลึกซึ้ง เลยอยากนำมาถ่ายทอดเป็น บทกลอน ครับ ขอบคุณที่ส่งเมล์ดีดีมาให้ครับ
31 กรกฎาคม 2552 19:13 น. - comment id 1021719
คุณกุ้งหนามแดง ผมพึ่งถามหาคุณ จากเพื่อนคนหนึ่ง ในเอ็ม เมือคืนนี้ วันนี้คุณมาทักผม บังเอิญเกินไปไหมนี่ ดีใจที่มาครับ คิดถึงกลอนคุณกุ้งครับ
31 กรกฎาคม 2552 19:15 น. - comment id 1021720
คุณคนกุลา เป็นเรื่องทีอ่านแล้วชอบ บางครั้งคนเรา สามารถทำเพื่อใครสักคน ได้อย่าง ที่ไม่น่าจะทำให้ได้ ว่าไหมครับ ขอบคุณที่มาทักทายครับ
31 กรกฎาคม 2552 19:19 น. - comment id 1021721
คุณกิ่งโศก เมล์นี้ได้จากคุณแบมครับ คุณกิ่งโศก คงได้อ่านเหมือนกัน คนที่ตาบอดแต่ใจไม่บอด อาจมีเยอะครับ ในทางตรงกันข้าม คนที่ตาไม่บอด แต่ใจมืดบอดก็มีไม่น้อย ว่าไหมครับ ขอบคุณที่มาทักทายครับ
31 กรกฎาคม 2552 19:23 น. - comment id 1021722
คุณ somebody พยายามสื่อให้เข้าใจ มากที่สุด รวมทั้งสื่อความ สวยงามของจิตใจ ของคนที่ทำให้คนอื่นมีความสุข แม้จะใกล้วาระสุดท้ายของเขา ขอบคุณที่มาทักทายครับ
31 กรกฎาคม 2552 19:23 น. - comment id 1021723
คุณฝากฝัน ความสวยงามของภาพ เกิดจากจิตใจของคน คนหนึ่ง ที่มีให้คน อีกคนหนึ่งครับ ขอบคุณที่มาทักทายครับ
31 กรกฎาคม 2552 19:26 น. - comment id 1021724
คุณมินตรา น้ำใจที่ให้กัน จะทำให้โลกสดใส แม้แต่สิ่งเล็กน้อย ที่อยากจะให้ จริงไหมครับ ขอบคุณสำหรับกำลังใจ ที่ให้กันครับ
31 กรกฎาคม 2552 19:35 น. - comment id 1021727
อ่านแล้วประทับใจคับ
31 กรกฎาคม 2552 19:42 น. - comment id 1021730
มิตรภาพที่งดงาม...หาคำจำกัดความคงไม่ได้ ถึงแม้เป็นเพียงแค่จินตนาการแต่ก็สร้างความสุขให้กับหัวใจได้มากเช่นกัน....... เคยได้อ่านเมล์นี้เหมือนกันค่ะ ...ถ่ายทอดออกมาเป็นกลอนได้ไพเราะมากๆค่ะ ถึงแม้ว่าไม่เคยได้อ่านเมล์ ...ก็มองเห็นภาพได้ชัดเจนค่ะ
31 กรกฎาคม 2552 19:56 น. - comment id 1021733
ริมหน้าต่างบานนั้นหันไปเห็น ตากระเด็นฟันกระดอนหมาหอนเห่า โอ๊ะอะไรเสียงดังข้างหลังเรา ว๊ายไม่เอาผีกระสือถือหัวขาด.....อิอิ ........มาป่วนเล่น ก่อนเอาจริง คริ คริ......
31 กรกฎาคม 2552 20:08 น. - comment id 1021735
คนหูหนวก คนตาบอด แต่ใช่ว่า จิตใจเขาจะหนวกเหมือนหู ใช่ว่า ใจเขาจะบอดเหมือนตาที่มองไม่เห็น ... คนเรา ถ้าตาบอดไม่เป็นไรคะ ขอเพียงอย่าใจบอด ก็แล้วกัน .....คนเราเลือกเกิดไม่ได้นี่นา พี่ไร้เนอะ..... สำหรับริมหน้าต่างบานนั้น คนที่ตามองไม่เห็นเขาก็อยากให้เพื่อนผุ้ป่วยเขามีความสุข หวังเพียงปลอบใจเพื่อน ทั้งยังปลุกปลอบใจตนเองไม่ให้ ท้อด้วย......มั้ง อิอิ ไปแระ ถ้าว่าง เดี๋ยวมีรอบที่ 4 อิอิ
31 กรกฎาคม 2552 20:18 น. - comment id 1021737
ง่วงนอนแระน๊า ลุงเมฒกะลุงจุดไล่ให้ไปนอนแระ อิอิ ห้ามเล่นมาก เดี๋ยวปวดข้ออีก
31 กรกฎาคม 2552 20:22 น. - comment id 1021738
23........อ้าววววววว เซ็งเลย พิมพ์ผิดอีก คำว่า ลุงเมฆกะลุงจุด อิอิ .....
31 กรกฎาคม 2552 22:04 น. - comment id 1021811
ริมหน้าต่างบานเก่ามีเงาหม่น เศร้าเกลื่อนกล่นทั่วพื้นผืนสนาม เหงาผลิใบดอกโศกก็งอกงาม ทุกโมงยามอ้าวว้างหน้าต่างเดิม.. ตาบอด ใจไม่บอด เมล์นี้ก็เคยได้ผ่านสายตาเหมือนกันค่ะ ขอบคุณกลอนดีๆที่นำมาให้อ่านกันค่ะ ราตรีสวัสดิ์ อิอิ ปลฉางน้อย กลอนน่ากลัวมาก " ว๊ายไม่เอาผีกระสือถือหัวขาด " กระสือที่ไหนมีมือถือหัวขาด งง
31 กรกฎาคม 2552 22:06 น. - comment id 1021812
สิ่งที่อ่าน สะท้อนโลกของคนที่มีความหวัง คนที่คิดบวกต่อชีวิต คิดสร้างสรรค์ คิดดี.... และเห็นคุณค่าของการชมีชีวิตอยู่ค่ะ... ซึ่งความคิดเหล่านี้ ย่อมมาจากสิ่งที่ตกตะกอนอยู่ในใจ.. เขียนดีมากค่ะ จบได้ประทับใจ ให้ข้อคิดที่ดีต่อผู้อ่านค่ะ...
1 สิงหาคม 2552 00:06 น. - comment id 1021834
เค้าเรียกว่า คนตาบอดเป็นคนพิการ แต่พิการทางกาย มิได้พิการทางใจ ถึงได้มีจิตใจดี คิดแบ่งปัน เป็นจินตนาการที่เค้าฝันไว้ว่าจะได้ พบเห็นค่ะ เยี่ยมค่ะ
1 สิงหาคม 2552 06:19 น. - comment id 1021860
คุณวิทย์ เรื่องนี้เป็นเรื่อง น่าประทับใจจริงๆ ก็เลยพยายามปรับเป็น บทกลอน เก็บไว้นะครับ ขอบคุณสำหรับกำลังใจ ที่ให้กัน ครับ
1 สิงหาคม 2552 06:22 น. - comment id 1021862
คุณเทียนหยด มิตรภาพที่งดงาม...หาคำจำกัดความคงไม่ได้ ชอบคำนี้จังครับ มีคนบอกว่า ถ้าเราแสดงความจริงใจออกไป เราจะได้ความจริงใจกลับมา ขอบคุณสำหรับกำลังใจ ที่ให้กันครับ
1 สิงหาคม 2552 06:22 น. - comment id 1021863
......ตั๊บแก......
1 สิงหาคม 2552 06:24 น. - comment id 1021865
25.......แหมๆๆ เฌอฯ ก็ เค้าล้อเล่งงงงงงงง เนอะ พี่ไร้ฯ เนอะ อิอิ ........
1 สิงหาคม 2552 06:25 น. - comment id 1021866
ไปแระ .......อาบน้ำดีกว่า 55
1 สิงหาคม 2552 06:33 น. - comment id 1021870
คห 21 - 24 ฉางน้อย นอกหน้าต่างบานนั้นที่ฉันเห็น มันเหมือนเป็นมิตรภาพที่อาบล้น จากจิตใจที่ให้ใครสักคน มันท่วมท้นเกินกว่ามาบรรยาย... คนเราเพียงแต่รู้จักการให้ ไม่ว่าเขาเป็นคนอย่างใร คุณค่าความเป็นคนของเขาจะเกิด จากการให้โดยแท้จริง ริมหน้าต่างบานนั้น แม้เป็นแค่กำแพงอิฐ ถึงแม้คนที่อยู่ริมหน้าต่างเป็นคนตาบอด แต่สิ่งที่เขาเล่าให้เพื่อนที่ป่วยหนักฟัง อย่างน้อยก็คงสร้างความสุขใจให้ได้บ้าง นี่เป็นตัวอย่างของการให้ และคุณค่าของจิตใจคน มีสองลุงมาตามแล้ว ระวังสองลุงตีกันเองแระกัลล์
1 สิงหาคม 2552 06:40 น. - comment id 1021871
เฌอ ริมหน้าต่างบานเก่าเล่าชีวิต แม้น้อยนิดน้ำใจใครคนหนึ่ง แต่ก็เป็นคุณค่าน่าติดตรึง จากคนซึ่งรู้จักให้ด้วยใจจริง น้ำใจไม่มีใครกำหนดว่าจะต้อง มาจากเรือนกายอย่างไร แต่คุณค่ามันอยู่ตรงสิ่งที่ เรือนกายนั้นจะทำอะไร ให้ใครได้บ้าง ขอบคุณสำหรับกำลังใจ ที่ให้กันเสมอมา อิอิ ยังมีแซว ทิ้งท้ายอีกนะ
1 สิงหาคม 2552 06:46 น. - comment id 1021872
คุณกิตติกานต์ สิ่งที่พยายามนำเสนอ คือคุณค่าของคน น้ำใจของคน ที่ให้กันครับ บางครั้งในสังคม แบบนี้อาจจะดูเหมือน มีน้อยเต็มที แต่ถ้ามองให้ดีๆ จะมีมุมเล็กๆ ลักษณะนี้ มากมายครับ ขอบคุณสำหรับกำลังใจ ที่ให้ จะพยายามทำต่อไปครับ
1 สิงหาคม 2552 06:49 น. - comment id 1021873
คุณปรางทิพย์ ใช่ครับ ถ้าคนเรามีจิตใจดี คิดแบ่งปัน มีน้ำใจให้กัน โลกคงน่าอยู่ขึ้นเยอะ ร่างกายเป็นแค่องค์ประกอบ แต่จิตใจที่อยู่ในนั้น สำคัญกว่าครับ ขอบคุณสำหรับกำลังใจ ที่ให้กันครับ
1 สิงหาคม 2552 06:53 น. - comment id 1021874
คห 30 - 32 ฉางน้อย มาเยี่ยมแต่เช้าเลยนะ พึงตื่นละซิ ขอให้เป็นวันดีดี ก็แล้วกันนะ อ้อ เฌอ ก็คงล้อเล่น เหมือนกัน อิอิ
1 สิงหาคม 2552 07:02 น. - comment id 1021878
กลอนของคุณน่ารักนะครับ อ่านแล้วมีความสุขครับ
1 สิงหาคม 2552 07:21 น. - comment id 1021882
ผมก็นึกว่า เป็นกิ้งก่า หรือ แมวซะอีก เกาะทีริมหน้าต่าง มาเย้าเล่นครับ คุณพี่ไร้อันดับ กลอนนี้ เศร้าลึกๆ นะครับ เมื่อขาดอะไปอย่าง
1 สิงหาคม 2552 07:55 น. - comment id 1021885
ทุกสิ่งอย่างอยู่ที่ใจนะค่ะคุณนักสืบ กลอนให้สาระเหมือนเดิม
1 สิงหาคม 2552 09:42 น. - comment id 1021902
คุณอินสวน เป็นเรืองที่อยากเก็บ บันทึกไว้ครับ ขอบคุณที่มาทักทายครับ ดูแลสุขภาพด้วยครับ
1 สิงหาคม 2552 09:44 น. - comment id 1021903
คุณกวีน้อย จริงๆ เรื่องนี้นอกจากความเศร้า ยังมีความสวยงาม ของจิตใจคนด้วยครับ ขอบคุณที่มาทักทายครับ
1 สิงหาคม 2552 09:46 น. - comment id 1021905
คุณกชมนวรรณ คุณค่าของการให้ ต้องมาจากจิตใจครับ ผมยังชอบที่จะเขียน กลอนแนวนี้ครับ สบายดีนะครับ ขอบคุณที่มาทักทายครับ
1 สิงหาคม 2552 13:09 น. - comment id 1021947
คงเหลือแค่เราสองครองเคียงห้อง ได้เพียงมองออกไปในหน้าต่าง แดดที่สวยสาดส่องมองเป็นทาง ที่รู้สึกเหมือนอ้างว้างพลางกลับดี ทุกอรุณทอวาดแสงสาดส่อง ฉันคงได้เพียงมองแสงส่องสี กลิ่นอรุณโน้มดินถิ่นใยดี ยามนี้มีเราแท้แค่สองคน เธอหยิบยื่นชื่นใจไมตรีฝาก ปลอบขวัญจากคนท้อต่อทุกหน คุยหัวเราะหลากหลายมากมายจน ฉันลืมพ้นเจ็บปวดรวดร้าวกาย ฉันก็เจ็บเธอก็เจ็บเก็บเอาไว้ ลืมลืมไปไม่จำย้ำห่างหาย กายาอ่อนเสียจนทุรนทุราย มิยอมวายพ่ายแพ้แก่โรคา ฉันเคยคิดยอมแพ้แก่โรคร้าย แต่เธอจุดประกายคลายทุกข์หนา เธอปลอบขวัญเพิ่มพลังประดังมา ให้ใจล้ากำเนิดเกิดอีกที เหมือนเราเป็นเพื่อนทางระหว่างฝัน ที่พบกันสั้นนิดชีวิตนี้ ห้องเล็กเล็กแต่มากด้วยไมตรี สายใยที่เธอมอบตอบทุกวัน ทุกทุกเช้าคุยเล่นเช่นสนุกสนาน แต่เย็นวานผ่านไปไม่ตอบฉัน เธอนิ่งเงียบไม่เอ่ยเผยจำนรร ฉันสะกิดเธอนั้นพลันเงียบไป กดเรียกออดกดย้ำซ้ำซ้ำถี่ โอ้คุณหมอพยาบาลนี้มีบ้างไหม ช่วยมาหน่อยเพื่อนฉันเป็นอะไร ใยนิ่งไปไม่ตอบฉันสักที วันนี้มองที่เตียงเคยเคียงข้าง กลับไร้ร่างว่างเปล่าซบเซานี้ เธอจากฉันไม่กลับลับล่วงฤดี น้ำตาที่เก็กกักทะลักลง สะอื้นสะอึกนึกมองนอกหน้าต่าง ฟ้าสว่างแต่ใจโหมไหม้ผง คงคราวสินะผองที่ต้องปลง ฉันก็คงตามไปไม่ช้าเลย.. ปล พยายามแระ 8 ไม่พออ่ะ ยังสาธยายไม่เข้าเรื่องเลย อย่าให้เสียน้ำใจคนเขียนนะ
1 สิงหาคม 2552 13:29 น. - comment id 1021951
สะอื้นสะอึกนึกมองนอกหน้าต่าง ฟ้าสว่างแต่ใจโหมไหม้ผง คงคราวนี้สินะผองที่ต้องปลง ฉันก็คงตามไปไม่ช้าเลย.. อิอิ พิมพ์ตก
1 สิงหาคม 2552 14:45 น. - comment id 1021969
คุณครูกระดาษทราย ขอบคุณกลอนงามๆ และภาพงามๆ ที่นำมาฝากครับ ขอให้มีความสุขครับ
1 สิงหาคม 2552 15:06 น. - comment id 1021970
Big Boss ๑ เราทั้งสองนอนซมตรมด้วยไข้ ด้วยโรคภัยทางกายได้สิงสู่ เหมือนชีวิตสุดท้ายปลายประตู เราจะอยู่ต่อไปอย่างไรกัน ๒ เธอเอ่ยปากถามฉันในวันหนึ่ง หน้าต่างซึ่งริมเตียงใกล้เคียงฉัน มองออกไปสวยเด่นเห็นตะวัน ข้างนอกนั้นคงงามบอกความมา ๓ เธอไม่รู้หรอกว่าฉันมานี่ ร่างกายนี้เจ็บหนักเกินรักษา ที่มากกว่าไปนี้ที่ดวงตา โดนอาญาคำสาปหรือบาปมี ๔ ให้ไม่เห็นแม้แสงทุกแห่งหน ไม่เห็นคนไม่เห็นฟ้าสง่าศรี ไม่เห็นพื้นพสุธาและวารี หลายสิบปีที่ผ่านเหตุการณ์มา ๕ แต่ในเมื่อเราสองต้องอยู่ใกล้ ด้วยโรคภัยชักนำมาซ้ำหา ต้องทุกข์ทนบนเตียงเคียงอุรา โรคภัยท้ารุมเร้าเข้าฟาดฟัน ๖ ถ้าฉันบอกเรื่องจริงคงยิ่งเศร้า เธอคงเหงาเปราะบางเหมือนอย่างฉัน หากจะมีสิ่งใดที่ให้กัน ฉันจะปันความสดใสให้ใจเธอ ๗ ฉันอาจผิดที่แสดงแกล้งโกหก อาจจะลงนรกที่พกเพ้อ แต่ฉันอยากรักษาใจให้กับเธอ ให้เพื่อนเกลอก่อนตายได้ฝันดี ๘ ฉันเริ่มเล่าเรื่องบอกนอกหน้าต่าง แสงสว่างในจิตไม่คิดหนี ทำให้เธอสดใสได้ทุกที ฉันก็มีสุขใจที่ได้ทำ ๙ แต่สักวันความจริงจะยิ่งโศก ทุกประโยคที่เห็นคงเน้นย้ำ คนโกหกอย่างฉันนั้นระกำ จะจดจำฉันไว้บ้างไหมเธอ ๑0 ตอนนี้ฉันบินไปไกลหน้าต่าง ออกจากร่างคนไข้ที่ใจเพ้อ ออกจากความทุกข์ทนคนละเมอ ฉันจะเจอสิ่งไหนอย่างไรกัน.... ค่อยๆ อ่านนะ บอส
7 สิงหาคม 2552 11:40 น. - comment id 1024083
โอว..มายย..ก็อด กล้วยทอดกาละแม..
7 สิงหาคม 2552 15:50 น. - comment id 1024289
ริมธาร มาอ่านริมหน้าต่างเหรอ มายก๊อดไมๆ